4 สู่อีกโลกหนึ่ง
“ไม่เปลี่ยนไปเลยนะลุงพิล” คิวรู้สึกดีใจ
คิวเดินมาหลบมุม เพื่อที่เจรจากับซิส
“ซิส ฟังให้ดีนะ ที่ฉันให้นายยืม ไม่ได้หมายความว่าฉันรวยหรือว่าบังคับนายนะ”
ซิสยืนฟังอย่างตั้งใจและบอกกับคิวว่า “อันที่จริงฉันก็ไม่อยากยืมหรอก ฉันรู้ว่าการเป็นหนี้เป็นอย่างไร”
“แต่ เพราะฉันเชื่อใจนาย และฉันรู้จักนายดีกว่าใคร” คิวยืนกอดอก “เพราะเรื่องเงิน ทำให้คนเรา เกิดหายนะ นับไม่ถ้วน”
“นั่นเหละ ฉันมีบทเรียนในอดีตและจะไม่ทำให้มันผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง บทเรียนนี้ฉันต้องท่องให้ขึ้นใจจนวาระสุดท้ายสินะ” ซิสคิดถึงอดีตอีกครั้ง
เขายินดีที่จะให้ซิสยืมเงินก่อน และทำสัญญาลงลายลักษณ์อักษร เพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย แต่มีข้อแม้ หลังจากที่เข้าไปแล้ว ต้องหามาคืนเร็วที่สุด
ซิสเดินตามลุงพิลเข้าไปในห้อง ห้องนั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรมาก มีแค่ตู้กลมๆ ขนาดใหญ่ พื้นที่ให้คนพอยืนได้
“เอาสิ เดินเข้าไป” ลุงพิลชี้ไปที่ ตู้กระจก คล้ายแท่งแคปซูล
เดินเข้าไป จากนั้นก็มีเหมือนเสียงเพลง บรรเลงช้าๆ แสงสาดส่องจากหัวซิสไปถึงรองเท้าคู่สีดำ เชือกสีขาว ความรู้สึกเหมือนถูกบันทึกอะไรสักอย่างไว้ ทั้งกลิ่น เส้นผม รูปแบบตัวตน คล้ายว่าตัวเองคือสำเนาเอกสารชนิดหนึ่ง เส้นผมลอยขึ้นฟ้า
เสียง โผล่ออกมาจากด้านบน
“กรุณายืนยันตัวตน”
ชื่อ ซิส ราฟฟา
อายุ 27 ปี
วันเดือนปีเกิด xx/xx/xxxx
ที่อยู่ หมู่บ้านสปริงแครป
“#00874860001” ยืนยันตัวตน
“ตกลง” ซิสพูดขณะเส้นผมกลับมาเป็นปกติ
“เรียบร้อย รับไป” ลุงพิลยื่นยืนบัตรประจำตัวคืนพร้อมกับสายรัดข้อมือ
ซิสและลุงพิลเดินออกมาจากห้อง ระหว่างที่จบการสนทนา ก็มีผู้คนหน้าไม่คุ้นเคย เดินเข้ามาอีกเป็นระยะ
ทั้งคู่เดินเข้าไปสู่ลานจอดรถอีกรอบ แต่คำถามในหัว กับสิ่งที่ซิสคิด มันรู้สึกขัดแย้ง สับสน และวกวน เขาพยายามคิดในสิ่งที่คิวพูด “เกมที่เป็นเหมือนของจริง”
สถานที่นั้นจะเป็นแบบไหน มอนสเตอร์จะเป็นรูปแบบใด แล้วมันสามารถทำอาชีพได้หรือ แต่เท่าที่ซิสคิดอยู่ โดยการวัดค่าความเสี่ยงต่างๆ นาๆ แทบจะไม่มีทางเลือก ที่ดีกว่านี้ เขาบอกกับตัวเองว่า ไม่แปลกใจหรอกที่เราต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเรามีปัญหาที่ต้องจัดการ
“กลัวหรือยังไง” คิวถามซิสระหว่างยืนหน้าประตูมิติ
“เปล่า ฉันแค่กำลังคิดว่า จะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหลังจากก้าวเข้าไป” ซิสเสริม “ในโลกแห่งนี้ ฉันอยู่กับครอบครัว และโลกแห่งนั้น ฉันจะกลับมาหาครอบครัวได้ไหม นั่นคือคำถาม สำหรับตัวฉันเอง”
“อืม กลับมาได้สิไม่งั้นนายจะเจอฉันไหมล่ะ” คิวยืนฟังอย่างตั้งใจ
“ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ใครกำหนด หรือ ทำให้เราได้โคจรมาพบกันอีกครั้ง และไม่ใช่ความผิดนาย ฉันอยากตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่อยากจะให้เป็นอย่างที่เคยไปทำงานที่ขอบเมือง” ซิสพูดก่อนที่จะเงียบลง “อะไรก็ตามที่ฉันสามารถทำได้ในตอนนี้ ฉันจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เวลาผ่านไป 5 นาที ทั้งคู่ก็ยังยืนอยู่หน้าประตูมิติ ผู้ดูแลประตู มองหน้าด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะเท่าที่ดู เขารู้จักคิวอย่างดี อีกผู้ดูแลประตูหนึ่ง ก็กำลังนั่งอ่านนิตยสาร
“เอาล่ะคิว” ซิสพูด “ฉันพร้อมผจญภัยแล้ว”
“มันต้องอย่างนั้นเพื่อน” คิวรู้สึกดีใจ
เขาทั้งสอง ก้าวเข้าไปในประตูมิติ แสงสาดส่องเข้าที่ดวงตา ทำให้ต้องหลับตา ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ที่ไหนสักแห่ง เบาสบายเหมือนฟองอากาศ ลื่นไหลเหมือนสายน้ำ กลิ่นที่เปลี่ยนไป ความอบอุ่นจากแสงแดด ความอับชื้นใต้ลานจอดรถ เปลี่ยนเป็นกลิ่นความหอม ดอกไม้ อากาศ และสายลม
เมืองหลวง
“เอาล่ะลืมตาได้” คิวบอก
ซิสค่อยๆ ลืมตา แต่ความรู้สึกเหมือนพึ่งก้าวออกมาจากห้องหนึ่งสู่อีกห้องหนึ่ง แค่นั้นเอง เขารู้สึกมวนท้อง เวียนหัวเล็กน้อย รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย
“ส่งฉันกลับเดี๋ยวนี้” เสียงเด็กผู้ชาย “ในโฆษณาไม่เห็นบอกว่ามันยากขนาดนี้ ส่งฉันกลับเลย แล้วเอาเงินค่าลงทะเบียนคืนมาด้วย” เสียงแว่วไกลๆ
ซิสและคิวยืนอยู่ หน้าลานน้ำพุขนาดใหญ่ ผู้คนมากมายเต็มไปหมด รูปปั้นนางฟ้าสวยราวกับเทพนิยาย ม้ายูนิคอร์น กามเทพตัวน้อย นกสีฟ้าตัวเล็ก ทุกสิ่งอย่างขยับได้ บนฟ้า แต่เมื่อซิสหันไปรอบด้าน เขารู้ทันทีว่าเด็กใหม่ ใส่ชุดยังไง เท่าที่ก้มดูชุดของตัวเองแล้ว นี่มันเด็กใหม่ชัดๆ เพราะหันไปมองคิว ชุดเกราะ เงาแวววาว โล่สีน้ำตาลที่อยู่ด้านหลัง ขวดโพชั่นรอบเอว กระเป๋าขนาดเล็กข้างลำตัว
อีกด้านหนึ่ง นักเวทย์แน่นอน เพราะดูจากไม้เท้าสีน้ำตาลเข้ม ผ้าคลุม ลายอักษรที่แขนแปลกประหลาด สมุดเล่มหนา ตำราเวทย์มนต์ กำลังพาผู้เล่นใหม่ไปสู่ทางออกด้านหน้า
“คิว! ขอถามอีกคำถามหนึ่ง” ซิสมองหน้าอย่างจริงจัง
“นายจะต้องถามฉันอีกมากมาย ระหว่างเดินไปข้างหน้า” คิวยืนอย่างภาคภูมิใจ
“ฉันจะกลับไปโลกเดิมทางไหน” ซิสยังคงไม่ละสายตา
คิวหดตัวทันที “โถ่ นึกว่าอะไรซะอีก เกือบตอบคำถามถึงมอนสเตอร์ที่ฉันกำจัดได้แท้ๆ” คิวผิดหวัง