ตอนที่แล้วGE486 ชื่อเสียงที่มาพร้อมความแข็งแกร่ง (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE488 สตรีผมแดง (ฟรี)

GE487 บ่วงสยบปีศาจ (ฟรี)


หนิงฝานไม่มีทางฟื้นฟูแผ่นหยกแต่ละแผ่นให้กลับมาทรงพลังเหมือนก่อนได้ แต่เขาก็พอจะนึกวิธีที่จะช่วยเพิ่มอานุภาพให้พวกมันได้

แผ่นหยกเหล่านี้เป็นสิ่งที่เซียนของเผ่าเขาคู่ได้ผนึกการจู่โจมของตนเองไว้

เท่าที่หนิงฝานสัมผัสได้ ปราณปีศาจที่อัดแน่นอยู่ภายในแผ่นหยกสลายไปหลายส่วน หากถ่ายปราณปีศาจเข้าไปเพิ่มได้ อานุภาพของมันก็น่าจะฟื้นฟูขึ้นบ้าง

“ปราณปีศาจนี่มัน… ปราณของผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจ!”

หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาได้ผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจมาตั้งแต่ครั้งที่ไปเยือนแคว้นเว่ย แต่ตอนนั้นเขายังใช้มันไม่ได้

ก่อนหน้านี้ หนิงฝานคิดว่าแม้จะอยู่ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง แต่การจะควบคุมผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจ ยังมีความเสี่ยงมาก และเขาจึงไม่มั่นใจว่าจะควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์

หากแข็งแกร่งขึ้น ความเสี่ยงที่จะควบคุมมันก็จะน้อยลง หากไม่เผชิญหน้ากับการตามล่าจากผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก หนิงฝานก็ยังไม่กล้าลองควบคุมมัน

ตั้งแต่ที่หนิงฝานได้ผ้าคลุมลวงสวรรค์มาครอบครอง คราวที่ทำพันธะสัญญากับมัน เขาได้รู้ว่ามีสมบัติชิ้นหนึ่งที่ช่วยทำให้ควบคุมผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจได้ง่าย สิ่งนั้นคือ อัฐิสวรรค์ ที่เขาบังเอิญได้มาแต่มันพังไปแล้ว

ยามนี้ที่เขาบรรลุขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นกลาง เข้าใจการประทับและลบตราปีศาจทาส จึงอยากจะลองควบคุมมันดูสักครั้ง

หากไม่อาจควบคุมมันได้จริงๆ เขาก็จะรอให้แข็งแกร่งกว่านี้ค่อยลองอีกครั้ง

การควบคุมผู้ไม่อาจบรรลุเซียน จะทำให้หนิงฝานหยิบยืมปราณของมันเพื่อเติมให้กับแผ่นหยกได้

“ผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจหรืออสูร อย่างน้อยต้องอยู่ในขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 9… อัฐิสวรรค์จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ข้าควบคุมสำเร็จ 3 ใน 10 ส่วน แต่ตอนนี้ข้าไม่มีแล้ว ต้องควบคุมด้วยความระมัดระวัง”

หนิงฝานนิ่งเงียบไปชั่วครู่ แล้วกระตุ้นสร้อยหยินหยางเพื่อเข้าไปในโลกหยิน

โลกหยินไม่ยอมให้สิ่งมีชีวิตใดเข้าไปนอกจากผู้เป็นนาย หากสิ่งมีชีวิตอื่นเข้าไป มันจะผลักดันกลับออกมา

หนิงฝานเคยลองนำเหล่าสตรีที่อยู่ในแหวนกระถางออกมา แต่ก็เอาพวกนางออกมาไม่ได้

หนิงฝานยังไม่อาจควบคุมโลกหยินได้อย่างสมบูรณ์ ไม่อย่างนั้น เขาคงนำสิ่งมีชีวิตเข้ามาแล้ว

การที่หลั่วโยว่คงอยู่ในโลกหยินได้ถือเป็นข้อยกเว้น เพราะนางถูกผนึกให้อยู่ที่นี่

เหตุที่หนิงฝานเข้ามาโลกหยิน ก็เพราะจะทดลองควบคุมผู้ไม่อาจบรรลุเซียน แม้ว่าผู้ไม่อาจบรรลุเซียนจะทรงพลังมาก แต่มันไม่อาจต่อกรกับพลังของโลกหยินได้ ดังนั้นต่อให้พลาดขึ้นมา มันก็ออกจากกระเป๋าที่ผนึกมันไม่ได้

