เล่ม 1 ตอนที่ 4: เล่ยหลวนลี่ กงล้อสายฟ้า (2)
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
เล่ม 1 ตอนที่ 4: เล่ยหลวนลี่ กงล้อสายฟ้า (2)
ชายชราระเบิดเสียงหัวเราะ “ฮ่าฮ่า สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่เป็นเรื่องไร้สาระ พวกมันมีเพียงความสวยงามเท่านั้น ข้ายังมิได้พูดถึงเล่ยหลวนลี่ที่สุดแสนจะหาได้ยากยิ่งเลยนะ น้อยมากที่จะมีใครได้ครอบครองพลังของมัน ส่วนใหญ่แล้วร่างกายผู้ฝึกฝนมักเต็มไปด้วยจักระอันน้อยนิด อีกทั้งอาจมีมากกว่าหนึ่งธาตุด้วย”
“อะไรกัน? มากกว่าหนึ่งธาตุงั้นหรือ?”
“หมายความว่าในร่างกายคน ๆ นั้นไม่ได้มีเพียงธาตุเดียว ตัวอย่างเช่นเจ้าครอบครองฮัวหลวนและยิ้นหลวน ก็คือกงล้ออัคคีและสีเงิน แน่นอนว่ามันมิใช่เรื่องเลวร้าย แต่ถ้าเจ้ามีธาตุกว่าสี่ชนิดในร่างกาย แม้ฝึกฝนได้ แต่ความเร็วจะช้ามาก การที่จะเข้าสู่ระดับตันหลวนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”
เฟิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “หมายความว่ายิ่งครอบครองธาตุน้อยเท่าไหร่ ความเร็วในการฝึกยิ่งมากเท่านั้นงั้นหรือขอรับ?”
“ถูกต้อง แต่เจ้าจงจำไว้เสมอว่าอายุขัยของมนุษย์มีจำกัด คนธรรมดาทั่วไปนั้นอยู่ที่ห้าสิบปีและมากที่สุดประมาณหกสิบปีเท่านั้น ถ้าเจ้าเข้าสู่ระดับตันหลวนได้หลังอายุหกสิบปี มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนักหรอก”
“เช่นนั้น... ถ้าสามารถเข้าสู่ระดับตันหลวนได้ ข้าจะมีอายุขัยที่ยาวนานขึ้นงั้นหรือขอรับ?”
“เป็นเช่นนั้น ด้วยการฝึกฝนเล่ยหลวนจะทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าเจ็ดสิบปีและถ้าสามารถเข้าสู่ระดับตันหลวนได้ เจ้าจะมีอายุยืนยาวกว่าเก้าสิบปี ฮ่าฮ่า อายุเก้าสิบปีที่ข้าหมายถึงคือเจ้าจะยังแข็งแกร่งอยู่เช่นเดิมด้วย”
“ปู่... อายุเท่าไหร่หรือ?” เฟิงโพล่งคำถามออกมาอย่างรวดเร็ว
ชายชราเงียบงันครู่หนึ่ง “เฟิงเอ๋ย เจ้าอย่ากังวลไป... อย่างไรข้าสามารถมีชีวิตอยู่จวบจนเจ้าเข้าสู่ระดับตันหลวนได้แน่ หากไม่ใช่เพราะข้าต้องการสืบสายเลือดของตนเอง ไม่มีทางที่ข้าจะอดทนมีลมหายใจอยู่จนถึงวันนี้ ข้าสู้เพื่อพวกเจ้าทุกคนและชีวิตที่ยืนยาวนี้คุ้มค่าสำหรับการรอคอยแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ข้าสามารถมีอายุยืนยาวถึงห้าร้อยปีทว่าหลังจากการบาดเจ็บสาหัสครั้งนั้น ทุกสิ่งอย่างได้หายไปจนหมดสิ้น ไม่เหลืออะไรเลย... แต่ไม่ต้องห่วง ข้าแข็งแกร่งกว่าคนปกติทั่วไป การมีชีวิตอยู่เพื่อดูเจ้าเติบโตนั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็นแม้แต่น้อย” ชายชราเผยรอยยิ้มอบอุ่น
“ถ้าหากข้าทำได้ โชคชะตาที่เลวร้ายนี้คงจะเปลี่ยนแปลงบ้างสักหน่อย…” ขณะที่เฟิงกำลังคิดอยู่นั้น เขารู้ดีว่าทางปฏิบัติจริงยากเย็นแสนเข็ญ แต่ถ้าเขาทำมันได้จริง ๆ นั่นหมายความว่าเขาไม่ต้องอดทนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านยากจนเช่นนี้อีกต่อไป
ท้ายที่สุดเฟิงไม่ได้คำตอบว่าชายชราตรงหน้าอายุกี่ร้อยปี แม้ปู่จะพูดออกมาว่าเขาสามารถอยู่ได้นานอีกเป็นร้อยปี แต่เขากลับรู้สึกไม่เชื่อถืออย่างยิ่ง นั่นอาจไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นปีศาจไปแล้วก็ย่อมได้ “ขอรับ ข้าจะไปให้ถึงระดับตันหลวนให้ได้เลย!” ภายในใจเฟิงได้แต่หวังว่าปู่ของตนจะมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้น...
