บทที่ 3: เผ่าพันธุ์จากหลากมิติและสายอาชีพ
วิลเลียม แบล็คลีฟกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องอนาคตและฝันถึงการขึ้นไปยังจุดสูงสุดบนยอดพีระมิด
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางด้านหลัง
เขาหันกลับไป และสิ่งที่เห็นคือขาเรียวยาว เอวคอดกิ่ว และทรวงอกที่มีขนาดกำลังดี...
นั่นคือเอลฟ์หญิงสายเลือดบริสุทธิ์ผู้สง่างามและสวยจนแทบละสายตาไม่ได้
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะบอกความแตกต่างระหว่างเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์และพวกเลือดผสมจากสีผมและนัยน์ตา
โลกใบนี้ถูกแบ่งออกเป็น 9 ทวีปที่แตกต่างกัน ตอนนี้เขาอยู่ที่ทวีปรีเจนดารี ที่ทวีปนี้มีเผ่าเอลฟ์ไม่กี่เผ่าท่ามกลางเหล่าเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามพวกเขามีสีผมที่เหมือนกันรวมถึงสีตาอีกด้วย
สำหรับลูกครึ่งเอลฟ์ พวกเขารู้สึกค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย…
เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียวที่ผมของพวกเขาจะมีมากกว่าหนึ่งสี และบางทีนัยย์ตาข้างหนึ่งอาจเป็นสีเหลืองส่วนอีกข้างเป็นสีเขียว นี่ก็เป็นหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่เอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ไม่ยอมรับพวกครึ่งเอลฟ์
อ้างอิงจากสิ่งที่เหล่าผู้เล่นพูด พวกครึ่งเอลฟ์ทำให้ความงามของเหล่าเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ตกต่ำและนั่นคือสิ่งที่ไม่สามารถให้อภัยได้
แต่ก็นับว่าโชคดีที่สายเลือดระดับรีเจนดารีพ่อของวิลเลียมนั้นทรงพลังพอๆกับแม่ของเขาเลยทำให้เขาดูไม่ได้แตกต่างจากเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์คนอื่นๆ
“ท่านลอร์ด ฉันได้ยินว่าท่านตื่นแล้ว ฉันเลยมาเยี่ยมค่ะ” เสียงอันแสนนุ่มนวลเปล่งออกมา วิลเลียมแสร้งป่วย “เซีย เธออย่าเรียกฉันว่าลอร์ดเลย ฉันสบายดี แค่หัวของฉันยังเจ็บอยู่นิดหน่อยและฉันก็จำอะไรไม่ค่อยได้เลย”
“ถ้าท่านลอร์ดของฉันสบายดีก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อย่างไรก็ตามท่านควรดื่มนี่นะคะ” ร่างสูงของเซียกล่าวด้วยใบหน้าเสแสร้งขณะที่ส่งขวดสีเขียวหยกใบเล็กๆมาให้เขา
เขารับมันมาก่อนที่ข้อมูลของไอเทมจะปรากฎขึ้น เขาต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่แสดงอาการตื่นเต้นออกไป ขณะที่เอ่ยถามด้วยความสงสัย “นี่คืออะไร?”
“ไลฟ์โพชั่นค่ะ ตั้งแต่ตอนที่ฉันรู้ว่าท่านสลบไประหว่างกำลังตกลงจากต้นไม้...” ณ จุดๆนี้เซียไม่สามารถห้ามตัวเองได้ ได้แต่สูดหายใจเข้าลึกๆ
ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเขาจะเป็นเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์หรือเอลฟ์เลือดผสม การตกจากต้นไม่ก็เป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้าอยู่ดี นอกจากนั้นแล้วเขาก็ยังสลบติดต่อกันไปหลายวันอีกด้วย...
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากพูดต่อไป “หลังจากที่ท่านพลัดตกลงมา เราได้ให้ผู้วิเศษมาตรวจอาการของท่าน ดูเหมือนว่าจิตสำนึกของท่านจะสับสนนะคะ”
“ลอทเนอร์เร่งไปที่เมืองดาร์คไนท์เพื่อไปเอาไอเทมของนักบุญจากแม่ของท่าน เขาเพิ่งจะกลับมา ถึงแม้ว่าท่านจะฟื้นแล้วแต่ไหนๆ เราก็ได้มันมาแล้วท่านก็ควรดื่มมันนะคะ”
วิลเลียมลังเลเล็กน้อยก็จะพยักหน้า “ฝากไปขอบคุณลอทเนอร์ด้วยนะ ไว้ฉันจะไปหาเขาเป็นการส่วนตัว”
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อน ช่วงนี้อาณาเขตเงียบสงบดี ท่านลอร์ดสามารถพักผ่อนไปได้อีกสองสามวันเลยค่ะ!”
“ขอบคุณมาก” วิลเลียมกล่าวขณะจ้องมองโพชั่นในมือ
อย่างไรก็ตาม...
เซียผู้หยิ่งยโสได้หันหลังกลับและออกไปโดยไม่สนใจท่านลอร์ดลูกครึ่งเอลฟ์ของเธออีก
ตามจริงแล้วหลังจากที่เขาตื่นเขาไม่ควรได้รับไอเทมของนักบวชที่ล้ำค่าเช่นนี้ แต่เซียก็ยังคงมอบมันให้เขา อย่างน้อยมันก็หมายความว่าคนเหล่านี้ยังภักดีต่อเขาอยู่
แม้ว่าภายนอกเธอจะไม่ได้เคารพเขาจริงๆ แต่เธอก็ยังภักดีต่อเขา
วิลเลียมรู้ว่าในชีวิตก่อนหน้านี้ องครักษ์เอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์เหล่านี้ก็ยังคงติดตามท่านลอร์ดที่โง่เขลาของพวกเขาต่อไปจนกระทั่งเขาเสียชีวิต
“ฉันจะแก้ปัญหาความเป็นผู้นำนี้ในภายหลัง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ความสามารถติดตัวของฉันจะสามารถแก้ไขได้ในตอนนี้” วิลเลียม แบล็คลีฟถอนหายใจก่อนจะยกมือที่ถือขวดใบเล็กขึ้นมาดู
ไลฟ์โพชั่น
เลเวล : รีเจนดารี
จำนวน : 10 หยด
วิธีใช้ : 1 หยดสามารถฟื้นฟูอาการเชิงลบทั้งหมดได้ทันที, 2 หยดสามารถฟื้นฟูแต้มพลังชีวิตทั้งหมดได้ทันที, 3 หยดสามารถทำให้กระดูกที่หักผสานกันได้
ยิ่งใช้ไลฟ์โพชั่นมากเท่าไหร่ประสิทธิภาพก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น มันสามารถที่จะส่งผลให้มีโอกาสกลับมามีชีวิตได้แม้ว่าจะมีขีดจำกัดเพียง 10 หยดก็ตาม
คุณสมบัติพิเศษ : ไลฟ์โพชั่น 1 หยดสามารถต่ออายุขัยได้ 100 ปี
คุณสมบัติพิเศษ : ไลฟ์โพชั่น 1 หยดสามารถเพิ่มค่าสถานะทุกค่าได้จำนวน 5 แต้ม สามารถใช้ได้สูงสุด 10 หยด
คุณสมบัติพิเศษ : ไลฟ์โพชั่น 1 หยดสามารถเพิ่มพลังชีวิตได้ 100 หน่วย สามารถใช้ได้สูงสุด 10 หยด
ข้อจำกัด : เมื่อใช้ครบ 10 หยดแล้วจะไม่สามารถใช้คุณสมบัติพิเศษได้อีก
นี่เป็นไอเทมที่ดีอันนึง
สิ่งนี้คงเป็นสมบัติล้ำค่าของพวกเอลฟ์อย่างไม่ต้องสงสัย มันมีค่ามากกว่าอุปกรณ์ระดับรีเจนดารีเสียอีก
“หรือว่าสิ่งนี้อาจทำให้วิลเลียมคนก่อนฟื้นคืนชีพขึ้นมา!” วิลเลียม แบล็คลีฟขมวดคิ้ว “หลังจากที่ฟื้นคืนชีพ ฉันก็ได้รับความทรงจำแค่บางส่วนของเจ้าของร่างนี้ บางทีเจ้าโง่นี่อาจโดนใครบางคนลอบสังหารวิญญาณ ไม่อย่างนั้นการตกจากต้นไม้ก็ดูไม่สมเหตุสมผลกับค่าสเตตัสของครึ่งเอลฟ์เท่าไหร่”
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ลิงแรกเกิดจะรู้วิธีปีนต้นไม้และเอลฟ์อายุสามปีจะสามารถจับนกได้
“ลูกครึ่งเอลฟ์จะอ่อนแอกว่าเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยระดับความว่องไวของเรา มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะตกจากต้นไม้ หรือว่ามีคนพยายามจะฆ่าฉัน?”
เขาลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน สีหน้าของเขาค่อนข้างซีดเล็กน้อย พร้อมกับอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา “จากการที่วิลเลียมคนก่อนหน้านี้เกือบตาย พวกเราได้วางแผนที่จะหลีกเลี่ยงหายนะจนถึงที่สุดและดูเหมือนการลอบสังหารก็หยุดลงแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงเวลานี้ฉันคงยังไม่ตกอยู่ในอัตรายมากนัก ตอนนี้สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ปัจจัยหลักคือการทำให้ตนเองเติบโตอย่างรวดเร็ว!”
สำหรับคนที่เคยฆ่าเขานั้น...
วิธีการที่คนๆ นั้นใช้ลอบสังหารเขา ตอนนี้วิลเลียมคิดไม่ออกเลยจริงๆ มันเป็นเรื่องง่ายในการพูดเกี่ยวกับการสังหารวิญญาณอย่างเงียบเชียบ แต่มันเป็นเรื่องยากมากๆ ในการจะทำ
คนที่จะทำได้อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับปานกลาง หรือมันอาจจะเป็นการกระทำของ NPC ระดับสูงโดยส่วนตัว…
ขอบเขตมันกว้างเกินไปในตอนนี้ ทำให้เขาไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ มันอาจจะเป็นเหล่าแม่มดลึกลับที่แข็งแกร่งและพวกจอมเวทย์ หรือถ้าบางอาชีพที่มีสกิลพิเศษ พวกเขาเองก็อาจจะทำได้เช่นกัน
ใครจะฆ่าเขากันนะ?
ทำไมคนๆ นั้นถึงฆ่าเขา?
มันมีประโยชน์อะไรจากการฆ่าเขารึเปล่า?
“ลูกครึ่งเอลฟ์, เอลฟ์เชื้อพระวงศ์จากตระกูลแบล็คลีฟ หรือศัตรูของพ่อ?” วิลเลียม แบล็คลีฟส่ายหัว ขอบเขตมันยังคงกว้างไป
พวกเอลฟ์เชื้อพระวงศ์ตระกูลแบล็คลีฟไม่น่าจะเป็นคนทำ
อย่างแรกเลย พวกเอลฟ์ที่หยิ่งยโสกลุ่มนี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะก้มหัวให้กับการลอบสังหาร
อย่างที่สอง ถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะฆ่าเขาจริงๆ เพื่อทำให้สายเลือดราชวงศ์คงความบริสุทธิ์ไว้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องรอจนถึงตอนนี้ อีกอย่างเขาเองก็โตขึ้นในเมืองดาร์คไนท์ ที่ผ่านมาจึงมีโอกาสมากมายที่เขาจะเกิด ‘อุบัติเหตุ’
และอย่างที่สาม มันยิ่งไม่มีความจำเป็นสำหรับพวกเขาที่จะยกไลฟ์โพชั่น 10 หยดให้เขาและมอบโอกาสให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อแม่ของเขาไม่สามารถที่จะมีไลฟ์โพชั่นมากถึง 10 หยดในครอบครองได้ ตั้งแต่ต้นไม้แห่งชีวิตถูกโจมตี เหล่าเอลฟ์เชื้อพระวงศ์ก็เหลือไลฟ์โพชั่นเพียงเล็กน้อยในครอบครอง พวกเขาอาจจะสู้กันเพื่อซ่อนมันด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นแล้วพวกเขาจะให้มันกับคนอื่นง่ายๆ ไปทำไมกัน?
“ฉันไม่รู้ว่าแม่ของฉันผู้ที่ฉันลืมชื่อไปนั้น ต้องเสียสละอะไรไปบ้างเพื่อให้ได้ไลฟ์โพชั่นนี้มา…” หัวของวิลเลียมปวดตื้อขึ้นมา
บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เอลฟ์ตระกูลแบล็คลีฟไม่เคยเล็งมาที่เขา แม้แต่ตอนที่เขาตายในสงความที่วุ่นวายทั้งหลาย
บางทีไลฟ์โพชั่นที่แสนจะล้ำค่าขนาดที่สามารถทำให้คนเราฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ทั้ง 10 หยดนี้ อาจจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากแม่ของเขา
“ฉันกำลังคิดมากเกินไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ตอนนี้ฉันมีโอกาสเพิ่มเลเวลแล้ว ฉันเป็นท่านลอร์ดคนนั้นแล้วถูกต้องมั้ย? ดังนั้นถ้าว่าตามวิถีของลอร์ด นอกจากการต่อสู้กับมอนสเตอร์และทำภารกิจ ฉันยังสามารถเพิ่มเลเวลโดยการทำภารกิจของลอร์ดให้สำเร็จได้ด้วย?” คิดมาถึงตอนนี้ วิลเลียมก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักออกมา
Gods นั้นต่างออกไปจากเกมปกติอื่นๆ เล็กน้อย
มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หากผู้เล่นต้องการจะครอบครองโลก
อย่างไรก็ตาม…
อาณาจักรเล็กๆ ในทวีปรีเจนดารีนั้นซับซ้อนมาก ต่อให้มันเป็นเพียงภารกิจหลักที่แต่ละอาณาจักรมี ผู้เล่นธรรมดาก็แทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับมันง่ายๆ
ในตอนแรกเริ่มนั้น เหล่าผู้เล่นเป็นเพียงส่วนเล็กที่แทบจะไม่มีค่าในเกมและพวกเขาก็แทบจะไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไร และนั่นเป็นเหตุผลที่ผู้เล่นพวกนั้นสามารถสร้างประสบการณ์ได้อย่างช้าๆ จากวงนอก พวกเขาจะตายแน่นอนจากอำนาจของทั้งสองฝ่ายหากพวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง
โชคดีที่ยังมีผู้เล่นที่โชคดีสุดๆ บางคนที่สามารถเข้าไปทำงานให้กับตัวละครหลักในบางเวอร์ชั่น แต่ถึงจะว่าอย่างนั้น ผู้เล่นที่ว่าก็แทบจะไม่มีให้เห็นและมันก็ยังคงเป็นการยากสำหรับพวกเขาที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง
ถ้าผู้เล่นได้รับอาณาจักรมาครอบครอง หากว่าอาณาจักรไม่ได้ผ่านการพัฒนาเป็นปีๆ แล้วล่ะก็ อาณาจักรพวกเขามีสิทธิ์ถูกทำลายโดยพวก NPC นอกรีตทั้งหลาย โดยที่ NPC พวกนั้นอาจจะถือโอกาสยึดสมบัติความมั่งคั่งของพวกผู้เล่นไปพร้อมกันด้วยซ้ำไป
นี่เป็นเหตุผลที่พวกกิลด์ที่มักใหญ่ใฝ่สูง, สโมสร และผู้เล่นมืออาชีพทั้งหลายถูกโจมตีและกลายเป็นเถ้าถ่านในตอนที่พวกเขาเลื่อนขึ้นอันดับมาได้ สุดท้ายพวกเขาก็ต้องทำตาม NPC เพื่อให้รอดชีวิต หากว่าพวกเขาไม่มีสัญลักษณ์ของ NPC อยู่กับตัว มันจะไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเลยถ้าพวกเขาจะถูกซุ่มโจมตีจนถึงแก่ชีวิตระหว่างการเดินทาง
การคิดอยากจะพัฒนาตัวละครด้วยตัวคนเดียวเป็นความน่าเศร้าที่แท้จริง อย่างน้อยพวกเขาก็ควรเข้าร่วมกับกลุ่มทหารรับจ้างที่นำทีมโดย NPC ถูกมั้ย?
ถ้าไม่อย่างนั้น ไม่สำคัญว่าผู้เล่นจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน พวกเขาจะยอมไปเป็นโล่ของผู้เล่นคนอื่นอย่างนั้นหรือ?
มันก็เห็นๆ กันอยู่แล้ว
มันเป็นไปไม่ได้
พวก NPC คือบอสตัวจริง…
แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถเพิ่มเลเวลได้อย่างไม่มีจำกัดและแถมอาจจะมีความสามารถประหลาดติดตัวมาด้วยได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มสายเลือดใดๆ ได้ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่เลเวลไหน ความสามารถติดตัวของพวกเขาส่วนใหญ่จะอ่อนแอกว่าของพวก NPC และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นจึงไม่สามารถหยิ่งผยองได้มากนัก แม้แต่ในส่วนหลังๆ ของเกมก็ตาม
อีกอย่าง เลเวลของ NPC ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามเลเวลของผู้เล่น พวกเขามีเลเวลเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นความสามารถของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อมีการปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ของเกมออกมา
หากจะทำให้แน่ใจว่าผู้เล่นจะไม่เจอกับ NPC ที่เลเวลสูงเกินไป…
เรื่องนั้นจะเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติด้วยการโยนผู้เล่นเข้าไปในอาณาเขตของดยุคหรือลอร์ดซักคน
เพราะพลังอำนาจและเลเวลนั้นไล่ยศตามนี้: จักรวรรดิ, ราชอาณาจักร, แกรนด์ ดูชีย์หรือเขตแดนที่ปกครองโดยแกรนด์ ดยุคหรือดัชเชส, และ ดยุคดอมหรือเขตแดนที่ปกครองโดยดยุค
ลอร์ดจากชายแดนอย่างวิลเลียมขึ้นต่อฝ่ายกลาง ไม่ขึ้นต่อฝ่ายมืดหรือฝ่ายสว่าง ขนาดของอาณาเขตจึงเล็กใหญ่ต่างกันไป
ลอร์ดที่แข็งแกร่างบางคนสามารถถือครองอำนาจที่เทียบเท่ากับราชอาณาจักรๆ หนึ่งได้เลย ในขณะที่ลอร์ดที่อ่อนแอก็มีอำนาจเทียบเท่ากับเมืองจากชายแดน…
เขตปกครองของมนุษย์เป็นฝ่ายสว่าง!
มีคนที่เลือกออร์คบ้างมั้ย?
เกมนี้ไม่ได้ให้ผู้เล่นเลือกตัวละครเฉพาะบางตัวที่ไม่ใช่มนุษย์ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันจะไปมีอิทธิพลโน้มนาวจิตใจของผู้เล่นและอาจจะมีผลก่อให้เกิดความไม่สงบในสังคม นี่เป็นเพราะออร์คนั้นกินได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า พวกมันอาจจะกินอย่างมีความสุขแม้แต่ตอนที่กำลังกินสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเช่นเดียวกันอยู่
มีคนเคยใช้สกิลการแปลงร่างเพื่อซ่อนตัวในหมู่ออร์ค ในตอนสุดท้ายนั้น เขาเห็นพวกออร์คกินคนเป็นๆ และทำให้เขาหลุดเผยตัวตนของเขาออกมาด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียน ก่อนที่เขาจะได้ทำการฆ่าตัวตาย เขาก็ถูกรุมกัดหลายครั้งโดยออร์คฉกรรจ์หลายตัว เขาตายอย่างน่าอนาถและประสบการณ์จากการเล่นเกมครั้งนี้ของเขานั้นย่ำแย่ขนาดที่เขาแทบจะเลิกเล่นเกมนี้เลยทีเดียว!
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เล่นแล้ว ช่วงแรกของเกมนั้นจะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย…
มีหลายเผ่าพันธุ์ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้…
มีทั้งมนุษย์, เอลฟ์, ลูกครึ่งเอลฟ์, เผ่าพันธ์ุมีปีก, คนแคระ, และโนม!
มนุษย์, เอลฟ์, ลูกครึ่งเอลฟ์, และ เผ่าพันธุ์ที่มีปีกเป็นตัวเลือกที่นิยมที่สุด
คนแคระและโนมเป็นตัวละครกลุ่มเล็กลงมา...
อัจฉริยะที่เลือกสองเผ่าพันธุ์นี้ก็คือผู้ที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกและมีหัวใจที่แข็งแกร่ง พวกเขายังมีเซ้นส์ที่ดีในด้านการศึกษาวิจัยและมีความทะเยอทะยานในการสำรวจ พวกเขาเป็นเสาหลักของประเทศชาติ, เป็นต้นแบบของผู้เล่น และพวกเขายังหาตัวจับยากไม่ต่างกับอุปกรณ์ระดับรีเจนดารีที่มีอยู่น้อยนิด
ยังไงก็ตาม ทุกอารมณ์และความรู้สึกใน Gods นั้นไม่ต่างอะไรจากในโลกความจริง น้อยคนนักที่จะบ้าจี้ทำแบบนั้น…
สำหรับ Gods ในตอนเริ่มต้นนั้นมันมีเพียงไม่กี่เผ่าพันธุ์ให้เลือก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอาชีพให้เลือกหลากหลาย
สายการต่อสู้: นักรบ, อัศวิน, ทหารราบ, นักล่า, มือสังหาร, สไนเปอร์ และอีกมากมาย นี่ยังไม่รวมถึงอาชีพที่ซ่อนอยู่นอกจากนี้
สายเวทย์มนต์: พ่อมด, นักเวทย์, นักบุญ, หมอผี, นักเวทย์อัญเชิญ, ดรูอิดหรือฤๅษี และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ละสายอาชีพนั้นมีความชำนาญพิเศษเล็กๆ ในตัว ยกตัวอย่างเช่น นักรบมีชุดเกราะ, ดาบสั้น, ดาบคู่, ดาบเวทย์ และอื่นๆ อีกมากมาย…
ทุกๆ เผ่าพันธุ์ก็มีอาชีพพิเศษเช่นกัน
ตัวอย่างหนึ่งคืออัศวินเทมพลาร์ นี่เป็นอาชีพเฉพาะตัวของเผ่าพันธุ์มนุษย์และผู้เล่นก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของ วิหารของฝ่ายสว่างด้วย…
หรืออย่างหัวหน้าทูตสวรรค์ก็เป็นอะไรที่เห็นอยู่ชัดเจนว่าเป็นอาชีพสำหรับเผ่าพันธุ์มีปีกโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม…
ถึงแม้ว่าเผ่าพันธุ์มีปีกจะถูกพิจารณาว่าเป็นเผ่าที่มีอายุยืนยาว ปีกคู่เล็กที่ผู้เล่นได้รับในตอนแรกนั้น ต่อให้คุณหักปีกของพวกเขา มันก็ไม่ยอมให้ผู้เล่นอยู่ใกล้พื้นดินได้แม้แต่ 3 เซนติเมตร แต่กว่าผู้เล่นที่มีปีกจะรู้วิธีบิน ผู้เล่นจากเผ่าพันธุ์อื่นก็สามารถหาวิธีบินของตัวเองได้แล้วเช่นกัน เพียงแต่ความว่องไวและความรวดเร็วของพวกเขานั้นไม่อาจเทียบกันได้กับพวกมีปีก
ในช่วงหลังของเกม หลังจากที่ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์มามากมาย ถ้าหากพวกเขามีโอกาส พวกเขาก็อาจจะไม่อยู่ในรูปลักษณ์ของมนุษย์ต่อ
“สัมผัสแห่งตำนาน…” วิลเลียมไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้สั่นได้ขณะที่ความรู้สึกเย็นวาบวิ่งผ่านกระดูกสันหลังของเขาเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาสะบัดหัวอย่างรวดเร็ว