DTH ตอนที่ 27 เจ้าบังคับข้า
“นายน้อยท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
โกวชิวิ่งเข้ามาพร้อมกับถามไปด้วย
เขาพึ่งรู้ว่านายน้อยต้องเผชิญหน้ากับนักฆ่าเมื่อคืนนี้
เขาหวาดกลัวมากเสียจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
“เจ้าไม่เห็นรึไงว่าข้าสบายดีรึไม่? รีบไปเอาไข่มาให้ข้าได้แล้ว!”
“ขอรับ!”
ตอนนี้หลิน ฟานโกรธมากเพราะตาขวาของเขาพึ่งจะดีขึ้นแล้วตอนนี้ตาซ้ายของเขาดันมาบวมเพราะโดนต่อยขึ้นมาอีก
ตัวจริงของไอเจ้านักฆ่าคนนี้มันเป็นใครกัน?
เขามีปัญหาอะไรรึเปล่า?
ถ้าจะฆ่าก็ทำซะสิจะรออะไรอยู่อีก
ทำไมเขาต้องทรมานข้าแบบนี้ด้วย?
เจ้านั่นมันใช้ประโยชน์จากการนอนหลับของผู้อื่นและกลั่นแกล้งโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว
น่ารังเกียจ,ไร้ยางอาย,ไอสารเลว,ไอเชี่ยเอ้ยยย
“ลูกพี่ลูกน้อง เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?” หลิน ฟานถามขึ้นมา
โจว เชียงเหมาคิดก่อนที่จะพูดออกมา “ลูกพี่ลูกน้อง ข้าคิดว่านักฆ่าคนนี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อลอบสังหารท่าน เมื่อคืนนี้ข้าได้ประมือกับเขาและพบว่าเขาแข็งแกร่งกว่าข้ามากแต่เขากลับไม่ได้ฆ่าข้า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ข้าคิดว่าเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อสังหารใคร”
“และการที่ข้าพ่ายแพ้ต่อเขาโดยไม่มีโอกาศต่อต้านนั้นแปลว่าการเพาะปลูกของฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ต่ำเลยแม้แต่น้อย และอายุของเขาก็อาจจะไม่น้อยด้วยเช่นกัน”
“ลูกพี่ลูกน้อง ข้านั้นไม่เคยสงสัยในความแข็งแกร่งของตนเอง และในรุ่นใกล้เคียงกับข้าก็มีน้อยคนนักที่จะมีความแข็งแกร่งเทียบเคียงกับข้า”
ในตอนนั้นเองดูเหมือนว่าโจว เชียงเหมาจะคิดอะไรบางอย่างได้ เขาจึงเดินมาที่หน้าต่าง
เขาเอื้อมมือออกไปสัมผัสกับขอบหน้าต่างจากนั้นก็ยกนิ้วขึ้นมาดู “นิ้วของข้ามีฝุ่นอยู่และดูเหมือนว่ามีรอยเท้าบางๆตรงนี้ ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงเขาจะต้องไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้ ในระดับนั้นเขาสามารถฆ่าคนผ่านอากาศได้โดยใช้กำลังภายในเพียงเท่านั้น”
เขาเปิดหน้าต่างออก
มีเสียงแหลมดังขึ้นมา
“ด้วยเสียงหน้าต่างที่ดังขนาดนี้ไม่ว่าใครก็ตื่นตราบใดที่เขาระวังตัว ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย?”
โจว เชียงเหมาจับคางของเขาและทำหน้าครุ่นคิด
เมื่อหลิน ฟานมองไปที่ลูกพี่ลูกน้อง เขาก็ต้องการขอให้ลูกพี่ลูกน้องหยุด แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจริงจังแค่ไหนเขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทันใดนั้นดูเหมือนว่าโจว เชียงเหมาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง “ลูกพี่ลูกน้องข้าเข้าใจแล้ว! เขาทำแบบนั้นเพื่อให้ท่านตื่น เขาคงจะคาดหวังให้ท่านเครียดเมื่อเห็นเขาเข้ามา”
“แต่อย่างไรก็ตามเขากลับทำไม่สำเร็จเพราะท่านนอนหลับลึกเกินไป เขาจึงโกรธและทำร้ายร่างกายของท่าน”
“ก่อนหน้านี้เขาก็ทิ้งเทคนิคการบ่มเพาะจิตใจเอาไว้ให้ท่านด้วย ผู้เชี่ยวชาญแบบนี้จะเผลอทำเทคนิคลับหล่นเอาไว้ได้อย่างไรกัน และนั่นก็หมายความว่าทั้งหมดที่เขาทำนั้นลวนมาจากความตั้งใจของเขาเอง”
“เขาต้องการให้ท่านรับมันไว้”
“บางทีเป้าหมายที่แท้จริงของเขาอาจจะไม่ใช่การลอบสังหารท่าน แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไรนั้นข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หลิน ฟานตกตะลึง เขาคิดมาตลอดเลยว่าลูกพี่ลูกน้องของเขามีดีแค่กล้ามเนื้อแต่ไม่มีสมอง
แต่ตอนนี้เขากลับพบว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาช่างรอบคอบและฉลาดจริงๆ
เขาสามารถคิดหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน
“ลูกพี่ลูกน้องมีอะไรติดอยู่บนหน้าข้างั้นรึ?” โจว เชียงเหมาจับหน้าของเขา การแสดงออกของเขาดูสับสนเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร” หลิน ฟานมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาและหวังให้เขาทำแบบนั้นต่อไป
โจว เชียงเหมาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดีแล้วที่ไม่มีอะไร ข้ามีคำถามมากมาย และหนึ่งในนั้นคือทำไมเขาถึงต่อยแค่ตาของท่าน?”
“เขาอาจจะแค่อิจฉาข้าเพราะข้านั้นหน้าตาดี” หลิน ฟานพูดออกมาด้วยความมั่นใจ
โจว เชียงเหมาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปได้มากทีเดียว”
“ลูกพี่ลูกน้องเจ้าคิดว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?” ตอนนี้หลิน ฟานโกรธมาก ถ้าเขาเจอตัวการเรื่องนี้เขาจะเข้าไปอัดมันซะ
การที่นายน้อยที่ร่ำรวยเช่นข้าโดนทำร้ายมันช่างไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย
ในโลกนี้มันยังมีความยุติธรรมอยู่อีกไหม?
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน” โจว เชียงเหมาส่ายหัวและพูดออกมาตรงๆ “ลูกพี่ลูกน้อง ข้าไม่ทันได้เห็นเขาเลยด้วยซ้ำแล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาคือใคร?”
หลิน ฟานหรี่ตาของเขาจากนั้นเขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
เขาคิดว่าการที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาที่ไม่ได้รู้อะไรเลยแต่กลับสันนิษฐานได้ขนาดนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นานโกวชิก็กลับมาพร้อมกับไข่ต้มร้อนๆ
เขานำผ้ามาห่อไข่ต้มแล้วเอาไปแนบเอาไว้บริเวณตาซ้ายของเขา ความเจ็บปวดมันแล่นไปตามร่างกายของเขาจนทำให้เขาต้องหายใจเข้าลึกๆ
“เจ้าอย่าไปบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาดเพราะมันไม่ใช่เรื่องดีและทำให้ข้าอับอาย” หลิน ฟานพูดออกมา
เขาไม่มีความสุข
เขาจะรังแกข้าไปเพื่ออะไร?
มันจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?
และแม้ว่าเขาจะมีระบบสนับสนุนขนาดเล็กที่สามารถเพิ่มการฝึกฝนของเขาได้ แต่เขาก็ไม่ได้ไปรังแกผู้อื่น
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนมารังแกเขา เขาก็จะไม่ยอมอยู่เฉยแน่
“พวกเจ้าไปได้แล้วตอนนี้ข้าอยากจะอยู่คนเดียว” หลิน ฟานโบกมือของเขา
ทั้งโกวชิและลูกพี่ลูกน้องของเขาออกจากห้องไป
โกวชิตอนนี้เขากำลังรู้สึกกดดันอย่างมาก
เพราะตอนที่นายน้อยถูกลอบสังหารเขากลับไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้เลย
ภายในห้อง
“หืม ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้น?”
คะแนนความโกรธที่เขามีมันเปลี่ยนไปอีกครั้ง
คะแนนความโกรธ: 5,585
“ข้าก็แค่อยากจะเป็นนายน้อยของครอบครัวที่ร่ำรวยและใช้ชีวิตทุกวันด้วยความสุข”
“แต่เจ้ากลับบังคับข้าทั้งๆที่ข้าไม่ต้องการ”
“ถ้าเจ้ากลับมาอีกครั้งดูซิว่าข้าจะจัดการกับเจ้ายังไง”
หากถูกรังแกเป็นเวลาสองคืนติดไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทนได้
ข้าหลิน ฟานถึงแม้จะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งแต่จิตใจของข้านั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่ถูกทำร้ายที่สถานีรถไฟ
ตอนนั้นตัวเขาก็อายุ30แล้วร่างกายจึงอ่อนแอไปตามกาลเวลา
ไม่อย่างนั้นข้าคงจะไม่บาดเจ็บและทำให้ตนเองขายหน้า
ตอนนั้นเองเขาก็ได้ตัดสินใจเพิ่มคะแนนทั้งหมดลงไปที่ร่างกายของเขา
ซู ซู!
คะแนนความโกรธของเขาลดลงอย่างรวดเร็วสวนทางกับสถานะร่างกายของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“อา”
ปุ ปัง!
หลิน ฟานกดมือข้างหนึ่งลงบนพื้น ร่างกายของเขาบวมขึ้นเพราะพลังงานที่เพิ่มขึ้น
การที่เขาใช้คะแนนทั้งหมดร่างของเขาจึงเปลี่ยนจาก 30 เป็น 85 ทันที
เขาขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มเร็วไปสักเล็กน้อย
เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาจะฉีกออกจากกัน
อย่างไรก็ตามมันก็เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆและหายไปอย่างรวดเร็ว
เขามองไปที่สถานะของเขา
ร่างกาย : 85 (เส้นทางการต่อสู้ขั้นสอง)
กำลังภายใน : 1
เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้นหนึ่ง)
เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (จุดสูงสุด)
คะแนนความโกรธ : 85
“30จุดสำหรับขั้นหนึ่ง และตอนนี้ข้าก็อยู่ที่ขั้นสองแล้วดังนั้นถ้าข้าเพิ่มมันต่อไปจนถึง 90จุดแล้วละก็ มันก็น่าจะกลายเป็นขั้น 3”
“ช่างง่ายดายอะไรเช่นนี้”
“มันง่ายจริงๆ ง่ายมากๆเพียงแค่ต้องเพิ่มคะแนนลงไปเท่านั้น”
หลิน ฟานเขาไม่รู้วิธีเพาะปลูกดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าคนธรรมดาต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่จะไปถึงขั้นหนึ่ง และใช้เวลาหลายปีกว่าจะสามารถไปถึงขั้นที่สองได้
และเขาก็ฝึกมันทั้งภายนอกและภายในโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะใช้เวลาในการเพาะปลูกนานกว่าเดิมมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำตอนนี้คือฝึกร่างกาย มันเป็นประเภทของการฝึกฝนภายนอก
การฝึกประเภทนี้มันจะยากว่าการบ่มเพาะจิตใจ คนส่วนมากมักจะยอมแพ้เมื่อฝึกมันไปได้ถึงครึ่งทางเพราะต้องเจอเข้ากับความเจ็บปวดที่ไม่สามารถทนได้ คนที่จะฝึกร่างกายสำเร็จจะต้องเป็นคนแน่วแน่จริงๆเท่านั้น
และหลิน ฟานก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้อีกเช่นกัน
ด้วยการที่เขามีระบบสนับสนุนสิ่งเดียวที่เขาต้องสนใจก็คือการเพิ่มคะแนนลงไปเท่านั้น
แต่เขาก็ขี้เกียจเกินไปที่จะทำแบบนั้น
อย่างไรก็ตามการที่ถูกลอบสังหารสองครั้งมันทำให้เขาอารมณ์เสียมาก
ไม่มีใครอยากที่จะถูกรังแกหรอก
หลิน ฟานยืนขึ้นสูดหายใจเข้าลึกๆและขยับแขนไปมา
เสียงกระดูกของเขาดังออกมาตามการขยับของเขา
“เมื่อการเพาะปลูกของข้าเพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งที่ข้าได้รับจึงเพิ่มขึ้นตาม และตาซ้ายของข้าก็ไม่ได้เจ็บอีกแล้วด้วย” หลิน ฟานรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของเขา
เขาเดินมาที่กระจกและมองเข้าไป
แน่นอนว่าตาซ้ายของเขาก็ไม่บวมอีกต่อไปแล้ว
นี่อาจจะเป็นประโยชน์จากการฝึกร่างกาย
เขารู้สึกว่าการฟื้นฟูและการรักษาตัวของเขามันเพิ่มขึ้น
ราวกับว่าเขาได้ยกเครื่องร่างกายใหม่มาเลยทีเดียว
“ในฐานะที่ข้าเป็นนายน้อยที่ร่ำรวยการมีบาดแผลที่ร่างกายถือเป็นความอัปยศ ข้าจะต้องทำให้ทุกคนรู้ว่าไม่มีใครสามารถทิ้งรอยแผลเอาไว้บนร่างกายของข้าได้”
หลิน ฟานสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยความมั่นใจ
แต่อย่างก็ตาม...
เขาผลักเปิดประตูและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
อากาศวันนี้ค่อนข้างดี
ข้าควรจะออกไปซื้อของสักหน่อย เรื่องที่ข้าได้รับการบาดเจ็บเล็กน้อยมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
เขารู้สึกว่าระบบสนับสนุนนี้ไม่เลวเลย
และดูเหมือนว่าข้าจะต้องหาคะแนนเพิ่มและทำงานหนักอีกสักเล็กน้อย