Chapter II Scene 12
“
Chapter II Scene 12
”
ชุดเกราะสีเทาเก่าขึ้นสนิม เดินออกมาจากกลุ่มควัน แต่ละเท้าของมันที่ก้าวลงไปนั้น ช่างหนักแน่นด้วยน้ำหนักของชุดเกราะ เท้าของมันจมลงไปเล็กน้อยกับพื้นดิน
เทรย์เวอร์ โอเรียนน่าและดาร์เลเน่ ต่างรู้สึกกดดันกับตัวตนตรงหน้า
มันกลับมาอีกครั้งแล้ว ความรู้สึกนี้ พลังที่แตกต่างกันมากจนเกินไป จนทำให้ขยับร่างกายตามใจไม่ได้! ความรู้สึกแบบเดียวกันกับมังกรนั้น
ความกดดันของผู้ล่าที่แข็งแกร่ง มันเดินเข้ามาใกล้พร้อมเสียงของโลหะกระทบกัน มันเป็นเสียงของจังหวะเดินของมันที่ทำให้ชุดเกราะกระทบกัน
จิตใจของเทรย์เวอร์ในตอนนี้อยู่ในจุดที่เรียกว่าต่ำสุดๆก็ว่าได้ กดดัน หวาดกลัว อึดอัด ความรู้สึกด้านลบเริ่มกัดกินจิตใจของเขา จนเกิดรอยผาลึกในใจเขา
‘ท้อแท้ สิ้นหวัง’
และทุกครั้งริชาร์ด ชายผู้ที่เป็นสิ่งตรงข้ามกับเขา ดั่งแสงสว่างและความมืดมิด ก็จะเข้ามาช่วยและจัดการศัตรูที่เทรย์เวอร์คิดว่าไม่อาจต่อกรได้ แต่ความคิดของเขาก็ได้ผิดไป
เพราะครั้งนี้ ไม่ได้มีริชาร์ด ไม่มีการช่วยเหลือจากปีศาจร้ายตนนั้นอีกแล้ว
ตูมมม!!
และคนที่เคลื่อนไหวก่อนเป็นคนแรกนั้น กลับไม่ใช่เทรย์เวอร์อย่างในบทบาทของเขาควรเป็น แต่เป็นหญิงสาวผมฟ้า ดาร์เลเน่ลงมือได้การใช้เวทเพลิงระเบิดใส่ชุดเกราะศัตรู
“ตั้งสติหน่อยสิ นายยังไม่แพ้ซะหน่อย! นายอยากให้เขามาพบสภาพเวทนาแบบนี้เหรอ!!” ดาร์เลเน่ตะโกนเตือนสติเขา
เทรย์เวอร์เบิกตากว้าง สมองของเขาให้คำตอบกับตัวเองในทันท่วงที
‘ใช! นี้มันเป็นเพียงการเริ่มต้น จะมายอมแพ้ไม่ได้!’ เทรย์เวอร์มีแววตาที่เปร่งประกายขึ้น การตัดสินใจที่แน่วแน่มั่นคง ของเขาได้กลับมาเช่นเดียวกันกับเขาคนเดิมแล้ว
แต่เหมือนว่าศัตรูชุดเกราะหนักของเขานั้น จะไม่ได้ให้เวลาเทรย์เวอร์คิดทบทวนกับตัวเอง มันไม่สะทกสะท้านอะไรกับการโจมตีของดาร์เลเน่แม้แต่นิดเลย ดาบยักษ์ที่มีความยาวมากกว่าสามเมตร ได้ฟันตัดฝุ่นควันลงมาหาเทรย์เวอร์อย่างรวดเร็ว
แต่…
ตูมม!
ก็ได้มีโล่แสงปรากฏขึ้นมากันระหว่างดาบใหญ่และเทรย์เวอร์ไว้เสียก่อน ใช้โอกาสนี้เอง เทรย์เวอร์รีบดีดตัวหลบไปด้านหลังก่อนโล่แสงจะพังทะลายลงติดๆกัน
ดาบนั้นพลาด ฟันลงพื้นถ้ำลึกและยาว…
ส่วนเทรย์เวอร์นั้นได้โดดมาอยู่ระหว่างดาร์เลเน่กับโอเรียนน่าด้วยท่าทีที่มั่นคง ไม่มีความลังเลปรากฏให้เห็น
“ขอบใจมากเลเน่ ที่เตือนสติฉัน! ขอบใจมากและขอโทษที่ฉันมันอ่อนแอ” เทรย์เวอร์พูดออกมาด้วยเสียงคงที่ เขาได้ขอบคุณดาร์เลเน่ที่ได้เรียกสติเขามา ช่างน่าอายเหลือเกิน ที่ต้องให้ผู้หญิงเตือนแบบนี้
“ฉันว่าคำพูดนั้นอย่าให้ริชาร์ดได้ฟังดีกว่านะ?” ดาร์เลเน่พูดขึ้นเหมือนกำลังหยอกล้อเทรย์เวอร์ ก่อนจะยกมือทั้งสองขึ้นไปด้านหน้า เกิดวงเวทซับซ้อนขึ้น มันค่อยๆถูกเขียนขึ้นมาอย่างช้าๆ
“รักเจ้าริชาร์ดมากเลยนะ” เทรย์เวอร์ก็ทำการหยอกล้อกลับ จนดาร์เลเน่หน้าขึ้นสีชมพูอ่อนๆ
“นี้! อย่าทิ้งกันสิคะ!” แน่นอนโอเรียนน่าก็บ่นออกมาอย่างงอนๆ
ดาร์เลเน่กับเทรย์เวอร์ก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางอันน่ารักของโอเรียนน่า ก่อนที่เทรย์เวอร์จะทำสีหน้าจริงจังขึ้น และพูดขึ้นว่า
“เหมือนว่าฉันจะต้องโคนเจ้านั้น เพื่อเรียกความมั่นใจเสียแล้วสิ!” เทรย์เวอร์หันไปมองอัศวินชุดเกราะหนัก ที่ดึงดาบออกมาจากพื้น ก่อนที่มันจะพุ่งกระฉูดมา เสมือนว่าแรงโน้มถ่วงไม่อาจทำให้ชุดเกราะของมันหนักหรือช้าได้
ความหวาดกลัวและสิ้นหวังของเทรย์เวอร์ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะศัตรูตรงหน้าให้ได้ เขารู้ว่าตอนนี้เขาควรทำอะไรก่อนที่ดาร์เลเน่จะร่ายเวทบทใหญ่เสร็จ
เทรย์เวอร์พุ่งตัวออกไป ในเมื่อไม่มีริชาร์ด แรงกดดันแปลกๆก็หายไปจนทำให้เขาสามารถแสดงความสามารถออกมาได้ ว่ากันตามตรง ตัวเทรย์เวอร์นั้นก็ใช่ว่าตัวเขาจะด้อยกว่าริชาร์ด ตัวเขานั้นสมควรที่จะถูกทดสอบต่างๆที่ทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่ง เขาควรเป็นตัวเอกของเรื่องราวนี้!
เกิดเสียงระเบิดอากาศขึ้นพร้อมเสียงโลหะปะทะกันดังกัมปนาทขึ้น ทั่วทั้งถ้ำต่างสั่นสะเทือนจากการฟัดฟันดาบของทั้งสองตัวตน คนหนึ่งเป็นอัศวินเวทสวมเกราะและดาบสีเงินเปร่งจ้าขึ้น กับอีกหนึ่งที่เป็นซากจากอดีตที่เลวร้าย ดาบและเกราะเป็นสนิมเขรอะ เปร่งประกายแห่งความตายและจิตอาฆาตพยาบาทอย่างรุนแรง
เทรย์เวอร์ผลักดาบของศัตรูออกไปได้สำเร็จ ก่อนจะใช้จังหวะนั้นทำการแทงดาบใส่กลางลำตัว แต่เทรย์เวอร์กลับสัมผัสได้แค่ความว่างเปล่าในชุดเกราะนั้น และระหว่างที่กำลังตื่นตระหนักอยู่นั้นเอง
ดาบใหญ่สนิมเขรอะก็ได้ถ้าฟันลงมาแล้ว เทรย์เวอร์นั้นไม่สามารถกันได้เพราะความประมาทตนไป แต่ก่อนที่ดาบนั้นจะถึงตัวเทรย์เวอร์ ก็ได้มีโล่แสงกันไว้ก่อน
มันเป็นของโอเรียนน่านี่เอง!
เทรย์เวอร์โดดหลบมาตั้งหลักในทันท่วงทีที่เห็นโอกาส และในตอนนั้นเอง ดาร์เลเน่ก็ได้ตะโกนขึ้น
“หลบไป!” มันเป็นสัญญา!
เทรย์เวอร์ดีดตัวถอยห่างจากศัตรูในทันที
เทรย์เวอร์สัมผัสได้ถึงความร้อนรอบตัวผ่านเขาไป เพลิงสีส้มแดงห้าสายพุ่งเข้าหาศัตรูรอบทิศทาง เกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นมา จนหินถล่มลงทบใส่ศัตรู เกิดกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นหนาแน่น
เทรย์เวอร์กระเด็นไปตามแรงระเบิด ก่อนจะสามารถตั้งหลักได้ก็ใช้เวลาอยู่สักพัก โอเรียนน่าก็ล้มลงไปตามแรงเช่นกัน ส่วนดาร์เลเน่นั้น เธอมีอาการหอบหายใจรุนแรง หน้าของเธอซีดๆเหมือนคนเลือดจาง เธอพยุงตัวเองด้วยการดันเข่าไว้
“แฮ่ก! แฮ่ก! ได้…ผลไหม?” ดาร์เลเน่หอบหายใจถามออกมา
“น่าจะ…” เทรย์เวอร์ไม่มีความแน่ใจ
“มันต้องได้ผลสิ!” โอเรียนน่าที่ลุกขึ้นมาได้ เหมือนพยายามให้กำลังใจตัวเองอยู่
และเมื่อเวลาไหลผ่านไป ด้วยความเงียบ ทุกคนก็เหมือนผ่อนคลายความตึงเครียดลงมาได้ระดับหนึ่ง แต่ทันใดนั้นเอง!
จู่ๆก็มีคลื่นสีดำตัดผ่ากลุ่มฝุ่นควันออกมา มันมาอย่างกะทันหัน และมาตอนที่ทุกคนผ่อนคลายความตึงเครียด
ถึงแม้ว่าโอเรียนน่าจะตอบสนองทันในการร่ายเวทโล่แสงขึ้นมา แต่มัน…ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนัก เทรย์เวอร์ โอเรียนน่าและดาร์เลเน่ ต่างถูกคลื่นสีดำซัดจนกระเด็นไป
ดาร์เลเน่กับโอเรียนน่าสลับไปทันที เหลือเพียงเทรย์เวอร์ที่ยังประคองสติไว้ได้ ก่อนที่จะมีบางอย่างเดินออกมาจากกลุ่มควัน
มันคือชุดเกราะหนักอัศวินนั้นเอง ตอนนี้สภาพของมันมีรอยยุบ และแตกร้าวออกมา หมวกของมันได้หายไป เผยให้เห็นหัวกะโหลกสีขาวให้เห็น พร้อมดวงไฟสีแดงในเบ้าลึก…