ไซตามะต่างโลก Ep.23 - วางใจเถอะ มันไม่เย็นหรอก
ไซตามะต่างโลก Ep.23 - วางใจเถอะ มันไม่เย็นหรอก
กองเรือโจรสลัดครีก ครั้งหนึ่งเคยอาละวาดไปทั่วทะเลอีสต์บลู ณ ช่วงเวลาที่เขารุ่งโรจน์ที่สุด มีโจรสลัดอยู่ใต้อาญัติถึง 5000 คน และเรือรบอีกกว่า 50 ลำ!
ทหารจากสาขากองทัพเรือย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ชื่อเสียงของผู้บัญชาการโจรสลัดครีกจึงกระฉ่อนไปตลอดทั้งอีสต์บลู
แม้แต่ทางศูนย์บัญชาการใหญ่กองทัพเรือก็ยังให้ความสนใจกับโจรสลัดกลุ่มนี้
ด้วยชื่อเสียงของครีก ทางศูนย์ใหญ่จึงได้มอบวันหยุดพักร้อนให้แก่การ์ป เพื่อให้เขาเดินทางกลับไปอีสต์บลู รวดจับกุมครีก
แต่น่าเสียดาย ที่แผนนี้กลับพังไม่เป็นท่า มันถูกสายลับที่ครีกส่งไปอยู่กับทางกองทัพเรือเปิดเผยเสียก่อน
ชื่อเสียงของวีรบุรุษกองทัพเรือการ์ป เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในหมู่โจรสลัด
สำหรับครีก ถึงแม้ว่าเขาจะจองหองและอวดดี แต่ตนก็ไม่เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับคนที่ทางศูนย์ใหญ่ส่งมา จึงชิงตัดสินใจลงมือก่อน
ในวันนั้น เป็นวันที่แสงแดดสดใส สายลมเย็นพัดโชย
ในที่สุด ครีกก็ตัดสินใจว่าจะออกจากอีสต์บลู และมุ่งหน้าสู่แกรนไลน์!
กองเรือโจรสลัดแล่นข้ามผ่านผืนทะเล ระหว่างเส้นทางไม่เพียงเรือพาณิชย์เท่านั้นที่ถูกจมลง ทว่ากระทั่งเรือลาดตระเวนของกองทัพเรือก็ยังถูกพวกเขาจมลง
ด้วยเหตุนี้ การเดินทางของกองเรือโจรสลัดจึงเป็นไปอย่างราบรื่น ยิ่งนาน หัวใจของครีกก็ยิ่งพองโต
เขาบังเกิดความมั่นใจในตนเองอย่างมิอาจอธิบายได้ เพิกเฉยต่อข้อห้ามที่ล้วนหลุดรอดออกมาจากปากของโจรสลัดในอีสต์บลู ที่กล่าวกันว่า ‘ต่อให้ต้องตาย ก็ห้ามไปยังโร๊คทาวน์เด็ดขาด!’
หลังจากข้ามผืนทะเลมายาวนาน เรือโจรสลัดกว่า 50 ลำก็สามารถทอดสมอลงที่ท่าเรือเมืองโร๊คทาวน์ได้ในที่สุด
ยืนหยัดอยู่บนดาดฟ้าเรือ กัปตันครีกสาดสายตาไปยังจุดที่อยู่ไกลออกไป แสดงท่าทีดุร้ายและเปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน “เมืองนี้สินะที่โรเจอร์ถูกทหารเรือประหารชีวิต เหอะ! เขานี่มันช่างไร้ประโยชน์จริงๆ ถูกทหารเรือไร้ความสามารถจับเอาซะได้ ส่วนฉัน ถึงแม้ว่าจะมาจากอีสต์บลู แต่ท่านครีกผู้นี้ จะไม่มีวันยอมพบจุดจบแบบเดียวกันแน่นอน ..”
ถัดไปจากเขา ลูกเรือโจรสลัดคนหนึ่งเอ่ยเตือนออกมา “หัวหน้า ได้ยินมาว่ามีพลจัตวาที่แข็งแกร่งมากประจำการอยู่ที่นี่ ผมว่าถ้าพวกเรายังไม่รีบ-”
“นี่แกกำลังสงสัยในการตัดสินใจของฉันอย่างงั้นหรอ?”
สายตาของครีกกลายเป็นโหดเหี้ยม เขาชักปืนพกออกมา และยิงเปรี้ยง! เข้าใส่โจรสลัดที่เอ่ยเตือนเขาอย่างไม่ลังเล “ฉันน่ะไร้เทียมทาน! ไอ้คนที่มีชื่อเสียงจอมปลอมแบบนั้นไม่มีทางทำให้ฉันหวาดกลัวได้หรอก! จะบอกอะไรให้นะ ฉันจะไม่ใช่แค่เดินตรงไปที่ลานแท่นประหารเท่านั้น แต่ยังจะยึดเมืองบ้าๆนี่ เพื่อเซ่นสังเวยมันในฐานะเหยื่อรายแรกก่อนที่ฉันจะพิชิตแกรนไลน์!”
“เด็กๆ!”
ครีกชูแขนขวาขึ้น โห่ร้องเกรี้ยวกราด “ทุกคนจงดื่มด่ำกับความสำราญให้อย่างเต็มที่! พวกเราจะลงไปปล้นฆ่าในเมืองกัน! และจะไม่มีใครมาหยุดพวกเร-”
ทว่าก่อนที่จะเอ่ยจนจบประโยค จู่ๆชายหัวล้านในชุดคลุมแห่งความยุติธรรมก็ทิ้งตัวลงจากฟากฟ้า หยั่งเท้าลงบนเสากระโดงเรือ
“น่ากลัวจัง มากันเยอะเหลือเกิน …”
ไซตามะยกมือขวา ทำเป็นวงและครอบดวงตาให้ดูเหมือนกับกำลังใช้กล้องส่องทางไกลอยู่ กวาดซ้ายทีขวาที “เยอะแบบนี้ มันคงเป็นการยากเกินไปที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้บ้านเรือนใกล้ๆได้รับผลกระทบ .. ถ้าเป็นแบบนี้สงสัยจะต้องใช้ท่าหมัดอ่อนโยน ..”
มองมายังหัวล้านที่ราวกับคนบ้า เอ่ยพึมพำอยู่คนเดียว ครีกแสยะยิ้ม “นี่แกกลัวกองกำลังของฉันใช่ไหม เหอะ! ช่างเป็นทหารเรือที่ไร้ความสามารถซะจริง”
ไซตามะละซึ่งความสนใจจากครีกโดยสมบูรณ์ เขากระโดดลงจากเสากระโดงเรือ
ทันใดนั้นเอง หมัดหนึ่งก็ถูกง้างออกไปเบื้องหลังในแนวระนาบกับพื้น 90 องศา …
“ความชั่วร้ายต้องถูกกำจัด …”
พริบตานั้น ท้องฟ้าที่แต่เดิมเคยแจ่มใส บัดนี้กลับมืดครึ้ม ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกอย่างกระทันหัน
เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าผ่าก้องกังวานไปทั่ว กระทั่งคลื่นทะเลก็คล้ายกับกำลังหวั่นเกรง บังเกิดคลื่นนับไม่ถ้วนกรรโชกซัดสาด
ทันใดนั้นเอง ครีกก็บังเกิดลางสังหรณ์ร้ายในหัวใจของเขา คู่ดวงตาสาดมองไปยังกำปั้นของทหารเรือหัวล้านที่ราวกับเป็นตัวแทนอำนาจของสวรรค์และโลก “เจ้าหมอนั่น … ไม่จริงน่า …”
แต่ก่อนที่เสียงจะทันได้ตกลง พริบตานั้นตลอดทั้งสวรรค์และโลกพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน
“ท่าหมัด-อ่อนโยน-ซัดเปรี้ยง!”
เพียงแค่คำกล่าวเบาๆ ทว่าพลังอำนาจที่ปลดปล่อยออกมา กลับถึงขั้นสั่นคลอนทั้งผืนโลกได้!
หมัดเดียว ถึงขั้นสามารถก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ!
วินาทีนั้น กองเรือโจรสลัดกว่า 50 ลำราวกับถูกเป่าด้วยระเบิดปรมาณู แหลกเป็นฝุ่นผง กระทั่งท้องทะเลก็ยังถูกฉีกโดยแรงอัดอากาศจากกำปั้นนี้ แยกออกเป็นสองฟากฝั่งอยู่นาน กว่าจะกลับมาเชื่อมต่อกันดังเดิม
…
“สารเลว!!”
ครีกซึ่งตอนนี้กำลังแล่นเรือโจรสลัดไปยังภัตตาคารลอยทะเล สะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย
เสื้อผ้าของเขาเปียกโชก เหงื่อชุ่มชะโลมไปทั่วกาย
นั่นคือฉากสยองขวัญ ที่หากได้พบเผชิญแล้ว มิอาจไขว่คว้าได้เลยซึ่งความหวัง
ครีกไม่เคยรู้สึกใกล้ชิดกับความตายมากขนาดนี้มาก่อนเลย
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนรอดชีวิตจากการทำลายล้างที่สั่นสะเทือนผืนโลกนั่นมาได้อย่างไร หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเกราะทองบนร่างกายช่วยชีวิตเขาเอาไว้ก็ได้
เพียงหมัดเดียว --โค่นกองเรือรบพ่ายไปทั้ง 50 ลำ!
ยังไม่พอ มันยังโค่นความทะเยอทะยานของครีกไปได้อย่างสิ้นเชิง
นับจากหมัดที่ว่านั้นถูกปล่อยออกมา รู้สึกตัวอีกที ครีกก็พบว่าตนลอยมาเกยตื้นบนเกาะเล็กๆ ตระหนักได้ว่าตนเองยังรอดชีวิตอยู่ ทว่าเขาไม่อยากนึกถึงประสบการณ์ดั่งฝันร้ายนั่นอีกแล้ว แม้จะเริ่มรวบรวมกำลังพลจากทุกหัวระแหงในอีสต์บลูอีกครั้ง แต่ต่อจากนั้นก็แค่ออกปล้นเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ทำอะไรหวือหวา หรือน่าประทับใจเหมือนแต่ก่อน แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ครีกก็ได้รับข่าวดี
คนที่เดิมทีเขาคิดว่าตายไปแล้วภายใต้กำปั้นมหากาฬนั้น หัวหน้าทีมต่อสู้ มนุษย์ปีศาจกิงกลับติดต่อมาหาเขา!
คนๆนี้คือลูกน้องที่ซื่อสัตย์และโหดร้ายที่สุดของเขา!
ไม่เพียงครอบครองความสามารถในการต่อสู้อันยอดเยี่ยม แต่กระทั่งเด็กหรือคนแก่ มันก็สามารถฆ่าได้โดยไร้ซึ่งความปราณี
กิงยังมีชีวิตอยู่ …
นับจากวันที่พบเจอกับหมัดนั่น เส้นประสาทของครีกที่ตึงเครียดตลอดมา ก็จึงค่อยคลายลงเสียที
ในที่สุด …
ก็ไม่ได้มีข่าวร้ายไปซะหมด ..
…
เงาเรือของภัตตาคารลอยทะเลค่อยๆปรากฏให้เห็นในระดับผิวน้ำ
ครีกก้าวออกจากห้องโดยสาร หยุดตรงดาดฟ้าเรือ แววตาของเขาที่จ้องมองตรงไปยังเบื้องหน้า ลุกโชนด้วยเปลวเพลิง
ตั้งแต่ที่ความใฝ่ฝันได้ล่มสลายลง
จากนี้ไป เขาจะพลิกตลบอีสต์บลู ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่อีกครั้ง!
…
ภายในภัตตาคาร ไซตามะนั่งกินพิซซ่า พลางดื่มโคล่าด้วยความเบื่อหน่าย
อา …
ถ้าฉันรู้ว่ามันต้องรอนานถึงขนาดนี้ รู้งี้กลับไปที่เรือและนอนซักงีบดีกว่า …
ปากอ้าหาว หนึ่งมือยกขึ้นขยี้ตา ไซตามะถามทหารเรือที่ยืนอยู่ข้างๆเขา “เฮ้ .. ยังไม่พบร่องรองของเรือโจรสลัดอีกหรอ?”
“ยังไม่พบเลยครับท่านพลจัตวา …”
ทหารเรือคอยสอดส่องความเคลื่อนไหวรอบนอกอยู่ตลอดเวลา
แต่แล้วในคราครั้งนี้ กวาดสายตาไปได้เพียงครึ่งทาง ก็พลันปรากฏธงรูปกะโหลกขึ้นเหนือจากระดับผิวน้ำทะเลอย่างกระทันหัน!
ทหารเรืออุทานด้วยความตกใจ “มาแล้ว! … ธงโจรสลัดที่มีนาฬิกาทรายประกบซ้ายขวาอยู่ทั้งสองด้าน ไม่ผิดแน่ๆ มันคือเรือกาเลออนยักษ์ของครีก!”
ไซตามะยิ้มด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า “โห ชื่อเรือเท่ไม่เบาเลย”
ทหารเรือผุดลุกขึ้นทันที ยืดอกตะเบ๊ะและเอ่ยถาม “เรือโจรสลัดปรากฏขึ้นแบบนี้ อันดับแรกพวกเราจะต้องใช้ปืนใหญ่ชิงเปิดการโจมตีใส่พวกมันก่อน ขอคำสั่งอนุมัติจากท่านพลจัตวาด้วยครับ!”
“ไม่ต้องอะ ปล่อยให้เขาเข้ามา”
ไซตามะลุกขึ้นจากที่นั่ง เตรียมเดินออกไปภายนอกภัตตาคาร “นายแยกไปติดต่อกับคนอื่นๆก่อนเถอะ … ส่วนทางนี้ฉันจะรับมือเอง ไว้ใจได้เลย”
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เชฟคิ้วม้วนพึ่งปรุงอาหารของเขาเสร็จพอดี เจ้าตัวเดินถือถาดออกมาจากห้องครัว เมื่อเห็นไซตามะที่กำลังจะเดินออกไป เขาก็ตะโกนถาม
“เฮ้คุณลูกค้า ‘เฟรนช์ฟราย’ ที่สั่งได้แล้วนะ นายจะหนีไปไหน?”
“อ่า ไม่ได้หนีซะหน่อย”
ไซตามะหันกลับมา “ฉันก็แค่จะออกไปทำธุระข้างนอกหน่อย ไม่นานก็กลับมาแล้ว ไม่ต้องห่วง”
เชฟคิ้วม้วนคล้ายจะไม่สนใจคำพูดของเขา เจ้าตัวเพียงเอ่ยเตือน “งั้นนายก็ควรจะกลับมาเร็วๆ เพราะสำหรับอาหารทอด ถ้าเย็นแล้วมันจะไม่อร่อย … รู้ไหมฉันใช้เวลาไปมากเลยนะในการแก้ปัญหาเรื่องรสชาติได้ แต่ช่างเถออะ นี่ก็ถือว่าเป็นการฝึกไปในตัวเหมือนกัน”
“ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็ไม่มีปัญหา”
ไซตามะยกนิ้วโป้ง เอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “เพราะฉันจะไม่ปล่อยให้มันเย็นแน่นอน”