บทที่ 5: การเติบโตของชุดเกราะชั้นใน
ขณะที่ทั้งคู่เดินไปรอบๆ เมือง เหล่าชาวไร่ชาวนาที่เห็นพวกเขาก็ต่างทักทายเขาอย่างสุภาพ
หากถามว่าจริงๆ แล้วพวกเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับวิลเลี่ยมนั้น เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ได้เลย
Gods คือเกมๆ หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ดีเยี่ยมจากนักคิดของเกมนี้นั่นคือการที่ NPC ทุกคนนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง พวกเขาทุกคนมีรหัสความคิดเป็นของตัวเอง ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเองและแม้แต่มีอุดมการณ์และครอบครัวเป็นของตัวเอง
และนั่นเป็นเหตุผลที่มันไม่ควรจะทึกทักเอาเองว่าวิลเลียมจะชอบตำแหน่งลอร์ดของเขาหลังจากที่เขาได้รับสืบทอดมัน และก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะไม่ใส่ใจและจงรักภักดีกับเขาเสียหน่อย
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็มีความปราดเปรื่องในทางของพวกเขาและก็เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยในการที่จะต่อรองกับพวกเขา
แม้แต่ลูกเล็กเด็กแดงจากครอบครัว NPC ทั่วไปก็ยังสู้กันเองเพื่อแย่งชิงอาหารและของเล่น
ในตอนต้นของเกม ผู้เล่นหลายคนจะยังคงอยู่ในอาณาจักรไม่ไปไหนและเมื่อพวกเจ้าชายต่อสู้เพื่อช่วงชิงราชบัลลังค์ พวกเขาก็อาจจะปล่อยภารกิจหลักออกมา
เขายังคงจำได้ว่าหนึ่งในภารกิจหลักในทวีปรีเจนดารีเวอร์ชั่น 1.0 นั้นเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างอาณาจักรเหล็กและอาณาจักรลาวาดำ เหตุผลของการต่อสู้ครั้งนั้นเป็นเพราะราชาของอาณาจักรลาวาดำได้สวรรคตลงและพวกเจ้าชายก็ต่างต่อสู้กันเพื่อชิงมงกุฎ ซึ่งนำไปสู่การรุกรานพระราชวังโดยอาณาจักรเหล็ก และที่สุดก็ลงเอยด้วยสงครามที่ยาวนานถึงหนึ่งปี
หลายสิ่งหลายอย่างนั้นไม่ลงรอยกันอยู่ และหากพวกเขาไม่ระมัดระวัง มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับผู้เล่นที่จะถูกปล่อยให้ตาย
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เล่นสามารถฟื้นคืนชีพได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยกลัว! มีวิธีตั้งมากมายในการทำสิ่งต่างๆ และการตายก็เป็นแค่หนึ่งในนั้น! นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นหลายคนจึงเลือกเส้นทางนี้ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้เล่นที่จะมุทะลุเข้าไปทิ้งชีวิต
ในเมื่อมันคือเกม แน่นอนว่าจะต้องมีการฆ่ามอนสเตอร์ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วมอนสเตอร์จะให้เพียงส่วนประกอบ ไม่เคยมีบอสตนไหนที่ให้อุปกรณ์หรือชุดเกราะเลย
หลังจากที่ผู้เล่นฆ่าอสูรหรือมอนสเตอร์ พวกเขาสามารถเก็บฟัน, เขี้ยว, อวัยวะ, หรือส่วนอื่นๆ จากพวกอสูรหรือมอนสเตอร์ได้ จากของที่เก็บมา พวกเขาสามารถเลือกที่จะขายชิ้นส่วนเหล่านั้นหรือใช้สร้างอุปกรณ์สำหรับพวกเขา
ตอนที่เกมนี้ยังคงอยู่ในเวอร์ชั่นเบต้า ยังไม่มีผู้เล่นมากเท่าไหร่นัก ในระหว่างเวอร์ชั่นแรก มีผู้เล่นเพียงแค่ไม่กี่แสนคนเท่านั้นในประเทศจีนและตัวเกมก็โยนพวกเขาทั้งหมดไปอยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรเหล็กและอาณาจักรลาวาดำอย่างไม่มีเหตุผล
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นจำนวนไม่น้อยก็ถูกโยนไปที่เมืองที่อยู่ในชายแดนข้างๆ สองอาณาจักรนี้
อย่างไรก็ตาม เวอร์ชั่นแรกนั้นออกมาแค่เพียงปีเดียว ปีเดียวในที่นี้คือเวลาในเกม ในโลกแห่งความจริงนั้นเป็นแค่สามเดือน
วิลเลียมคนในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาดูเหมือนจะดึงตัวเองออกมาไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามระหว่างสองอาณาจักรนี้และต้องการผลประโยชน์บางอย่างจากมัน ถึงกระนั้น มันก็เป็นเรื่องที่เห็นๆ กันอยู่ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย จากการที่เขาถูกหยุดยั้งและถูกโจมตีด้วยอำนาจจากทุกๆด้านโดยอาณาจักรเหล็กภายในช่วงเวลาหกเดือนและจบที่หัวของเขาถูกแขวนไว้ข้างน้ำตก...
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ผู้เล่นบางคนที่ผ่านไปมาก็จะยกย่องชื่นชมกระโหลกศีรษะของ ‘ท่านลอร์ด’ ผู้กล้าหาญจากไกลๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะมีเอลฟ์ผู้พิทักษ์สายเลือดบริสุทธิ์มากมายพร้อมทั้งสายเลือดระดับสูง และมีนักล่าปีศาจจากหน่วยลาดตระเวนผู้มาพร้อมกับสายเลือดระดับอีปิกอย่างลอทเนอร์ เขาก็ยังคงไม่ใช่คู่แข่งสำหรับอาณาจักรพวกนั้น
“ฉะนั้นก็สร้างกำแพงสูงๆ, สะสมอาหาร, และกลายเป็นราชาอย่างช้าๆ!” วิลเลียม แบล็คลีฟถอนหายใจในขณะที่ชายตามองไปยังบ้านเรือนที่สูงแต่คดงอและแตกหักในอาณาเขตของเขา
“ท่านลอร์ดพูดว่าอะไรนะ?” ลอทเนอร์เกาหูราวกับว่าเขาได้ยินวิลเลียมไม่ชัด
“มันไม่มีอะไรหรอก เราเหลือธัญพืชและเหรียญทองอีกเท่าไหร่หรอ?” มุมปากทั้งสองของวิลเลียมยกขึ้นขณะที่เขาเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย
“เรายังคงมีธัญพืชเหลือประมาณสามหมื่นกิโลกรัม จากทั้งหมดเรามีข้าวและมอลต์เยอะที่สุด เรามีเนื้อเค็มอีกพอประมาณทีเดียว ประมาณหนึ่งหมื่นสองพันกิโลเต็มๆ สำหรับทอง… เรามีทองด้วยงั้นหรือ?” ลอทเนอร์พูดพร้อมกับเริ่มเดินเข้าไปในวงเวียน
วิลเลียม แบล็กลีฟนั้นกำลังตกใจอย่างแรง “อย่างน้อยนี่ก็เป็นเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง! แม้แต่ห้องนิรภัยสักห้องก็ไม่มีเลยหรอ?”
ลอทเนอร์พยักอย่างอึกอัก “ใช่แล้ว เราไม่มีห้องนิรภัยด้วยเหตุผลที่ว่ารายรับของเมืองนั้นยังไม่ได้สูงมากนัก ตอนที่พ่อของท่านลอร์ดยังดำรงตำแหน่งอยู่ ตอนนั้นยังคงมีเหมืองเหล็กสำหรับให้คนของเราเข้าไปขุดได้”
“แต่ว่าตอนนี้เหมืองเหล็กอันนั้นร้างแล้ว และเราก็ยังคงไม่สามารถหารายรับจากแหล่งอื่นได้ เราอาศัยเนื้อจำนวนเล็กน้อยที่นักล่ามอบให้ รวมถึงภาษีที่มนุษย์จ่ายให้จากการทำงานฟาร์มของพวกเขา มันก็ดีมากพอแล้วที่การเงินของเราไม่ติดลบ!”
