ตอนที่แล้วเคียวที่ 24 : แก้เสน่ห์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเคียวที่ 26 : อะไรที่มันไม่พิเศษ

เคียวที่ 25 : บาปไม่จบ นรกไม่ไม่รู้จัก


คิดไรวะไหม” ผมถามขึ้นมาหลังจากสุกี้เดินกลับเข้าห้องคนป่วยไปแล้ว

“พวกนายจำเรื่องสมัยตอนเราอยู่ ม. ต้นได้ไหม เรื่องเค้ก”

เค้กเหรอ ... เด็กหญิงตัวท้วมผิวคล้ำ ใส่แว่น ที่พวกเราไม่เคยลืม ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ ความผิดครั้งนั้นเป็นบทเรียนครั้งสำคัญสำหรับพวกเราเลยล่ะ ว่าแต่ไหมจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทำไม

“หมายความว่าไงไหม” อิฐถามออกไป เพราะดูเหมือนจะไม่เข้าใจประเด็นที่ไหมพูดออกมาเหมือนกัน

“ตอนที่ฉันจับตัวครีมแยกออกมาให้พวกนาย ครีมหลุดปากเหมือนเราเคยไปทำอะไรไว้กับครีม มันจะเป็นไปได้ไหม ... ว่าเค้กกับครีมคือคนเดียวกัน”

“บ้าน่า มันจะเป็นไปได้ไง ครีมไม่ได้มีเค้าโครงหน้าตาเหมือนเค้กแม้แต่น้อย”

ผมว่าไหมเริ่มปะติดปะต่อเรื่องไปเรื่อยแล้ว เท่าที่ผมจำได้ พวกเราสามคนเคยพูดไม่ดีถึงเค้กไว้ แล้วเจ้าตัวมาได้ยินพอดี เค้กวิ่งหนีไปจนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชน พวกเราไม่สามารถติดต่อเค้กได้อีกเลยหลังจากนั้น เค้กลาออกจากโรงเรียน ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ขอโทษ แล้วเค้กจะกลับมาในสถานะครีมเพื่ออะไร แก้แค้นงั้นเหรอ ... ไม่ใช่มั้ง นี่ชีวิตจริงนะ ไม่ใช่นิยาย

“เรื่องมันก็นานแล้วนะไหม เลิกโทษตัวเองเถอะ อย่าเก็บเอาเรื่องเก่า ๆ มาปนกันเลย” อิฐพูดเสริมผม

“ก็แล้วถ้ามันใช่ล่ะ” คำพูดของไหมทำเอาผมกับไอ้อิฐนิ่งไป เมื่อไหมยังคงยืนกรานว่าเธอเชื่อแบบนั้น

“ถ้ามันใช่ พวกเราก็มีสิ่งที่ติดค้างเค้กอยู่ ... คำขอโทษ”

สองสามวันผ่านไป ผมคิดว่าเสน่ห์ที่ครีมทำไว้กับชาบูมันหมดไปแล้ว ชาบูไม่ได้พูดเพ้อหรือหลงละเมอถึงแต่ครีมอีก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือร่างกายของมันกับแย่ลงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง ๆ ที่ผมคิดว่ามันควรจะดีขึ้นแล้ว อาการอ่อนเพลียยังคงอยู่ มันเบื่ออาหาร หมดแรง เหมือนคนตรอมใจยังไงอย่างนั้น

“หมอครับ น้ำเกลือหมดไปหลายรอบแล้วนะครับ ทำไมเพื่อนผมยังอาการไม่ดีขึ้นเลย” อิฐถามหมอที่เข้ามาดูอาการของชาบู ซึ่งตอนนี้ครอบครัวชาบูแวะกลับไปทำธุระข้างนอก พวกเราเลยอาสามาเฝ้าคนป่วยแทน

