บทที่ 18: มุทะลุ
จับผู้นำก่อนจะจับลูกน้อง
ในสนามรบ หากแม่ทัพถูกฆ่าตายเป็นคนแรก ขวัญกำลังของศัตรูมักจะตกลงไปยังจุดต่ำสุด และพวกเขาอาจคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิตเสียด้วยซ้ำไป แผนการแบบนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลกับออร์คทุกครั้ง
ถามว่าบอสระดับรีเจนดารีเลเวล 10 จะฆ่าบอสออร์คเลเวล 35 ได้อย่างไร
เดี๋ยวเขาจะโชว์ให้ดู
วิลเลียมกระโดดลงมาจากต้นไม้อีกครั้ง ท่าทางการง้างสายธนูกลางอากาศของเขาช่างสง่างาม แขนของเขาเต็มไปด้วยพลังการต่อสู้ที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้าขณะที่ทักษะเฟเทลช็อตระเบิดออกมา
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ศรธนูสามดอกที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังอันเฉียบคมพุ่งผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนเหมือนกับฝนดาวตกอันพร่างพราว
ทันใดนั้น ลูกธนูก็พุ่งเข้าใส่ศีรษะของหัวหน้าเผ่าออร์ค!
ด้วยศรธนูที่ส่องสว่าง ไม่ว่าเนื้อหนังของหัวหน้าออร์คจะเหนียวขนาดไหน ขณะที่ถูกลูกธนูเจาะที่ศีรษะ มันก็เงยหน้าขึ้นและเดินถอยหลังไปหลายก้าว แม้ว่าการป้องกันของมันจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังแตกพ่ายเมื่อถูกลูกธนูสามดอกยิงในจุดเดียวกัน
หัวหน้าออร์คที่กำลังถือขวาน คุกเข่าลงข้างหนึ่งครวญครางบนพื้นขณะกุมตาข้างขวา
ตราบใดที่เฟเทลช็อตของวิลเลียมโจมตีถูกเป้าหมายทั้งหมด มันจะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ความเสียหายของลูกธนูดอกสุดท้ายเพิ่มสูงถึง 160% บวกกับความเสียหายที่เพิ่มขึ้นสองเท่าที่ศีรษะทำให้หัวหน้าออร์คสูญเสียพลังชีวิตไปมากมาย
“แม่งเอ้ย ไอ้เด็กเวร ฉันจะฆ่าแก!” หัวหน้าออร์คดึงลูกธนูจากดวงตาออกอย่างโหดเหี้ยม แผดเสียงคำราม และมุ่งตรงมาพร้อมกับคนของมัน
วิลเลียมที่สายเกินกว่าจะปีนขึ้นต้นไม้ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
และง้างสายธนู!
ในขณะที่ ‘แสงแห่งรุ่งอรุณ’ เปิดทำงาน
เมื่อเพิ่มพลังโจมตี 50% ไปยังเฟเทลช็อต มันสามารถสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นได้ถึง 200%!
ณ ขณะนี้ ออร์คเกือบทั้งหมดที่กำลังมุ่งตรงมารู้สึกเย็นยะเยือก
นักธนูเอลฟ์ผู้ที่พุ่งเป้ายิงแต่ศีรษะและไม่เคยพลาดซักครั้งทำให้พวกมันหวาดกลัวเหลือเกิน
แต่พวกมันอยู่ใกล้กับเขามากและออร์คบางตนอดไม่ได้ที่จะเพ้อมโนถึงการฆ่าวิลเลียม หลังนั้นมันก็เป็นไปได้ว่าพวกมันจะได้สัมผัสถึงจุดไคลแม็กซ์ของความตื่นเต้นที่แสนสุดยอด!
หญิงสาวออร์คหลายตนคงจะวิ่งเข้ามาสู่อ้อมแขนหลังจบสงครามและพวกมันก็จะได้เพลิดเพลินไปกับการปรนิบัติเหมือนกับวีรบุรุษ
และส่วนผู้นำออร์คที่ดวงตาเป็นสีแดงฉานนั้นตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งโดยสมบูรณ์อย่างกับเบอเซอร์เกอร์ มันถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงและไม่มีความคิดที่จะหลบหลีก
แต่มันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์สิ่งหนึ่ง
มันได้เปิดการใช้งานสถานะเบอเซอร์เกอร์
แต่มีเพียงคำๆเดียวในใจของมันตอนนี้!
นั่นคือ
F*ck!
ในช่วงเวลาสั้นๆที่เหล่าออร์คเคลื่อนไหวไปมา ลำแสงจากมือของวิลเลียมอีกสามลำก็ยิงผ่านฟากฟ้าในยามค่ำคืนและเสียงที่ดังกึกก้องในอากาศ ก็ถูกโจมตีไปยังเป้าหมาย
ปัง ปัง ปัง!
