ตอนที่ 8 ความหวังของเจ้าหนูน้อย 1
ตอนที่ 8 ความหวังของเจ้าหนูน้อย 1
“ใช้ฉัน..? นี่ท่านหมายความว่าไงคะ”
ดวงตาจียุนเบิกกว้างขณะมองไปยังคนถาม ผู้อำนวยการเริ่มเข้าใจความรู้สึกชายที่ตามจีบเธอ จียุนมีเสน่ห์เย้ายวนเกินห้ามใจ รูปลักษณ์และท่าทางมีพลังบางอย่างที่ทำให้หัวใจผู้คนเต้นเร็วกว่าปกติ
“ชายส่วนใหญ่ที่มาวันนี้ไม่ได้มาเพราะอยากเป็นจิตอาสา แต่พวกเขามาที่นี่เพราะคุณจียุน ใช่ไหม”
“…”
จียุนสงบปากลงและรู้สึกอึดอัดใจที่จะตอบคำถาม ทั้งอยากจะซื่อสัตย์กับตัวเองแล้วตอบว่า ‘ใช่’ ออกไป แต่แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกับเอและชายเหล่านั้นมันน่าอับอาย ถ้าพูดไปจะฟังเหมือนเป็นการโอ้อวดตัวเอง ผู้อำนวยการอาจจะคิดว่าเธอเป็นเหมือนเจ้าหญิงพิการทางร่างกาย ท้ายที่สุดจึงฝืนกล่าวคำว่า ‘ไม่’ ที่เป็นการโกหก
ผู้อำนวยการยิ้มอย่างอ่อนโยน เพราะเข้าใจภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจียุน
“นั่นคือเหตุผลที่วันนี้ฉันมอบหมายแต่งานหนักให้เธอ มันทำให้ชายหนุ่มขยันตั้งใจทำงานหนักเพราะอยากแสดงศักยภาพออกมาให้เธอเห็นไงละ”
เมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้น ก็เข้าใจว่าทำไมผู้อำนวยการถึงอยากขอโทษ ถ้าคิดในทางที่ผิดจียุนอยากจะโกรธเคืองกับสิ่งที่เธอทำลงไป แต่แล้วจียุนทำแค่ส่ายหัวไปมา
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรามาที่นี่เพื่อเป็นจิตอาสาอยู่แล้ว จากสิ่งที่ท่านทำ มันทำให้พวกเราได้ทำงานจิตอาสามากขึ้น แต่ความจริงฉันอยากจะขอโทษด้วยซ้ำที่ไม่ค่อยได้ทำงานมากเท่าไหร่”
“ฮ่ะ ฮ่ะ! คุณจียุนช่างเป็นเด็กดีเสียจริง”
เด็กดี นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ยินคำนี้ ถ้านอกจากคำว่าสวยและน่ารัก เธอก็ไม่เคยได้ยินคำชมอื่นอีก
“มันหนักไปใช่ไหม? แน่อยู่แล้ว ก็รูปลักษณ์เธอโดดเด่นเกินไป”
“นั่นมัน...”
เธอตกอยู่ในภาวะอึดอัดใจอีกครั้ง เมื่อถูกตั้งคำถาม จียุนลังเล เธอดูน่ารักมากจนผู้อำนวยการหัวเราะออกมา และใบหน้าเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
“โอ้! ขอโทษทีนะ มันเป็นคำพูดไร้สาระจากหญิงชราคนหนึ่ง อย่าไปสนใจเลยนะ”
“อ๊า! ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว”
จียุนตอบกลับอย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกับผู้อำนวยการ แต่เธอกลับผ่อนคลายราวกับเคยคุยกันหลายครั้ง นอกจากครอบครัวแล้ว ก็ไม่เคยพูดคุยกับใครได้อย่างวางไว้ใจเลย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรู้สึกอบอุ่นใจ จียุนไม่มีความคิดลบต่อเธอแม้แต่น้อย
“ฉันดีใจนะที่เธอคิดแบบนั้น”
สายตาผู้อำนวยการมองตรงไปขณะพูด จียุนมองตามสายตานั้นไป พบเห็นพวกเด็กกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานที่สนาม เธอหวังว่าสิ่งที่ทำจะมีส่วนช่วยเหลือ เธอเป็นห่วงพวกเด็ก แต่ก็ทราบว่าได้ช่วยเหลือไปบ้างแล้ว ความจริงนี้ทำให้ใจเธอรู้สึกอบอุ่น
ผู้อำนวยการแอบมองจียุน พบเห็นสีหน้าของเธอ จึงคาดเดาได้แล้วว่าจียุนตอนนี้รู้สึกอย่างไร
‘เธอไม่ได้ดูดีแค่ภายนอก แต่หัวใจเธองดงามด้วยเช่นกัน’
ถ้าลูกชายเธอยังไม่แต่งงาน เธอคงวางแผนชั่วร้ายเพื่อทำให้จียุนมาเป็นลูกสะใภ้