“หมอ ... เอ่อ หมอก็ไม่ทราบครับ เท่าที่ตรวจดูร่างกาย คนไข้ปกติดีทุกอย่างครับ ต้องรอดูอาการอีกสักระยะ หมอขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบคุณหมอก็เดินออกจากห้องไป

“หรือว่าของยังไม่หมดไปจากตัวมันวะ” ผมเอ่ยขึ้นมา พลางมองไปยังเพื่อนตัวเอง

“เราก็ลองหมดทุกวิธีแล้วนะเว้ย ที่มันอ้วกออกมาไม่ใช่สิ่งที่มันโดนเหรอวะ”

ผมก็คิดเหมือนอิฐ ว่าสิ่งที่มันอ้วกออกมาเป็นผลจากเสน่ห์ที่ครีมทำ มันก็น่าจะไม่มีอะไรแล้วนี่ แต่นี่มันดูยังไม่หายดีเลย แต่เมื่อนึกดูดี ๆ ที่ทำไปทั้งหมดมันยังเหลืออีกวิธี

“กูว่ายังนะ ที่เราทำไปทั้งหมด มันคือการแก้เสน่ห์จากการกินเข้าไปไม่ใช่เหรอ เหลืออีกวิธีหนึ่ง ฝังรูปฝังรอย วิธีนี้ต้องแก้ด้วยการทำลายหุ่นรูปรอย”

“ครีมทำของแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะ โอ๊ย ! แล้วหุ่นมันจะไปอยู่ที่ไหนวะเนี่ย” อิฐพูดขึ้นมาอย่างเซ็ง ๆ

“นั่นแหละปัญหา”

คิดแล้วก็อยากจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก ทำไมมันไม่จบไม่สิ้นสักทีเนี่ย

เสียงดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงผม ผมจึงหยิบออกมารับสาย

“ว่าไงไหม มีอะไรอะ ไหนว่าจะมาถึงก่อนไง นี่ยังไม่เห็นตัวเลย”

ตอนแรก ผม อิฐ และไหม นัดกันว่าจะมาอยู่เฝ้าชาบูตอนสี่โมงเย็น แต่พอดีอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกไปพบ สอบถามเรื่องชาบู เพราะขาดเรียนไปหลายวันแล้ว ผมกับไอ้อิฐเลยให้ไหมล่วงหน้ามาหาชาบูก่อน แล้วพวกเราจะตามไปทีหลัง

“ฉันไม่ใช่ไหม”

เสียงที่ได้ยินทำให้ผมชะงักไปทันที มันไม่ใช่เสียงของไหม

... เสียงนี้ มันเป็นเสียงของครีม

“ครีม นั่นครีมเหรอ ไหมอยู่ไหน เธอทำอะไรไหม”

“ยังไม่ได้ทำ แต่อีกไม่นานหรอก แกกับไอ้อิฐออกมาเจอฉันตอนเที่ยงคืนที่ป่าช้าหลังวัด ... แล้วเราค่อยมาคุยกัน”

บ้าไปแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

“เดี๋ยว ! ครีม ... เดี๋ยว !”

ผมยังไม่ทันที่จะสอบถามอะไรต่อ ปลายสายก็ถูกตัดทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้เพียงเสียงของคนวางสายที่ทิ้งประโยคนัดเจอไว้ให้ พอกดโทรกลับไปก็ขึ้นเสียงฝากข้อความ

“เกิดไรขึ้นวะคีย์” อิฐถามขึ้นมาเมื่อเห็นผมมีท่าทีร้อนรนแปลก ๆ ตอนนี้ไม่รู้จะทำอะไรดีแล้ว เพื่อนคนหนึ่งก็นอนป่วย อีกคนก็ถูกจับตัวไป ไอ้หุ่นบ้านั่นก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน

“ครีมจับตัวไหมไป” ผมพูดออกมาก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่

เวลาเกือบเที่ยงคืน ผมและอิฐก็เดินมาถึงสถานที่ที่ครีมได้นัดเอาไว้ บรรยากาศรอบข้างเงียบสนิท แหงล่ะ นี่มันป่าช้านี่นะ กวาดตาหาไม่นานผมก็เห็นครีมที่ยืนอยู่บริเวณหนึ่งแถวนั้น ข้างกายครีมมีผู้ชายวัยกลางคนยืนอยู่ ใบหน้าชายคนนั้นเรียบนิ่ง ดูเป็นคนน่ากลัวมากทีเดียว ข้างกายครีมใยไหมถูกมัดติดไว้กับต้นไม้โดยมีผ้าผืนหนึ่งอุดปากเจ้าตัวไม่ให้ส่งเสียงอยู่ ทันทีที่ใยไหมเห็นพวกผมก็พยายามดิ้นส่งเสียงอื้ออ้า เพื่อขอความช่วยเหลือ

“ครีม เธอจะทำอะไร ปล่อยไหมนะ” อิฐพูดขึ้นทำท่าจะเข้าไปใกล้ไหมเพื่อช่วย แต่ครีมหยิบมีดด้ามหนึ่งออกมาก่อนจ่อไปที่คอของไหม ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เพราะถูกมัดติดไว้กับต้นไม้ ทำให้อิฐชะงักไป แล้วก้าวเท้าถอยออกมา

“ไม่ปล่อย เพราะพวกแก พวกแกพรากชาไปจากฉัน” ครีมพูด ดูสติแตกแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

“เธอต้องการอะไร” ผมพูดต่อ พยายามทำสติให้นิ่ง ใจเย็นเข้าไว้ไอ้คีย์ มีสติค่อย ๆ คิด

“ต้องการให้พวกมึงฉิบหายไง เหมือนที่เคยทำไว้กับกู”

สรรพนามการพูดจาของครีมเปลี่ยนไปทันที แววตาวาวโรจน์ขึ้นมาด้วยความแค้นเคือง ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด พวกเราไปทำอะไรไว้ให้เธอกันแน่ ในเมื่อเราเพิ่งจะรู้จักกันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หรือว่าสิ่งที่ไหมเคยบอกไว้ ...

“พูดเรื่องอะไรของเธออะครีม” อิฐถาม

“เลิกเรียกกูว่าครีมได้แล้ว กูชื่อเค้ก แหกตาพวกมึงดูดี ๆ กูเป็นใคร”

ผมและอิฐต่างช็อกในสิ่งที่ได้ยิน ครีมคือเค้กงั้นเหรอ ... บ้าน่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้

“เค้ก ทำไม ทำไมเธอถึง ...”

เมื่อเห็นว่าพวกเราตกใจและอึ้งจนพูดอะไรออกมาเป็นคำ ๆ เค้กก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้ ผมว่าจิตใจเค้กไม่ปกติแล้ว เหมือนคนวิกลจริต

“จำไม่ได้ล่ะสิ ศัลยกรรมไง อึ้งเลยเหรอ อีกอลิล่าตัวนี้มันไปศัลยกรรมมา ให้เป็นสาวแว่นน่ารักไง”

พูดจบก็เดินถือมีดก้าวเท้าเข้ามาใกล้ไอ้อิฐก่อนยกมืออีกข้างมาลูบไล้บริเวณแผงอกของอิฐ เจ้าตัวตัวแข็งทื่อเพราะมีดคมวาว จ่ออยู่ที่ลำคอจนไม่กล้าขยับ

“เป็นไงบ้าง กูดูดีพอหรือยัง”

ใบหน้าที่ถูกทำมาจนสวยยิ้มกว้าง

“พวกเราขอโทษ อย่าทำอะไรไหมเลย เค้ก หยุดเถอะ”