การสนทนาระหว่างกินข้าวจบลง เฟิงเช็ดปากของตนอย่างเร่งรีบพร้อมกล่าวต่อ “ปู่บอกมาเลยว่าข้าต้องทำอย่างไรบ้าง!”
“ตามข้ามา” ชายชรากล่าวพร้อมเดินนำออกไป
ชายสองคนใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเดินออกไปตามถนนมุ่งหน้าสู่ปราสาท เมื่อมาถึงปราสาทยังคงต้องเดินต่อไปอีกนิดหน่อย “ที่นี่แหละ เงียบสงบและข้าคิดว่าคงไม่มีใครเดินมาเพ่นพ่าน เราจะฝึกกันตรงนี้”
สายตาเด็กหนุ่มสอดส่องสภาพแวดล้อมรอบข้างอย่างระมัดระวัง
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยก้อนหินสูงใหญ่นับไม่ถ้วนและไม่มีใครในพื้นที่ ไม่มีแม้แต่เด็ก ๆ สักคน “ขอรับ แล้วข้าต้องฝึกอย่างไรหรือ?”
ชายชรานั่งขัดสมาธิพร้อมกล่าว “นั่งลง ข้ามีเรื่องสำคัญบางสิ่งที่ต้องบอกกล่าวกับเจ้าก่อนและหวังว่าเข้าจะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้” ลักษณะของปู่เขร่งขรึมกว่าที่เคย ใบหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังทำให้เฟิงรู้สึกกดดันไม่น้อย
“ข้าพร้อมแล้ว”
“เล่ยหลวนลี่ของเจ้าเป็นประเภทที่พบเจอได้ยากยิ่งและสิ่งที่ข้ากำลังจะพูดนี้มิได้โกหกสักคำ ที่จะบอกคือข้าก็เป็นผู้ฝึกฝนเล่ยหลวนลี่เช่นกัน คงเป็นเพราะสายเลือดของข้าทำให้เจ้ามีทักษะธาตุที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน”
ความภาคภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชรา เฟิงตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง
“ข้อดีของเล่ยหลวนมีสองอย่างที่เด่นชัด ประการแรกคือพลังทำลายล้างสูงสุดในทุกธาตุ สองความเร็วในการฝึกฝนนั้นมีมากยิ่ง ข้อสำคัญคือควรจะฝึกช่วงเวลาฟ้าร้องคึกคะนอง การทำเช่นนี้ทำให้สามารถดูดซับพลังสายฟ้าได้ดียิ่งขึ้น มันไม่เพียงแต่ทำให้การฝึกรวดเร็วแต่มันยังเพิ่มระดับของเจ้าได้ในคราเดียว!”
ความกลัวปรากฏขึ้นในใจของเฟิง จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขาถูกฟ้าผ่า? ถ้าเขาตายล่ะ? ในโลกก่อนหน้ามีมนุษย์จำนวนไม่น้อยที่ตายตกไปจากการโจมตีของสายฟ้า
“แล้วถ้าข้าถูกฟ้าผ่าล่ะ?”
“ตายไงล่ะ!”
เฟิงเข้าใจดีว่ามนุษย์ไม่สามารถต้านทานพลังสายฟ้าได้ แต่เขาก็ยังไม่หายแคลงใจ ในโลกก่อนหน้านี้ก็มีคนที่สามารถเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์เลวร้ายนั้นได้เช่นกัน แต่ก็นับว่าน้อยนิด
“แน่นอนว่าในข้อดีย่อมมีข้อเสีย” ชายชรากล่าวต่อ
“นั่นก็คือ... เมื่อเจ้าเริ่มฝึกฝนเล่ยหลวน อุปนิสัยของเจ้าจะแปรเปลี่ยนไปคล้ายคลึงกับธาตุที่ใช้ หมายความว่าเจ้าจะเกรี้ยวกราดและเจ้าอารมณ์มากยิ่งขึ้น”
ความสงสัยเกิดขึ้นอีกครั้ง “แต่ว่า... ข้าไม่เคยเห็นปู่อารมณ์เสียมาก่อนเลยนะขอรับ ไม่แม้แต่จะโกรธด้วยซ้ำ” ชายชราคนนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น เขาไม่เคยดุด่าเฟิงเลยสักครั้งนับตั้งแต่มาอาศัยที่โลกใบนี้
ชายชราส่ายหัวปฏิเสธ “นับตั้งแต่สูญเสียพลัง อารมณ์ของข้าก็กลับมาเป็นปกติ ก่อนหน้านี้ข้าเต็มไปด้วยความโกรธและฉุนเฉียวตลอดเวลา ถ้าหากไม่สามารถตกลงกันได้ภายในสองประโยค ข้าพร้อมจะยกกำปั้นเพื่อแลกเปลี่ยนเพลงมวยทันที”
“น่าเสียดาย นับตั้งแต่นั้นมาข้าไม่สามารถฝึกมันได้อีกแล้ว”
“ข้าจะควบคุมมันให้ได้” เฟิงกล่าวอย่างมั่นใจ
“เสียใจด้วย มันมิใช่สิ่งที่เจ้าจักควบคุมได้ ถ้าหากควบคุมได้มันจะไม่ถูกเรียกว่าเล่ยหลวนเป็นแน่ หากต้องการเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว เจ้าจำเป็นจะต้องทำตามสันชาตยานบอกกล่าว นี่คือค่าผ่านทางที่จำเป็นต้องจ่าย ไม่มีสิ่งใดควรค่าแก่การเสียเวลาอีกต่อไป จงจำไว้ว่าเจ้ามีเวลาแค่น้อยนิดในการก้าวเข้าสู่ระดับตันหลวนให้ได้”
เฟิงไม่เคยรู้เกี่ยวกับเล่ยหลวนมาก่อน ดังนั้นเขาทำได้เพียงนั่งฟังชายชราอย่างตั้งใจเท่านั้น
“ข้าเข้าใจแล้ว ทำตามสันชาตยานของเล่ยหลวนก็เพียงพอ ต้องไม่พยายามควบคุมมัน!”
“ดีมาก ตอนนี้เราควรจะเริ่มฝึกกันได้แล้ว” หลังจากอธิบายเสร็จสิ้น ชายชรายังกล่าวเสริมอีกนิด “ตอนนี้ตราประทับสายฟ้าเข้าสู่ร่างกายของเจ้า ข้าเชื่อว่าการฝึกจะไม่ยากเย็นนักเพราะสิ่งที่ยากที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเจ้าจะถูกเลือก โฮ่โฮ่ โชคของเจ้านั้นไม่เลวเลยหนุ่มน้อย เอาล่ะ มาเริ่มฝึกกันเถอะ!”
เฟิงไตร่ตรองเรื่องราวอย่างเงียบงัน เขาไม่เคยคิดว่าตราประทับสายฟ้าจะโหดร้ายกับเขาเช่นนี้ มันทำให้เด็กชายหลับใหลไปสองวันเต็ม!
เด็กชายนั่งลงตามท่วงท่าและเริ่มฝึกฝนครั้งแรกตามคำแนะนำของชายชรา
เขานั่งห่างจากเฟิงไม่กี่ก้าว สายตาจับจ้องที่เด็กหนุ่ม ขั้นตอนนี้สำคัญยิ่งยวด นี่คือการฝึกครั้งแรก!
ไม่กี่วินาทีถัดมา แสงแหลมของสายฟ้าบาดหูได้ดังขึ้น หากไม่สังเกตจะไม่มีทางได้ยินมันแม้แต่น้อย มุมปากชายชรายกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข มันคือเครื่องพิสูจน์ว่าการฝึกครั้งแรกนี้เป็นไปได้ด้วยดี
ประกายสายฟ้าค่อย ๆ ปรากฏขึ้นรอบกายเด็กหนุ่มอย่างเชื่องช้า ส่วนใหญ่จะรวมตัวอยู่ที่แขน ขาและศรีษะ เสียงแตกของประกายสายฟ้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและพุ่งทะยานสู่ด้านบนกลายเป็นบอลสายฟ้าอยู่เหนือศีรษะ มันรวบรวมพลังอยู่ตรงนั้นอย่างต่อเนื่อง
สิ่งนี้ชายชราเข้าใจมันเป็นอย่างดี หลานชายเขาเข้าใจถึงกฏแห่งเล่ยหลวนแล้ว เขารับรู้ได้ถึงพลังของมันและเริ่มโคจรพลังด้วยตนเองได้
คราวแรกประกายไฟเหล่านั้นยังไม่ค่อยเสถียรมากนัก แต่มันก็ยังคงตัวไว้ได้อย่างมั่นคงและค่อย ๆ หนาแน่น จากนั้นรูปร่างของมันเริ่มขยายออก เส้นสายฟ้านับพันกำลังเต้นระบำอยู่เหนือศีรษะของเด็กหนุ่ม มันโตขึ้นและควบแน่นจนมองไม่เห็นช่องว่าง ฉับพลันบอลสายฟ้าเล่ยหลวนเปล่งแสงประกายเจิดจ้าออกมาและหายวับเข้าไปในร่างกายของเฟิงเพียงพริบตาเดียว
ชายชรายกกำปั้นของตนขึ้นมาอย่างฉลองชัยครั้งนี้ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย วันนี้ฝนจะตกทั้งวันแน่นอน เฟิงดูดซับพลังของตราประทับสายฟ้าเข้าสู่ร่างกายแล้ว เขาย่อมทรงพลังมากกว่าใครอื่น!
กงล้อสายฟ้าครั้งแรกของเขาใช้เวลาห้านาทีในการควบแน่น
เฟิงสามารถสร้างมันขึ้นมาสิบครั้งอย่างต่อเนื่อง “เยี่ยมมาก ทำตามคำแนะนำของข้าต่อไป... เพิ่มพลังให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าเจ้าจะสามารถสร้างมันได้เพียงแค่นึกคิด”
เสียงแหบแห้งของชายชราสั่นคลอนด้วยความตื่นเต้น เขาลอบกระโดดด้วยความตื่นเต้นอยู่ข้างกายของหลานชาย เฟิงสร้างกงล้อสายฟ้าได้ถึงสิบลูก มันคืออะไรกัน!? คราวนั้นเมื่อเขาฝึกมันครั้งแรก เขาได้รับชื่อว่าเป็นเด็กอัจฉริยะเพียงเพราะใช้เวลาแค่สามสิบวันก็สามารถสร้างกงล้อสายฟ้าได้สิบลูก แต่หลานชายของเขาเพิ่งจะฝึกฝนเพียงแค่สี่ชั่วโมงเท่านั้น พรสวรรค์นี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“ความหวังของข้า! ไม่คิดเลยว่าหลานชายข้าจะมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมมากเพียงนี้! ฮ่าฮ่า! ฮ่า!”
ชายชรากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่เพียงคนเดียวอย่างสุขสม เขาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ในความเงียบงัน
เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าปู่ของเขากำลังกระโดดตัวโยนด้วยความตื่นเต้น สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงการตั้งมั่นและฝึกฝนต่อไปเท่านั้น ด้วยความช่วยเหลือของตราประทับสายฟ้า เขาไม่จำเป็นจะต้องใช้เวลาเนิ่นนานอะไรเลย
ปกติแล้วผู้ที่ฝึกฝนเล่ยหลวนทั่วไปมักจะไม่สามารถมองเห็นกงล้อสายฟ้าได้ก่อนหนึ่งพันลูก มันจะไม่ปรากฏเด่นชัดเช่นนี้ มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งผ่านการฝึกมาแล้วอย่างน้อยพันลูกเท่านั้นจึงจะสำแดงเดชให้ผู้อื่นรับรู้ได้ แต่ทว่าเฟิงฝึกเพียงสิบลูก เขาก็สามารถเผยความสามารถอันน่าทึ่งออกมาได้แล้ว!
สายตาของชายชรายังคงจับจ้องไปที่กงล้อสายฟ้าของหลานชายซึ่งกำลังควบแน่นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง เฟิงเริ่มควบคุมพลังได้ เขาปฏิบัติตามคำแนะนำของชายชราอย่างเคร่งครัด การควบคุมและกักเก็บพลังเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนใหญ่สายฟ้ารวมตัวกันอยู่ที่หน้าอกตามด้วยแขน ขาและสุดท้ายคือศีรษะ แต่ตรงส่วนนี้มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากเด็กหนุ่มพยายามแบ่งพลังสายฟ้าออกเป็นส่วน ๆ เขาได้ค้นพบเรื่องแปลกประหลาดอย่างกระทันหัน “ข้ากำลังจะ... ทำอะไรเนี่ย?!”
“นี่มันอะไรกัน!!!???”
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••