เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 860 ทักษะตามธรรมชาติ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 860 ทักษะตามธรรมชาติ (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
หอยขมอาศัยอยู่ในทะเลลึก
ในเปลือกหอยขมมีน้ำหอยขมที่สามารถทำไปผลิตสุรารสขม ฟางหยวนเคยใช้มันในการหลอมรวมวิญญาณสุราสี่ฤดูมาก่อน
อย่างไรก็ตามหอยขมพันปีเป็นทรัพยากรหายากที่สามารถใช้ในการหลอมรวมวิญญาณอมตะ
ฟางหยวนโยนเปลือกหอยขมพันปีเข้าไปในกระดองเต่าที่กำลังลุกไหม้
ไอพิษม้วนตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับอสรพิษสีดำ
กลิ่นเหม็นทวีความรุนแรงมากขึ้น
แม้ฟางหยวนจะเป็นผีดิบอมตะแต่กลิ่นชนิดนี้ยังทำให้เขารู้สึกเวียนศีรษะและอยากอาเจียน
ในไม่ช้าเปลือกหอยขมพันปีก็ละลายเป็นของเหลวหลอมรวมกับโลหิตพิษ
ฟางหยวนโยนเปลือกหอยขมพันปีชิ้นที่สอง สาม กระทั่งถึงชิ้นที่สิบสองอย่างช้าๆ
กลิ่นเหม็นทำให้การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งเครียดและไม่น่ามอง
…..
"หัวใจน้ำแข็งแฝด!” มนุษย์ขนเป่ยเต๋าอี้ตะโกน
แม้เป่ยเต๋าอี้จะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าแต่ความสำเร็จของเขากลับไม่ธรรมดา เขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรอมตะที่หยูมู่ฉานนำออกมา
เป่ยเต๋าอี้แสดงออกด้วยความตกใจ
หัวใจน้ำแข็งทั่วไปเป็นทรัพยากรอมตะที่มีขนาดเท่านิ้วโป้ง แต่หัวใจน้ำแข็งที่เป่ยเต๋าอี้นำออกมากลับมีขนาดเท่ากับอ่างน้ำ ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นรูปหัวใจ
นี่คือหัวใจน้ำแข็งแฝดที่หายากกว่าหัวใจน้ำแข็งทั่วไปนับร้อยเท่า!
หัวใจน้ำแข็งทั่วไปเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกขณะที่หัวใจน้ำแข็งแฝดเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด
‘หัวใจน้ำแข็งแฝดเป็นสมบัติล้ำค่าแต่เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่ใช่วัสดุหลักในการหลอมรวม ท่านอาจารย์ช่างยอดเยี่ยมนัก ข้าไม่รู้จริงๆว่าท่านกำลังหลอมรวมสิ่งใด’ เป่ยเต๋าอี้เต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชม
ในที่สุดเขาก็สามารถผ่อนคลาย
พิจารณาจากวัสดุในการหลอมรวม ชัดเจนว่าหยูมู่ฉานมีการเตรียมตัวมาล่วงหน้า
เป่ยเต๋าอี้รู้ว่าหยูมู่ฉานไม่ใช่คนโง่แต่เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดหยูมู่ฉานจึงจงใจหลอมรวมวิญญาณอมตะในสาถานที่เปิดโล่งเช่นนี้
พายุหมุนสองสายพัดเข้ามาแต่พวกมันไม่ได้ปะทะกัน
หยูมู่ฉานลอยอยู่ตรงกลางระหว่างพายุหมุนทั้งสอง หน้ากากสีทองถูกพัดหายไปและเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา
เสื้อผ้าของเขาเริ่มฉีกขาดและเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง
ตัวตนที่แท้จริงของเขาคล้ายกับเป่ยเต๋าอี้ เขาเป็นมนุษย์ขน!
นี่เป็นเหตุผลที่เขาให้คำชี้แนะแก่เป่ยเต๋าอี้
ตัวตนที่แท้จริงของหยูมู่ฉาน กระทั่งฟางหยวนก็ไม่รู้
ราวกับหยู่มู่ฉานเข้าใจความกังวลของเป่ยเต๋าอี้ ดังนั้นเขาจึงเปิดปากกล่าว “เด็กโง่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดมนุษย์ขนจึงมีความสามารถในการหลอมรวม นั่นเป็นเพราะมนุษย์ขนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอยู่บนร่างกายตั้งแต่กำเนิด ในความเป็นจริง เส้นทางแห่งการหลอมรวมถือกำเนิดขึ้นโดยมนุษย์ขน รากฐานของพวกเราลึกซึ้งกว่ามนุษย์หลายสิบเท่า อย่างไรก็ตามทักษะของมนุษย์ขนได้สูญหายไปตามกาลเวลา ในปัจจุบัน ทักษะส่วนใหญ่ของมนุษย์ก็ได้รับอิทธิพลมาจากมนุษย์ขนทั้งสิ้น แต่มันยังข้อบกพร่องมากมาย”
หยูมู่ฉานกล่าวต่อ “ตัวอย่างเช่น เมื่อมนุษย์หลอมรวม พวกเขาต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ นี่ทำให้พวกเขาปลอดภัยและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่นี่เป็นเพียงผลประโยชน์ระยะสั้น มันไม่ใช่แผนการระยะยาว”
