GE482 ขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นกลาง (ฟรี)
หนิงฝานเอาชนะจักรพรรดิเซียนโม่โฉวผู้ยิ่งใหญ่ได้ ผลการต่อสู้นับว่าเหลือกว่าความคาดหมาย
หากเป็นสมัยโบราณ เรื่องที่หนิงฝานเอาชนะโม่โฉวแพร่ออกไป ทุกดินแดนคงสั่นสะเทือน เขาจะกลายเป็นผู้เยาว์ที่ไร้ผู้ต้าน เพราะผู้ที่มีช่วงวัยเดียวกัน ระดับพลังเดียวกัน ยากที่จะหาผู้ใดที่เอาชนะโม่โฉวได้
ร่างของโม่โฉวค่อยๆสลายกลับลงไปในแอ่งโลหิตเช่นเดิม หนิงฝานเฝ้าคอยว่ารางวัลในการทดสอบครั้งนี้คืออะไร
ไม่นานนัก หมู่เมฆที่ปกคลุมท้องนภาได้เปิดออก ลูกกลมสีโลหิต 3 ลูกลอยลงมา ภายในอัดแน่นไปด้วยพลังปีศาจที่รุนแรง และมีเสียงที่ดูเก่าแก่โบราณดังขึ้น
ลูกกลมสีโลหิตทั้ง 3 ค่อยกลายสภาพเป็นหยดโลหิต 3 หยด ผสานเข้ากับร่างกายของหนิงฝานช้าๆ
หนิงฝานตกตะลึง เขาคาดไม่ถึงว่ารางวัลของรอบที่สามจะเป็นโลหิตปีศาจโบราณบริสุทธิ์ที่มีมากถึง 3 หยด!
แต่ละหยดประกอบไปด้วยแก่นพลังกว่าล้านแก่น ผสานเข้ากับของเดิม ทำให้มีแก่นพลังมากถึง 8 ล้านแก่น!
“เจ้าเป็นผู้ชนะ โลหิตโบราณพวกนั้นเป็นของเจ้า… เดิมทีของรางวัลคือโลหิตโบราณเพียง 1 หยด แต่เห็นแก่ที่เจ้าเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิโบราณผู้นั้น ข้าจึงมอบโลหิตให้เจ้าอีกหยด และการจู่โจมสุดท้ายของเจ้า เจ้าได้ใช้พลังแห่งชีวิตที่ท่านเทพเซียนสื่อเซ่าเป็นผู้ถ่ายทอด ข้าจึงมอบโลหิตให้เจ้าอีกหยด… แม้จะเป็นโลหิตเพียง 3 หยด แต่หากเจ้าดูดซับมัน ระดับโลหิตของเจ้าจะเป็นรองเพียง 9 ปีศาจโบราณเท่านั้น!” เสียงของโม่โฉวดังออกมาจากแอ่งโลหิต
ทันทีที่กล่าวจบ เส้นแสง 10 สายได้ลอยออกมาจากแอ่งโลหิต พวกมันคือโอสถปีศาจ โอสถผันแปรที่ 7 ขั้นต้น และสิ่งของอื่นๆ
“โอสถเหล่านี้จะช่วยให้ขอบเขตของเจ้าเสถียรมากขึ้น”
เมื่อกล่าวจบ เส้นแสงสีดำก็พุ่งออกจากแอ่งโลหิต หายไปในท้องนภา
“ตามกฏของเทพเซียนสื่อเซ่า การที่เจ้าได้ทะลวงขอบเขตปีศาจคลั่ง เจ้าจะได้สมญานามว่า ‘นักรบระดับล่าง’ ซึ่งจัดอยู่ในอันดับที่ 9 ซึ่งต่ำที่สุดของทั้งหมด แต่ด้วยที่เจ้ามากพรสวรรค์และโด่ดเด่น ข้าจะเลื่อนขั้นให้เจ้าเป็นพิเศษ เป็นนักรบระดับ 8… ของรางวัลจากสมญานามของเจ้าคือ เครื่องราง 3 ชิ้น หยกเต๋า 10,000 ก้อน สมบัติระดับไร้แบ่งแยก 3 ชิ้น และโอสถผันแปรที่ 6 อีก 1 ขวด”
ดูเหมือนโลหิตโบราณที่หนิงฝานได้จะเป็นรางวัลพิเศษ
หนิงฝานเก็บทุกสิ่งที่ได้เข้ากระเป๋า เขาไม่รู้ความหมายว่านักรบระดับ 8 คืออะไร บางทีอาจเหมือนศักดิ์ฐานะบางอย่างในแดนสวรรค์
หนิงฝานเก็บเหรียญตราสถานะของตนไว้ เครื่องราง 3 ชิ้นที่ได้คือสิ่งที่สามารถใช้การจู่โจมในขอบเขตไร้แบ่งแยกได้ หยกเต๋าที่ได้คือเงินตราในแดนสวรรค์ ซึ่ง 1 ก้อนเท่ากับ 5 ล้านหยกสวรรค์ หมื่นก้อนก็เท่ากับ 5 พันล้านหยกสวรรค์