เลือดสาดกระจาย!
หัวหน้าออร์คที่กำลังถือขวานอยู่ไม่ได้ป้องกันใดๆจากลูกศร
ลูกธนูทั้งสามเกือบพุ่งเข้าใส่หัวของมันในเวลาเดียวกัน!
เมื่อลูกธนูดอกสุดท้ายเจาะเข้าไปในศีรษะของหัวหน้าออร์ค หลายคนได้ยินเสียงร้าว
ตู้ม…
สมองสีสดใสระเบิดออกมาจากศีรษะของหัวหน้าออร์คที่ยังคงถือขวานทั้งสองด้ามและล้มลงกับพื้นอย่างแรง
ออร์คอย่างมันน่ะ เป็นผู้ที่ไร้การป้องกันและรู้จักแต่การอาละวาดจนลมหายสุดท้าย
บอสออร์คเลเวล 35 น่ะแข็งแกร่งมาก
แต่มันเป็นเพียงสหายที่มีสายเลือดระดับสูงเท่านั้น
เทียบศักยภาพทางสายเลือดกับวิลเลียมไม่ได้หรอกนะ
แน่นอนว่ามันยังคงร้ายการสำหรับผู้เล่นเมื่อคนประเภทนี้เริ่มบ้าคลั่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับบอสระดับรีเจนดารีเลเวล 10 ผู้ที่มีปัญหาทางด้านอาวุธ พวกเขาก็จับคู่กันได้อย่างสูสีเลยทีเดียว
เพราะว่าวิลเลียมเปลี่ยนไปหลังจากเปลี่ยนอาชีพ
โดยเฉพาะในเรื่องของค่าสถานะ การมีเกราะชั้นในระดับอีปิคและพลังโจมตีระดับรีเจนดารี เขาเพียงอ่อนแอกว่าหัวหน้าออร์คในด้านค่าสถานะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เขาบดขยี้มันด้วยทักษะของเขาได้
แม้กระทั่งส่วนของสติปัญญา วิลเลียมก็เหนือกว่าเหล่าออร์คเช่นกัน
การตายของผู้นำออร์คทำให้เหล่าออร์คที่กำลังพุ่งเข้ามาหยุดกันเป็นขบวนรถไฟ!
แม้กระทั่งเบอเซอร์เกอร์บางตนก็ไม่สามารถกลืนน้ำลายลงได้ คำว่า ‘มุทะลุ’ วิ่งผ่านชีวิตของพวกมัน แต่ผู้นำของพวกมันก็ตายเพียงเพราะมุทะลุ สติปัญญาของพวกมันควบคุมการแสดงออกในบางด้านและนั่นก็คือการหยุดพุ่งเข้าไป…
ท้ายที่สุดแล้ว พลังของลูกธนูเหล่านั้นที่ระเบิดหัวหน้าของพวกมันก็ทำให้ตกใจจริงๆ
วิลเลียมยืนเดียวดายตรงหน้านักรบออร์คกว่า 200 ตน มีรัศมีของผู้ที่สามารถต่อสู้กับไพร่พลนับพัน
เหตุผลที่เขาฆ่าหัวหน้าออร์คคือมันจะทำให้เกิดบัฟความเกรงกลัวของนักรบออร์คธรรมดาทั่วไป
ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาคนเดียวจะฆ่าออร์คทั้งหมดได้อย่างไร?
“แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น!” วิลเลียมเลิกคิ้ว นักรบออร์คกลุ่มนี้ไม่ได้หนีไปและดูเหมือนจะลังเลอยู่ เขาจึงปัดมือเบาๆ
ทันใดนั้นก็มีเสียงเอะอะจากทหารเอลฟ์สองร้อยตนในชุดเกราะชั้นสูงปรากฎขึ้นรอบๆ เมื่อนักธนูเล็งศรไปยังเหล่าออร์ค พวกมันก็โยนอาวุธทิ้งและคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อยอมจำนนในที่สุด
เมื่อมองดูพวกมันที่สั่นสะท้านด้วยความกลัวคล้ายกับกลุ่มเด็กสาวที่ถูกล้อมไปด้วยชายหนุ่มล่ำสัน พวกมันมองมายังวิลเลียมด้วยความคาดหวังและความสิ้นหวังเล็กน้อย ราวกับกำลังกังวลเกี่ยวกับอนาคตของพวกมัน
[ภารกิจวิกฤตการณ์ใกล้อาณาเขต : ภารกิจขั้นที่สองเสร็จสิ้นแล้ว คุณเอาชนะผู้บุกรุกได้สำเร็จด้วยตัวคุณเอง แม้ว่าคุณต้องการเก็บเหล่าชายฉกรรจ์ไว้ใช้งาน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคุณ]
[รางวัล : ค่าประสบการณ์ 45000 หน่วย]
[รางวัล : เกราะขนาดใหญ่จำนวนมาก]
ปากของวิลเลียมกระตุกขณะที่เห็นรางวัลที่สอง เขาคิดว่ารางวัลอันที่สองที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเป็นบางสิ่งที่ดี แต่มันก็เป็นแค่เกราะบางส่วนเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นของขวัญที่ไร้ประโยชน์!
ตราบใดที่เขาฆ่าออร์คเหล่านั้น เขาก็สามารถได้เกราะมาอย่างง่ายดาย
น่าเสียดายที่เกราะของพวกออร์คน่าเกลียดเกินไปและใส่ได้ไม่พอดีตัว มันจึงจำเป็นต้องเอาไปหลอมแล้วสร้างขึ้นใหม่
เมื่อเหล่าออร์ควางอาวุธและยอมจำนน เอลฟ์ตนอื่นๆก็ดูเหมือนจะเข้าใจและให้พวกมันถอดชุดเกราะออก พวกมันยืนเปลือยกายขณะที่ปิดร่างกายส่วนล่างเอาไว้ ก่อนวิลเลียมจะสั่งให้ฆ่าพวกมัน
ไม่เพียงแต่พวกมันจะทำงานหนัก แต่ออร์คยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขุด
นอกเหนือจากถูกเฆี่ยนโดยแส้อันแล็กๆแล้ว พวกมันยิ่งขุดมากเท่าไหร่ความสุขก็จะยิ่งระเบิดออกมาเท่านั้น!
ไม่ว่าเอลฟ์หรือมนุษย์ ตราบใดที่สามารถควบคุมออร์คได้ พวกเขามักเลือกให้พวกมันไปขุดเหมือง
“ท่านลอร์คครับ!” นอช ผู้วางแผนเข้าไปในถ้ำเพื่อหาอาวุธที่จะยึดจากศึกสงครามวิ่งมาอย่างตื่นเต้น
วิลเลียมที่กำลังคิดหาวิธีเพิ่มเลเวลอยู่ มองมาและเบิกตาขึ้น “ชุดเกราะหรอ?”
“ใช่แล้ว เราพบชุดเกราะและอาวุธของพวกมนุษย์ในถ้ำครับ ทั้งหมดมีคุณภาพยอดเยี่ยมและมีจำนวนมากกว่า 300 ชุด!” นอชยิ้ม ในมือถือชุดเกราะและอาวุธที่นองด้วยเลือด
วิลเลียมพึมพัมกับตนเองว่าภารกิจไม่ได้หลอกลวงเขาแล้วหยิบชุดเกราะขึ้นมา ชั่งน้ำหนักในมือและเลิกคิ้วขึ้น “นำมันกลับไปให้หมดและลบสัญลักษณ์บนเกราะกับอาวุธทิ้งซะ เมื่อทหารถูกเรียกใช้ พวกเขาจะไม่ขาดอุปกรณ์อีกต่อไป!”
“รับทราบครับ!” นอชพยักหน้าและสั่งให้เหล่าทหารนำสิ่งของที่ดีออกจากถ้ำออร์ค
“ชุดเกราะกับอาวุธของทหารจากดยุคในอาณาจักรเหล็กตกมาอยู่ในมือของพวกออร์คได้ยังไงกัน?” ลอทเนอร์สงสัยเมื่อมองไปยังสิ่งเหล่านั้น
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ทั้งหมดนั่นเป็นของพวกเราแล้ว!” วิลเลียมกล่าวอย่างไม่สนใจ สงครามระหว่างออร์คและมนุษย์ไม่เคยหยุดนิ่ง หลังจากออร์คยึดของจากทหารของพวกมนุษย์ พวกมันมักหาวาณิชย์เพื่อขายมัน
หากไม่เกิดอะไรขึ้น ชุดเกราะพวกนี้จะถูกขายให้กับพ่อค้าที่รักการผจญภัย
ออร์คยังสามารถแลกเปลี่ยนอาหารบางอย่างเช่น เกลือ เสื้อผ้า ของหายาก และอื่นๆได้ ขนาดเกราะของทหารจากอาณาจักรเหล็กจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
แต่เมื่อมีบางคนนำชิ้นส่วนของเกล็ดสีเข้มอันหนึ่งออกมา
พวกเขาสองคนก็เบิกตากว้างและพูดอย่างสงสัยในเวลาเดียวกัน “เกล็ดมังกรเหรอ?”