ประโยคที่ผมพูดออกไปดูไม่เข้าหูเค้กแม้แต่น้อย เจ้าตัวแสยะยิ้มหัวเราะออกมาอีกครั้ง

“มึงรู้ไหม ว่ากูตามข่าวพวกมึงมาตั้งกี่ปี กูอดทนรอมาตั้งกี่ปี กว่าหน้าตากูจะเป็นแบบนี้ แต่เพื่อนของมึงก็ไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตาเลย ทั้งเมื่อก่อนและตอนนี้ เห็นแต่อีนี่ อีเพื่อนสารเลวที่คอยเอาเรื่องกูไปบอกคนอื่น”

ปลายประโยคคนพูดตวัดสายตาไปมองใยไหมที่ถูกมัดติดไว้กับต้นไม้อย่างแค้นเคือง

“เค้ก เธอฟังนะ ไหมไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น พวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจ พวกเราขอโทษ ยกโทษให้พวกเราเถอะ” ผมพยายามพูดดี ๆ กับเค้กอีกครั้ง ขอให้หยุดเถอะนะเค้ก

“กูไม่ยกโทษให้ วันนี้จะเป็นวันตายของพวกมึงทุกคน แล้วกูจะได้กลับไปอยู่กับชา”

บ้า เธอเป็นบ้าไปแล้ว

“จัดการมันพ่อ เอาให้ทรมานเหมือนที่มันทำไว้กับหนู” เค้กหันไปพูดกับชายวัยกลางคนที่ยืนยิ้มเหี้ยมมองพวกเราอยู่ห่าง ๆ

“คุณจะทำอะไร” ผมถามออกไปเมื่อชายคนนั้นหยิบตะปูสามสี่ตัวออกมาจากกระเป๋าย่ามตัวเอง ก่อนบริกรรมคาถาอะไรบางอย่าง

“โอ๊ย ! โอ๊ย ! เจ็บ ไอ้คีย์ แขน แขนกู”

ผมหันไปตามเสียงร้องของอิฐที่กำลังกุมแขนตัวเองไว้แน่น ตะปูสามสี่ตัวค่อย ๆ โผล่ออกมาจากผิวหนังบริเวณแขนมันแล้วร่วงลงไปสู่พื้น เลือดไหลย้อยไปทั่วทั้งแขน

“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ ! คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้กับเพื่อนผม” ผมร้องตะโกนออกไป พลางช่วยพยุงไอ้อิฐที่ตอนนี้ล้มลงไปอยู่กับพื้น

“แล้วมึงจะทำอะไรได้ล่ะ”

“โอ๊ย ! อ๊ากก !” เสียงร้องของอิฐดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนมันจะรีบร้อนถอดเสื้อของตัวเองออกมา ผมแทบทนไม่ได้กับสิ่งที่เห็น บนกล้ามเนื้อหน้าท้องของอิฐมีตะปูอันหนึ่งถูกฝังอยู่ภายใต้ผิวหนัง ที่สำคัญมันกำลังเคลื่อนที่ไปมา ก่อนค่อย ๆ โผล่พ้นจากผิวหนังแล้วร่วงลงสู่พื้นดิน

มันมาก...มากเกินไปแล้ว

“มึงก็ต้องลิ้มรสความเจ็บปวดด้วยอีกคน ไม่ต้องกลัวหรอก”

พูดจบชายคนนั้นก็กำตะปูขึ้นมาอีกครั้งจากย่ามตัวเอง ก่อนพนมมือบริกรรมคาถาเพื่อจะทำสิ่งเดียวกันกับอิฐมาทำที่ผมด้วย แต่ผมไม่ยอมให้ทำหรอก ผมสะบัดมือบังคับให้ก้อนหินใหญ่แถวนั้นลอยขึ้นมาก่อนพุ่งไปยังมือของชายคนนั้น ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนตะปูกองนั้นจะร่วงลงสู่พื้น

“มึงก็เป็นพวกมีวิชางั้นเหรอ ดี สนุกดี กูไม่เคยประมือกับใครมานานแล้ว ไหนลองเล่นกับควายธนูกูหน่อยสิ”