มุมปากของวิลเลียมกระตุก เขาอยากจะถามเหลือเกินว่าที่ผ่านมาก่อนหน้านี้พวกเขาได้ลองหารายรับแหล่งอื่นบ้างหรือยัง
เขาจำได้เพียงเรือนลางถึงเหตุผลที่อาณาจักรเหล็กและอาณาจักรลาวาดำบุกโจมตีเมืองชายแดนว่าไม่ใช่แค่เพราะพวกเขาอยากจะกำจัดมัน แต่เป็นเพราะที่เมืองชายแดนนั้นมีทรัพยากรดิบหายากมากมายที่สามารถหาได้ในป่าแบล็คลีฟทางตอนใต้ของเมืองมากกว่า!
นั่นก็หมายความว่า ในป่าแห่งนี้ทางตอนใต้ของเมืองชายแดนจะต้องมีเหมืองยักษ์สักแห่งอยู่!
หนึ่งในทรัพยากรที่สำคัญที่สุดคือ แร่มิทริล ที่พบในช่วงก่อน!
เขาคิดไปถึงว่าอาจเพราะสิ่งนี้ที่เป็นผลทำให้เมืองชายแดนถูกเพ่งเล็งจะกำจัดให้ราบ
“เอาเป็นว่า อย่าคิดมากไปเลยท่านลุงลอทเนอร์ ท่านลุงพอจะมีเวลามั้ย? เราไปล่าสัตว์ในภูเขาและผ่อนคลายกันดีกว่า” วิลเลียมรู้ตำแหน่งของหนึ่งในเหมืองทั้งหลาย มันไม่ไกลมากนัก แต่เขาก็พูดไปตรงๆ ไม่ได้อีก ดังนั้นเราคงได้แค่ใช้การล่าสัตว์เป็นเหตุผลเพื่อดึงลอทเนอร์ไปที่นั่น
สำหรับแร่มิทริลนั้น มันยังไม่ใช่เวลา...
เขาต้องบอกว่า
ตั้งแต่เขามีหน้าต่างสถานะและสามารถมองเห็นระดับความจงรักภักดีของคนอื่นต่อเขาได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องให้แม่ของเขามากังวลเกี่ยวกับเรื่องความสมัครใจของคนขุดแร่อีกต่อไป
“ก็ดีเหมือนกัน เห็นว่าท่านลอร์ดนอนอยู่แต่บนเตียงตั้งหลายวันนี่ ได้เวลาไปฝึกฝนฝีมือตัวเองแล้ว งั้นกลับไปเตรียมอุปกรณ์ของท่าน, คันธนู และลูกธนูมาให้พร้อม แล้วก็น่าจะดีกว่าถ้าท่านลอร์ดสวมเกราะชั้นในที่แม่ของท่านทิ้งไว้ให้ เผื่อไว้สำหรับอุบัติเหตุ” ลอทเนอร์ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะวิลเลียมคนก่อนก็ชอบล่าสัตว์ โดยเฉพาะพวกเหยื่อที่ไม่มีความพิเศษอะไรและธรรมดา…
“ฮึ่ม เป็นความคิดที่ดี มีวิธีที่ทำให้ตายเป็นล้านๆวิธี ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อนน่าจะสำคัญที่สุด” วิลเลียมกลับไปยังบ้านต้นไม้ของเขา และค้นในตู้เสื้อผ้าของเขา ในที่สุดเขาก็เจออุปกรณ์ของเขาในกล่องใบหนึ่ง
ในนั้นมีดาบสีขาวธรรมดาเล่มหนึ่ง
และคันธนูที่ยังคงเป็นสีขาวแบบธรรมดาอีกหนึ่งคัน
คุณสมบัติของอุปกรณ์นั้นแย่มาก และการใช้พวกมันก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่ได้ใช้ นอกจากนั้น เพราะวิลเลียมเองก็ยังไม่ได้เปลี่ยนอาชีพของเขา เขาจึงไม่สามารถใช้อะไรที่มันดีเกินไปได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เกราะชั้นในนั้นดีเยี่ยม
วิลเลียมอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน
มันเป็นเกราะชั้นในอันนุ่มทำมาจากมิทริลที่มีรากของต้นไม้แห่งชีวิตปกคลุมไว้ โดยมีแสงสีเงินและสีทองส่องประกายเล็กๆออกมา แม้จะไม่มองหน้าต่างคุณสมบัติของมัน วิลเลียมก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นของล้ำค่า
พรแห่งความรัก
คุณภาพ: อีปิก
ระดับตำแหน่ง: ไม่มี
ประเภท: อุปกรณ์ป้องกันอย่างหนึ่งที่สามารถเจริญเติบโตได้
ส่วนประกอบ: มิทริล,ใบไม้จากต้นเวิลด์หนึ่งใบ, ผงทอง และอื่นๆ อีกมากมาย
ผู้สร้าง: อลิซ แบล็คลีฟ
พลังชีวิต: +300
ความแข็งแกร่ง (สเตมินา): +100
ค่าพลังโจมตี: +6
ค่าความแข็งแรงทางกายภาพ: +10
ค่าความว่องไว: +8
ค่าสติปัญญา: +5
ความทนทาน: 450/450
น้ำหนัก: 0.3 กิโลกรัม
การป้องกัน: ภายในพื้นที่ที่ป้องกันโดยชุดเกราะชั้นใน ค่าการถูกโจมตีจะลดลง 100 แต้ม มันจะไม่สามารถทำอันตรายแก่ชุดเกราะชั้นในและผู้ใช้ได้ หากใช้งานเป็นเวลานานเกินไป อาจมีผลกระทบต่อความเสียหายและความทนทานจะลดลง
การป้องกันธาตุ: การโจมตีโดยธาตุใดๆ จะถูกลดลงโดย 10%
พรแห่งความรัก (แฝง): เมื่อพลังชีวิตของผู้ใช้ต่ำกว่า 10% ผู้ใช้จะได้รับ[พรแห่งความรัก] และได้รับแต้มพลังชีวิตคืนทันที 50% ระยะเวลาคูลดาวน์คือสามชั่วโมง
ข้อจำเป็นในการใช้: วิลเลียม แบล็คลีฟ
ข้อจำเป็นในการใช้: ค่าพละกำลัง 20 แต้ม
ข้อจำเป็นในการเจริญเติบโต: ใส่มิทริลหนึ่งกิโลกรัมในชุดเกราะชั้นในอันนี้ จากนั้นมันจะดูดซึมและเจริญเติบโตโดยอัตโนมัติ
ข้อมูล: นี่คือเกราะชั้นในที่แม่ทำขึ้นเพื่อลูกของเธอเป็นการส่วนตัว สิ่งนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความรักของแม่ที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังมีพรที่อบอุ่นของแม่ที่จะโอบกอดชุดเกราะนี้อีกด้วย
วิลเลียม แบล็คลีฟนั่งอยู่บนพื้นด้วยความงุนงง มือของเขาจับชุดกราะชั้นในไว้แน่น จู่ๆ เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับชุดเกราะชั้นในขึ้นมา
เป็นตอนนั้นเองที่เขาตระหนักได้ว่า
แม่ของเขาในโลกนี้ใส่ใจเขามากแค่ไหน
สำหรับวิลเลียมคนก่อนที่จากไปแล้วนั้นในระหว่างสงครามเขามั่นใจได้เลยว่าเขานำสงครามเหล่านั้นมาใส่ตัวเอง เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นถึงต่อให้ฟ้าจะถล่มแม่คนนี้ที่ชื่ออลิซ แบล็คลีฟก็จะมาช่วยเขาอย่างแน่นอน
“ความรักของแม่เป็นสิ่งที่ดี ถ้าฉันมีโอกาส...” วิลเลียมส่ายหัว ตอนนี้เขายังคงอ่อนแอ ดังนั้นจึงไม่ควรคิดอะไรมากเกินไป การมีชีวิตอยู่จนถึงตอนจบคือกุญแจหลักที่ต้องทำ