สมบัติระดับไร้แบ่งแยกที่หนิงฝานได้ แม้จะเป็นของหายาก แต่หากไม่บรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกเขาก็ยังใช้ไม่ได้
“ข้าต้องเร่งดูดซับโลหิตโบราณที่ได้มา!” ดวงจิตของหนิงฝาน ถูกส่งกลับไปยังร่างหลัก
สิ่งที่ได้มาจากภูเขาลูกนั้น ปรากฏในกระเป๋าของหนิงฝานจริงๆ ยามนี้เวลาได้ล่วงเลยมาถึง 20 ปีในหอคอยทองคำชั้น 7 ซึ่งเทียบได้กับ 2 เดือนในโลกภายนอก
หนิงฝานกระตุ้นสัญลักษณ์ปีศาจ เพื่อดูดซับโลหิตของโม๋หลัวและโลหิตโบราณอีก 3 หยดที่ได้มา ทำให้เขาได้แก่นพลังเพิ่มมาเป็นทั้งหมด 9 ล้าน
โลหิตระดับราชาปีศาจของเขา ทะลวงระดับโลหิตปีศาจโบราณ
เมื่อดูดซับแก่นพลังจากโลหิตเสร็จแล้ว หนิงฝานก็กินโอกสที่ได้มาเพื่อทำให้ระดับพลังของตนเสถียร
เวลาที่โลกภายนอกได้ล่วงเลยมาถึง 3 เดือนเต็ม หนิงฝานในยามนี้เตรียมการเสร็จทุกสิ่ง แรงกดดันจากร่างกายที่แผ่ออกมาทรงพลังยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลาง
ด้วยร่างกายระดับนี้ หากไม่เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก หนิงฝานก็ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด!
แก่นพลังและปราณคือพลังงานคนละสาย หากดูที่กลิ่นอายที่แผ่ออกมา ย่อมไม่มีผู้ใดดูออกว่าหนิงฝานมีแก่นพลัง เว้นแต่จะเป็นผู้ที่ครอบครองแก่นพลังด้วยกัน จึงจะมองเห็นว่าหนิงฝานบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง
นอกจากนี้ ระดับโลหิตปีศาจโบราณของเขา นอกจาก 9 ปีศาจโบราณที่แท้จริงแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดที่มีพรสวรรค์เหนือล้ำกว่าเขาอีก
“ถึงเวลาที่ต้องไปคิดบัญชีกับจิตวิญญาณปีศาจพวกนั้น...” หนิงฝานหรี่ตา ยามนี้จิตวิญญาณปีศาจพวกนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแล้ว
ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น เขาสังหารพวกมันได้ในพริบตา
ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง อาจจะใช้เวลาบ้างแต่ไม่มาก
หนิงฝานกลับลงมาจากหอคอยชั้น 7 เมื่อมาถึงชั้น 4 ก็เห็นซูหยานรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีแล้ว
ในชั้น 4 นี้เวลาได้ล่วงเลยไปเพียง 4 ปี นางรักษาตัวและเฝ้ารอหนิงฝานด้วยความเป็นห่วง เมื่อยามที่หนิงฝานพานางเข้ามา พลังของเขาลดลงไปมาก สีหน้าของเขาดูย้ำแย่จนน่าตกใจ นางจึงกลัวว่าหนิงฝานจะตายอยู่ในนี้
คนในเผ่าทรยศนาง แต่หนิงฝานกลับช่วยเหลือนาง แม้ความรู้สึกที่นางมีต่อหนิงฝานยังไม่กระจ่าง แต่อย่างน้อย นางก็ไม่อยากเห็นหนิงฝานตาย
เมื่อนางเห็นหนิงฝานกลับลงมาอย่างปลอดภัย นางดีใจมาก
“อาการบาดเจ็บท่านเป็นยังไงบ้าง? หืม? กลิ่นอายของท่านทำไมถึงไมถึงได้ทรงพลังขึ้นขนาดนี้ นี่มัน...ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง! เป็นไปได้ยังไง?”
นางกล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง เพราะตอนนี้กลิ่นอายของหนิงฝานอยู่ระดับเดียวกับนาง
เมื่อคราวที่ซีโม๋บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง นางประหลาดใจ แต่ไม่ถึงกับตกตะลึง เพราะเดิมมันก็เกือบจะทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางอยู่แล้ว
แต่หนิงฝานนั้นไม่เหมือนกัน แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เขาก็อยู่เพียงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง
การที่หนิงฝานจะก้าวไปยังขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้ทันทีนั้น เพิ่งเป็นครั้งแรกที่นางเคยเห็น
“สนมปีศาจซู ข้าจะพาเจ้าออกไปแล้ว”
หนิงฝานไม่ได้อธิบายอะไร เพราะเรื่องขอบเขตปีศาจคลั่งถือเป็นความลับสุดยอด
“อืม!” นางพยักหน้ารับคำ
นางรู้ว่าหนิงฝานมีความลับมากมาย ต่อจากนี้นางต้องติดตามหนิงฝานในฐานะสนมปีศาจ เพราะฉะนั้นนางควรทำให้เขาสบายใจ
“นับจากนี้ไป ข้าจะเป็นของท่าน เผ่าเขาคู่ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับข้าอีก!” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หนิงฝานจ้องมองนาง เขาไม่คิดว่าจะโน้มน้าวให้นางมาเป็นของเขาได้ แต่ด้วยเพราะเผ่าทรยศนาง ต้องการที่จะสังหารนาง จึงเป็นโอกาสให้เขานำนางมาอยู่ข้างกายได้
“ไปกันเถอะ ถ้าพวกปีศาจ 14 ตนนั้นยังไม่รามือ ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด” หนิงฝานโอบประครองนางแล้วพานางออกจากโลกเย่าหยวนไป
ภายในโลกอีกใบ เหล่าจิตวิญญาณปีศาจได้ตั้งค่ายเฝ้าในบริเวณที่หนิงฝานหายตัวไปเอาไว้ หนิงฝานหายตัวไป 3 เดือนเต็ม เหล่าจิตวิญญาณปีศาจได้แต่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ
“ท่านเฉียนกุ่ย ถ้าพวกมันหลบอยู่ในนั้นตลอดชีวิตเราจะทำยังไง?” ผู้ติดตามของมันกล่าวถาม
“เดี๋ยว!” เฉียนกุ่ยแหงนหน้ามองบนท้องนภา ตั้งแต่หนิงฝานหายตัวไป ปรากฏการณ์โลหิตบนท้องนภาที่เกิดขึ้น ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเมฆแห่งทัณฑ์สวรรค์ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกมันรู้ว่าหนิงฝานได้ทะลวงขอบเขตอะไรบางอย่าง
“เด็กนั่นอยู่ขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง หรือที่มันเข้าไปในสมบัติ ก็เพราะจะทะลวงขอบเขตไร้ดัดแปลง! แต่มันเพิ่งบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
ทันทีที่มันกล่าวจบ เมฆทัณฑ์สวรรค์กลับสลายไป แรงกดดันของพลังที่รุนแรงแผ่ไปทั่วโลก
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงได้มีแรงกดดันที่รุนแรงขนาดนี้!”