หนิงฝานเหยียบย่างนภา จ้องมองโลกหยินและขบคิด

“หากวันหนึ่งหากข้าแข็งแกร่งพอ ข้าคงจะควบคุมที่นี่ได้อย่างอิสระ จะให้คนอื่นเข้ามา หรือจะให้หลั่วโยว่ออกไปก็ทำได้… บางทีถ้าข้าบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกอาจจะทำได้”

หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพไปยังบ้านของหลั่วโยว่ ยามนี้นางกำลังนอนหลับอยู่ แต่แรงกดดันของนางยามนี้ เกือบจะบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 2 แล้ว นั่นหมายความว่า นางหายบาดเจ็บจากวันที่ช่วยเขาสู้กับโม๋หลัวแล้ว เพียงแค่นางยังไม่ตื่น

หนิงฝานรู้ว่าเหตุใดนางถึงยังไม่ตื่น เพราะนางกำลังดูดซับพลังของใบไผ่อัสนีทองคำดำที่เหลืออยู่ หากนางดูดซับได้หมดจนนางยกระดับ นางก็จะตื่นด้วยตัวเอง

“ข้ายังเหลือใบไผ่อัสนีทองคำดำอีก 4 ใบ หากหาสมุนไพรแสนปีได้เพิ่ม คงให้นางดูดซับและยกระดับพลังได้… เมื่อถึงยามนั้น การมีนางอยู่ข้างกายก็ทำให้ข้าไม่ต้องกลัวผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกในโลกพิรุณ”

หนิงฝานมุ่งออกห่างจากบ้านของหลั่วโยว่ 10 ล้านลี้ เพื่อไม่ให้รบกวนนางยามที่เขาจะควบคุมผู้ไม่อาจบรรลุเซียน

หนิงฝานนำกระเป๋าที่เก็บผู้ไม่อาจบรรลุเซียนออกมา บนกระเป๋ามีผนึกปีศาจที่ทรงพลัง ภายในกระเป๋าอัดแน่นไปด้วยปราณปีศาจที่ทรงพลังของมัน

หนิงฝานสูดหายใจพลางตัดสินใจอย่างแน่นแน่ว่าจะลองควบคุมจึงปลดผนึกกระเป๋า ในชั่วพริบตานั้น ปราณปีศาจที่ทรงพลังและเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังขึ้น

เงาร่างสายหนึ่งพยายามพุ่งออกจากกระเป๋า

“ฮ่าฮ่า ในที่สุดก็มีคนเปิดกระเป๋า ปล่อยข้าผู้นี้ให้เป็นอิสระเช่นเดิม” มันเปล่งเสียงหัวเราะพร้อมกับแผ่แรงกดดันของขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 9 เข้าคุกคามหนิงฝานราวกับพยายามจะสยบเขา

หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาเร่งกระตุ้นโลหิตปีศาจในร่างเพื่อต้านรับกับแรงกดดันของมัน

นี่เป็นครั้งแรกหนิงฝานได้เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 9 ซึ่งหน้า หากไม่มีแรงกดดันจากโลหิตและสัญลักษณ์ปีศาจ เขาอาจต่อต้านแรงกดดันของมันมันไม่ได้

ในชั่วพริบตาเดียวกันที่มันพยายามจะทะยานหนี กลับชนเข้ากับม่านพลังที่แข็งแกร่งอย่างจัง

มันเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและตกตะลึง เพราะแม้กระเป๋าที่ใส่มันเอาไว้จะเปิดออกแล้ว แต่มันออกไปจากกระเป๋าไม่ได้

“นี่มันม่านพลัง! ความหนาแน่นระดับนี้ อย่างน้อยต้องเป็นสมบัติระดับจักรวาลกลาง! หากข้าไม่ได้รับอนุญาติ ข้าก็ออกจากกระเป๋านี่ไม่ได้!”

“รีบปล่อยให้ข้าเป็นอิสระซะ ไม่อย่างนั้นโลกใบนี้จะบดขยี้ข้าจนตาย!”

“หนวกหู!”

ในขณะที่ผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจดิ้นทุรนทุราย หนิงฝานกระตุ้นโลหิตโบราณเต็มกำลัง พยายามเปล่งพลังสยบมัน

โลหิตโบราณ 4 หยดสำแดงอานุภาพ แม้อีกฝ่ายเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 9 แต่ด้วยความต่างของโลหิต มันจึงถูกหนิงฝานสะกดข่ม

“ปะ...ปีศาจโบราณ! เป็นไปได้ยังไง?”

แม้ว่ามันจะถูกกักขังอยู่ในกระเป๋ามาเนิ่นนาน แต่มันก็รู้ดีว่า นอกจาก 9 ปีศาจโบราณที่ยิ่งใหญ่แล้ว เผ่าพันธุ์ปีศาจอื่นๆล้วนถูกสยบราบคาบ

ดังนั้นมันจึงคาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับปีศาจโบราณที่นี่!

แต่เมื่อมันตั้งสติและสังเกตุดีๆ แม้หนิงฝานจะมีโลหิตที่สูงส่ง แต่ระดับพลังกลับอ่อนแอจนไม่ควรค่าให้กล่าวถึง

แต่นั่นก็ทำให้มันไม่เข้าใจว่าเหตุใดปีศาจอย่างหนิงฝานถึงมีโลหิตปีศาจโบราณได้

“ที่แท้เป็นเจ้า! เด็กน้อยในวันวาน ดูเหมือนเจ้าจะโชคดีไม่น้อยที่ทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงได้ ทั้งยังมีโลหิตปีศาจโบราณในครอบครอง… แต่ยังไงซะ ในสายตาข้าเจ้าก็เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น!... รีบปลดม่านพลังของโลกใบนี้ออกซะ ไม่อย่างนั้นอย่างหาว่าข้าไม่เตือน!”

มันจำกลิ่นอายของหนิงฝานได้ มันจำได้ว่าหนิงฝานคือผู้ที่หยิบกระเป๋าที่ผนึกมันไว้ไป ตั้งแต่ครั้งนั้นก็ผ่านมาเพียงไม่กี่สิบปี มันคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะทะลวงขอบเขตพลังมาจนถึงขั้นนี้ได้

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันหวาดกลัวหนิงฝาน ทั้งยังเปล่งแรงกดดันข่มขู่

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังจำกลิ่นอายของข้าได้… เมื่อครู่เจ้าทำให้ข้าลำบากแทบแย่ ดูเหมือนตอนนี้ข้าคงต้องสั่งสอนเจ้าบ้าง!”

หนิงฝานโบกมือ กระตุ้นสัญลักษณ์ปีศาจโม๋หลัว สลักตราประทับทาสใส่

ตราประทับค่อยๆซึมเข้าไปในร่างของมันโดยยากจะขัดขืน แม้ว่ามันจะทรงพลังก็ตาม

มันเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น

“นี่เจ้ากล้าประทับตราทาสข้า! รนหาที่ตาย!”

แต่ตราประทับที่ซึมเข้าไปในร่างกายของมัน ทำให้มันเจ็บปวดจนยากจะทน

แม้อานุภาพของตราประทับจะทรงพลัง แต่ยังไม่อาจสยบมันได้อย่างสมบูรณ์

หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาเร่งสลักตราประทับทาสลงไปอย่างต่อเนื่องถึง 1 ชั่วยามเต็ม ในระหว่างนั้น มันเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เพราะยากที่จะทนต่อการประทับตราทาส

มันหวาดกลัวและพยายามร้องขอความเมตตา “เด็กน้อย! หยุดเดี๋ยวนี้! หากเจ้าต้องการอะไรขอให้บอก! ข้าใกล้ทนกับความเจ็บไม่ไหวแล้ว!”

“ถึงข้าจะไม่ยอมเป็นทาสของเจ้า แต่หากเจ้าปล่อยข้าไป ข้าสัญญาว่าจะช่วยเจ้าจัดการศัตรูที่ต้องการ!”

มันพยายามพูดจาหว่านล้อมหนิงฝาน แต่เขาไม่เชื่อ ต่อให้เขาสยบมันไม่ได้ เขาก็จะปล่อยมันออกจากกระเป๋าไม่ได้เช่นกัน เพราะหากมันหลุดออกไปได้ มันจะกลายเป็นตัวอันตราย ที่อาจทำให้โลกพิรุณถึงกาลอวสาน

หนิงฝานขมวดคิ้วแน่น ถึงเขาจะพยายามสลักตาประทับทาสกับมัน แต่ก็ยังไม่อาจทำให้มันเป็นทาสได้ จึงต้องยอมถอดใจ

“ดูเหมือนระดับพลังของข้ายังไม่พอที่จะทำให้มันเป็นทาส”

หนิงฝานหยุดการสลักตราประทับแล้วเก็บมันไว้เช่นเดิม ตอนนี้เขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้มันกลายเป็นทาส ต่อให้ฝืนไปก็ไร้ประโยชน์

หนิงฝานพยายามขบคิดหาวิธีสยบมัน ซึ่งพอจะนึกออกได้ 2 วิธี หนึ่งคือต้องแข็งแกร่งกว่านี้ สองคือสร้าง ‘สมบัติทาส’ ซึ่งสามารถช่วยสยบผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจได้

สมบัติทาสคือสมบัติโบราณที่ใช้สยบปีศาจหรือดวงจิตที่ชั่วร้าย แต่ตอนนี้มันหายสาบสูญ ผู้ที่รู้วิธีสร้างคือขุมกำลังฝ่ายธรรมะบางแห่ง

ในสมัยโบราณ มีขุมกำลังฝ่ายธรรมะมากมายที่สามารถสร้างสมบัติทาสได้ พวกมันใช้สมบัติเหล่านั้นเพื่อสยบและทำให้ปีศาจโบราณกลายเป็นทาส

หลังจากสยบเผ่าปีศาจเขาคู่ หนิงฝานได้บันทึกและอ่านตำราของพวกมันทั้งหมด จนได้พบกับส่วนที่กล่าวถึงสมบัติทาสและวิธีการสร้าง

สมบัติทาสที่หนิงฝานได้เห็นข้อมูล มีนามว่า ‘บ่วงสยบปีศาจ’

ในตำรากล่าวว่า ครั้งหนึ่งมีนิกายฝ่ายธรรมะ ได้เข้าจู่โจมและพยายามจะสยบผู้นำเผ่าคนแรกของเผ่าเขาคู่ ด้วยสมบัติที่มีชื่อว่าบ่วงสยบปีศาจ แต่สุดท้ายคนผู้นั้นก็พลาดท่าถูกสังหาร ทำให้เผ่าเขาคู่ได้รับวิธีการสร้างบ่วงสยบปีศาจมา

บ่างสยบปีศาจแย่งออกเป็นหลายระดับ แต่ละระดับใช้วัสดุที่แตกต่างกัน ซึ่งความยากของการสร้าง และความล้ำค่าของวัสดุในแต่ละระดับก็แตกต่าง

แม้จะรู้วิธี แต่ก็น่าเสียดายที่หนิงฝานยังไม่อาจหาแร่ที่จำเป็นต่อการสร้างได้ เพราะมีแร่หลายชนิดที่หาไม่ได้ในโลกพิรุณ

หากวันใดเขาสร้างได้ ผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจคงไม่มีทางรอดมือของเขาแน่นอน

“การจะสร้างบ่วงสยบปีศาจเพื่อควบคุมมัน คงต้องอาศัยโชคชะตา แต่ข้าก็หวังที่ข้าจะสยบมันได้ด้วยตัวเองในสักวัน ฉะนั้นตอนนี้ ข้าคงทำได้เพียงหยิบยืมปราณจากมันเพื่อเสริมพลังให้กับแผ่นหยกพวกนี้”

หนิงฝานกระตุ้นสัญลักษณ์ปีศาจ ดูดกลืนปราณจำนวนมหาศาลจากผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจ แล้วถ่ายเข้าไปยังแผ่นหยกแต่ละแผ่น

ภายในกระเป๋า ผู้ไม่อาจบรรลุเซียนปีศาจโล่งใจเมื่อเห็นว่าหนิงฝานหยุดประทับตราทาส แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถัดมา กลับทำให้มันเกลียดหนิงฝานมาก

“มดปลวกไร้ดัดแปลง กล้ามากที่พยายามประทับตราทาสให้ข้า ไว้ข้าออกไปได้เมื่อไหร่ เจ้าไม่รอดแน่!”

ในขณะที่มันกล่าวอยู่นั้น จู่ๆดวงตาของมันกลับเบิกกว้าง เพราะปราณปีศาจจำนวนมหาศาลภายในร่างของมัน กำลังถูกดึงออกไป จนทำให้ระดับพลังของมันเริ่มลดลง

มันเริ่มหวาดกลัวอีกครั้ง เพราะมันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ดึงปราณของมันออกไปคือหนิงฝาน และการดึงปราณออกไปนั้น ทำให้ระดับพลังของมันลดลงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับหนิงฝานแล้ว แม้ตอนนี้ยังไม่อาจควบคุมผู้ไม่อาจบรรลุเซียนได้ อย่างน้อยก็สามารถดึงเอาปราณของมันออกมาใช้ได้

ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ แผ่นหยก 14 แผ่นที่มีระดับการจู่โจมอยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลง ได้ยกระดับไปยังการจู่โจมระดับไร้แบ่งแยก ส่วนอีก 1 แผ่นที่อยู่ระดับไร้แบ่งแยกที่ 1 ได้ยกระดับเป็นไร้แบ่งแยกที่ 2 ส่วนผู้ไม่อาจบรรลุเซียน ระดับพลังลดลงจากขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 9 เหลือเพียง 8