“ผู้ใช้วิญญาณจะใช้ เลี้ยงดู และหลอมรวมวิญญาณ วัสดุในการหลอมรวมวิญญาณต้องเชื่อมต่อกับวิญญาณ เช่นเดียวกับอาหารที่เฉพาะเจาะจงของพวกมัน การใช้วิญญาณ ผู้ใช้ต้องเข้าใจพลังงานแห่งเต๋าของวิญญาณดวงนั้นขณะที่การหลอมรวมวิญญาณยิ่งต้องเข้าใจมากกว่า เมื่อวิญญาณถูกหลอมรวม พวกมันควรถูกแวดล้อมโดยธรรมชาติ เพราะโลกใบนี้มีพลังงานแห่งเต๋าอยู่นับไม่ถ้วน มันเหมือนกับทารกที่อยู่ในอ้อมกอดของมารดา หากพวกเราสามารถใช้พลังงานแห่งเต๋าของโลกใบนี้ มันก็หมายความว่าโลกกำลังช่วยพวกเราหลอมรวมวิญญาณ”
“ยืมพลังของโลกเพื่อหลอมรวมวิญญาณ!?” เป่ยเต๋าอี้เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
คำกล่าวของหยูมู่ฉานทำให้เป่ยเต๋าอี้ได้เปิดหูเปิดตาครั้งใหญ่
หยูมู่ฉานหัวเราะ “เป่ยเต๋าอี้ เจ้าได้เรียนรู้ทักษะการหลอมรวมของมนุษย์มาแล้ว แม้พวกมันจะสามารถใช้งาน แต่มันเป็นเส้นทางที่ผิด เรียนรู้และพัฒนาด้วยตัวของเจ้าเอง เส้นทางของมนุษย์ไม่เหมาะสมกับพวกเรา หากเจ้าต้องการเป็นปรมาจารณ์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เจ้าต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นและใช้วิธีการหลอมรวมวิญญาณของมนุษย์ขน”
“ข้าจะพยายาม ข้าจะตั้งใจ ท่านอาจารย์ โปรดสอนวิธีการหลอมรวมวิญญาณของมนุษย์ขนให้แก่ข้าด้วย” เป่ยเต๋าอี้ตะโกนด้วยความตื่นเต้น
หยูมู่ฉานหัวเราะเสียงดัง “อย่าได้รีบร้อน ข้าเริ่มต้นจากการให้อาหารวิญญาณตั้งแต่อายุสามขวบ ข้าสัมผัสและทำความคุ้นเคยวิญญาณจนถึงอายุสิบขวบโดยปราศจากผู้สอน ข้ารู้จักอาหารที่วิญญาณป่าต้องการรวมถึงวิธีให้อาหารพวกมัน เมื่อข้าอายุสิบหก ข้าใช้ทักษะการหลอมรวมของมนุษย์เพื่อหลอมรวมวิญญาณระดับห้าด้วยอัตราความสำเร็จเก้าสิบส่วน แต่นี่เป็นเส้นทางที่ผิด เมื่อข้าอายุยี่สิบสอง ข้าตระหนักถึงจุดนี้และเริ่มใหม่อีกครั้งด้วยการหลอมรวมวิญญาณตามธรรมชาติ เมื่อข้าอายุได้หนึ่งร้อยสามสิบแปดปี ทักษะการหลอมรวมวิญญาณตามธรรมชาติของข้าก็ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ ตอนนี้ข้าอายุสองร้อยสี่สิบหกปี ข้าสามารถเลือกสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อหยิบยืมพลังงานแห่งเต๋าของโลกใบนี้เพื่อหลอมรวมวิญญาณ ด้วยทักษะของข้า มีโอกาสสี่สิบส่วนที่ข้าจะประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับหก ห้าส่วนสำหรับการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับเจ็ด สำหรับระดับแปด ระดับการบ่มเพาะของข้ายังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะหลอมรวมมัน”
ร่างของเป่ยเต๋าอี้สั่นสะท้านขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้
โดยทั่วไปโอกาสประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับหกมีเพียงหนึ่งในร้อยเท่านั้น
สำหรับวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและแปด มันยิ่งน้อยกว่านั้น
อย่างไรก็ตามหยูมู่ฉานกลับมีโอกาสประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะหกถึงสี่สิบส่วน นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง
ระว่างการฝึกฝนของหยูมู่ฉาน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาต้องพึ่งพาทรัพยากรจำนวนมหาศาล
การบ่มเพาะของผู้อมตะต้องการทรัพยากร ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมยิ่งต้องการมากกว่า
ปราศจากการฝึกฝน ปราศจากทรัพยากรที่เพียงพอ ผู้อมตะก็ไม่สามารถก้าวหน้า
ผู้อมตะส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหลอมรวม
ฟางหยวนเป็นเพียงกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม นี่เป็นเพราะพรสวรรค์และทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
เมื่อพายุหมุนเริ่มสงบลง หยูมู่ฉานจึงเริ่มหลอมรวมขั้นตอนต่อไป
เขานำวัสดุในการหลอมรวมออกมาและโยนเข้าไปในพายุหมุนอย่างลวกๆ
พายุราวกับใบมีดบดทำลายมันจนกลายเป็นฝุ่นผง
เป่ยเต๋าอี้ตะลึง
โดยปกติผู้หลอมรวมต้องคำนวณปริมาณและควบคุมความร้อนของไฟอย่างพิถีพิถัน แต่หยูมู่ฉานกลับโยนวัสดุในการหลอมรวมเข้าไปในพายุหมุนอย่างง่ายๆ มันเหมือนกับการใส่เครื่องปรุงลงไปในกระทะแบบสุ่ม
หากเป็นผู้อื่นที่ใช้วิธีนี้ เป่ยเต๋าอี้จะดูหมิ่น
แต่เมื่อเป็นหยูมู่ฉาน เป่ยเต๋าอี้กลับรู้สึกว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ
มันเป็นความงามตามธรรมชาติที่ไม่สามารถอธิบาย
เมื่อถึงจุดนี้เป่ยเต๋าอี้กลายเป็นมึนงงไปอย่างสมบูรณ์