ตอนที่แล้วบทที่ 14: การเปลี่ยนอาชีพ ความเชี่ยวชาญที่ซ่อนเร้น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16: อย่าเอะอะกันไป

บทที่ 15 : วิกฤตการณ์กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง


ทักษะของผู้รักษาการณ์แห่งรุ่งอรุณ นอกจากจะสามารถฝึกฝนได้ทั้งดาบและธนูให้เต็มไปด้วยความเชี่ยวชาญและความตื่นตาตื่นใจแล้ว พลังโจมตียังทรงพลังอีกด้วย

การเพิ่มระดับของพลังโจมตีต้องใช้ค่าประสบการณ์

การเพิ่มระดับของทักษะก็ต้องใช้ค่าประสบการณ์เหมือนกัน

โดยเฉพาะพลังโจมตีที่แสนโกงของระดับรีเจนดารีที่ต้องการค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาล มันต้องการพอๆกับค่าประสบการณ์ที่ใช้เลื่อนเลเวลเลยทีเดียว

วิลเลียมเพิ่งจะเปลี่ยนอาชีพและมีค่าประสบการณ์เหลืออยู่น้อยนิด แม้ว่าเขาจะได้รับค่าประสบการณ์จากการกินเนื้อหมี แต่ตอนนี้เขาก็กินได้ไม่มากนัก ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เบื่อกับการกินเนื้อที่มากเกินไป และอาจจะติดคอตายได้ง่าย

นอกจากนั้น ในฐานะลอร์ด เขาควรใช้ชีวิตให้มีความสุข จะเอาเขาไปเปรียบเทียบกับผู้เล่นได้ยังไง!

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำภารกิจให้สำเร็จ สำหรับเขาการเพิ่มเลเวลโดยการกินนั้นโหดร้ายเกินไปหน่อย

แต่ว่า…

สิ่งเดียวที่กินโดยไม่เบื่อเลยคือเนื้อมังกร…

โชคดีที่เขามีประสบการณ์ในการเลื่อนระดับทักษะมาก่อน ดังนั้นเขาจึงเลื่อนระดับทักษะ 3 ทักษะ ให้เป็นเลเวล 2

เขาต้องรู้วิธีกระจายค่าประสบการณ์ให้เท่าเทียม

เขาไม่มีพลังโจมตีมากนัก ถ้าเขาเพิ่มระดับทักษะหนึ่งอย่างเต็มที่ เขาอาจจะไม่สามารถใช้ทักษะอื่นได้เลย จากนั้นมันจะน่าอายมากหากต้องเผชิญหน้ากับศัตรู

พรแห่งเทพเอลฟ์ (แฝง)

เลเวล : Lv 2

คุณสมบัติ : ความเสียหายจากการโจมตีระยะไกลเพิ่มขึ้น 12%

ค่าพลังที่ใช้ : ไม่มี

ระยะคูลดาวน์ : ไม่มี

…………………………………..

เฟเทลช็อต

เลเวล : Lv 2

คุณสมบัติ : ใช้พลังโจมตี 130 หน่วย  สามารถยิงธนูสามดอกติดต่อกันได้ ถ้าลูกธนูทุกดอกสามารถโจมตีศัตรูได้ ธนูดอกแรกจะสามารถทำความเสียหายได้ x130% ธนูดอกที่สองจะทำความเสียหายได้ x150% และธนูดอกที่สาม x170%

มีโอกาสทำให้เกิดสภาวะเลือดออก

คูลดาวน์ : 9 วินาที

……………………………………..

แบทเทิลคัต

เลเวล : Lv 2

คุณสมบัติ : ใช้พลังโจมตี 40 หน่วย สามารถปลดปล่อยพลังลำแสงของดาบ ถ้าโจมตีถูกศัตรู จะสามารถทำความเสียหายได้ x150% มีโอกาสทำให้เกิดสภาวะเลือดออก

คูลดาวน์ : 3 วินาที

โดยสรุปแล้วมันแข็งแกร่งมาก ในอนาคตจะมีทักษะที่เป็นเอกลักษณ์มากขึ้นโดยเฉพาะเฟเทลช็อต ที่ถึงแม้ว่ามันจะมีข้อกำหนดบางอย่าง แต่ก็ไม่สามารถหยุดวิลเลียมให้ยิงอย่างแม่นยำได้…

สำหรับค่าสถานะที่ยังไม่ได้ใช้อีก 40 แต้ม

เขาใช้ 20 แต้มไปเพิ่มค่าพลังโจมตีและความว่องไว!

คุณสมบัติพิเศษของผู้รักษาการณ์แห่งรุ่งอรุณส่วนใหญ่มักจะเพิ่มพลังโจมตีและความว่องไว ในช่วงเริ่มแรกจะเป็นความสามารถของนักธนูเสียส่วนมาก แต่ในช่วงกลางและช่วงท้ายจะเป็นทักษะการต่อสู้ระยะประชิด ส่วนสติปัญญาและความแข็งแรงทางกายภาพน่ะเหรอ?

“ฮ่าฮ่า ความแข็งแกร่งเป็นความสามารถติดตัวที่สำคัญสำหรับบอสระดับรีเจนดารี แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่อาชีพของฉันจะแข็งแกร่งมากนัก แต่มันก็ยังแข็งแกร่งกว่าNPCทั่วไป ส่วนสติปัญญา? การฝึกฝนทั้งเวทมนตร์และศิลปะการต่อสู้เป็นของเผ่าพันธุ์อื่น พวกมันสมควรถูกฆ่า!” ทันใดนั้นวิลเลียมก็ลืมที่จะเปลี่ยนอาชีพเป็นผู้วิเศษและนักปราชญ์ด้านศิลปะการต่อสู้ทางดาบ แต่เมื่อลองมองดูค่าสถานะของตนเองแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสำราญใจ

ลอทเนอร์ตบไหล่ของเขา “ดูเหมือนว่าท่านจะเป็นที่เอลฟ์เติบโตเต็มที่แล้ว และยังได้รับการสืบทอดอาชีพอีกด้วย แต่มันยังไม่พอหรอก ถ้าหากท่านแข็งแกร่งแต่ไม่สามารถทุบตีผู้คนได้ ท่านก็ต้องฝึกฝนมากกว่านี้!”

“เข้าใจแล้ว” วิลเลียมพยักหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือNPC ถึงจะมีทักษะที่มากขึ้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งขึ้น นี่ยังไม่พูดถึงปัญหาที่มีค่าประสบการณ์ไม่มากพอ

กุญแจสำคัญคือการพึ่งพาความแข็งแกร่งของตนเองและผสมผสานปัจจัยทั้งหมดทั้งเทคนิค, ทักษะ, ตำแหน่ง, และสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างความเสียหายที่มั่นคงหรือกระทั่งการโจมตีศัตรูโดยไม่ให้ตั้งหลักตอบโต้กลับได้ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

เกมนี้ไม่มีการล็อคทักษะ!

ไม่ว่าจะเป็นทักษะใดก็ตาม มันจะขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าหมายและใช้ปัญญาในการโจมตีอีกฝ่าย ดังนั้น ทักษะจึงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด หลักฐานคือถ้าคุณสามารถโจมตีจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้ แม้กระทั่งทักษะธรรมดาทั่วไปก็สามารถทำความเสียหายได้อย่างยอดเยี่ยม

“ท่านลอร์ดขอรับ!” หน่วยลาดตระเวนเอลฟ์วิ่งมาอย่างเร่งรีบ

“ว่ามา!” วิลเลียมเลิกคิ้ว หากเกิดสงครามหรือวิกฤตในอาณาเขต ไม่มีใครจำเป็นต้องเคาะประตู

หน่วยลาดตระเวนสูดลมหายใจแล้วกล่าวว่า “หลังจากการสำรวจของทีมสอดแนมพบชนเผ่าออร์คทางตะวันออกเฉียงใต้ห่างจากชายเมือง 30 ไมล์ ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ ที่ตั้งเป็นความลับแต่เราก็ยังค้นพบ พวกมันเตรียมอาวุธและอุปกรณ์มากมาย ดูเหมือนว่าตั้งใจจะก่อสงครามครับ...”

“พวกมันมีกี่คน?” ลอทเนอร์ถาม

“ปัจจุบันมี 500 คนครับ แต่เราได้สังเกตุอย่างรอบคอบมาระยะหนึ่งแล้ว 500 คนนี้เป็นนักรบออร์ค แต่ยังมีออร์คเบอเซอเกอร์อีกจำนวนมาก”

“พวกมันเตรียมการมาอย่างดี ดูเหมือนว่ามันจะมาแก้แค้นให้กับออร์คกลุ่มอื่น? หรือไม่ก็มีหนึ่งในนั้นหนีไปได้ตอนเรากำจัดชนเผ่านั่นและไปบอกพวกมันเกี่ยวกับเหมืองแร่เหล็ก?” วิลเลียมแตะคางแล้วโบกมือ “อัญเชิญผู้วิเศษห้าคนและนักรบ 200 คนให้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง แจ้งนักรบที่กำลังเฝ้าระวังให้ระมัดระวัง หากพวกออร์คโจมตีเหมือง  ให้พวกเขาหลบหนีได้ทันทีโดยไม่ต้องต่อสู้”

“รับทราบครับท่านลอร์ด!”

“มีชนเผ่าออร์คจำนวนมากทางตะวันออกของป่าแบล็คลีฟ หากพวกมันพากันมาเป็นวรรคเป็นเวรล่ะก็ มีปัญหาแน่” วิลเลียมรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เป็นไปได้รึเปล่าว่ามังกรยักษ์ทางภูเขาตะวันออกจะเริ่มอารมณ์แปรแรวนอีกครั้ง และนั่นนำไปสู่การอพยพของเผ่าออร์ค

ป่าแบล็คลีฟครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง

มันกว้างหลายหมื่นกิโลเมตรจากตะวันออกไปยังตะวันตก เผ่าพันธุ์หลายเผ่าพันธุ์ยกเว้นมนุษย์มีอาณานิคมในป่าแบล็คลีฟ

ในบรรดาเผ่าพันธุ์เหล่านั้น พื้นที่ตรงกลางและฝั่งตะวันตกของป่าถูกปกครองโดยเอลฟ์ตระกูลแบล็คลีฟ ครอบคลุมมากกว่าพื้นที่ครึ่งหนึ่งของป่า ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ดีที่สุดของป่าแบล็คลีฟ เต็มไปด้วยเหมืองแร่ สัตว์และพืชพรรณหายากภายในอาณาเขต

แน่นอนว่ามีหลายเผ่าพันธุ์ที่เป็นมิตร ส่วนใหญได้รับการคุ้มครองโดยเอลฟ์หรือเป็นพันธมิตรกัน

แต่ก็มีหลายเผ่าพันธุ์ที่อยู่ฝ่ายมืดในป่าแบล็คลีฟ

อย่างไรก็ตาม มีเผ่าพันธุ์ปีศาจเพียงส่วนน้อยเท่านั้น พวกเขาชอบตั้งเมืองบนดินแดนที่ปราศจากพืชสีเขียวและต่อต้านมนุษย์

สำหรับเผ่าออร์ค พวกมันอยู่ได้ทุกที่ มีการขยายพันธุ์สูงและกระจายไปทั่วดินแดน เหมือนกับมดที่เข้ามาทำรัง และต้องกำจัดให้สิ้นซาก

เพื่อความอยู่รอด พวกมันเริ่มแสวงหาที่หลบภัยกับมังกรยักษ์และมองหาการป้องกัน

พวกมันต้องล่าสัตว์ตลอดทั้งวันเพื่อเป็นอาหารให้กับมังกรยักษ์ที่กินหรือนอนทั้งวัน ด้วยเหตุนี้ จึงต้องใช้ชีวิตด้วยความกลัวในอาณาเขตของมังกร…

ไม่มีทางอื่นอีก

สำหรับความแข็งแกร่งโดยรวมนั้น ตราบใดที่ไม่ใช่อาณานิคมออร์คขนาดกลางหรือใหญ่กว่า ความแข็งแกร่งของพวกมันมักจะเปรียบได้กับขยะ และยากที่จะผลิตออร์คด้วยสายเลือดที่มีศักยภาพ

แน่นอนว่า เมื่อมังกรยักษ์อารมณ์ไม่ดี มันก็จะกินออร์คไปสองสามตัว แต่ออร์คจะต่อต้านหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้นำของเผ่าออร์คคิด

และความแข็งแกร่งของมังกรยักษ์มีดังนี้ :

ตราบใดที่เป็นมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นมังกรห้าสี, มังกรโลหะ หรือมังกรเพชร ศักยภาพทางสายเลือดจะอยู่ในระดับอีปิคหรือสูงกว่า

ยกเว้นลูกมังกรบางตัวที่หักหลังแม่ของมัน...

พวกมันจะไม่สามารถพูดชื่อจริงของพวกมันได้หลังคลอด หรือไม่สามารถใช้ดรากอนวิสเปอร์และอื่นๆได้…

โดยทั่วไป นอกเหนือจากนั้นส่วนใหญ่เป็นมังกรยักษ์สายเลือดระดับอีปิค

เผ่าพันธุ์มังกรเคยปกครองดินแดนเทพในยุคแรก ความแข็งแกร่งของพวกเขามีอานุภาพและจำนวนก็ไม่ได้น้อยเกินไปนัก

พวกเขาจะไม่ถูกท้าทายจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ แม้ว่าจะมีลำดับ, ระดับ, และสายเลือดระดับเดียวกันก็ตาม

ไม่ใช่ว่าไม่มีดรากอนสเลเยอร์ ส่วนมากจะอยู่เป็นกลุ่มหรือทีมเล็กๆ และส่วนน้อยที่จะสู้กับมังกรยักษ์โดยตัวคนเดียว…

นอกเสียจากว่าเขาจะดุร้ายมาก!

ท้ายที่สุดแล้ว เผ่าพันธุ์มังกรชอบที่จะอยู่อย่างปลีกวิเวกและยากมากที่จะสังหารมังกรสักตัวหนึ่ง มันขึ้นอยู่ที่ว่าใครเป็นดรากอนสเลเยอร์!

มังกรบางเผ่าอาจมีเผ่ารอง ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้สร้างปัญหา พวกเขาก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างดี แต่มังกรยักษ์ดังกล่าวยังคงเป็นส่วนน้อย โดยเฉพาะมังกรธาตุ พวกเขาจะถูกฆ่าไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม…

สำหรับอสูรมังกร, ดราเคน และแม้แต่อสูรเวทย์ที่มีสายเลือดมังกร ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นไม่เท่ากัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด