ตอนที่ 8 ความหวังของเจ้าหนูน้อย 2
ตอนที่ 8 ความหวังของเจ้าหนูน้อย 2
คนเป็นพ่อไม่ได้ยอมแพ้ที่จะเลี้ยงดูลูก แต่บางครั้งคนเราตกอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก จึงจำต้องนำลูกมาฝากไว้ที่มูลนิธิเด็กกำพร้า จียุนคิดว่าพ่อของเด็กหญิงคนนั้นต้องเป็นคนดีแน่ แต่มันก็ไม่สมเหตุสมผลว่าทำไมชินเฮถึงถูกรังแกจากเด็กคนอื่นเพราะเรื่องนี้
“ใช่ เขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลยล่ะ เขามาที่นี่ทุกเดือนเพื่อมาเจอลูกสาว ทั้งยังมีมารยาทที่ดีและเคารพเราทุกครั้ง นั่นหมายความว่าที่พ่อเธอมาเยี่ยมก็เพราะเธอคือสมบัติที่ล้ำค่า แต่เด็กคนอื่นที่ไม่มีพ่อแม่จะคิดยังไงกันล่ะ?
จียุนเริ่มเข้าใจเหตุผล
“พวกเขาอิจฉางั้นเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว พวกเราพยายามทำดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้ง แต่มันไม่ได้ทำให้เด็กเป็นมิตรต่อกัน เพราะเราบังคับอารมณ์ใครไม่ได้ แต่ถ้าจะให้ไปห้ามพ่อมาเยี่ยมลูกตนเอง ก็คงไม่ได้เช่นกัน มันถึงเป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้”
“เด็กคนนั้นเลยเฝ้ามองกำแพงด้านหน้าอย่างใจจดใจจ่อก็เพราะ...”
“เธอกำลังรอพ่อเธอไงละ”
แววตาจียุนเต็มไปด้วยความสงสารเด็กหญิงตัวเล็ก ที่ไม่สามารถเป็นเพื่อนกับเด็กคนอื่นได้ และยังเอาแต่รอพ่อเธอให้มาหา ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่
“พอมีวิธีแก้ไขปัญหาไหมคะ?”
“ฉันไม่แน่ใจนะ ครูพี่เลี้ยงคนอื่นก็มีภาระงานที่ต้องทำ ดังนั้นจึงไม่สามารถเอาเวลามาดูเธอได้ตลอดเวลา”
ผู้อำนวยการจ้องมองจียุนราวกับว่ากำลังมีความคิดที่ดี
“คุณจียุนอยากลองดูแลเธอไหม?”
“ฉันเหรอคะ?”
“ใช่เธอนั่นแหละ เธอไม่ต้องมาที่นี่บ่อยก็ได้ แค่มาดูแลเด็กคนนี้ตอนที่มาเป็นจิตอาสาที่นี่ เธอคิดว่าไงล่ะ?”
จียุนมองไปยังชินเฮอีกครั้ง ลมหนาวช่วงฤดูใบไม้ผลิเริ่มพัดผ่าน แต่เด็กหญิงคนนั้นยังคงสวมเสื้อกันหนาวตัวเก่า เธอโอบกอดตัวเอง ในขณะที่เฝ้าดูกำแพงด้านหน้า
“ฉันจะลองดูค่ะ”
จียุนลุกขึ้นจากม้านั่ง เธอดูเคอะเขินเล็กน้อยขณะที่เดินไปหาชินเฮ
ราวกับว่าชินเฮรู้สึกถึงการปรากฏตัว และหันหน้าไปมองจียุน จียุนรู้สึกปวดใจเมื่อเห็นท่าทางที่เศร้าโศกของเด็กหญิงคนนี้ เด็กส่วนใหญ่มักต้องหัวเราะและเล่นบนสนามหญ้า พวกเขาควรที่จะร่าเริง ไม่ใช่มีสีหน้าเศร้าโศกถึงเพียงนี้
“สวัสดี นี่ชินเฮใช่ไหมคะ?”
เธอก้มไปด้านหน้าเล็กน้อยในขณะที่ย่อระดับตัวเองลง เมื่ออยู่ในระดับเดียวกันกับหญิงสาว เธอยิ้มออกมา
ชินเฮถอยตัวออกเล็กน้อย เมื่อเจอคนแปลกหน้ายืนอยู่ตรงหน้า
“พี่เป็นใครคะ?”
“พี่เป็นรุ่นพี่ที่มาทำงานจิตอาสา พี่ขอนั่งข้างหนูได้ไหม?”
ชินเฮชะงักเล็กน้อยพร้อมกับมองไปรอบด้าน เธอหันไปสบตากับผู้อำนวยการ ที่อยู่ห่างจากเธอค่อนข้างไกล ผู้อำนวยการยิ้มอย่างมีเมตตาพร้อมทั้งพยักหน้า ราวกับกำลังอนุญาตให้เธอพูดคุยกับจียุนได้
ชินเฮลดกำแพงในใจลงเล็กน้อยขณะที่ผู้อำนวยการทำท่าทีแบบนั้น ชินเฮขยับไปตรงกลางม้านั่งเพื่อให้จุยุนนั่งด้านข้าง จียุนนั่งข้างเธออย่างระมัดระวัง
“ทำไมหนูถึงมานั่งตรงนี้คนเดียวละคะ?”
“...หนูกำลังรอคุณพ่อค่ะ”
โชคดีที่เธอตอบคำถามของจียุน ตอนแรกชินเฮลังเล แต่สุดท้ายก็ตอบได้ค่อนข้างดี
“พี่เข้าใจแล้ว แต่ที่นี่อากาศค่อนข้างเย็น ทำไมหนูไม่เข้าไปรอข้างในล่ะ เดี๋ยวถ้าคุณพ่อมาคุณครูก็จะมาบอกหนูทันที”
ชินเฮส่ายหน้าไปมา จียุนรู้สึกถึงความตั้งใจ เธอไม่มีทางไปไหนจากตรงนี้ มันทำให้รู้ว่าเธออยากเจอพ่อมากแค่ไหน
“หนูแน่ใจเหรอคะ?”
ชินเฮพยักหน้า จียุนไม่ได้วางแผนว่าจะบังคับชินเฮให้เข้าไปข้างใน ทั้งไม่ได้พยายามตีสนิทชินเฮด้วยการพูดคุยต่อ
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่จะรอเป็นเพื่อนนะ”
เธอพูดขณะนั่งรออยู่ตรงหน้ากำแพงมูลนิธิกับชินเฮ
บรรยากาศเริ่มเงียบงัน เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กที่สนามเด็กเล่นดังมาเป็นครั้งคราว แต่รอบตัวจียุนและชินเฮก็ยังคงเงียบสงบ แต่แล้วความเงียบนั้นไม่ได้ทำให้บรรยากาศดูเศร้าโศกหรือว่าเย็นชา ถ้าให้อธิบายบรรยากาศด้วยสี นั่นคงเป็นสีส้มที่ดูอบอุ่นที่สุด
“…พี่สาวชื่ออะไรเหรอคะ?”
ชินเฮทำลายความเงียบสงบลง จียุนฉีกยิ้มสดใสขณะที่กำลังพูดชื่อตนเอง
“พี่ชื่อจียุนนะ หนูชื่อ วูชินเฮใช่ไหมคะ?”
“ใช่แล้วค่ะ”
คำพูดนี้จึงเริ่มเป็นจุดเริ่มต้น และบทสนทนาระหว่างเธอทั้งสองค่อยเริ่มขึ้นอย่างเชื่องช้า ผู้อำนวยการมองสถานการณ์ด้วยความยินดี
* * *
จียุนไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชมรมอาสาสมัคร เหล่าสมาชิกชายก็ยังคงทำงานหนักแทนเธอต่อไป แต่แล้วมันคุ้มค่าที่อดทนต่ออีกฝ่าย เธอสามารถเอาชนะความรำคาญใจได้
ถึงแม้จะไม่ได้ทำงานเป็นจิตอาสาในชมรม แต่เธอก็ได้ใกล้ชิดชินเฮมากขึ้น ทุกครั้งที่ไปหาชินเฮ เธอก็ยังคงไม่มีเพื่อนเหมือนเดิม ดังนั้นการได้รับความสนใจจากจียุน คงทำให้ชินเฮสบายใจขึ้นได้บ้าง
เหตุการณ์เกิดขึ้น ณ บ่ายวันหนึ่ง
วันนี้เธอมาทำงานจิตอาสาและเห็นสิ่งที่แปลกไป ขณะที่จียุนไม่ได้มา ที่นี่ชินเฮจะเอาเวลาส่วนใหญ่ไปนั่งที่ม้านั่งตรงสนามเด็กเล่น แต่วันนี้ชินเฮมีท่าทีเปลี่ยนไป หน้าตาเธอดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“นี่มันอะไรเกิดขึ้นกันคะ”
พวกเธอเริ่มสนิทกันมากขึ้น ถามออกไปจึงไม่ใช่เรื่องยาก ชินเฮไม่ลังเลที่จะตอบจียุน
“วันนี้คุณพ่อจะมาหาหนูค่ะ!”
“ตายแล้ว! จริงเหรอเนี่ย?”
เธอเพียงแต่เคยได้ยินเรื่องพ่อของชินเฮ และวันนี้ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมาที่นี่ ช่วงที่ผ่านมาชินเฮทำตัวสงบเสงี่ยมและปิดกั้นตัวเอง ท่าทีแบบนี้ของเด็กคนนี้จึงแตกต่างออกไป เธอเผยท่าทีเป็นเด็กร่าเริง
จียุนมองชินเฮด้วยความเอ็นดู นี่คงเป็นบุคลิกที่แท้จริงของชินเฮ
‘ใช่ เด็กทั่วไปต้องมีท่าทีแบบนี้สิ’
เธอเศร้าสลดเล็กน้อยที่ถูกเพิกเฉย แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้คาดหวังหรืออยากให้ชินเฮไว้ใจเหมือนกับพ่อเธอ จียุนไม่ได้หวังขนาดนั้น วันนี้เธอตั้งใจมาทำงานที่ชมรมให้เสร็จแต่ก็ยังคงจับตาดูชินเฮอยู่
ผู้อำนวยการเรียกหาจียุน ขณะที่กำลังเริ่มทำงาน
“คุณจียุน ฉันขอรบกวนเวลาคุณสักครู่ได้ไหม?”
“ได้ค่ะ ท่านต้องการอะไรรึเปล่าคะ?”
จียุนกำลังจะนำผ้าไปขัดพื้น และเธอกำลังลุกขึ้น
“คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม?”
“ท่านอยากให้ฉันช่วยเรื่องอะไรคะ?”
“คุณช่วยพาชินแฮไปพบพ่อเธอได้ไหม?”
มันถึงกับเป็นคำขอที่คาดไม่ถึง