Chapter II Scene 15
“
Chapter II Scene 15
”
ตอนนี้ ผมอยู่ในอารมณ์ที่ตึงเครียดสุดๆเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะ…
ผมจัดแต่งเสื้อผ้าเสร็จ ก็หันไปมองคุณหนูคายาที่พึ่งจัดชุดตัวเองให้เรียบร้อยเสร็จพอดี ผมไม่นึกเลยความฝันที่ได้มีอะไรกันกับดาร์เลเน่ จะกลายเป็นสาวผมบ๊อบน้ำตาลน่ารักอย่างคุณหนูคายาได้
พิษนั้นคงทำให้ผมเห็นภาพหลอนแน่ๆ เจ้างูเลว! ตรูจะล้างเผ่าพันธุ์แกแน่!
ผมที่เคยพูดว่าจะไม่แตะต้องเธอเด็ดขาด กลับกลืนน้ำลายตัวเองเสียได้ นี้มันไม่ใช่วิถีผมหรือของริชาร์ด ถึงผมจะมีสติไม่ครบถ้วน แต่ผมก็รู้สึกดีไปกลับมัน ผมควรเอะใจตอนแต่แรกแล้ว ว่าทำไมมันถึงรู้สึกดีสมจริง
อืม~ เอาไงดีว่ะเนี่ย ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอดี แบบนี้ก็เท่ากับว่าผมข่มขืนเธอรอบสองไม่ใช่เหรอ?
“เอ่อ… คือว่า… ขอโทษ” นั้นเป็นประโยคที่ผมสามารถคิดและพูดออกไปในตอนนี้ มันดูเหมือนไม่จริงใจยังไงไม่รู้แฮะ
“…มะ-ไม่เป็นไร คะ-คุณก็แค่ทำไปโดยไม่มีสติ…” คุณหนูคายาตอบผมออกมาด้วยเสียงติดขัดด้วยใบหน้าที่ขึ้นแดง ไม่รู้ว่าเธออายหรือโกรธกันแน่?
ก็ต้องโกรธอยู่แล้วสิ! คิดอยู่สิ ผู้ชายที่เคยบอกว่าจะไม่แตะเธออีกหลังชำเราเธอไป แต่กลับกลืนน้ำลายตัวเองและทำกับเธอเหมือนเดิม
เกิดความเงียบระหว่างเราอีกครั้ง ต่างฝ่ายไม่รู้จะพูดอะไรกัน และในที่สุดผมก็ไม่สามารถทนความเงียบนี้ได้ จนเป็นฝ่ายเริ่มเปิดพูดขึ้น
“ต้องขอโทษที่ทำให้นึกถึงเรื่องแย่ๆ…” ว่าแล้วก็ลุกขึ้น ใช้มือซ้ายตบๆให้ฝุ่นออกจากตัว
ผมว่า… ผมอาจไปทำให้เธอนึกถึงเธอแย่ๆเข้า อย่างวันที่ริชาร์ดข่มขืนเธอ อืม~ ถึงผมจะไม่ได้เป็นคนทำ แต่ผมก็ไม่อาจละทิ้งความผิดได้ เพราะผมได้เป็นริชาร์ดแล้ว ต้องแบกรับบาปนี้ต่อไป
“มะ-ไม่ เอ่อ…ฉันหมายถึงใช่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร” คุณหนูคายาแย้งออกมาต่อคำพูดผม ก่อนที่จะพึมพำเบาๆออกมาจนผมได้ยินไม่ชัดจับใจความไม่ค่อยได้ตามหลัง “…ตอนแรกคิดว่าจะเจ็บกว่านี้ซะอีก…”
“ห่ะ? เธอว่าไงนะ?”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” คุณหนูคายามีท่าทางที่วุ่นวาย ก็จะรีบลุกขึ้น แต่เหมือนว่าเธอจะเข่าอ่อนไม่หายทำให้เธอนั้นเข่าทรุดลงไป
เห็นแบบนั้นผมก็รีบเข้าไปรับเธอในทันที ไม่ให้เธอนั้นล้มลงไป ก้มจ้ำม้ำเอา พอมาดูใกล้ๆแบบนี้แล้ว คุณหนูคายานี้ หน้าหวานจังแฮะ พอมีผมบ๊อบสั้นแล้ว ยิ่งทำให้น่ารักไปอีก อา~
ไม่ๆ ไม่ใช่แล้ว เราไม่ควรมีความคิดแบบนี้กับเธอ สัญญาแล้วนี่?