พูดจบก็หยิบตุ๊กตาควายสีดำออกมาจากย่ามตัวเองก่อนโยนไปข้างหน้า

ผมแทบจะบ้าตายกับสิ่งที่เห็นตอนนี้ รูปปั้นตุ๊กตาควายตัวเล็ก ๆ กลายเป็นควายตัวใหญ่สีดำสนิท แววตาเป็นสีแดงดุจเลือดกำลังจ้องมาที่ผม พร้อมพุ่งตัวเข้าใส่ ไม่รอช้า ผมรีบผลักไอ้อิฐให้พ้นจากเส้นทางที่ควายตัวนั้นกำลังจะวิ่งมา ก่อนเรียกเคียวตัวเองขึ้นมา  ไม่มีทางเลือกแล้ว

แคว๊ก ...

ผมหลบทันไปเฉียดฉิว เขาควายบาดแขนเสื้อผมจนขาดวิ่น พร้อมเลือดที่ไหลออกมา ควายตัวนั้นหันกลับมาพร้อมวิ่งหาผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมจับจังหวะได้แล้ว เคียวของผมสะบัดไปยังลำคอของควายขณะมันพุ่งตัวเข้ามาหา ก่อนผมจะกระโดดหลบออกมา เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของสัตว์ตัวนั้นดังก้องไปทั่ว ก่อนควายตัวนั่นจะกลายเป็นฝุ่นผงไปในภายพริบตา

“ไอ้เด็กเวร มึงมันไม่ธรรมดา”

“จัดการมัน”

ผมที่วิ่งไปวิ่งมายังไม่ทันจะได้หยุดพักหายใจ ผมก็เห็นวิญญาณเด็กผู้หญิงสองคนพุ่งตัวเข้ามาหา นี่มัน ... เพื่อนของไหมสมัยตอนอยู่ ม. ต้น สองคนนี้ตายไปแล้วเหรอ ผมจำได้ล่าสุดว่าพวกเธออ้วกเป็นเลือดและหนอน หลังจากนั้นก็ถูกหามส่งโรงพยาบาล และลาออกจากโรงเรียนเพื่อนไปรักษาอาการป่วย ไม่คิดว่าทั้งคู่ ... จะตายแล้ว เค้กรอเวลาที่จะแก้แค้นพวกเรามาตลอดเลยซินะ

ดวงวิญญาณทั้งสองพุ่งตัวเข้ามาหาผมเหมือนถูกบังคับ เล็บมือยาวข่วนมาที่แขนผมจนเลือดซิบเป็นทางเมื่อดวงวิญญาณดวงหนึ่งเข้าถึงตัวผมได้ อีกตัวก็กระโดดขึ้นมาบีบคอผมจนล้มลงไปกับพื้น

ผมไม่อยากทำร้ายดวงวิญญาณที่เคยเป็นอดีตเพื่อนตัวเอง เพราะรู้ว่าทั้งคู่ต้องโดนบังคับแน่ ๆ สายตาเหลือบไปเห็นสร้อยคออะไรบางอย่างที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน ผมคิดว่ามันต้องเป็นของที่ทำให้ทั้งคู่ทำตามคำสั่งของเจ้าของสร้อยแน่ ๆ ผมเลยปล่อยมือจากเคียวตัวเองและกระชากสร้อยนั้นออกจากลำคอของดวงวิญญาณทั้งสอง ทันทีที่สร้อยคอหลุดออกจากลำคอของดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณทั้งสองก็พุ่งตัวไปยังร่างของคนที่กักขังตัวเธอทั้งสองคนไว้ เหมือนว่าชายคนนั้นไม่ได้ทันระวังตัวอะไร เลยโดนวิญญาณพุ่งเข้าใส่ทำร้ายไปเต็ม ๆ ชายวัยกลางคนล้มลงไปกับพื้น ก่อนกระอักเลือดออกมา ผมรีบร้องห้ามดวงวิญญาณทั้งสองว่าอย่าฆ่าเขา ไม่งั้นบาปกรรมจะติดตัวไปยังนรกมากกว่าเดิม

