ตอนที่แล้วบทที่ 6 : ออร์ค? พวกเราไม่มีวันญาติดีกันได้หรอก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 : การค้นพบเหมืองเหล็ก?

บทที่ 7: เหล่าออร์คที่ดึงค่าเฉลี่ยของระดับสติปัญญาให้ลดลง


มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในการที่จะได้เห็นออร์คเผ่าใหญ่ที่ชายแดนแห่งนี้

แม้แต่ที่อยู่ของเผ่าเอลฟ์ขนาดใหญ่ในป่าแบล็คลีฟก็อยู่ไกลออกไปอีกพันกว่ากิโลเมตรจากเมืองชายแดนแห่งนี้ ชุมชนที่อยู่ใกล้เข้ามาก็มีเพียงอาณาจักรมนุษย์และชนกลุ่มน้อยหลากหลายเผ่า

เหล่าเอลฟ์ที่กำลังเดินไปด้านหน้านั้นก้าวเท้าเดินอย่างคล่องแคล่วและแผ่วเบา ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะทำอาชีพอะไร ทุกคนต่างระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ไร้กังวลในขณะเดียวกัน

นั่นเป็นเพราะเหล่าเอลฟ์นั้นเป็นเจ้าแห่งป่า ไม่ว่าศัตรูของพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน ศัตรูพวกนั้นก็ไม่มีทางที่จะสู้ชนะเอลฟ์ในป่าได้

ความสามารถในการปีนต้นไม้นั้นพูดง่ายๆ ก็คือความสามารถที่มีตั้งแต่เกิดสำหรับพวกเขา

ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเอลฟ์เลือดบริสุทธิ์คงไม่สามารถผลักวิลเลียมให้ตกต้นไม้ได้และทำให้นั่นเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุดสำหรับเขา…

วิลเลียมเองก็รู้สึกฉุนเฉียวไม่น้อย เขาไม่เชื่อหรอกว่าไม่เคยมีเอลฟ์ตนอื่นตกต้นไม้มาก่อน แล้วพวกเขาจำเป็นต้องมองมาที่เขาโดยทำราวกับว่ากำลังมองมาที่ไอ้โง่คนหนึ่งด้วยงั้นหรอ?

อีกอย่าง เขาก็ไม่ใช่คนที่ตกเสียหน่อย คนที่ตกต้นไม้จริงๆ น่ะ ได้กลับไปที่ต้นไม้แห่งชีวิตเรียบร้อยแล้ว

เอลฟ์ของหน่วยลาดตระเวนเป็นสุดยอดนักธนูและพวกเขาก็ปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้นานแล้ว สำหรับพวกเขาแล้ว การต่อสู้คือการยิงธนูทุกดอกจากซองใส่ลูกธนูด้วยพลังการต่อสู้ หากศัตรูของพวกเขายังตายไม่หมด พวกเขาก็อาจจะใช้มีดสั้นเป็นอันดับถัดไป

ภายใต้ดวงตาของหน่วยลาดตระเวนที่ซุ่มอยู่ เหล่านักล่าก็เริ่มขุดหลุมรอบๆ เผ่าออร์คอย่างระมัดระวัง ก่อนจะวางไม้ที่ถูกเหลาจนแหลมลงไปในหลุ่มพวกนั้นและผูกสายเชือกที่แทบมองไม่เห็นรอบต้นไม้สองต้น ถ้าศัตรูเผลอเตะมันเข้าล่ะก็ อาจจะมีอะไรหล่นลงมาใส่พวกเขาได้

คันเบ็ดเหล็กขนาดใหญ่พิเศษเป็นกับดักที่แย่ที่สุดที่จะเข้าไปติด

มันเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับล่าอสูรป่าหรืออสูรเวทย์โดยเฉพาะ ด้วยความหนาของผิวหนังพวกออร์ค เท้าของพวกมันจะต้องถูกทำลายในจังหวะที่พวกมันเหยียบลงไปบนนั้น กระดูกของพวกมันจะหักจากคมมีด

วิลเลียมสามารถตรวจสอบค่าสถานะและพลังชีวิตของ NPC ระดับกลางได้

อย่างไรก็ตาม NPC คนอื่นไม่สามารถทำแบบนี้ได้เพราะมันเป็นความสามารถเฉพาะของผู้เล่นเท่านั้น

แต่ละเผ่าพันธุ์หรือสิ่งมีชีวิตมีจุดอ่อนของตัวเอง ตราบใดที่พวกเขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะป้องกันตนเองได้อย่างเต็มที่ จุดอ่อนเหล่านั้นเป็นจุดที่อันตรายถึงชีวิต

นี่เป็นโลกที่แตกต่าง การจะฆ่าใครสักคนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้ถ้าการโจมตีไม่แข็งแกร่งพอ พลังชีวิตของคุณจะลดลงไปเพียง 100 หน่วยเท่านั้น แม้ว่าคอของคุณกำลังจะแยกออกจากตัวคุณก็ตาม เว้นซะแต่ว่าการโจมตีไม่ได้ถูกตรงผิวหนัง

หากวิลเลียมยิงธนูไปโดนผิวหนังของออร์ค  มันแค่จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ไม่เจ็บปวดด้วยซ้ำไป เนื่องจากพลังความแข็งแกร่งในการยิงของเขานั้นอ่อนแอเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นหากเขายิงโดนที่ดวงตา, ปาก, หรือกระโหลกศีรษะ นั่นจึงจะสามารถทำอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตได้

“วิลเลียม ท่านจะยืนอยู่ข้างหลังในการต่อสู้นี้ก็ได้ ข้าจะปกป้องท่านเอง!” ลอทเนอร์ไม่อยากให้เขาร่วมการต่อสู้ นอกจากนั้นเลเวลของวิลเลียมก็ต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับอายุเอลฟ์ปกติเขาก็ยังนับว่าเป็นเด็ก

“ไม่เป็นไร ฉันจะพัฒนาตัวเองได้ยังไงหากไม่เคยต่อสู้เองเลย? ทักษะการยิงธนูของฉันไม่ได้แย่เลยนะ!” ถึงตอนนี้ วิลเลียมยกยิ้มขณะหยิบธนูสีขาวที่มีคุณภาพและลูกธนู จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว

เห็นได้ชัดว่าเขากลายเป็นเอลฟ์ตัวน้อยที่มีความคิดอ่านราวกับผู้ใหญ่ เป็นคนที่จะไม่ตกจากต้นไม้อีกต่อไป

ลอทเนอร์ส่ายศีรษะอย่างหมดหนทาง เขาจ้องมองนักรบที่เตรียมตัวพร้อม ก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ยิงธนูได้!”

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

เสียงลูกธนูแหวกอากาศดังขึ้นต่อกันเรื่อยๆ

เอลฟ์หน่วยลาดตระเวนและเอลฟ์นักล่าที่อยู่บนต้นไม้ ต่างก็ยิงไปยังศัตรูอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นครั้งแรก ในขณะเดียวกันกับที่เหล่าออร์คได้ยินเสียงตะโกน ลูกธนูนับร้อยที่ถูกยิงขึ้นไปบนอากาศก็ตกลงมาใส่พวกมันพร้อมกับเสียงหวีดแหลม

ออร์คราวๆ แปดสิบตนล้มลงบนพื้นทั้งที่ศีรษะของพวกมันยังคงตั้งอยู่ พื้นที่ตรงนั้นถูกเติมเต็มไปด้วยของเหลวจากสมองทั้งสีขาวและสีเหลือง ออร์คจำนวนมากอุทานและร้องออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวก่อนที่จะหลบธนูที่แสนอันตราย

หากลูกธนูยิงเข้าที่หน้าอก มันจะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก ถ้าความแข็งแกร่งในการโจมตีไม่เพียงพอ มันมีโอกาศที่ไม่แม้แต่จะเกิดความเสียหายใดๆ

อย่างไรก็ตาม!

การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของการล็อคเป้าโจมตีจะไม่ทำให้ออร์คธรรมดาตกใจกลัวได้อย่างไร?

หลังจากการยิงอย่างพร้อมเพรียงในครั้งแรก เหล่าเอลฟ์ก็ไม่รอให้ออร์คได้ตอบโต้กลับได้ พวกเขาเริ่มยิงโจมตีอย่างอิสระ

ศรธนูที่ร่วงดั่งสายฝนทำให้เหล่าออร์ควิ่งไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง และไม่สามารถรวมกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อโต้กลับได้

หากถามว่าใครเป็นนักธนูที่แข็งแกร่งที่สุดใน Gods คำตอบที่แน่นอนก็ต้องเป็นเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์อยู่แล้ว! แม้แต่ครึ่งเอลฟ์ก็ไม่สามารถหาที่เปรียบได้!

พวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักธนู

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือวิลเลียม!

พวกเอลฟ์หลายตนที่ยืนอยู่บนต้นไม้มองไปยังลอร์ดของพวกเขาด้วยความประหลาดใจ ทุกๆครั้งที่เขาน้าวสายธนูและยิงลูกศรออกไป เขาจะสามารถโจมตีออร์คได้อย่างแม่นยำ

เขาจัดการพวกมันได้ทันที แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ด้วยลูกธนูแต่พวกมันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

คันธนูที่ถูกใช้โดยเอลฟ์ที่ยังเยาว์วัยอยู่นั้นอ่อนแอมากและมันเหมาะสมที่จะรับมือกับสัตว์เล็กหรืออสูรป่า แต่ออร์คเหล่านี้มีผิวที่หนาและเนื้อที่แข็ง มันคือออร์คที่มีพลังการต่อสู้! คันธนูแบบนี้จะยิงทะลุเกราะป้องกันด้วยพลังต่อสู้ได้อย่างไรกัน?

พวกเขาตกใจจริงๆ

ลอร์ดท่านนี้ดูเหมือนจะเป็นนักธนูมากกว่าพวกเขาเสียอีก ลูกธนูของเขาถูกยิงออกไปเร็วขึ้นและเร็วขึ้นเข้าใส่ดวงตาของออร์คซึ่งเป็นจุดตายได้อย่างแม่นยำทุกครั้ง ยกเว้นออร์คที่แข็งแกร่งซึ่งมีดวงตาที่ลึกกว่า ทำให้ลูกศรของเขาไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ นอกเหนือจากนั้นแล้วเขาก็ยังยิงไม่พลาดเลยสักเป้าเดียว

อย่างไรก็ตามสิ่งที่วิลเลียมอยากจะพูดจริงๆ คือค่าสถานะของเขานั้นไม่เลวเลย นอกจากนี้เขาก็เคยเล่นเกมตั้งหลายเกมอยู่เป็นปีๆ ด้วยทักษะการสังเกตจากการเป็นผู้เล่นแล้ว มันง่ายสำหรับเขาที่จะบอกว่าออร์คตัวไหนอ่อนแอกว่าในหมู่พวกออร์ค

เขาเลือกเฉพาะคนที่ไม่มีพลังต่อสู้เพื่อโจมตี เขารักพวกอ่อนแอ, พวกมีอายุ และเด็กมากที่สุด ผู้คนอาจบอกว่าเขารังแกคนอ่อนแอและเด็ก แต่เขาเห็นเจตนาการฆ่าฟันจากสายตาของเหล่าออร์คได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้เขายังรู้สึกมีความสุขเสียด้วยซ้ำที่เห็นค่าประสบการณ์ของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

ท้ายที่สุดแล้วผู้เล่นใน Gods ก็ยังต้องฆ่าคนหรือมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มระดับในช่วงแรกเริ่มของเกม แต่ในส่วนหลังของเกมนั้นมันยากขึ้นเอามากๆ หากไม่มีภารกิจใดๆ การเพิ่มเลเวลก็ยากพอๆ กับการขึ้นไปสู่สวรรค์!

