บทที่ 19 : วิกฤตการณ์มังกรยักษ์
“ตามรูปแบบและขนาดแล้ว มันต้องเป็นเกล็ดมังกรแน่ๆ แต่ไม่ใช่ของมังกรยักษ์แต่เป็นเกล็ดมังกรจากร่างมนุษย์ ข้าไม่รู้ว่าเกล็ดมังกรเป็นของสาวกมังกรหรือผู้ติดตามมังกรกันแน่!” ดวงตาของลอทเนอร์เต็มไปด้วยความสงสัยและความระมัดระวัง
ไม่ว่าจะเป็นสาวกมังกรหรือผู้ติดตามมังกร มันก็เป็นสายเลือดของเผ่าพันธุ์มังกรและไม่สามารถไปยั่วยุได้
วิลเลียมเอื้อมมือไปจับเกล็ดมังกร
ข้อมูลของวัสดุปรากฎขึ้น
เกล็ดมังกร: เป็นเกล็ดที่ดรอปโดยสาวกมังกร
เกรด : ซิลเวอร์
วิลเลียมขมวดคิ้ว สาวกมังกรและผู้ติดตามมังกรเป็นกลุ่มคนที่มีสายเลือดมังกร และศักยภาพทางสายเลือดของพวกเขานั้นเท่าเทียมกับเอลฟ์ หรือเผลอๆ ก็สูงกว่าด้วยซ้ำไป
หรือก็คือ พวกเขามีระดับศักยภาพทางสายเลือดสูงกว่าระดับแกรนด์มาสเตอร์
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามีทักษะกลายร่าง หลังจากกลายร่างแล้ว ร่างกายของพวกเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ด ไม่เพียงแต่เพิ่มการป้องกันและการฟื้นฟูอย่างยอดเยี่ยม แต่ยังเพิ่มพลังการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่อีกด้วย พูดสั้นๆ ก็คือมันเป็นการพัฒนาค่าสถานะรอบด้าน
ความแตกต่างระหว่างสาวกมังกรกับผู้ติดตามมังกรคือ สาวกมังกรเป็น NPC ผู้ที่ได้รับเสียงกระซิบของมังกรหรือ ‘ดรากอนวิสเปอร์’ ซี่งทำให้พวกเขามีความสามารถส่วนหนึ่งของสายเลือดมังกรยักษ์ พวกเขาเป็นผู้รับใช้ของเผ่าพันธุ์มังกร
สำหรับผู้ติดตามมังกร พวกเขาอาบเลือดมังกรด้วยตนเอง แต่มันก็มีโอกาสที่จะเสียชีวิตครึ่งต่อครึ่ง
แต่ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม กลุ่มคนที่มีเลือดมังกรก็เป็นอะไรที่ไม่ควรจะประมาทหรือประเมินค่าต่ำไปได้เลย
แต่ว่ามีอยู่จุดๆหนึ่ง
จำนวนของสาวกมังกรนั้นมีอยู่น้อยมาก เพราะว่ามังกรธาตุ, มังกรโลหะ หรือมังกรเพชรนั้นแสนจะตระหนี่ ไม่ค่อยให้เลือดแก่ผู้รับใช้หรือผู้ร่วมสายเลือดเท่าใดนัก และไม่ค่อยร่ายดราดอนวิสเปอร์เพื่อเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นสาวกมังกร
นั่นนำไปสู่ความหายากของสาวกมังกร แต่ก็แน่นอนที่สุดว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าผู้ติดตามมังกร นอกเหนือจากความสามารถในการกลายร่างแล้วก็ยังมีดรากอนวิสเปอร์ที่ทรงพลังอีกด้วย
ส่วนผู้ติดตามมังกรน่ะเหรอ?
ตามปกติแล้ว พวกเขาพึ่งได้แต่การสังหารมังกรเท่านั้น!
มันเป็นเรื่องที่ยากมากในการผสมพันธ์ุระหว่างมนุษย์กับมังกร มันไม่มีทางเลือกอื่นเลยคุณจะต้องตายเพราะทวารหนักระเบิดแน่ๆ
ผู้ติดตามมังกรถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ ระดับที่พบมากที่สุดคือพวกที่อาบเลือดมังกรธรรมดาและพวกที่อาบเลือดจากหัวใจมังกร
“มันเป็นของที่สามารถพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ เพิ่มได้ หรือฉันเองก็ควรจะลองทำดูบ้างในอนาคต?” วิลเลียมจับคาง หลังจากผู้เล่นเข้าเล่นเกม จะมีเผ่าพันธุ์หลากหลายให้เลือก แต่ในช่วงกลางและท้ายเกม มันไม่ได้มีหนทางมากนักในการที่จะเปลี่ยนเผ่าพันธุ์
แต่มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในการเปลี่ยนเผ่าพันธุ์ของคนๆหนึ่ง
การเลือกเป็นสาวกมังกรก็หมายถึงการเลือกทรยศฝั่งมนุษย์ เพราะนอกจากว่าคุณจะยอมลดตัวเป็นผู้น้อยให้กับมังกรยักษ์ มันจึงจะร่ายดรากอนวิสเปอร์ใส่คุณให้กลายเป็นสาวกมังกร
ไม่อย่างนั้น ตัวเลือกเดียวที่มีอยู่ก็คือกลายเป็นข้ารับใช้คนหนึ่งเท่านั้น
คนๆนั้นจะต้องเปลี่ยนฝ่ายหลังจากเลือกที่จะเป็นสาวกมังกร หลังจากเปลี่ยนฝ่ายแล้ว ทั้งชื่อเสียงและไมตรีที่คนๆนั้นมีในฝ่ายเดิมจะถูกลบล้าง และอะไรที่คนๆนั้นเคยคบหาสมาคมด้วยก็จะน้อยลงไป
ทั้งภารกิจ, พล็อต, เส้นทางหลัก และอื่นๆ ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้ติดต่อหรือสร้างสัมพันธ์กับผู้เล่นกลุ่มใหญ่เลย
แต่ข้อดีก็เป็นสิ่งที่เห็นๆ กันอยู่
มันก็เทียบเท่ากับการได้เข้าไปยังภารกิจลับระยะยาวอันหนึ่ง ถ้าคนๆนั้นทำดี เขาก็สามารถกลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปคนหนึ่งได้เลย
แน่นอนว่า เหล่าคนที่ไม่ต้องการจะเปลี่ยนฝ่ายก็ยังสามารถเป็นผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของมังกรยักษ์ได้และกลายเป็นอัศวินมังกร แต่ชื่อเรียกสูงส่งที่ดูราวกับเป็นภารกิจระดับท็อปอันหนึ่งนั้นจะสามารถทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ได้ในระยะหลังของเกมเท่านั้น…
สิ่งที่ต้องมีสำหรับผู้ติดตามมังกรนั้นไม่ได้มากมายนัก ที่สุดแล้ว สาวกมังกรเองก็ชอบอาบเลือดมังกรและดื่มเลือดนั่นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง แต่ระยะเริ่มต้นและระยะกลางของเกม จะมีผู้เล่นสักกี่คนที่จะมีโอกาสได้อาบเลือดมังกร? ใครบอกว่าคนที่อาบเลือดมังกรจะสามารถกลายเป็นผู้ติดตามมังกรได้อย่างแน่นอน? ทุกอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับโชค!
แม้แต่มังกรเกิดใหม่ตัวหนึ่งก็ไม่ใช่อะไรที่ผู้เล่นจะสามารถต่อสู้ได้ในช่วงเริ่มต้น
เมื่อเหล่ามังกรน้อยน่ารักใช้การพ่มลมมังกรของพวกมัน มันจะสร้างผลกระทบต่อพื้นที่รอบๆ
ไม่สำคัญว่าผู้เล่นจะร้องตะโกนมากแค่ไหน ศพพวกนั้นก็จะกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและส่งกลิ่นราวกับเนื้อย่างที่หอมกรุ่นจนพวกออร์คในระแวกนั้นจะต้องคันไม่คันมืออยากจะได้ลิ้มลอง
สำหรับความเสียหายของผู้เล่น?
มันไม่มีการหยุดพักเพื่อป้องกัน!
แน่นอนอยู่แล้วว่าจะมีผู้เล่นบางคนที่มาพร้อมกับค่าความโชคดีและความโชคลาภวาสนาที่ไม่ธรรมดา ยกตัวอย่างเช่น การเจอเข้ากับมังกรยักษ์ที่กำลังจะตายหรือได้รับเลือดมังกรจาก NPC บางคน
“มันเคยถูกกล่าวไว้ว่าตลอดที่ผ่านมานั้นมีมังกรยักษ์ตัวหนึ่งอยู่บนภูเขาหิมะของทะเลทางตะวันออก เกล็ดมังกรอันนี้ต้องมาจากที่นั่นเป็นแน่!” ลอทเนอร์เลื่อนสายตาของเขาจ้องไปยังทางตะวันออก
ภูเขาหิมะของทะเลทางตะวันออกนั้นยังตั้งอยู่ในป่าแบล็คลีฟ ซึ่งใกล้กับฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลอีกด้วย
ภูเขาที่สูงที่สุดสูง 13,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและพื้นที่เหนือ 6,000 เมตรขึ้นไปนั้นย่ำแย่เกินกว่าจะมีพืชพันธุ์ใดๆ ขึ้นได้ ที่นั่นเต็มไปด้วยหิมะและหินประหลาดมากมาย มันยังมีภูเขาไฟที่ยังคงประทุอยู่อีกด้วย
แต่ลอทเนอร์ไม่รู้ว่าเป็นมังกรใดที่อยู่ด้านบนของภูเขานั่น
วิลเลียมหรี่ตาและส่ายหัวของเขาก่อนจะพูด “เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งไปกังวลกับเรื่องพวกนี้เลย ภูเขาหิมะของทะเลทางตะวันออกนั้นอยู่ตั้ง 300 กิโลเมตรห่างจากอาณาเขตของพวกเรา ไม่ว่าเกล็ดมังกรนี้จะมาจากไหน มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
แต่เมื่อเขาหันหลังกลับ เขากลับไม่อาจห้ามใจที่จะไม่รู้สึกรำคาญได้ เวอร์ชั่น 1.0 ของเกมนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับสองอาณาจักรที่ปกครองโดยดยุคที่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงอำนาจในการครองโลก นี่ยังเป็นภารกิจหลักที่ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมได้อีกด้วย
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในป่าแบล็คลีฟ หรือไม่ได้หมายความว่าไม่มีสงครามในประเทศอื่นๆ ในทวีปรีเจนดารีแห่งนี้
เขาจำได้ว่าหลังจากเข้าครอบครองอาณาเขตที่อยู่ริมนอก อาณาจักรเหล็กที่มีดยุคเป็นผู้ปกครองนั้นมีปัญหากับเผ่าพันธุ์มากมายที่อยู่ในป่าแบล็คลีฟหลายต่อหลายครั้ง
มันจะมีเผ่าพันธุ์มากมายปรากฏตัวขึ้นเมื่อมีสงคราม ไม่จำกัดว่าจะเป็นออร์ค, กูล, โทรลล์ และอื่นๆ
ถ้าอาณาจักรเหล็กไม่ได้ปราชัยอาณาจักรหินดำและชักนำกองทหารจำนวนมากเพื่อป้องกันเมืองชายแดน มันจะต้องถูกยึดครองโดยเผ่าพันธุ์อื่นอย่างสมบูรณ์เป็นแน่
เหตุผลที่คนพวกนี้เข้าครอบครองอาณาเขตของอาณาจักรหินดำครั้งแล้วครั้งเล่านั้นเป็นเพราะพวกเขามีกำลังคนที่ทรงพลังหนุนหลังพวกเขาอยู่
ในกลุ่มพวกเขา ดรากอนวิสเปอร์ปรากฏออกมาหลายครั้งและทำให้อาณาจักรเหล็กบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย ซึ่งทำให้อาณาจักรเหล็กยิ่งส่งผู้พิทักษ์ระดับอีปิคเพิ่มมาที่เมืองแห่งนี้
แต่ดูเหมือนว่าจะมีความเกลียดชังฝังแน่นอยู่ระหว่างทั้งสองอาณาจักร ไม่มีใครยอมที่จะถอยหลังกลับ พวกเขามีแต่สร้างสงครามครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้เล่นจำนวนหลายสิบหมื่นได้เข้าร่วมในสงครามเหล่านี้เป็นเวลายาวนานด้วยรางวัลที่ล่อตาล่อใจ