มันขบฟัน ผสานมือเป็นท่าทาง พ่นแก่นโลหิตแล้วเพื่อใช้วิชาผนึกปราณในร่างของมันเอาไว้ ไม่ให้หนิงฝานดึงออกไป

“ระวังตัวไว้ให้ดี!” มันขบฟันแน่นด้วยความแค้น

การประทับตราทาสทำให้เจ็บปวดจนยากจะทน ส่วนการดึงปราณออกไปจากร่างมัน ก็ทำให้ระดับพลังของมันลดลงอย่างถาวร

ตอนนี้มันไม่กล้าปริปากกับหนิงฝานแล้ว เพราะกลัวจะถูกอะไรทำนองนี้อีก

“คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะผนึกปราณของตนไว้ สมแล้วที่เป็นผู้ไม่อาจบรรลุเซียน… เดิมทีคิดจะให้เจ้าเหลือพลังแค่เพียงขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 6 ข้าจะได้ลองสยบเจ้าดูอีกครั้ง”

หนิงฝานคิดจะใช้มันจัดการกับหานเนี่ยเทียน ในอดีต หานเนี่ยเทียนอยู่ขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 5 ตราบใดที่ผู้ไม่อาจบรรลุเซียนแข็งแกร่งกว่า 1 ขั้น มันก็เอาชนะหานเนี่ยเทียนได้

นอกจากนี้ หากความแข็งแกร่งของมันลดลง น่าจะทำให้มันควบคุมได้ง่ายขึ้น

หากยังดูดซับปราณจากมันได้ ก็จะทำให้เขามีแผ่นหยกที่เก็บการจู่โจมระดับไร้แบ่งแยกที่ 6 ที่รุนแรงพอจะทำอันตรายหานเนี่ยเทียนได้

แต่น่าเสียดายที่มันผนึกปราณของมันไว้ ทำให้ยากจะดูดซับออกมา

แม้ว่าตอนนี้หนิงฝานจะยังควบคุมมันไม่ได้ แต่เขาก็สามารถดึงดูดปราณของมันมาได้ส่วนหนึ่ง จนทำให้มีไพ่ตายในมือมากขึ้น ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ 1 เขาก็ไม่ต้องกังวล

“ข้าคงต้องไปเกาะอสูรสักระยะ แต่คงอยู่ที่นั่นไม่นานมาก… ข้าต้องรีบไปเกาะโอสถ ใช้สระล้างวิญญาณเพื่อยกระดับจิตวิญญาณสมุนไพร... ไพ่ในมือของข้าตอนนี้สามารถสังหาร 8 บรรพบุรุษของเผ่าปีศาจยักษ์ และช่วยฉุ่ยเยวียนได้ตามที่ข้าหวัง”

แววตาหนิงฝานเผยความเหนื่อยล้าและเปล่าเปลี่ยว แม้ว่าโลกภายนอกพึ่งจะผ่านมาได้เพียงไม่กี่ปี แต่สำหรับหนิงฝาน เวลาได้ล่วงเลยมากกว่า 500 ปี ทำให้เขาคิดถึงแคว้นเยว่มาก

หนิงฝานรับปากตงสู่ว่า จะช่วยตงสู่ทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงในสุสานกษัตริย์อัสนี ซึ่งอีกเกือบ 10 ก็จะถึงเวลานัดหมาย

สุราที่หนิงฝานหมักไว้ก็ยังดื่มไม่ได้ เพราะยังหมักไม่ครบ 10 ปี นอกจากนี้ เขายังได้รับปากหงยี่เอาไว้ว่าจะช่วยนาง ซึ่งเวลานัดหมายก็คืออีก 10 ข้างหน้าเช่นกัน

นั่นหมายความว่า ในช่วง 10 ปีนี้ หนิงฝานจะออกจากทะเลไร้สิ้นสุดไม่ได้

สำหรับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การที่ได้กลับไปเยือนบ้านเกิดนับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก

เมื่อหวนนึกถึงเหล่าสตรีของตนที่อยู่ในแคว้นเยว่ หนิงฝานก็อดยิ้มไม่ได้ หากได้กลับไป เขาจะไม่ปกปิดตัวตน ไม่บอกผู้ใดว่าคือซัวหมิง... แต่ยามนี้ยังไม่อาจสมหวังอย่างที่คิด

หนิงฝานนำบุบผาดอกหนึ่งที่จื่อเฮ่ออยากได้ออกมา เมื่อสายลมพัดต้อง มันเปล่งเสียงที่ไพเราะ จนทำให้หนิงฝานเคลิบเคลิ้ม ปล่อยให้จิตใจได้ผ่อนคลาย...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด