Chapter 9: กิจวัตรประจำวันรูปแบบใหม่ (1)
พอพวกเขากลับมาถึงบ้าน, แลนดอนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่กับลูซี่ฟัง พวกเขาให้การต้อนรับโมโม่กับเกรซเข้าสู่ครอบครัวของพวกเขาอย่างอบอุ่น พวกเขาได้อยู่ห้องใกล้กับลูซี่และคิม
นอกจากนี้แลนดอนยังแต่งตั้งให้โมโม่เป็นอัศวินฝึกหัดโดยมีจอร์ชเป็นผู้ฝึกสอน ตอนนี้โมโม่มีอายุ 8 ขวบแล้ว, ดังนั้นมันจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการที่จะฝึกฝนเขา (ช่วงวัยที่เหมาะสมในโลกนี้จริงๆคือ 7 ขวบ)
พอจัดแจงเรื่องต่างๆเสร็จเรียบร้อยเขาก็เตรียมตัวเข้านอน วันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ยุ่งมากสำหรับเขา เขาต้องฝึกอัศวินในช่วงเช้า, แล้วจากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ฟาร์มเพื่อแก้ไขเรื่องความแห่งแล้งของดินแดน
ในตอนที่เขาขึ้นมานอนบนเตียง, ดวงตาของเขาก็รู้สึกหนักหน่วงขึ้นมาจากความเหนื่อยล้าแล้วสติของเขาก็ผลอยหลับไป
-วันต่อมา-
แลนดอนยืนอยู่ที่กลางสนามชั้นในของปราสาทและกำลังมองดูอัศวินทั้ง 300 ชีวิต เขารู้สึกประหลาดใจมาก ถ้าเป็นโลกปัจจุบัน, ตอนนี้คงเป็นเวลาประมาณตี 5, แต่ถึงอย่างนั้นอัศวินทุกคนก็มาอยู่ที่นี่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว
ไม่มีใครมาสายเลย แม้กระทั่งโมโมก็ยังรีบโผล่มาเป็นคนแรกๆ เขามีแผนการฝึกสำหรับวันนี้แล้ว, เขาจำเป็นต้องฝึกวินัยของพวกเขาให้ดี
เขามองอัศวินทุกคนด้วยสายตาเย็นชาพร้อมกับปล่อยกลิ่นอายที่ให้ความรู้สึกเหมือนนักรบผู้เจนศึกออกมา
“จัดแถวตอนเรียง 10 ปฏิบัติ!”
ในขณะที่จัดแถวอยู่นั้นเขาก็นับเลขด้วยเสียงดังลั่น
“1...2...3...4...5...6...7...52”
พวกเขาทุกคนใช้เวลา 52 วินาทีในการจัดแถวนับตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่ง
“ช้าเกินไป การจัดแถวควรจะเสร็จเรียบร้อยในตอนที่ข้านับถึง 5 นับจากนี้ไป, ใครก็ตามที่จัดแถวช้าจะต้องวิ่งรอบสนามนี้ 10 รอบก่อนที่จะเริ่มการฝึกจริง ทราบ!!!!”
“รับทราบครับราชาแลนดอน!!!!”
“ในระหว่างการฝึก, ข้ามีฐานะเป็นแม่ทัพของพวกเจ้าไม่ใช่พระราชา ในตอนที่ขานรับข้าพูดแค่คำว่าทราบก็พอ, ไหนพูดซิ!!!!” แลนดอนตะเบ็งเสียง
“ทราบ”
พวกเขาตะโกนตอบ
“ในระหว่างการฝึกข้าจะตั้งกฎทหารขึ้นมาสี่ข้อ กฏนี้จะนำมาใช้แค่ในระหว่างที่ทำการฝึกเท่านั้น ข้อแรก: ข้าคือกฏของที่นี่; ข้อสอง: จงฟังคำสั่งของข้า; ข้อสาม: จงฟังคำสั่งของข้าโดยไม่มีเงื่อนไข; ข้อสี่: ในตอนที่ข้าไม่อยู่จงฟังคำสั่งของแม่ทัพลูเซียส!”
อัศวินทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับกลิ่นอายที่เขาแผ่ออกมา, มันทำให้พวกเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“ทราบไม่ทราบ!!?”
“ทราบ”
เขาทำการฝึกอุ่นเครื่องเป็นเวลา 10 นาทีก่อนที่จะหยุด เขามองดูแล้วรอให้พวกเขาได้พักหายใจ หลังจากผ่านไป 1 นาทีเขาก็ตะโกนออกมา:
“จัดแถวข้างหลังพันเอกอัศวินที่เป็นคนดูแลพวกเจ้า”
พวกเขาปฏิบัติในทันทีแล้วมองหาพันเอกของพวกเขาด้วยความรวดเร็ว ไม่มีใครอยากโดนลงโทษ พวกเขาทุกคนรีบตั้งแถวต่อ, จอร์ช, มาร์คและแกรี่ในทันที ส่วนโมโม่นั้นได้ต่อแถวจอร์ชเนื่องจากเขาถูกบอกว่าจอร์ชจะเป็นคนฝึกเขา
พูดตามตรงลูเซียสรู้สึกประทับใจกับการฝึกรูปแบบนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในตอนที่ฝึกอัศวินมือใหม่ นี่มันเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เขาจริงๆ
“ในเมื่อพวกเราฝึกกันมาได้ซักพักแล้ว, ตอนนี้พวกเจ้าก็คงจะรู้แล้วสินะว่าตัวเองมีร่างกายอ่อนแอแค่ไหน พวกเจ้าขาดทั้งเรี่ยวแรงและพละกำลัง”
พอมาถึงจุดนี้, พวกเขาทุกคนก็ได้ข้อสรุปเดียวกันว่าราชาของพวกเขานั้นคือปีศาจครูฝึก เขาเข้าร่วมการฝึกด้วยตั้งแต่แรกแต่เขาก็ยังยืนมองพวกเขาได้หน้าตาเฉยราวกับว่านี่เป็นแค่การมาเดินเล่น พวกเขาต้องยอมรับเลยว่า, ราชาของพวกเขานั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง
อันที่จริง, ในตอนที่ระบบรักษาเขาก่อนหน้านี้, มันได้เพิ่มพละกำลังให้เขาด้วยในตอนที่เขารับชุดเริ่มต้นระบบ
ในขณะที่จ้องมองพวกอัศวินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์, เขาก็พูดต่อ
“พันเอกจอร์ช, พันเอกมาร์คและพันเอกแกรี่, จงก้าวมาข้างหน้า”
พวกเขาก้าวออกมาแล้วมองแลนดอน
“พวกเจ้าทุกคนจะต้องเป็นผู้ชี้นำให้หน่วยของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น พวกเจ้าจะต้องแข่งขันกันและทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีทหารคนไหนถูกทิ้งให้รั้งท้าย ถ้าหน่วยไหนล้มเหลว, มันก็หมายความว่าหัวหน้าของหน่วยนั้นล้มเหลวด้วย ทราบไม่ทราบ!!!”
“ทราบ”
ทั้งสามคนขานตอบ
จากนั้นพวกเขาก็ก้าวถอยหลังไปยืนอยู่ข้างหน้าหน่วยที่ตัวเองรับผิดชอบ
“เอาหล่ะฟังให้ดี!! พวกเจ้าทุกคนจงนั่งยองๆถ่างขาให้กว้าง, พร้อมกับเอามือไขว้หลังของตัวเองซะ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสับสน, แต่พวกเขาก็รีบปฏิบัติตาม แม้กระทั่งลูเซียสที่ยืนดูอยู่ข้างสนามก็ยังตัดสินใจที่จะเข้าร่วมด้วย เขาอยากลองสัมผัสกับการฝึกรูปแบบใหม่นี้ดู
“ต่อไปให้รักษาท่าทางนี้เอาไว้แล้วกระโดดไปข้างหน้า พวกเจ้าทุกคนจะต้องทำแบบนี้ 10 รอบสนาม ส่วนโมโม่เจ้าทำแค่ 4 รอบก็พอ”
พอได้ยินแบบนี้, ทหารทุกคนก็พากันคิดว่าการออกกำลังกายท่านี้เป็นการฝึกง่ายๆ แม้กระทั่งโมโม่กับลูเซียสก็ยังสงสัยในผลลัพธ์ของการฝึกเช่นนี้
ซึ่งแลนดอนก็อ่านความคิดของพวกเขาออก เพราะตอนที่อยู่โลกปัจจุบัน, เขาก็เคยคิดแบบเดียวกัน, และมันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นความโหดร้ายของการฝึกนี้
จากนั้นแลนดอนก็เดินไปอยู่ข้างๆลูเซียสที่ท้ายสุดของแถวแล้วนั่งยองๆ พร้อมกับก็ตะโกนอย่างเย็นชา:
“เริ่มได้!”
ในตอนที่ได้ยินคำสั่งเริ่ม, ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาต่างก็คิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่ทำเสร็จไวที่สุด
แต่หลังจากผ่านไปซักพัก, พวกเขาก็หอบอย่างรุนแรง, ลำคอของพวกเขาแห้งผาก ก่อนหน้านี้พวกเขาส่วนใหญ่ต่างก็มั่นใจในพละกำลังของตัวเอง, แต่ตอนนี้พวกเขาพากันมองร่างกายของตัวเองด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง แม้กระทั่งลูเซียสก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มร้อนขึ้น, แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดได้
แกรี่รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะขาดใจตายแล้ว แขนของเขาหนักอึ้งและขาที่เหนื่อยล้าของเขาก็เริ่มอ่อนยวบ
ทางด้านของโมโม่, เขารู้สึกร้อนผ่าวตั้งแต่ขาไปจนถึงต้นขา
นี่ข้าอ่อนแอขนาดนี้เลยหรอ?
เขาคิด
จากด้านหลัง, เมื่อเห็นว่าทุกคนเริ่มท้อ, แลนดอนก็พูดออกมา:
“นี่เริ่มถอดใจกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ?, พวกเจ้ายังเป็นอัศวินอยู่รึเปล่า? นี่พวกเจ้าเป็นลูกผู้ชายใช่ไหม? ทำให้มันดูเข้มแข็งกว่านี้เซ่!!! นี่เป็นคำสั่ง และคำสั่งของข้าก็คือกฏ”
ในตอนที่พวกเขาได้ยินเสียงจากด้านหลังสุด, พวกเขาทุกคนก็มีความคิดเป็นหนึ่งเดียวกัน:
ไอ้ปีศาจครูฝึก
ในขณะที่การฝึกฝนดำเนินไปเรื่อยๆ, ต้นขาของพวกเขาก็ชาจนแทบไร้ความรู้สึก เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาอยากยอมแพ้, พวกเขาก็จะได้ยินเสียงของปีศาจดังมาจากข้างหลัง:
“ใครที่มันกล้าถอดใจจะได้เจอกับความพิโรธของข้า ถ้าพวกเจ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงจะลองดูก็ได้นะ หึหึหึ”
ในขณะนั้นเองพวกเขาก็มองไปที่โมโม่ด้วยความรู้สึกอิจฉา, เพราะว่านี่เป็นรอบสุดท้ายของเขา
ตอนนี้เทรย์รู้สึกเหมือนกับว่าขาของเขากำลังจะขาดออกจากร่างจริงๆ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกสงสัยว่าแลนดอนไปเรียนรู้การฝึกเหมือนปีศาจนี้มาจากไหน เทรย์คิดว่าแลนดอนออกแบบการฝึกได้ตรงจุดมากจริงๆ
อันที่จริง, ไม่มีใครสงสัยเลยว่าแลนดอนเปลี่ยนไป เขาเป็นเด็กที่ชอบทำตัวแปลกแยกมาตั้งแต่แรกแล้ว เขาจะเติบโตอย่างเงียบๆ, และค่อนข้างหลีกเลี่ยงสังคม ในตอนที่มีคนรังแกหรือดูถูกเขา, เขาก็จะทำแค่มองดูเฉยๆ เขาไม่เคยสนใจเลยว่าคนพวกนั้นจะทำร้ายเขายังไง เขาไม่เคยร้องไห้หรือแสดงท่าทีไม่สบายใจออกมา และด้วยเหตุผลนี้เองทุกคนจึงคิดว่าเขายังเป็นคนเดิมอยู่