บทที่ 12: ลูกหมี
“ท่านลอร์ด นี่เป็นเหมืองเหล็กขนาดกลาง พวกออร์คขุดไปแต่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น เหมืองแห่งนี้ยังมีแร่เหล็กอยู่อีกเป็นจำนวนมาก”
“เราเห็นแร่เหล็กบริสุทธิ์มากมาย แร่พวกนี้ทั้งหมดมีส่วนประกอบเป็นเหล็กอย่างน้อยสามสิบเปอร์เซ็นต์ นี่เป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับเหมืองเหล็กขนาดกลาง!” เอลฟ์ทหารราบตนหนึ่งวิ่งออกมาอย่างเร่งรีบ ในมือของเขาถือแร่เหล็กจำนวนหนึ่งพร้อมกับอธิบายสถานการณ์
เมื่อนักรบตนอื่นได้ยินข่าวอย่างนั้น ริมฝีปากของพวกเขาก็เผลอยกยิ้มขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ถูกต้องแล้วล่ะ
เหมืองเหล็กขนาดกลางบรรจุแร่เหล็กบริสุทธิ์อย่างน้อยหนึ่งล้านตัน นั่นเป็นแร่เหล็กบริสุทธิ์จำนวนมากเลยทีเดียว เพราะว่าเหมืองแห่งนี้ใหญ่พอ พวกเขาจึงสามารถขุดหลุมได้มากขึ้น ตราบเท่าที่มีแรงงานเพียงพอ พวกเขาก็จะสามารถขุดแร่เหล็กได้อย่างน้อยสามร้อยตัน หากพวกเขาเจียรเหล็กด้วยตัวเอง มันอาจจะได้น้อยลงมาก แต่พวกเขาจะสามารถขายมันได้ในราคาที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าแร่พวกนั้นมีเปอร์เซ็นต์ส่วนประกอบของเหล็กสูง ราคาขายของพวกมันก็จะเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
ด้วยความเร็วในการขุดแบบธรรมดา ถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆ เหมืองแห่งนี้น่าจะอยู่ได้ถึงหลายทศวรรษ
ถึงแม้ว่าสำหรับคนอื่น นี่เป็นแค่เกมและเหล็กอาจจะไม่มีค่าอะไรต่อผู้เล่นทั่วไป แต่สำหรับลอร์ด NPC อย่างเขาแล้ว มันเป็นวัสดุที่ล้ำค่ามากๆ
แค่เหมืองเหล็กเพียงเหมืองเดียวก็อาจได้รับเหรียญทองมากถึงสองหมื่นเหรียญในหนึ่งปี
หนึ่งเหรียญทอง = 100 เหรียญเงิน = 10000 เหรียญทองแดง
อาจไม่ได้เหรียญทองมากนักแต่การที่สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่องนั้นเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้อาณาเขตของเขาก็ต้องใช้เหล็กอีกมาก
อีกอย่าง
เขาจน! ต่อให้เขาเคยใช้เหรียญทองเป็นล้านไปอย่างง่ายดายในชีวิตก่อนหน้า เขาก็ยังคงปวดหัวใจเมื่อคิดถึงมัน…
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาต้องดูแลผู้คนอีกมากมาย ถ้าเขาต้องการที่จะขยายอาณาเขตของเขาและสร้างอาณาเขตของเมืองฝ่ายกลางให้กว้างขึ้นไป เหรียญทองเป็นพันๆ เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เหล่าลอร์ดและผู้เล่นทั่วไปไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลย
“ในที่สุดตอนนี้อาณาเขตแห่งนี้ก็มีเหมืองที่พวกเราสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ งั้นเรากลับและไปคัดเลือกคนงานที่จะมาเริ่มงานทันทีกันเถอะ พวกท่านทุกคนจะได้รับรางวัล 5 เหรียญเงิน!” วิลเลียมไม่ลังเล มันเป็นแค่เหมืองเหล็กธรรมดาแห่งหนึ่ง แม้ว่าข่าวสารจะกระจายออกไปก็ไม่เป็นไร พวกอาณาจักรทั้งสองถัดจากพวกเขานั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่งกองทัพมากำจัดเมืองชายแดนแห่งนี้เพียงเพื่อเหรียญทองสองหมื่นเหรียญต่อปี
เมืองชายแดนแห่งนี้ตะเกียกตะกายเอาตัวรอดได้มาเป็นเวลานานแล้ว ครั้งหนึ่งภายใต้การปกครองของพ่อเขาและตอนนี้ภายใต้การปกครองของเขา และอีกหลายครั้งโดยเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์จากป่าแบล็คลีฟ ตราบใดที่เขาไม่เข้าไปพัวพันในสงครามระหว่างพวกสองอาณาจักรนั้นหรือไปเปิดเผยขุมสมบัติของพวกเขา โดยธรรมชาติแล้วศัตรูพวกนั้นก็จะไม่ทำอะไรเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครที่อยากจะยั่วโมโหเอลฟ์จากป่าแบล็คลีฟ!