“คุณหนูคายา ไหวไหม?” ผมถามออกไป
เธอก้มหน้าจนผมไม่เห็นสีหน้าเธอในตอนนี้เลย และเหมือนเธอกำลังพึมพำอะไรออกมาด้วย
“ไม่…เอาแบบนี้”
“ไม่เอาแบบนี้? หมายถึงอะไร?”
“ทำไมคุณถึงไม่เรียนชื่อฉันล่ะ ทั้งๆที่เรียกคนอื่น แต่กลับฉัน…” คุณหนูคายาเงยหน้า หางตาของเธอมีน้ำตาซึมออกมา เหมือนเธอกำลังประท้วงบางอย่าง
อะไร? ทำไมจู่ๆเธอถึงร้องไห้ออกมาล่ะ? นี้…ผมทำไรผิด?
“เอ่อ…คือ…” ผมไม่รู้ว่าจะทำไงต่อดี ผมเลยวางมือซ้ายที่หัวเธอ
ก่อนจะลูบมันอย่างเบามือ จนเหมือนว่าเธอจะเย็นใจลงได้ พอเป็นแบบนี้ คุณหนูคายาก็เริ่มเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆเลยแฮะ? น่ารักน่าเอ็นดูยังไงไม่รู้ อย่างกับว่าเธอกำลังปลุกให้บางสิ่งจากตัวผมเลยล่ะ
“เรียกชื่อฉันสิ หรือว่าคุณริชาร์ดเกลียดฉัน?” คุณหนูคายาพูดออกมา ทิ้งตัวซุกหน้าที่อกผม ทำให้ตอนนี้หน้าอกหน้าใจของเธอกำลังแนบชิดผมอยู่
“คุณหนู…” และระหว่างที่ผมจะเรียกเธอตามปกตินั้นเอง คุณหนูคายาก็พูดขัดผมก่อนว่า “ไม่เอา ไม่ใช่แบบนี้สิ คุณลืมชื่อของผู้หญิงที่ได้ข่มขืนไปเหรอคะ?”
ขู่กันนี้หว่า!
“แต่เธอไม่ชอบให้ฉันเรียกชื่อแบบสนิทสนมนี่?”
“ตอนนี้กับตอนนั้นไม่เหมือนกันซะหน่อย! นี้คุณได้ฉันรอบสองแล้วคิดจะทิ้งฉันอีกเหรอ!”
หว่า… เธอโวยวายแล้วไง? แล้วไอ้ที่บอกว่าทิ้งเนี่ย… ผมไปเป็นอะไรกับเธอตอนไหน? ผูัหญิงเนี่ยอารมณ์ไม่คงที่จริงๆ ผมว่าให้ผมไปฆ่าศัตรูเก่งๆจะง่ายกว่ามารับมือกับผู้หญิงนะ?
“คุณจะไม่คิดรับผิดชอบฉันเลยเหรอ? ทีเลเน่ล่ะ ทำไมถึงเอาใจเธอนักล่ะ ฉันก็ถูกนายข่มขืนนะ!”
ยิ่งพูด ก็ยิ่งไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่? แล้วทำไมถึงลามไปถึงดาร์เลเน่ได้เนี่ย? เอาใจ? นี้คุณเธอคิดว่าการหลับนอนกับดาร์เลเน่เป็นการแสดงความรัก?
แล้วไอ้ที่ว่า ‘ฉันก็ถูกนายข่มขืนนะ!’ เนี่ย? คือ…? จะบอกว่า ถ้าผมรักใครชอบใคร ต้องไปฉุดเขาข่มขืน?
คุณหนูคายาเหมือนว่าเธอจะติดถ้ำจนเลอะเลือนแล้วสิ เพราะงั้นผมจึงทำการดีดหน้าผากเธอไปดอกหนึ่ง
จนคุณเธอหมอบลงไปพร้อมจับหน้าผากตัวเอง ส่งเสียงน่ารักออกมาให้ได้ฟัง
“อืม~ ทำอะไรน่ะ ขนาดท่านพ่อยังไม่เคยทำร้ายฉันเลย คุณมันชอบทำลายร่างกายฉัน!” คุณหนูคายาเงยหน้าขึ้นมองผมขณะจับหน้าผากที่เจ็บอยู่ ทำหน้าทำตาเหมือนกำลังงอนผม
“ใจเย็นยัง?” ผมถามเธอ เธอก็พยักหน้าให้ผม ผมเลยถามออกไปอีกว่า “สรุปเธออยากให้ฉันจับขังเธอข่มขืนหรือไง? อยากเป็นสมบัติส่วนตัวของฉัน?”
“ฉะ-ฉันก็แค่อยาก ให้นายเอ็นดูฉันบาง…” คุณหนูคายาตอบผมออกมาด้วยใบหน้าเขินๆ เสียงเธอเบาลงเรื่อยๆจนไม่ได้ยิน ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น
“งั้นเธอสามารถนอนกับฉัน เท่าที่ฉันต้องการได้ไหมล่ะ?” ผมพูดยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหน้าคุณหนูคายา จนเหมือนผมได้ยินเสียงไอน้ำระเบิด ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะแดงเป็นลูกมะเขือเทศสุก
ผมรอเธอตอบออกมา แต่เมื่อดูท่าเธอจะไม่ตอบอะไร ผมก่อนถอยห่างจากเธอ แต่เธอก็ตอบผมออกมาก่อนว่า
“ดะ-ได้สิ ฉันทำได้…” คุณหนูคายาตอบผมด้วยใบหน้าที่แดงจัด เธอพยายามใช้สองมือปกปิดหน้าของเธอ
เธอทำแบบนั้น ผมก็ชักหื่นแล้วสิ เป็นเพราะเธอเลยนะ ที่ตอบได้ ผมไม่ได้ผิดสัญญาอะไร เพราะเธอเป็นคนยินยอมเอง ใช่แล้ว!(ให้ความรู้กฏหมายจากนักเขียน พรากผู้เยาว์ ถึงแม้ยินยอมก็ติดคุกนะจ๊ะ!)
ผมเลยเข้าไปจูบกับเธอ ตอนแรกโจลี่(ขอเปลี่ยนไปเรียกชื่อต้นครับ ง่ายดี)นั้นก็เหมือนตกใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เธอผ่อนคลายลง ระหว่างที่เรากำลังแลกลิ้นกัน ถึงแม้ว่าโจลี่จะไรเดียงสาอยู่ แต่ก็…
เมื่อเราแยกกันนั้นเอง ก็เกิดส่ายน้ำลายระหว่างเรา ตอนนี้โจลี่เหมือนกับกำลังจะละลายเลยล่ะ
“โจลี่ จะให้เรียกแบบนี้เหรอ?” ผมถามเพื่อยืนยันคำตอบตัวเอง
“อะ-อืม” ได้ยินแบบนั้น ทำก็ไซร์คอเธอ เลียต้นคอขาวๆของเธอก่อนจะดูดให้เป็นจ้ำๆ ทำให้โจลี่ครางเสียงหวานๆออกมาให้ผมได้ฟัง
“ยะ-ใหญ่จัง เจ้านี้เหรอที่ทำเรา?” โจลี่พึมพำออกมา เมื่อผมได้ง้อเอาเจ้าโลกให้เธอดู เธอคงพึ่งได้สังเกตจริงๆจังๆก็คราวนี้แหละ
เจ้าน้องชายของผมนั้นแข็งตัวและกระตุกเสื้อระหว่างหน้าท้องของโจลี่ ผมเห็นเธอกำลังแสดงสีหน้าทึ่งๆออกมามากกว่าจะกลัวมัน เธอจับมันด้วยมือที่เล็ก นุ่มและอุ่นของเธอ ก่อนจะลูบมันขึ้นลงเบาๆ
“อืม~” ผมครางออกมาเบาๆ มันสุดๆเลย!
“รู้สึกดีเหรอ?” โจลี่เงยหน้ามองผมด้วยใบหน้าที่!! แบบว่า…น่ารักสุดๆเลย!
“ใช่ จะดีมากเลยถ้าเธอจะใช้ปาก”
โจลี่ทำหน้าสงสัยบางอย่างสักพัก ก่อนจะทำหน้าเข้าใจอะไรบางอย่าง แล้วเธอจึงนั่งลงตรงหน้าผม ใช้มือจับให้ริชาร์ดน้อยอยู่นิ่ง ก่อนจะงับเบาๆลงที่ส่วนหัว
บอกเลยว่าต่อให้โจลี่คิดจะถอยกลับ ผมก็จะจับเธอขังห้องเลยล่ะ หรือถ้าเทรย์เวอร์พยายามจีบเธอล่ะก็…กูจะตักแขนมันทั้งสองข้างเลย
หลังจากจัดหนักไปกับโจลี่ และระหว่างทางก็มีการหยุดทำกันบ่อยๆ จนให้ที่สุด ผมกับโจลี่ก็มายืนอยู่หน้าประตูหินที่ถูกแกะสลักลายแปลกๆ…หรือนี้จะเป็นห้องบอส?