“ไอ้พวกเอลฟ์ที่น่ารังเกียจ แกกล้ารบกวนเผ่าพันธุ์ปู่ของแกเชียวหรอ?! ฉันจะถลกหนังพวกแกทุกคนทั้งเป็นและเอาเนื้อต้นขาของพวกแกไปทำเป็นเนื้อบาร์บีคิว!” ออร์คที่แข็งแกร่งมากตนหนึ่งกำลังวิ่งออกมาด้วยความโกรธ เขาสวมเสื้อเกราะหนา ออร่าของเขาทั้งดุร้ายและรุนแรง เขาสูงถึง 240 เซนติเมตร ถือฟันหมาป่ายักษ์ซึ่งเป็นอาวุธของเขาขณะที่สะบัดมันไปยังต้นไม้หนาจนต้นไม้ขาดสะบั้น

“ระวังด้วยวิลเลียม! นั่นคือผู้นำของเผ่าออร์ค!” ลอทเนอร์ที่อยู่ใกล้เผ่ามากที่สุดขมวดคิ้วและตะโกนบอกวิลเลียมให้ถอยห่างออกไป

“พวกเวร อย่าวิ่งสิวะ!” ผู้นำเผ่าออร์คตะโกนด้วยความโกรธนำหน้านักรบออร์คกว่าหนึ่งร้อยตนรุดตรงไปยังเผ่าเอลฟ์ เขาไม่เคยมีประสบการณ์ในการถูกเอลฟ์บุกโจมตีมาก่อน

อย่างไรก็ตามได้มีผู้เฒ่าในเผ่าได้เคยกล่าวไว้หลังจากการปะทะกับเอลฟ์ว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือการซ่อนตัว พวกมันต้องโจมตีก่อนแม้ว่านั่นจะเป็นการเดินเข้าไปในกับดักก็ตาม…

แต่สำหรับตอนนี้ คิดมากไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา?

เขาคือออร์คนี่!

มันคงจบเห่แน่ถ้าเขาทำอะไรไม่รอบคอบ!

“ไอ้พวกเอลฟ์ลิงระยำ ทำไมพวกมันถึงกระโดดขึ้นลง?” เขามองเอลฟ์วิ่งอย่างเร่งรีบเข้าไปในป่าทึบ ความโกรธของเขาเพิ่มขึ้นขณะที่รีบรุดต่อไปข้างหน้า

แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ไปได้ไม่ถึงร้อยเมตรด้วยซ้ำ

ออร์คที่เหยียบกับดักกรีดร้องไม่หยุดด้วยความเจ็บปวด แท่งไม้ไผ่แหลมคมทุกรูปแบบ, หนามแหลมบนพื้นดิน, กับดักจับสัตว์ขนาดใหญ่ และร่องลึกสามเมตรที่เต็มไปด้วยไม้แหลมทำให้เหล่าออร์คตกลงสู่ความสิ้นหวังในทันที…

มันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว…

วิธีที่เอลฟ์จัดการเผ่าออร์คขนาดเล็กนั้นคล้ายๆ กันหมด

พวกเขาจัดเตรียมกับดัก

ยิงธนู

ทำให้โกรธ

แล้วเหล่าออร์คก็เดินเข้ามาติดกับดัก…

จากนั้น ออร์คชูกำปั้นด้วยความโกรธและรู้สึกเหมือนถูกหลอก ไม่ว่าอย่างไรศัตรูของพวกมันอยู่แค่ตรงหน้า พวกมันกำลังจะตามทันอยู่แล้ว! ถัดจากความโกรธที่กำลังลุกไหม้ในหัวใจ พวกมันก็ยังคงเร่งเดินหน้าต่อไป

พวกมันพุ่งเข้าชนกลุ่มนักดาบเวทย์เอลฟ์ที่อยู่ในชุดประณีตสวยงามและกลุ่มของนักรบเอลฟ์ที่กำลังปกป้องและเฝ้าระวังทั้งสองฝ่ายอย่างระมัดระวัง

นักดาบหนึ่งร้อยคนเข้าทำการโจมตีในเวลาเดียวกัน ทำให้ต้นไม้ทั้งหลายกลายเป็นท่อนไม้ชิ้นหนักล้มลงบนพื้น ผู้โชคร้ายหลายคนถูกบี้โดยเหล่าไม้พวกนั้นในทันที

เหล่าออร์คที่ยังไม่ทันได้รวมกลุ่มกันดีก็ถูกตัดเป็นชิ้นๆ อย่างต่อเนื่อง ต่อให้พวกมันจะใช้พลังการต่อสู้ของพวกมันเพื่อสร้างเกราะป้องกันตัวเองอีกชั้น เงามากมายลอยผ่านเข้ามาและทันทีหลังจากนั้นเลือดก็สาดกระจายไปทั่วทุกที่

มันแทบจะเป็นการปะทะรอบเดียว!

กลุ่มนักรบออร์คที่แทบจะไม่เหลือรอดก็ต่างสิ้นลมไม่ก็บาดเจ็บ เมื่อเป็นดังนั้น เหล่าเอลฟ์นักรบก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มและบุกเข้าโจมตีตัวเผ่าอย่างเต็มที่

ไม่มีทางอื่นให้เลือก

สติปัญญาของพวกออร์คนั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยทั่วไปที่ควรค่าแก่การพิจารณา ไม่ใช่แค่พวกมันดึงให้ค่าเฉลี่ยของระดับสติปัญญาของทุกคนในเกมให้ลดลง แต่พวกมันยังดึงให้ค่าเฉลี่ยของระดับสติปัญญาของเผ่าพันธุ์ใหญ่ๆ ลดลงอีกด้วย…

ครั้งหนึ่งใครบางคนเคยจงใจผ่าเปิดหัวของออร์คตนหนึ่งออก หลังจากศึกษาวิจัยและการตรวจสอบประมาณหนึ่ง พวกเขาสรุปอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่แค่สมองของออร์คนั้นมีเส้นประสาทน้อยเท่านั้น แต่ในนั้นยังเต็มไปด้วยน้ำอีกด้วย…

นอกเสียจากว่านั่นจะเป็นออร์คผู้วิเศษหรือพ่อมดมนต์ดำ สติปัญญาของพวกเขาจึงจะเทียบเทียมกับมนุษย์และพวกเขาก็จะไม่ถูกหลอกเข้าไปในกับดักได้ง่ายๆ

ผู้วิเศษหรือพ่อมดมนต์ดำประเภทนี้จะเป็นที่ปรึกษาของออร์คผู้นำ

ในสถานการณ์ปกติ ผู้วิเศษจะมีหน้าที่ในการสั่งการการรบจากด้านหลังสุดในขณะที่ตัวผู้นำจะนำหน้าทหารของเขาเข้าสู่สนามรบ

ตัวผู้นำจะไม่ตายตราบใดที่ตัวผู้วิเศษนั้นไม่ตาย เขาสามารถที่จะเลือกผู้นำตัวอื่นก็ได้!

อย่างไรก็ตาม สำหรับเผ่าออร์คเผ่าหนึ่งที่มีจำนวนประชากรแค่หลักร้อยนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะมีออร์คผู้วิเศษซักตน

ถึงอย่างนั้นก็มีเหตุการณ์โง่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

นั่นคือการที่สติปัญญาของออร์คผู้นำนั้นสูงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเขาเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าเขาอาจจะตกเข้าไปในกับดัก

ดังนั้นจากความคิดต่างๆที่น่าอัศจรรย์ เขาก็จะทำให้สติปัญญาของฝ่ายตรงข้ามต่ำลงและใช้ความคุ้นเคยกับพื้นที่เพื่อผลิกหลังมือเป็นหน้ามือ ในกรณีนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาในการที่จะปราชัยศัตรู!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด