บทที่ 23 : ลุงมิสเตอร์ หวัง
หากกล่าวว่า :
เอลฟ์เป็นราชาแห่งป่าไม้…
แต่ว่าใครจะไม่อยากจับปลาตอนเดินริมแม่น้ำกันล่ะ?
กิ่งไม้ใต้ฝ่าเท้าของนักรบเอลฟ์คนหนึ่งแตกหักเพราะเกราะหนัก…
เขาไม่ได้ตกลงไปแต่กลับจับลำต้นของต้นไม้ไว้ได้อย่างระมัดระวัง
วิลเลียมยิ้มขำ ดูสิ คุณเกือบตกต้นไม้ล่ะ
แต่กิ่งไม้อันนั้นตกลงใกล้กับเหล่าออร์ค พวกมันตะโกนด้วยความตกใจแล้วหันไปมองรอบๆขณะที่ถือขวานเอาไว้ราวกับความเที่ยงธรรมตกลงมาจากท้องฟ้า
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น
นักรบเอลฟ์ที่กำลังกอดลำต้นมองไปยังสหายรอบตัวอย่างไม่แสดงอารมณ์อันใด
แต่วิลเลียมเคยคิดว่า เป็นไปได้รึเปล่าว่าเป็นเพราะโชคของเขาต่ำมาก จึงทำให้ดึงค่าเฉลี่ยความโชคดีของกองทัพทั้งหมดลง?
“นี่มัน...”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว...”
ก่อนที่ออร์คตนอื่นๆจะตะโกนออกมา นักธนูทั้งหมดพร้อมกับคันธนูและลูกศร ก็ง้างสายและยิงออกไป ในสถานการณ์นี้ไม่จำเป็นต้องสั่งการ ภารกิจของพวกเขาคือทำให้เหล่าออร์คเสียหายมากที่สุดโดยไร้ความลังเลตั้งแต่จังหวะที่พวกเขาถูกเห็นตัว แทนที่จะรอให้ท่านลอร์ดสั่งและทำให้ศัตรูมีเวลาตั้งตัว
นอกจากนั้น พวกเขาอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว ร่างเล็กๆของคนแคระไม่สามารถทนต่อการโจมตีของออร์คได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอก!
เมื่อศรนับร้อยยิงไปพร้อมกับพลังการต่อสู้พุ่งผ่านใบไม้ที่หนาแน่น พลังที่แข็งแกร่งฉีกทึ้งใบไม้นับไม่ถ้วน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวที่ฉีกขาด
ต่อมา เสียงร้องโหยหวนก็ดังขึ้น
เลือดพุ่งออกมาจากหัวของออร์คนับร้อย พวกมันพากันร่วงลงไปบนพื้น พวกมันหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส!
เหล่าออร์คตกใจและตระหนักว่าพวกมันกำลังกับเจอปัญหาเข้าให้แล้ว!
แต่มีออร์คประมาณ 1500 ตนกำลังโจมตีถ้ำคนแคระอยู่ ซึ่งมี 500 ตนได้รีบเข้าไปในถ้ำและมีการต่อสู้นองเลือดกับคนแคระแล้ว
ผู้นำคนหนึ่งของฝั่งออร์คเป็นคนตัวสูงถือดาบใหญ่ ผิวของเขาขาวแต่ถูกปกคลุมไปด้วยรอยสักสีดำ นี่คือออร์คขาว ด้วยสายเลือดระดับแกรนมาสเตอร์ที่ออร์คธรรมดาสามัญไม่สามารถสืบทอดได้
เขามองดูลูกธนูที่บินไปมา นั่งไม่ไหวติงอยู่บนอสูรหมาป่าตัวใหญ่ ดวงตาของเขาฉายชัดถึงความเย้ยหยัน เพราะศรธนูที่พุ่งมาต่างก็ร่วงหล่นลงทันที่เข้ามาใกล้กับเกราะที่เต็มไปด้วยพลังการต่อสู้บนตัวเขา
ความรู้สึกเหมือนเอาเข็มมาเจาะหินที่ไม่มีรอยแตก…
ไม่ว่าเขาจะบังคับ หรือใช้ความแข็งแกร่งเท่าไหร่ ลูกธนูก็อ่อนแรงตกลงบนพื้นอยู่ดี
พลังที่แข็งแกร่งและแรงยับยั้งลูกธนูดังกล่าวก็สามารถเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับออร์คตนอื่นๆได้เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ
“เอลฟ์จากเมืองชายแดนงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเราก็ฆ่าพวกมันก่อนจะไปจัดการกับพวกคนแคระซะ!” ออร์คขาวคำรามอย่างเฉื่อยชา ออร์คหนึ่งพันตนด้านหลังที่ไม่ได้อยู่ในระยะยิง ดึงอาวุธออกมาแล้วมุ่งหน้าไปยังเอลฟ์
ต้องเผชิญกับออร์คหลายพันตน…
วิลเลียมกลัวหรือไม่?
ตอบอย่างมั่นใจเลยว่า…
ไม่!
“ลุงลอทเนอร์ ฉันยกให้!” วิลเลียมตบไหล่เขาเบาๆ ลุงผู้ห่างไกลจากสายสัมพันธ์ทางสายเลือดปากกระตุก แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างหนักแน่นก่อนจะกระโดดลงไป
เหล่าใบไม้รอบตัวของเขาไม่ได้ร่วงหล่น แต่กลับถูกฉีกเป็นชิ้นๆด้วยพลังการต่อสู้ของเขา ขณะที่เขาเร่งไปข้างหน้า เศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหล่านั้นก็ตกลงบนพื้นอย่างเชื่องช้า
สามารถเห็นความเชี่ยวชาญในพลังต่อสู้และความสามารถที่ดูเท่ของเขาได้จากสถานการณ์ต่างๆ มันน่าทึ่งถึงแม้ว่าจะต้องตั้งตารอนานหน่อย…
“พวกเจ้าที่เหลือให้ยิงด้วยพลังทั้งหมดที่มี เราจะปล่อยด้านหน้าให้แก่ฮีโร่ของเรา ลอทเนอร์!” วิลเลียมไม่ได้ล้อเล่น เขาไม่ปล่อยให้นักรบคนใด ไม่แม้กระทั่งผู้ใช้ดาบลงจากต้นไม้เพื่อต่อสู้
เพราะว่า…
ที่สุดแล้ว นี่ยังคงเป็นพื้นที่แปลกถิ่นยังไงล่ะ!
ไม่ว่ามันจะอยู่ใกล้เมืองมากแค่ไหนมันก็ยังอยู่ภายในอาณาเขตของดยุคทั้งสอง ตราบใดที่ไม่ได้แบ่งแยกออกจากพื้นที่นี้ ในระยะเวลาของเวอร์ชั่น 1.0 NPCที่เลเวลสูงที่สุดในพื้นที่นี้มีเลเวลเพียง 70 เท่านั้น และเป็นจำนวนที่หายากมาก
และไม่ว่าพวกเขาจะมีสายเลือดที่น่าประทับใจระดับใด หรือมีเอกลักษณ์ที่น่าทึ่งแค่ไหน พวกเขาก็ยังอยู่ในช่วงเติบโตและยังไม่ถึงขีดจำกัดสูงสุดของศักยภาพทางสายเลือด
ตัวอย่างเช่น มังกรยักษ์จากภูเขาหิมะดูเหมือนจะน่าประทับใจและตัวของมันก็ดูใหญ่…
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่แข็งแกร่งจริงๆ มังกรที่มีสายเลือดระดับรีเจนดารีก็ยังเป็นมังกรที่ยังไม่โตเต็มวัยหรือเป็นแม้กระทั่งทารก มันยังห่างไกลจากตอนที่โตขึ้นมากนัก…
ส่วนลอทเนอร์น่ะเหรอ?
บอสเลเวล 52 พร้อมด้วยสายเลือดระดับอีปิค
ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาไม่ได้ด้อยไปกว่าบอสเลเวล 60 ที่มีสายเลือดระดับแกรนด์มาสเตอร์เลย
เมื่อสังเกตการณ์ NPC ผู้เล่นจะดูที่ระดับสายเลือดและเลเวล เพราะระดับสายเลือดที่สูงกว่า ก็จะแสดงให้เห็นถึงพลังที่มากกว่าของบอส…
แต่ NPC มองที่ตรงไหนกันล่ะ?
นั่นคือลมหายใจและคุณภาพทางกายภาพของพลังในร่างกาย พวกเขาไม่ต้องดูระดับสายเลือด NPCอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่งที่ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
พลังโจมตีบ่มเพาะพลังต่อสู้และพลังความสามรถบ่มเพาะเวทมนตร์
NPC คิดอย่างไรกับระดับและมันแสดงถึงอะไร?
มันแสดงถึงค่าสถานะส่วนบุคคลและสมรรถภาพทางกายของ NPC
ส่วนพลังต่อสู้และเวทมนตร์ล่ะ?
มันแสดงถึงปริมาณของพลังและมวลในร่างกาย
กล่าวคือ ศักยภาพทางสายเลือดของ NPC นั้น เกือบจะแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถเสริมสร้างคุณภาพทางกายภาพของเขาต่อไปได้, เข้าใจทักษะของพลังต่อสู้ หรือมีความสามรถที่จะทำลายขอบเขตต่อไปได้
NPC คงเปรียบเสมือนโลกทางเลือก พวกเขาจำเป็นต้องฝึกฝนทักษะ, ปรับปรุงศักยภาพทางร่างกาย และพลังต่อสู้(เวทมนตร์), และพัฒนาความแข็งแกร่ง
แต่ผู้เล่นแค่ต่อสู้กับสัตว์ประหลาด, ทำภารกิจให้สำเร็จ, กินและอื่นๆ เพื่อรับค่าประสบการณ์!
ค่าประสบการณ์สามารถจัดสรรให้กับเลเวลและทักษะในเวลาเดียวกัน แยกออกจากความต้องการที่แตกต่างอย่างสมบูรณ์ เพื่อที่จะฝ่าด่านต่อไปของเลเวลระดับต่ำ
โดยพื้นฐานแล้วเราจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จหลังจากผ่านอุปสรรคครั้งใหญ่ทุกครั้ง แม้ว่าภารกิจในระยะหลังจะยากม๊ากมาก…
ดัดเสียงให้แหลมๆ!
……………………………..
ในฐานะนักล่าปีศาจ ลอทเนอร์ยังคงเป็นคนที่มีความสามารถ แม้ว่าเขาจะมีอาชีพลับ
แต่เขากำลังเดินอย่างช้าๆไปยังกองทัพออร์คพร้อมกับดาบยาวที่เปล่งประกาย มีหลายสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้สนใจเหล่าออร์คที่อยู่ด้านหน้า เขาไม่สามารถไปสู้กับออร์คนับพันด้วยตัวคนเดียว ถ้าออร์คพวกนี้ล้อมเขาเอาไว้ เขาจะสู้ได้กี่ตนกัน?
ผู้นำออร์คขาวเห็นดังนั้น การแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา ลมหายใจก็เริ่มหนักขึ้นและแม้แต่ดาบใหญ่ในมือก็ยังปลดปล่อยพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง!
เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่รุนแรง และรู้ได้ทันทีว่าลอทเนอร์อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา แต่ความภาคภูมิใจและความมั่นใจของลอทเนอร์นั้นราวกับพระเจ้าที่กำลังมองมดปลวกที่พวกเขาดูถูก!
ความรู้สึกนี้ทำให้นึกถึงอดีตของออร์คขาว…
เมื่อตอนที่เขายังเด็กเหมือนกับลูกสุนัข
เขานอนในกองขยะที่สกปรก เห็นเพียงตาที่สดใสและมองไปยังพวกเอลฟ์ที่กำลังฆ่าเผ่าพันธุ์ของเขา เอลฟ์ไม่เคยเหลือให้ใครรอด เขาไม่ได้แคร์พ่อแม่ที่นอนจมกองเลือด…
แต่ลุงมิสเตอร์หวังที่รักเขามากที่สุดก็ตกตายลงต่อหน้าเขาที่กำลังมองไปรอบๆ เขาปิดดวงตาที่เปียกชื้นด้วยมืออย่างเงียบงัน…
“อ่า! หายไปซะ ไอ้พวกขยะ!” ดวงตาของออร์คขาวกลายเป็นสีแดงก่ำ เขามองไปยังลอทเนอร์ที่เหมือนกับเทพเจ้าสงครามที่ได้ฆ่ากองทัพออร์คไปกว่าครึ่ง และเขาไม่สามารถมองมันได้อีกต่อไป!