Chapter II Scene 10
“
Chapter II Scene 10
”
ขณะเดียวกันที่ริชาร์ดกำลังสู้กับแมงมุมยักษ์อยู่นี่เอง
“หนูไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษค่ะๆ”
“ไม่เป็นไรเรียนน่า ริชาร์ดไม่อยู่ซะหน่อย”
“นั้นสิค่ะ ไม่ต้องกลัวถูกว่าขนาดนั้นก็ได้”
หลังจากวงเวทเคลื่อนย้ายได้ทำงานประสบผลสำเร็จ รู้ตัวอีกทีเทรย์เวอร์ โอเรียนน่าและดาร์เลเน่ ก็มาโผล่ที่ไหนซะแห่งที่เหมือนภายในถ้ำเหม็นอับชื้น
ก็เป็นเวลาสักครู่แล้วที่โอเรียนน่านั้นร้องไห้ออกมาจากความผิด ที่เธอไปแกะรูบีออกมาจากกำแพงนั้น จนมีวงเวทปรากฏขึ้น เคลื่อนย้ายทุกคนแยกจากกัน
โดยมีดาร์เลเน่กับเทรย์เวอร์มาปลอบประโลมเธออยู่ จริงๆแล้วถ้าคิดแบบบวกๆหน่อย อาจคิดได้ว่าวงเวทนั้นจะต้องปรากฏขึ้นมา แต่มันมาพร้อมดีกับโอเรียนน่าที่ไปแกะรูบีมาก็ได้ ใครจะรู้
“หนูต้องโดยริชาร์ดเอาเรื่องแน่! แง~!” โอเรียนน่ายิ่งร้องไห้ออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้าอันชั่วร้ายของริชาร์ดที่ลอยเข้ามาในหัวเธอ
ถึงแม้ว่าเธอจะทำเป็นเก่งและอวดดีกับริชาร์ดบ่อยๆครั้ง แต่จริงๆก็ทำได้แค่อยู่กับพี่ชายเธอเท่านั้นแหละ เพราะจริงๆแล้วโอเรียนน่านั้นหวาดกลัวริชาร์ดเป็นอย่างมากเลยล่ะ โดยเธอได้ยินว่าเขาไปข่มขืนคนนี้คนนู่นบาง สั่งฆ่าคนบาง ก็ทำให้เธออดฝันร้ายที่มีริชาร์ดลักพาตัวเธอไปขังไว้ในห้องใต้ดิน และข่มขืนเธอซ้ำไปมา
มัน…น่ากลัวมาก! ยิ่งรู้ว่าดาร์เลเน่นั้นถูกทำแบบที่เธอมักฝันร้าย ก็ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวริชาร์ดมากขึ้น
“หะ-หนูจะโดยเขาจับไปทรมานแน่คะ!”
เทรย์เวอร์ก็ได้ทำหน้ายิ้มแห้งๆออกมาเท่านั้น เพราะรู้ถึงนิสัยของน้องสาวตัวเองดี ชอบคิดเองเอ่อเอง จนไกลจากความเป็นจริงไปบ้าง ทั้งๆที่ตอนเด็กๆออกจากเดิมตามริชาร์ดไปทั่วพระราชวังแท้ๆ
“หนูจะถูกเขาทรมานเป็นทาสแน่!” โอเรียนน่ายังคงนั่งกอดเข่าร้องไห้ออกมา และคิดสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อพบกับริชาร์ดครั้งหน้า
แน่นอนว่าในหัวเธอก็มีแต่เรื่องลามกที่ถูกริชาร์ดจับล่ามโซ่ไว้ในคุก และกระทำชำเราเธออยู่ โดยมีสีหน้าที่หื่นกระหายและรอยยิ้มชั่วร้าย
“ไม่เป็นไร! พี่จะปกป้องน้องเอง!” เทรย์เวอร์ทุบอกอย่างมั่นใจ เพื่อทำให้โอเรียนน่าสบายใจขึ้นมา
“พี่ค่ะ…” และเหมือนว่าจะได้ผลทีเดียว เพราะในที่สุดโอเรียนน่าก็ยอมเงยหน้าขึ้นมา ถึงแม้จะยังมีน้ำตาซึมออกมาก็เถอะ
แต่…ดาร์เลเน่ก็ได้ทำลายบรรยากาศของสองพี่น้องโดยสิ้นเชิง
“ฉันว่าถ้าริชาร์ดอยากทำแบบนั้นกับเธอจริงๆ เทรย์เวอร์คงหยุดเขาไม่ได้หรอกนะ ริชาร์ดน่ะก้าวหน้าไปไกลกว่าเทรย์เวอร์มากแล้ว” ดาร์เลเน่หน้านิ่งพูดออกมา
สองพี่น้อง เงียบไปสักพักเหมือนกำลังคิดวิเคราะห์อยู่…
“แง~!! จริงๆด้วย! หนูจะถูกทรมาน หนูจะถูกทำเป็นของเล่นบลาๆๆๆ” และโอเรียนน่าก็กลับมาร้องไห้หนักกว่าเดิม และเริ่มบรรยายถึงสิ่งที่ริชาร์ดจะทำกับเธอ ซึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ และริชาร์ดก็ไม่เคยคิดจะทำมันด้วย
ใช่ มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่มโนไปเอง…
เทรย์เวอร์แทบจะร้องไห้ออกมาเป็นเพื่อนน้องตัวเอง เขาจนปัญญาที่จะปลอบโอเรียนน่าแล้ว เขาเลยต้องหากำลังเสริม และนั้นก็คือดาร์เลเน่นั้นเอง
ดาร์เลเน่ทำหน้าคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะพูดออกมากับโอเรียนน่าว่า
“แต่ริชาร์ดคงไม่ทำหรอก แค่ฉันบอกหรือทำให้เขาไม่ว่างไปหาคนอื่นๆก็พอ”
กว่าที่โอเรียนน่าจะหยุดร้องไห้ ก็ใช้เวลาปลอบเธอกว่าครึ่งชั่วโมงได้ ถึงจะเดินออกจากจุดเดิม
“หนูจะไม่ถูกริชาร์ดทรมานใช่ไหมคะ?” โอเรียนน่าถามเหมือนยังไม่แน่ใจ
“แน่นอนสิ เรียนน่าน้องคิดมากไปแล้ว ริชาร์ดไม่กล้าทำอะไรน้องหรอกถ้ามีดาร์เลเน่!” เทรย์เวอร์ก็ตอบให้น้องตัวเองมั่นใจขึ้น
“แต่ถ้า ตอนที่หนูอยู่กลับเขาสองต่อสองโดยไม่มีคุณพี่เลเน่ล่ะค่ะ” โอเรียนน่าก็ยังคงถามพี่ชายเธอถึงสถานการณ์ต่างๆ และเทรย์เวอร์ก็ตอบน้องสาวอย่างมั่นใจ
แต่กลับดาร์เลเน่แล้ว กลับกำลังคิดถึงอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว
‘แย่ล่ะ ริชาร์ดเสร็จยัยโจลี่แน่!’
ทันใดนั้นเอง ระหว่างคนทั้งสามกำลังเดินตามทางของถ้ำอยู่นั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเดินตามผนังหินและพื้นอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรกำลังโผล่ออกมา!” เทรย์เวอร์พูดขึ้นชักดาบเตรียมพร้อมสู้ เช่นเดียวกันกับโอเรียนน่ากับดาร์เลเน่ ที่ยกไม้เท้าและหนังสือขึ้นมา
และในจังหวะนั้นเอง! ที่ปรากฏเงาขนาดใหญ่เบื้องหน้าพวกเขา มันคือตะขาบยักษ์ตัวใหญ่และมีความยาวถึง 5 เมตรได้ เกราะของมันนั้นมันเงาสีแดงออกมาอย่างกับเปลวเพลิงที่พร้อมลุกไหม้เหยื่อทุกรายของมัน
ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นปล้องมีขาเป็นข้อ และขานับพัน ทำให้พวกผู้หญิงหน้าซีดเผือดด้วยความขยะแขยงเมื่อเห็นมัน แม้แต่ดาร์เลเน่ก็ไม่เว้น…
ขณะเดียวกันที่โอเรียนน่ากำลังงอแงนั้นเอง
“เจ้าหญิงคะ! เจ้าหญิง!” ลิลลี่มีอาการร้อนรนกับการปลุกเจ้าหญิงของเธอ ไวโอเลต
โดยมีโนราเฝ้าระวังภัยอยู่ข้างๆ เพราะเธอนั้นมีประสาทสัมผัสที่ว่องไว ซึ่งมันเป็นหนึ่งในความสามารถตามธรรมชาติของพวกแวมไพร์
หลังจากลืมตาเป็นคนแรก ลิลลี่ก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในสถานที่ที่คล้ายภายในถ้ำ โดยที่ข้างๆเธอนั้นก็มีไวโอเลตกับโนราสลบอยู่ข้างๆ
“อะ…อืม~” ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องของลิลลี่ เธอก็ประสบผลสำเร็จในการปลุกไวโอเลตขึ้นมาได้ ไวโอเลตตื่นขึ้นมางุนงง
“…พี่ชายล่ะ?” ไวโอเลตถามเมื่อจับโฟกัสหน้าลิลลี่ได้
“…เอ่อคือว่า…”
“ทุกคนถูกจับแยกกัน เราอาจเจอพวกเขาถ้าเราออกสำรวจถ้ำนี้ไปเรื่อยๆ” คนที่ตอบคำถามไวโอเลตนั้นไม่ใช่ลิลลี่ แต่เป็นเด็กสาวผมม่วงดั่งคำสาปแช่ง หน้าไร้ชีวิตอย่างโนรา
ถึงแม้ว่าหน้าตาของโนราจะดูเด็ก แต่จริงๆแล้วเธออาจจะมีอายุมากกว่าริชาร์ดก็ได้ ทำให้บางครั้งเธอก็มีความคิดที่ลึกล้ำยากที่อ่านออก
“…” ไวโอเลตนิ่งเงียบ เหมือนกำลังคิดบางอย่าง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนพร้อมบอกทุกคนว่า “งั้นไปกันเถอะค่ะ ดูเหมือนว่าสถานที่แห่ง จะมีพลังเวทแห่งความตายที่แข็งแกร่งอยู่นะคะ?”
ไวโอเลตแสดงทางท่าไม่เหมือนกับที่จะแสดงกับริชาร์ด ที่จะเป็นเหมือนเด็กต้องการความอบอุ่น ตอนนี้เธอนั้นกลายเป็นผู้อวุโสมากความรูั
และโนรากับลิลลี่ก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเธอนั้นสัมผัสถึงพลังอันน่าขยะแขยง พลังแห่งความตาย…
ภายในสถานที่สักที่ในเขาวงกต มันเป็นทางเดินยาวที่ถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหราด้วยหินอ่อน และการเรียบร้อยเสาเป็นระเบียบนั้นเอง
ทางเดินที่ทอดยาวนั้น สุดปลายทางนั้นมีเงาใครบางคนที่ถือไม้เท้าโครงกระดูกอยู่ เงานั้นเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆตลอดเวลา เสมือนว่ามันได้พบเรื่องสนุกสนานเข้าให้
“หิๆๆฮ้าๆๆๆ ในที่สุด ในที่สุด ก็ได้มีคนบาปยิ่งกว่าใครในโลกลงมา”
“จงมาพบข้า ยืนตรงหน้าข้า โค่นล้มข้าและกลายเป็นราชาเสมือนข้า เพราะไม่งั้นเจ้า…ก็จะตาย หิๆฮ้าๆๆๆๆ!!!!”