ผู้เล่นบางคนเพิ่งจะได้เข้าใจมันเมื่อพวกเขาถลำลึกลงไปในภารกิจแล้ว
มันกลับกลายเป็นว่ามังกรยังในภูเขาหิมะของทะเลทางตะวันออกถูกโจมตีโดยอาณาจักรเหล็ก สงครามครั้งนั้นทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องบาดเจ็บ และถึงแม้ว่ามังกรยักษ์ตัวนั้นจะพักฟื้นถึงหกเดือน มันก็ยังไม่อาจฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ แต่มันก็มีสติมากพอที่จะสั่งการเผ่าทั้งหลายและข้ารับใช้ให้ดำเนินสงคราม
“เมื่อเป็นแบบนี้ ฉันกำลังอยู่ในอันตรายร้ายแรงรึเปล่า?” วิลเลียมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา เมืองของเขานั้นอยู่ติดขอบเขตแดนของทั้งสองและเป็นสถานที่ๆ นักยุทธศาสตร์ต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงมัน ใครก็ตามที่ครอบครองสถานที่แห่งนี้ได้ก่อนก็จะทำให้ได้เปรียบอย่างมาก
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ต่อให้ถ้าวิลเลียมสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของอาณาจักรเหล็กได้ เขาก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเมืองนี้ไว้ได้
เพราะถ้ามังกรยักษ์จากภูเขาหิมะของทะเลทางตะวันออกตัวนั้นต้องการจะโจมตีอาณาจักรเหล็ก มันก็ต้องยึดครองเมืองนี้เป็นอับดับแรก เมื่อที่แห่งนี้ถือครองมูลค่ามากที่สุด
อาณาจักรเหล็กเองก็คงรู้ว่ามังกรยักษ์ตัวนั้นต้องตอบโต้กลับมา ดังนั้นมันจึงใช้ประโยชน์จากแหล่งของเหมืองมิทริลเพื่อทำลายล้างวิลเลียมคนก่อน…
“ดังนั้นตั้งแต่นี้ไป มันยังมีเวลาอีกปีครึ่งในการพัฒนา เมื่อเราแข็งแกร่งและทรงพลังเท่านั้นที่เราจะสามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงในเมืองได้ ไม่อย่างนั้นไม่ว่าคนที่เข้ามาโจมตีจะเป็นใคร ฉันก็จะต้องละทิ้งอาณาเขตแห่งนี้ถ้าฉันยังต้องการมีชีวิตรอดอยู่ดี!” วิลเลียมกำหมัดของเขาแน่น เขาไม่อยากจะวิ่งหนีไปเมื่อทุกอย่างมันเริ่มขึ้น
พ่อของเขาผู้เป็นรีเจนดารีทิ้งอาณาเขตที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมไว้ให้เขา และเขาจะไม่มีทางยอมละทิ้งที่แห่งนี้ไปง่ายๆ
“แต่ถ้าอาณาจักรเหล็กต้องการโจมตีมังกรยักษ์ตัวนั้นอยู่แล้ว ทำไมฉันถึงไม่ใช้ประโยชน์จากมันล่ะ? ฉันเคยไม่รู้มาก่อนเมื่อตอนเริ่มต้น แต่ตอนนี้ในเมื่อฉันเข้าใจมันแล้ว ฉันควรวางแผนอะไรสักอย่าง”
“ถ้าอาณาจักรเหล็กยังคงไร้ยางอายเหมือนเดิมและเดินหน้าที่จะข้ามหัวฉันเพื่อไปฆ่ามังกรตัวนั้น เขาคงจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับฉัน ราชาป่าเถื่อนคนนี้อย่างจริงจังสินะ!” วิลเลียมหรี่ตาของเขาลง มองไปที่เหล่าทหารที่กำลังเก็บสัมภาระและอุปกรณ์ ก่อนจะโบกมือขึ้น
“เอาตัวพวกออร์ค 300 ตนนี้ไปทำงานในเหมืองเหล็ก ที่เหลือกลับพร้อมกับเรา!”
“ครับ ท่านลอร์ด!” เสียงดังสนั่นและทรงพลังดังก้องไปตลอดทั้งคืน เหล่าเอลฟ์นักรบที่เหลืออยู่ติดตามลอร์ดผู้กล้าหาญและเจ้าแผนการคนนี้กลับไปที่อาณาเขต และตลอดทางวิลเลียมเพิ่มพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งรุ่งอรุณของเขาไปถึงเลเวล 5
สกิลที่เหลือสามอันถูกเพิ่มขึ้นถึงเลเวล 3
และจากนั้นเขาจึงใช้ค่าประสบการณ์ที่เหลือสำหรับตัวเอง
ในตอนนี้ วิลเลียมอยู่ที่เลเวล 14
เขาได้รับค่าคุณสมบัติ 24 แต้มซึ่งเขานำไปเพิ่มค่าความว่องไวและค่าความแข็งแกร่งตามลำดับ
มันยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าสังเกตในค่าพลังชีวิตอีกด้วย
…
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งรุ่งอรุณ
ระดับ: รีเจนดารี
เลเวล: Lv 5 (ค่าประสบการณ์ 0/1600)
แต้มพลังการต่อสู้: 550/550 แต้ม
ความเร็วในการฟื้นฟู: 15 แต้มต่อวินาที
เอฟเฟคพิเศษและสกิลที่ถูกเปิดใช้งานแล้วมีดังนี้:
เอฟเฟคพิเศษ: สกิลของพลังการต่อสู้ใดๆ จะเพิ่มขึ้น 5%
เอฟเฟคพิเศษ: พลัง +8, ความแข็งแกร่งทางกายภาพ +8, ความว่องไว +8, ค่าสติปัญญา +5
เอฟเฟคพิเศษ: พลังชีวิต +450
เอฟเฟคพิเศษ: ความแข็งแกร่ง +200
เกราะพลังการต่อสู้: พื้นผิวของร่างกายสามารถสร้างเกราะพลังการต่อสู้ที่เท่ากับพลังการต่อสู้ได้ มันจะใช้ค่าพลังการต่อสู้ 40 แต้มต่อวินาทีและการป้องกันพื้นฐานคือ 150 หน่วย หากพลังโจมตีเกินขีดจำกัดสูงสุดของการป้องกัน มันก็สามารถกลืนกินพลังงานการต่อสู้และทำลายเกราะได้
หลังจากที่เกราะสลายตัวไปแล้ว มันจะสามารถเริ่มการใช้งานอีกครั้งได้ใน 5 วินาที
แสงแห่งรุ่งอรุณ: บนสกิลการต่อสู้บางสกิล มันสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ 50% และเพิ่มพลังการโจมตีถึง 210% แต่การคูลดาวน์จะต้องใช้ถึง 26 นาที
(ทุก 5 เลเวล เพิ่มเลเวลคุณสมบัติ, เอฟเฟคพิเศษ, สกิล และอื่นๆ)
(คุณสมบัติที่มาพร้อมพลังการต่อสู้จะมีการเพิ่มเอฟเฟคของเลือด)
……
พรแห่งเทพเอลฟ์ (แฝง)
เลเวล: Lv 3
คุณสมบัติสกิล: พลังความเสียหายของการโจมตีระยะไกลเพิ่มขึ้น 15%
ค่าพลังที่ใช้ : ไม่มี
คูลดาวน์: ไม่มี
เอฟเฟคพิเศษ Lv 3: เพิ่มความเสียหายจริง 3%
…
เฟเทล ช็อต
เลเวล: Lv 3
คุณสมบัติสกิล: ใช้แต้มพลังการต่อสู้ 130 แต้ม และจะสามารถยิงลูกธนูได้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ถ้าลูกธนูโดนศัตรูทั้งสามดอก ธนูดอกแรกจะสร้างความเสียหาย 140%, ดอกที่สองจะสร้างความเสียหาย 160%, และดอกที่สาม 180%
มีโอกาสทำให้อยู่ในสภาวะเลือดออก
เอฟเฟคพิเศษเลเวล 3: เมื่อลูกธนูทั้งสามดอกยิงโดนที่ศีรษะ ลูกธนูดอกที่สามาจะสร้างความเสียหายร้ายแรง 150% ต่อศัตรู (เอฟเฟคพิเศษคูลดาวน์: 30 วินาที)
คูลดาวน์: 7 วินาที
…
แบทเทิล คัต
เลเวล: Lv 3
คุณสมบัติสกิล: ใช้พลังการต่อสู้ 50 แต้ม สามารถแกว่งพลังลำแสงแห่งดาบและถ้ามันโดนศัตรู มันจะสร้างความเสียหาย 160%
มีโอกาสทำให้อยู่ในสภาวะเลือดออก
เอฟเฟคพิเศษ Lv 3: ดาบสามารถต้านทานและตัดได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
คูลดาวน์: 3 วินาที
“ความได้เปรียบอย่างขี้โกงของพลังการต่อสู้ระดับรีเจนดารีก็คือ ตราบใดที่คุณเพิ่มเลเวลสกิลไปถึงเลเวล 3 แล้ว คุณก็สามารถใช้เอฟเฟคพิเศษล่วงหน้าได้!” วิลเลียมยิ้มกว้าง เขาต้องพูดเลยว่า เขามั่นใจมากขึ้นเยอะเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดของเขาในอนาคต