ตอนที่ 1 บทนำ
ตอนที่ 1 บทนำ
เขากำลังเฝ้ามองดวงจันทร์ในยามค่ำคืน ดวงจันทร์ยังคงส่องสว่างอยู่เสมอมา บางครั้งครึ่งเสี้ยวบ้าง เต็มดวงบ้าง แต่สุดท้ายดวงจันทร์ยังคงอยู่บนท้องฟ้ายามราตรีดังเดิม เมื่อถึงเวลาดวงจันทร์ต้องลาลับฟ้าไป แต่ทุกคนก็รู้ดีว่ามันจะยังคงอยู่ตรงนั้นตลอดกาล
ดวงจันทร์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่มนุษย์เราต่างหากที่ยังคงเปลี่ยนไปอยู่เสมอ ตัวตนของเขาในแต่ละครั้งที่มองดวงจันทร์ยังดูแตกต่างออกไป ในยามที่เขาโง่เขลา เขาเห็นดวงจันทร์เป็นแค่เพียงวัตถุที่น่ามองและน่าสนใจ แต่ทว่าความหมายของดวงจันทร์ก็ได้เปลี่ยนไปตามกาลเวลาในชีวิตเขา ครั้งเมื่อเขาถูกแม่ตำหนิเขาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์เพื่อซ่อนน้ำตา ดวงจันทร์กลับกลายเป็นดั่งเพื่อนของเขา ต่อมาไม่นานพ่อแม่จากเขาไป มันก็ยังคงเป็นดั่งพี่น้องที่คอยปลอบเขา เมื่อวันหนึ่งเขาได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองขึ้น มันยังคงเป็นเหมือนมิตรสหายคอยพยุงเขาให้มีกำลังใจลุกขึ้นอีกครั้งยามที่เขาสิ้นหวัง เมื่อเขาได้พบกับภรรยาในอนาคต มันกลายเป็นดั่งพ่อแม่ที่คอยอวยพรแด่ความรักของเขา ในเวลาต่อมาเขาได้มีบุตรสาว มันกลายเป็นดั่งเทพที่คอยแสดงความยินดีกับการเกิดนั้น
แต่มาในวันนี้พระจันทร์ที่สาดส่องลงมาหาเขาไม่เหมือนกับพระจันทร์ที่เขาเคยพบเห็นมาก่อน
"...นี่แกกำลังเยาะเย้ยฉันเหรอ?"
ในคืนราตรีที่มืดสนิทนั้นยังคงมีแสงสว่างสาดส่องลงมายังกลางเมือง ชายผู้หนึ่งเงยมองดวงจันทร์ที่ดูอาฆาตแค้นพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง
แต่สุดท้ายยังคงเป็นเหมือนทุกครั้ง ไม่มีคำตอบใดจากดวงจันทร์เลยแม้แต่น้อย
*****
ไฟโหมกระหน่ำขึ้นในเมือง เศษฝุ่นละอองลอยคละคลุ้งทั่วท้องฟ้าท่ามกลางตึกถล่ม มีทั้งเสียงร้องไห้ กรีดร้อง ของผู้คนดังไปทั่ว
ความรู้สึกที่สิ้นหวังกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกัดกินหัวใจผู้คนราวกับว่ากำลังแตกสลาย
“โกลาหลวุ่นวาย”
คำ ๆ นั้นคือคำเดียวที่ซังยอนจะใช้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ใจกลางกรุงลอนดอนแห่งนี้ได้
สภาพกรุงลอนดอนที่ถูกระเบิดถล่มในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจะเป็นแบบนี้รึเปล่านะ?
เมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง และไม่มีความหวังใด ๆ หลงเหลืออยู่ในเมือง
ซังยอนถือดาบของเขาไว้แน่น ในขณะนั้นสิ่งมีชีวิตที่ทำลายเมืองแห่งนี้ได้โผล่มาอยู่ตรงหน้าเขาแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เมื่อครั้งแรกที่ได้เห็น คำเดียวที่นึกขึ้นได้คือ “ใหญ่มหึมา”
ช้างเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เจ้าสัตว์ประหลาดนี้กลับทำให้ช้างมีขนาดราวกับเด็กทารกไปในพริบตา มันเป็นสัตว์ร้ายที่ทำให้เสียวสันหลังวาบ มันไม่มีคอ แถมยังมีหัวใหญ่เหมือนเนื้องอกโผล่ออกมาอยู่บนไหล่ ส่วนตา จมูก และปากนั้นติดอยู่กับหัว นิ้วมันมีกล้ามเป็นปล้องใหญ่ๆ และมีเล็บยาวเหมือนกงจักร ขาทั้งแปดของมันใหญ่โตมโหฬาร ขณะเดียวกันมันได้เหวี่ยงกรงเล็บคุกคามเขา
แน่นอนว่ามันคงไม่ใช่สัตว์ธรรมดาทั่วไปแน่ ๆ มันคือสัตว์ประหลาด ดวงตาของมันเริ่มจ้องมองมาที่ซังยอนอย่างนิ่ง ๆ แต่ในแววตาแฝงไปด้วยความร้ายกาจ
คู-โร-โร-โรก
ดูเหมือนว่าเจ้าสัตว์ประหลาดจะมองซังยอนเป็นศัตรู ทันใดนั้นจึงเกิดการทำลายล้างขึ้น พลังทำลายมหาศาลที่ก่อนหน้านี้มันปล่อยออกมาทำลายเมือง ตอนนี้กลับมุ่งตรงมาที่ซังยอนเพียงคนเดียวพร้อมด้วยเสียงขู่คำราม
ซังยอนได้สวมใส่สร้อยข้อมือวิเศษที่อยู่ภายใต้เกราะกำบังของเขา เขาได้ตัดแบ่งพลังเวทย์เป็นแล้วส่งไปยังสร้อยข้อมือนั้น แต่ปรากฎว่าอัญมณีบนสร้อยข้อมือดับแสงลง
ฮุก!!
ในขณะนั้นดาบกับโล่ของเขาได้หายไป ซังยอนได้ใส่พลังเวทย์ของเขาเข้าไปในอัญมณีอีกเม็ดแทน
ซี่!!
อาวุธชิ้นใหม่ปรากฎเบื้องหน้าเขา
มันคือง้าวที่เปล่งแสงสีเงินสว่างไสว เขาฟาดง้าวลงบนพื้นอย่างหนักแน่นพร้อมสีหน้าท่าทางด้วยความเคร่งขรึม
ทันใดนั้นเขาตรวจดูอัญมณีอีกเม็ด อัญมณีนั้นดูดกลืนพลังของซังยอนแล้วปล่อยพลังของมันเข้ามาในตัวเขา ประสาทสัมผัสเขาเฉียบคมและแข็งกล้าขึ้น! พร้อมที่จะปลดปล่อยพลังเพื่อต่อสู้กับปีศาจร้าย
เมื่อเขาเตรียมการเสร็จสิ้น เขาจับง้าวด้วยกำลังแรงสองมือแล้วพุ่งไปยังเจ้าสัตว์ประหลาด เขาจะไม่ปล่อยให้มันทำลายเมืองไปมากกว่านี้
มีผู้คนนับไม่ถ้วนที่ต้องเสียสละสังเวยชีวิตของพวกเขา ณ เมืองแห่งนี้ แต่แล้วเมืองนี้ยังเป็นเมืองเกิดของเพื่อนสนิทเขา ครอบครัวเพื่อนคนนั้นอาศัยอยู่ที่นี่
เหนือสิ่งอื่นใดนั้น
"ฉันได้ยินลูกสาวคอยเชียร์อยู่"
สิ่งสำคัญที่สุด เสียงของเธอช่วยเติมพลังให้เขาได้อย่างมหาศาล ตอนนี้ร่างกายของเขาพร้อมเข้าสู่การต่อสู้แล้ว เขาได้ตั้งท่าพร้อมรบ
ตู๊ม!
ซังยอนก้าวไปข้างหน้าอย่างหนักแน่นและมุ่งมั่น เกราะเงินที่ครอบร่างของเขาพร้อมกับผ้าคลุมสีแดงที่สะบัดปลิวไสว
ทันใดนั้นซังยอนรักษาสมดุลร่างกายพร้อมกับพุ่งเข้าหาเจ้าสัตว์ประหลาด
อัศวินสีเงินและสัตว์ประหลาดปรากฎอยู่ใจกลางเมืองลอนดอน และเข้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด
********