แรงกดดันอันทรงพลังที่ปรากฏทำให้พวกมันหายลำบาก โลหิตในกายปั่นป่วนจนยากจะควบคุม
มันไม่รู้ว่าเหตุใดภายในโลกของเผ่าเขาคู่ถึงได้มีแรงกดดันที่รุนแรงแบบนี้
ขนาดพวกมันที่อยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลงยังควบคุมร่างกายได้ยาก เหล่าจิตวิญญาณปีศาจที่มีระดับพลังต่ำกว่าย่อมไม่อาจต้านทานได้ บ้างถูกแรงกดดันบดขยี้จนตาย บ้างถูกแรงกดดันทำให้แข้งขาไร้เรี่ยวแรง
พวกมันเร่งหันไปยังทิศทางของบ่อโลหิต เห็นผู้เยาว์ในอาภรณขาวกำลังโอบกอดสาวงามมุ่งออกมา
ทุกย่างก้าวของผู้เยาว์คนนั้นทรงพลังจนทำให้เกิดรอยแยกมิติ
“มันบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง! เป็นไปไม่ได้!”
จิตวิญญาณปีศาจเปล่งเสียงอุทาน ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง 3 ตนพุ่งทะยานเข้าหาหนิงฝานแล้วระดมจู่โจมเต็มกำลังเพื่อหวังสังหาร
“อย่าไปยั่วยุมัน!” เฉียนกุ่ยตะโกนห้ามแต่ก็ช้าเกินไป
หนิงฝานหันมองขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง 3 ตนที่เข้ามาด้วยหางตา ก่อนจะเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
“ได้เวลาตายของพวกเจ้าแล้ว”
*ตูม!*
หนิงฝานซัดฝ่ามือสังหารปีศาจประทับที่ 108 ออกไป ฝ่ามือประทับเข้าร่างของพวกมันทั้งหมดโดยไม่อาจเลี่ยง เกราะปีศาจคุ้มกายแตกพัง ร่างกายไม่อาจทนอานุภาพของฝ่ามือจนระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต
หนิงฝานฉวยดวงจิตของพวกมันไว้แล้วดูดกลืนเป็นของตน
เหล่าจิตวิญญาณปีศาจที่เหลือตกตะลึง ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางถูกสังหารในพริบตา พวกมันรู้แล้วว่าการยั่วยุหนิงฝานคือสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต เพราะเขาไม่ใช่แกะน้อยอย่างที่พวกมันคิด แต่เป็นปีศาจร้ายที่พร้อมจะปลิดชีวิตพวกมัน
เฉียนกุ่ยใจเต้นรัว มันจ้องมองหนิงฝานด้วยความหวาดกลัว
“ทำไมซูหยานถึงได้มีคนช่วยที่ทรงพลังขนาดนี้ ข้าไม่อยากจะเชื่อ!”
ขณะเดียวกันในโลกปีศาจ ปรากฏการณ์ประหลาดที่ดำเนินไป 3 เดือนเต็ม ค่อยๆสลายไปหายอย่างช้าๆ
คนในโลกปีศาจตกตะลึง กษัตริย์ปีศาจทั้ง 9 พูดคุยและตั้งใจว่าจะหาคนผู้นั้นให้พบ แต่สิ่งที่พวกมันไม่รู้คือ หนิงฝานได้บรรลุโลหิตระดับปีศาจโบราณ ซึ่งอยู่เหนือกว่าพวกมันทุกคน และหากพวกมันได้รู้ความจริง พวกมันคงคลั่ง
หนิงฝานบรรลุโลหิตปีศาจโบราณในโลกพิรุณ ต่อให้พวกมันหาในโลกปีศาจให้ตายก็ไม่พบ...
“นายท่านเรียกข้ามาพบด้วยเหตุใด?” ภายในวังแห่งหนึ่งในโลกปีศาจ บุรุษผู้หนึ่งได้เข้ามาพบหานเนี่ยเทียน
“ที่ข้าเรียเจ้ามาก็เพราะอยากให้เจ้าไปโลกพิรุณ แล้วสังหารคนผู้หนึ่ง”
“สังหารคนในโลกพิรุณ?” บุรุษคนนั้นตกตะลึง
“หรือเจ้าไม่อยากทำ?” หานเนี่ยเทียนขมวดคิ้ว บุรษผู้นั้นเร่งคุกเข่า
“หากเป็นคำสั่งของท่าน เหตุใดข้าจะกล้าขัด แต่การจะไปโลกพิรุณนั้น ต้องได้รับอนุญาติจากวิหารพิรุณก่อน หรือต่อให้วิหารพิรุณอนุญาติ ข้าก็ไม่อาจสังหานคนในนั้นได้ เพราะหากพวกมันรู้เข้า พวกมันจะอ้างข้อตกลงของโลกทั้ง 9 เอาเรื่องท่าน”
“เจ้าวางใจได้ ข้าจะให้ ‘ป้ายคำสั่งสังหาร’ ไป เจ้าจะสามารถสังหารคนได้ 1 คน ตราบใดที่เจ้าไม่สังหารไปมากกว่าคนที่ข้าสั่ง วิหารพิรุณก็เอาเรื่องเจ้าไม่ได้”
“ป้ายคำสั่งสังหาร!” บุรุษผู้นั้นตกตะลึง ป้ายคำสั่งสังหารเป็นของล้ำค่า หากมีมันอยู่จะสังหารผู้ใดก็ได้ในโลกทั้ง 9 ใบก็ได้
ป้ายคำสั่งสังหารเอาไว้ใช้สังหารผู้ที่เป็นกบฏต่อกษัตริย์ ต่อให้คนผู้นั้นหนีไปโลกอื่น ก็สามารถส่งคนไปสังหารมันได้
แต่ถึงอย่างนั้น ป้ายคำสั่งสังหารก็มีข้อจำกัด คือจะใช้สังหารได้เพียงผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลงขึ้นไป
ดังนั้นบุรุษผู้นั้นจึงเดาว่า ผู้ที่หานเนี่ยเทียนต้องการสังหาร ต้องอยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลงเป็นอย่างน้อย และการที่หานเนี่ยเทียนให้ความสำคัญกับคนผู้นั้น แสดงว่าคนผู้นั้นเป็นภัยร้ายแรง
“ผู้ใดที่ท่านอยากให้ข้าสังหาร?”
“คนผู้นั้นในอดีตมันเคยทำร้ายข้า ข้าได้บันทึกกลิ่นอายของมันเอาไว้ในป้ายคำสั่ง หากเจ้าไปที่โลกพิรุณแล้ว ต่อให้ต้องพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ก็ต้องหาตัวมันให้พบแล้วสังหารมันให้ได้!”
จากกลิ่นอายที่มันสัมผัสได้ เจ้าของกลิ่นอายเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตประสานวิญญาณ จึงทำให้มันสงสัย
“องค์กษัตริย์จะให้ข้าไปสังหารขอบเขตประสานวิญญาณเช่นนั้นหรือ?”
มันไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นจะทำให้หานเนี่ยเทียนบาดเจ็บได้ และไม่อยากจะเชื่อว่าคนผู้นั้นจะทำให้หานเนี่ยเทียนเป็นกังวล ถึงขนาดที่ออกคำสั่งสังหาร
“เจ้าสงสัยอะไร?” หานเนี่ยเทียนขมวดคิ้ว
“ข้าไม่กล้า! องค์กษัตริย์ไม่ต้องกังวล แค่ผู้เชี่ยวชาญระดับนั้น ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”
“อืม ไปได้แล้ว”
บุรุษผู้นั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงหานเนี่ยเทียนที่นั่งอยู่ลำพัง
“มันไม่มีทางครอบครองโลหิตราชาปีศาจ มันเป็นแค่มดปลวกเหมือนหานเทียนเฉว ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง… แต่ทำไมการคงอยู่ของมันถึงทำให้จิตใจของข้าว้าวุ่น...”