เค้กรีบพุ่งตัวไปหาไหมทันทีเมื่อเห็นว่าพ่อตัวเองพลาดท่าเข้าให้แล้ว เจ้าตัวจ่อใบมีดไปที่ลำคอของไหมจนเลือดซิบ ผมจะพลาดไม่ได้ ผมเดินเข้าไปใกล้เจ้าตัวขึ้นเรื่อย ๆ

“มันจบแล้วเค้ก หุ่นรูปรอยอยู่ไหน” ผมถามออกไป

“แก แก ไม่มีทางชนะพ่อฉัน ไม่”

เจ้าตัวชี้มีดสลับไปมาระหว่างผมกับใยไหม พูดเสียงสั่นมือสั่น จังหวะที่เค้กกำลังหันไปมองใยไหมอยู่นั้น ผมก็พุ่งตัวเข้าไปแย่งมีดกับเค้ก แน่นอนแรงผู้ชายย่อมมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว ผมแย่งมีดมาได้สำเร็จก่อนเขวี้ยงมันออกไปให้ไกล

เค้กล้มตัวลงกับพื้นก่อนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง สลับกับพูดอะไรไปมาอยู่คนเดียว

เค้กเสียสติไปแล้ว ...

“ไม่ ! มะ ไม่ ไม่ใช่ มันต้องไม่เป็นแบบนี้ ไม่เป็นแบบนี้ กูต้องแก้แค้นพวกมึง กูจะฆ่าพวกมึง ชาบูเป็นของกู มะ ไม่ ไม่จริง กูไม่ยอม ไม่ ไม่ !”

“คะ เค้ก ลูกพ่อเป็นอะไรลูก เค้ก เค้กใจเย็น ๆ”

ชายวัยกลางคนดูเหมือนจะฟื้นตัวแล้ว ค่อย ๆ ลุกมาหาลูกสาวก่อนกอดลูกตัวเองที่ตัวสั่นอยู่อย่างนั้น น้ำตาของคนเป็นพ่อก็ไหลออกมา

“ผมกับเพื่อน ๆ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะครับ อโหสิกรรม หยุดเรื่องทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้เถอะ พาเค้กไปรักษาเถอะครับ”

ผมก้มตัวลงยกมือไหว้พ่อของเค้ก ผมอยากให้ทุกอย่างจบสักที สิ่งที่พวกเราเคยทำมันผิดจริง ๆ แต่ในเมื่อเราแก้ไขอะไรในอดีตไม่ได้แล้ว ก็ต้องยอมรับมันไป

“เค้ก ไปกันเถอะลูก พะ พ่อผิดเอง ที่ทำให้ลูกเป็นแบบนี้ พ่อผิดเอง”

คนเป็นพ่อพยุงลูกสาวตัวเองขึ้นให้เดินออกไปจากสถานที่แห่งนี้

“ไม่ ! ไม่ ไม่ ไม่ไป ! กูไม่ไป กูจะฆ่าพวกมัน ! กูจะอยู่กับชาบู ไม่ ไม่เอา ไม่ไป ไม่ ไม่ !”

เค้กกรีดร้องดังลั่นพร้อมดิ้นตัวออกห่างจากพ่อตัวเอง ที่พยายามดึงตัวลูกสาวออกไป ผมรู้สึกสงสารเค้กจับใจ รู้ทั้งรู้ว่าเค้กเคยทำอะไรกับพวกเราไว้ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกเราเคยทำไว้กับเค้ก มันก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน คำพูดวันนั้นของพวกเราอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความรู้สึกของเค้กระเบิดออกมาเนื่องจากทนไม่ไหว เพราะก่อนหน้านั้น เค้กก็โดนเพื่อนในห้องแกล้งต่าง ๆ นานา มันจึงทำให้เค้กเจ็บแค้นพวกเรามากขนาดนี้