“ตอนเป็นสาว ฉันไม่ได้สวยเท่าเธอ ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่”
เมื่อจียุนได้ยินคำพูดนั้น เธอจึงหันไปมองผู้อำนวยการอีกครั้ง
“ด้วยความที่ผ่านประสบการณ์มาเยอะ ฉันเป็นผู้ฟังที่ดีได้นะ ฉันเก่งในการรับฟังปัญหาวัยรุ่น ไม่ต้องปรึกษาในฐานะจิตอาสาก็ได้ มีเรื่องทุกข์ใจก็มาหาได้ทุกเมื่อ มันเป็นผลประโยชน์กับฉันที่จะมีคู่สนทนาเพิ่ม และจะไม่รังเกียจเลยสักนิด ถ้าเธอจะนำแรงงานชายมาด้วย มันเป็นผลดีมากเลยล่ะ”
ขณะที่พูดใบหน้าเธอเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นแต่ก็ยังคงยิ้ม ใบหน้าเธอดูแก่ชราและมีริ้วรอย แต่นั้นก็ยังทำให้ดูสวยสำหรับจียุน ถ้าเป็นไปได้เธออยากแก่ชรามาแล้วเป็นแบบผู้หญิงตรงหน้าคนนี้
‘ความจริงการที่ได้พบเธอ ทำให้การมาที่นี่ไม่เปล่าประโยชน์จริง’
การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่ามากขึ้น ราวกับว่าเธอได้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิเด็กกำพร้าไปหลายล้านวอน
พวกเธอทั้งสองยังคงคุยกันต่อ แต่งานพวกเธอยังไม่เสร็จ บทสนทนานี้เลยไม่ยาวนานเท่าไหร่ แต่มันเพียงพอสำหรับจียุนแล้วที่ทำให้จิตใจเธอสงบลงมากขึ้น
จียุนรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้มีเวลาพักผ่อน เธอกำลังจะกลับไปทำงาน ในขณะเดียวกันเธอผ่านไปเห็นสายตาเด็กคนหนึ่ง
เด็กคนนั้นโดดเดียวบนม้านั่งที่ห่างจากจียุนพอสมควร เด็กหญิงจ้องมองไปยังประตูหน้ามูลนิธิเด็กกำพร้า ภาพนั้นกระชากหัวใจจียุน สายตาเธอราวกับดึงดูดเข้าหาเด็กผู้หญิงตัวน้อยโดยทันที
เด็กสาวช่างน่ารัก ไม่น่าแปลกใจ ว่าทำไมเธอถึงเป็นจุดสนใจของเหล่าเด็กชายที่อายุเท่าเธอ แต่ก็ดูเหมือนจะมีกำแพงกั้นระหว่างเธอกับเด็กคนอื่น ที่กำลังสนุกสนานอยู่ที่สนามเด็กเล่น เด็กน้อยช่างดูหงอยเหงา
“เด็กคนนั้นคือใครคะ?”
ทันใดนั้น เธอถามผู้อำนวยการ
ผู้อำนวยการมองไปตามดวงตาจียุน เธอจึงรู้ว่าจียุนกำลังจ้องมองเด็กหญิงผู้นั้นอยู่ เธอถอนหายใจออกเสียงเบา
“เธอชื่อว่า ชินเฮ”
“ชินเฮ?”
“ใช่แล้ว วูชินเฮ เธอเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่นาน”
คำพูดของผู้อำนวยการทำจียุนเกิดกังวล
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?”
“เธอถูกกระทำเหมือนคนไร้บ้านนะสิ”
“…เธอเป็นเด็กที่น่ารัก ฉันคิดว่าเธอคงเข้ากันได้กับพวกเด็กผู้ชายนะคะ”
เธอไม่พูดถึงเด็กที่เพศเดียวกันกับเธอ เพราะรู้ว่าความน่ารักทำให้เด็กหญิงคนอื่นจะปฏิบัติต่อเธออย่างไร จียุนมีประสบการณ์มาก่อน ดังนั้นจึงรู้ว่าผู้อำนวยการกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่
ถึงกระนั้นผู้อำนวยการส่ายหัวไปมา
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทรมานเธอหรอกนะ ปัญหามันอยู่ที่ครอบครัวเธอต่างหาก”
“ครอบครัวเธอ?”
ที่นี่มูลนิธิเด็กกำพร้าไม่ใช่หรือ? ตามปกติมูลนิธิเด็กกำพร้าจะรับเด็กที่ไม่มีพ่อแม่และญาติเท่านั้น นี่คือเหตุผลที่จียุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย...
“บางครั้งมูลนิธิเราจะรับเลี้ยงเด็กครอบครัวที่มีปัญหาทางการเงินด้วย พวกเขาดีกว่าคนที่ละทิ้งลูกหลายพันเท่า อย่างน้อยเขาไม่คิดยอมแพ้ที่จะเลี้ยงลูกของตัวเอง เหมือนพ่อเด็กคนนั้น เขาหมดหนทาง ดังนั้นจึงฝากลูกไว้ให้เราดูแลก่อน”
“เขาเป็นคนดี”