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักวิลเลียม แบล็คลีฟเป็นอย่างดี แต่ก็รู้ว่าเขานั้นมีความสำคัญต่อเอลฟ์แบล็คลีฟมากเพียงใด ดูได้จากการที่เขามีเอลฟ์องค์รักษ์ถึง 500 ตน…
“ขอบคุณท่านลอร์ด” เอลฟ์นักรบทั้งหลายโห่เชียร์ด้วยความสุข
ลอทเนอร์ยิ้มเล็กน้อย เขาชี้ไปยังหมีที่ตายอยู่ในกับดัก ก่อนจะพูด “แล้วอสูรเวทย์ระดับกลางนี่ล่ะ? เราไม่สามารถขายหนังของมันได้แล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ หนังของหมีป่ายักษ์ที่ตัวใหญ่ขนาดนี้เต็มตัวสามารถขายได้อย่างน้อย 1000 เหรียญทอง ถ้าเราขายเนื้อของมัน เราก็สามารถขายได้อย่างน้อย 800 เหรียญทองเช่นกัน!”
วิลเลียมคิดอยู่พักหนึ่ง “ไม่จำเป็น หมีป่ายักษ์ตัวนี้อย่างน้อยๆ ก็หนักถึง 4000 กิโลกรัม เนื้อของมันก็เต็มไปด้วยพลังเวทย์เช่นกัน เพราะฉะนั้นเราเก็บมันไว้เองกันเถอะ นักรบทุกตนที่มากับเราจะได้รับเนื้อ 5 ปอนด์ ในขณะที่นักรบผู้พิทักษ์บ้านเมืองของเราจะได้รับ 2 ปอนด์”
“ขอบคุณท่านลอร์ดของข้า! ขอให้ต้นไม้แห่งชีวิตที่เคารพจงอวยพรแก่ท่าน!” การขอบคุณในครั้งนี้ต่างออกไปอย่างลิบลับเมื่อนักรบเอลฟ์มีความประทับใจที่ดีขึ้นต่อวิลเลียม
ไอเท็มมากมายที่สามารถเพิ่มความสามารถของคนๆ หนึ่งนั้นยากที่จะหาซื้อ เนื้ออสูรเวทย์ 5 ปอนด์ถูกตั้งราคาอยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญเงิน แต่ในความจริงก็คือมันเป็นเรื่องยากที่จะซื้อเนื้ออสูรเวทย์อันล้ำค่านี้ แม้แต่ในราคา 50 เหรียญเงิน
ของขวัญจำพวกนี้เป็นของที่มาจากความกรุณาอย่างยิ่งไม่สำคัญว่ามันจะมาจากลอร์ดคนใด
อีกอย่าง ไม่มีใครซักคนที่ได้รับบาดเจ็บและเขาก็ไม่ได้ทอดทิ้งเหล่าทหารผู้พิทักษ์ที่อยู่ในเมืองเช่นกัน นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าลอร์ดคนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ครั้งนี้! อย่างน้อย อุปนิสัยของเขาก็ดีมากๆ!
อย่างไรก็ตาม วิลเลียมยังเก็บศีรษะอันใหญ่ของหมีไว้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะกินทุกส่วนของมัน ไม่สำคัญว่ารสชาติของอสูรเวทย์ระดับกลางจะดีขนาดไหน มันก็น่าอนาถเกินไปอยู่ดี
แม้ว่าวิลเลียมจะเป็นทั้ง NPC และผู้เล่นคนหนึ่ง เขาก็ไม่ได้มีลิมิตที่มากขึ้นสำหรับความสามารถในการกินเนื้อ แต่เขานั้นยังคงสามารถเก็บเนื้อหมีไว้สำหรับเป็นรางวัลในภายหน้า
สำหรับมืออาชีพคนหนึ่ง การใช้สิ่งของเป็นรางวัลนั้นคุ้มค่ายิ่งกว่าค่าของเหรียญทองและมันก็มีประโยชน์มากกว่าอีกด้วย
ท้ายที่สุด วิลเลียมก็มีภารกิจในการเพิ่มเลเวล ในขณะที่ NPC คนอื่นๆ นั้นต้องพึ่งพาเพียงอาหาร, การต่อสู้, และการฝึกฝนเท่านั้นในการที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเขา
“ท่านลอร์ด เจ้าตัวเล็กพวกนี้กำลังหิวรึเปล่า?” นอร์ตันกำลังอุ้มเหล่าลูกหมีสามตัวอยู่ เพราะว่าพวกเขามีเพียงแค่ผ้าขนสัตว์สีขาวอันบางๆ เพื่อคลุมตัวพวกมันไว้ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องถอดเสื้อเชิร์ตตัวในและพันเสื้อนั่นรอบๆพวกมัน ด้วยความที่กลัวว่าหนึ่งในพวกนี้จะล้มป่วย ถ้าหากมันเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น จิตใจของเขา… คงไม่อาจที่จะจิตนาการได้
“เรากลับกันเลยเถอะ ให้ทีมทหารลาดตะเวนสิบคนคอยอยู่ที่นี่เพื่อเฝ้ายามและดูว่ามีใครคนอื่นอีกไหมที่เจอเหมืองแห่งนี้ เมื่อพวกเรากลับมา พวกเราจะส่งคนขุดเหมืองและทีมอื่นมาเปลี่ยน!” วิลเลียมอุ้มลูกหมีตัวหนึ่งไว้ เจ้าลูกหมีดูราวกับมันกำลังหิวมากๆ เขาจึงจำเป็นต้องหานมมาป้อนมันให้เร็วที่สุดเมื่อพวกเขากลับไปถึงเมือง
ทันทีที่เสียงของพวกเขาเงียบลง วิลเลียม แบล็คลีฟนำคนของเขากลับไปในทิศทางเดิมที่พวกเขามา เหมืองแห่งนั้นอยู่ห่างประมาณแปดกิโลเมตรจากเมืองชายแดนโดยวัดจากเส้นทางบนภูเขา มันไม่ใกล้มากนักแต่ก็ไม่ได้ไกลเกินไปเช่นกัน
ประเด็นหลักก็คือถนนหนทางบนภูเขานั้นยากในการเดิน ถ้าพวกเขาต้องการที่จะขุดเหมืองแห่งนี้ พวกเขาก็ต้องทำถนน ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถเคลื่อนย้ายแร่เหล็กได้
ในระหว่างทางกลับ วิลเลียมคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ขึ้นมากระทันหันและรู้สึกได้ถึงเรื่องปวดหัวที่กำลังจะมาถึง การโค่นต้นไม้นั้นต้องใช้เงิน แต่การทำถนนเองก็ต้องใช้เงินเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีพวกคนประหลาดและคนจนมากมายในเมืองชายแดน ตราบใดที่มีเงิน คนพวกนี้ก็ทำได้ทุกอย่าง
มันไม่มีทางเลือก
พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองฝ่ายกลาง
มีประชากรดีๆ จำนวนน้อยเกินไป คนที่สามารถเอาตัวรอดที่นี่ได้นั้นธรรมดาแล้วจะเป็นอันธพาลหรืออาชญากร ถ้าพวกเขาไม่ได้ไปทำความเกลียดชังให้ใครบางคนอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาก็จะเป็นอาชญากรที่ถูกประกาศจับที่ไม่กล้าโผล่เข้าไปในเมืองของฝ่ายสว่าง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงสามารถอาศัยอยู่ได้แค่ในเมืองของฝ่ายกลางเท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อพ่อเขายังคงอยู่ พ่อเขานั้นเคยใช้ความสามารถส่วนตัวเพื่อทำให้อาชญากรหลายคนกลายเป็นคนงานหรือทหารที่อยู่ในโอวาท
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาหายตัวไป ทหารกลุ่มนี้เป็นกลุ่มหนึ่งที่แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาให้เห็นเร็วที่สุด…
ถึงอย่างนั้น ข้อดีเกี่ยวกับการมีอันธพาลพวกนี้อยู่คือการที่พวกเขาแข็งแรงและทรงพลัง อีกทั้งในจำนวนของพวกเขาเหล่านี้ยังทำหลากหลายอาชีพ ตราบใดที่พวกเขามีความสามารถมากพอและถูกดึงดูดได้โดยเงิน มันเป็นเรื่องง่ายมากในการทำให้คนกลุ่มนี้ทำอะไรสักอย่าง
สองชั่วโมงต่อมา
ทหารกลุ่มหนึ่งพร้อมกับชุดเกราะอาบเลือด ในที่สุดก็เดินออกจากป่าและกลับมาถึงที่เมืองชายแดน
ชาวไร่ชาวนาหลายคนที่ว่างงานอยู่มองไปยังพวกเขาด้วยความประหลาดใจและพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หมียักษ์สูงห้าเมตรตัวนี้จริงๆ แล้วเป็นอสูรเวทย์อะไรกันแน่นะ?
แน่นอนว่ามันคืออสูรเวทย์ในเมื่อไม่มีสัตว์ปกติตัวใดที่สามารถใหญ่โตได้ขนาดนี้
“นั่นคือหมีป่ายักษ์ อสูรเวทย์ระดับกลางนี่! หรือมันอาจจะเป็นอสูรเวทย์ระดับสูงก็ได้!” ทันใดนั้นเองใครบางคนก็พูดขึ้น พร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย
ท้ายที่สุด นี่คืออสูรเวทย์ระดับกลางที่มาพร้อมกับเนื้อรสชาติเยี่ยมที่สามารถเพิ่มความสามารถของพวกเขาได้
“โอ้พระเจ้า มีแม้กระทั่งลูกหมีด้วย แถมยังมีตั้งสามตัวอีก! เป็นไปได้มั้ยว่า…” เมื่อผู้คนมองไปยังเหล่าลูกหมีในอ้อมแขนของวิลเลียม ความอิจฉาก็เพิ่มเข้ามาในหัวใจของพวกเขา
คนแรกที่พวกมันเห็นตอนที่พวกมันลืมตา คนนั้นก็จะเป็นเจ้าของพวกมัน!
ตราบใดที่ลูกหมีพวกนี้สามารถเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง พวกมันก็จะเป็นสุดยอดอาวุธบนสนามรบ
วิลเลียมเดินอย่างภาคภูมิใจ เมินเฉยต่อชาวไร่ชาวนาที่ไม่ซื่อสัตย์กลุ่มนี้ เหตุผลที่เขาต้องลากการเดินทางครั้งนี้ออกไปถึงสองชั่วโมงเป็นเพราะเขาไม่ต้องการที่จะตัวหัวหมียักษ์ตนนี้ออก เขาอยากจะให้คนพวกนี้เห็นหมีตัวนี้และอวดความสามารถของทหารผู้พิทักษ์ของเขาในเวลาเดียวกันว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง
“นม เอานมมาเดี๋ยวนี้เลย! ฉันต้องการให้อาหารพวกหมี!”
“ขออภัยครับท่านลอร์ด พวกเรามีแค่นมแกะในตอนนี้!”
“... งั้นก็เอาอันนั้นมา!”
“พวกเรามีนมแกะเหลือเพียงเล็กน้อยเช่นกัน หากพวกเราต้องการจะเลี้ยงดูพวกมันต่อไป พวกเราคงต้อง… ไปที่อาณาจักรเหล็กเพื่อซื้อนมเพิ่ม!”
“... ซื้อ!”