ร่างของเค้กและพ่อตัวเองเดินจากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่เข้ามาปกคลุม วิญญาณทั้งสองดวงเดินเข้ามาหาผม ก่อนพูดอะไรบางอย่างออกมา

“ขอบคุณมากนะคีย์ ที่ปลดปล่อยเราสองคนจากหมอผีนั่น เราสองคนถูกสะกดให้ทำงานชั่วช้ามาอยู่หลายปี” ผมพยักหน้ารับ

“ตามหาหุ่นรูปรอยอยู่ใช่ไหม พวกเรารู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ต้นไม้ใหญ่ที่มัดไหมไว้ มันอยู่ใต้นั้น เผาทำลายของอัปมงคลนั่นทิ้งซะ แล้วชาจะหายเป็นปกติ” ดวงวิญญาณดวงที่สองพูดขึ้น

“ขอบคุณมาก เธอสองคนพร้อมจะไปแล้วใช่ไหม” ผมถามดวงวิญญาณทั้งสอง จำได้ว่าสองคนนี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่สร้างปีศาจที่ชื่อว่า “ครีม” ขึ้นมา ไม่รู้ว่าพวกเธอต้องไปเจออะไรในนรกบ้าง

“เราสองคนรอเวลานี้มานานแล้ว”

“เราสองคนฝากขอโทษไหมด้วยที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้”

ผมพยักหน้าก่อนยื่นมือไปจับดวงวิญญาณทั้งสอง ก่อนที่ทั้งคู่จะหายเข้ามาในตัวผม ผมเห็นภาพและความรู้สึกก่อนตายของทั้งคู่ มันทั้งหดหู่และน่ากลัวมาก ทั้งคู่โดนเสกตะปูเข้าท้องจนหมอต้องผ่าตัดอยู่หลายรอบก่อนขาดใจตาย พอหลังตายดวงวิญญาณก็ถูกจับไปเป็นทาสของหมอผีคนนั้น ยมทูตไม่สามารถไปรับได้เพราะถือว่าเป็นเวรกรรมและยังไม่หมดอายุขัยที่แท้จริงของดวงวิญญาณทั้งสอง

หลังจากส่งวิญญาณทั้งสองไปเสร็จ ผมก็รีบวิ่งไปหาเพื่อนทั้งสอง เริ่มจากไหมที่ยังตกใจและอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ผมบอกเจ้าตัวว่าอย่าเพิ่งถามอะไรหลังจากแก้มัด และบอกให้ไปช่วยดูแลอิฐก่อน ผมจะขอจัดการเรื่องหุ่นรูปรอยแปบหนึ่ง

ผมใช้พลังยมทูตขุดดินบริเวณที่ไหมเหยียบอยู่ขึ้นมา ไม่นานก็เห็นของที่เรียกกว่าหุ่นรูปรอย ของอัปมงคลนั่นถูกห่อด้วยผ้าดำผ้าแดง ภายในคือตุ๊กตาชายหญิงที่กอดกันอยู่ ไม่รอช้า ผมสร้างไฟขึ้นมาบนมือก่อนทำให้มันพุ่งไปยังของสิ่งนั้น เปลวไฟลุกโชนขึ้นมาบริเวณนั้น หุ่นรูปรอยค่อย ๆ ละลายลงไปพร้อมกับภาพถ่ายของผู้หญิงและผู้ชายที่ถูกทำเสน่ห์ซึ่งกำลังไหม้ไปพร้อมกัน ผมรอจนของทุกอย่างกลายเป็นเพียงเศษดินและขี้เถ้าสีดำ ก่อนหันหลังกลับพาอิฐที่ยังพอมีสติไปส่งโรงพยาบาล และพาไหมไปส่งที่หอ

จบสักทีนะ ...

อโหสิกรรมให้กันด้วยนะเค้ก ... พวกเราขอโทษสำหรับทุกอย่าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด