Chapter II Scene 01
“
Chapter II Scene 01
”
“สรุปพวกแกทำอีท่าไหนถึงถูกควบคุมได้นะ?” ผมถามออกไป ขณะนั่งให้ ‘ลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์’ หรือเรียกสั้นๆว่าลิลลี่ก็ได้ เธอกำลังพันผ้าพันแผลให้หัวไหล่ผม
มันเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอควร กับการที่แขนขวาขาดตั้งแต่หัวไหล่ลงไป หรือพูดง่ายๆคือ ขาดทั้งแขนนั้นแหละ ถึงแม้ว่าโลกนี้จะมีเวทมนต์ที่สามารถรักษาให้หายได้ทันที แต่มันก็ไม่ถึงกับงอกแขนขาใหม่ได้ แปลว่าผมต้องสูญเสียแขนขวาไปตลอดกาลสินะ
เฮ้ย~ ตอนนี้ผมกำลังเค้นถามหาคำตอบกับเทรย์เวอร์ โอเรียนน่า คุณหนูคายา ดาร์เลเน่และโนรา ถึงเจ้าพวกนี้จะอ่อนแอขนาดไหน ก็ใช่ว่าจะถูกสะกดจิตได้ขนาดนั้น โดยเฉพาะเผ่าแวมไพร์ที่มีเวทสะกดจิตอย่างโนรากลับถูกสะกดจิตเสียเองซะงั้น
“ก็… ในตอนกำลังทานข้าวเย็นอยู่นั้น อาซาเลียนั้นได้มอบแหวนเป็นของขวัญให้กับพวกเรา เห็นบอกว่ามันช่วยเพิ่มพลังเวทได้ด้วย เลย…” เทรย์เวอร์พยายามอธิบายออกมา
เลยรับโดยไม่สงสัย? พวกนี้เป็นคนโลภตั้งแต่เมื่อไหร่? เอาเถอะเครื่องประดับที่สามารถเพิ่มเวทได้เลย ก็ใช้ว่าจะหากันง่ายๆด้วย ถ้าเป็นผม ผมก็คงจะรับเหมือนกัน
แต่ว่านะ… แหวนที่สามารถควบคุมคนได้เนี่ย ไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อนเลยแฮะ? มีไอเทมแบบนั้นในเกมได้เหรอ?
“แล้วแหวนที่ว่าล่ะ?”
“มันสลายไปตอนจบเรื่องน่ะ”
มีความสามารถทำลายตัวเองหลังจากเสร็จงานด้วย? สะดวกจริง ดูเหมือนว่าองค์กรงูทมิฬเนี่ยจะมีของเล่นเยอะจริง ตอนสู้กับลูเซี่ยน ก็มีของที่ทำให้กลายร่างได้ มาคราวนี้ก็มีของที่สามารถควบคุมคนได้ ไม่ใช่ว่าถ้าเจอกันคราวหน้าจะไม่มีหุ่นยนต์เลยหรือ!?
เหมือนว่าทุกคนจะไม่กล้าสบตาผมนะจังหวะนี้ คงกำลังรู้ผิดสินะ โดยเฉพาะเทรย์เวอร์ที่มีสีหน้าย่ำแย่กว่าใคร เพราะเจ้าเวรนี้ทำให้ผมต้องตัดแขนขวาตัวเองทิ้งไป
“ไฟสีทองนั้น แกใช้ได้ตั้งแต่ตอนไหน” ผมยังคงถามต่อ
“ก็ตั้งแต่สวมแหวน”
“ยังใช้ได้ไหม?”
เทรย์เวอร์ส่ายหน้า ใช้ได้เฉพาะถึงควบคุมเหรอ? ไร้ประโยชน์จริงๆเลยเจ้าพวกนี้ ผมคิดผิดจริงที่พาพวกนี้มาด้วย
“เสร็จแล้ว!” ระหว่างถามเรื่องต่างๆอยู่นั้นเอง ลิลลี่ก็พูดขึ้น
“ขอบใจลิลลี่” ผมขอบคุณเธอไป มันเป็นการพันแผลที่สวยและเป็นระเบียบจริงๆ
“ไม่เป็นไร แล้วต่อจากนี้นายจะทำไงต่อ กลับเมือง?” ลิลลี่ถามผม
กลับ? ไม่มีทาง ผมมาถึงขนาด ได้แผลเป็นที่หน้าท้อง สูญเสียแขนขวาไป ยังไม่ได้อะไรกลับมา แบบผมจะกลับได้ไง แต่…
“พวกแกน่ะกลับไปซะ! ฉันจะไปต่อเอง มันเป็นความผิดฉันเองที่ให้พวกแกตามมาตั้งแต่แรก”
พวกเทรย์เวอร์มีสีหน้าตกใจกับการตัดสินใจของผม และเริ่มอึดอัดกัน
“แล้วพวกเธอจะทำไงต่อ?” ก่อนที่ผมจะหันหน้าไปถามลิลลี่ ผมสังเกตโดยรอบ มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเกือบครึ่งเมือง จากการโจมตีเพียงครั้งเดียวแบบไม่ตั้งตัวของอนาสตาเซีย
ประเด็นใหญ่ของผมในตอนนี้คือ ทำไมนางเอกหลักอย่างราชินีเอลฟ์ ราชินีอาซาเลียถึงไปอยู่ฝ่ายตัวร้ายได้? เธอควรเป็นนางเอกเพื่อช่วยเหลือพระเอกสิ? หรือว่าเป็นเพราะแหวน? แต่เธอไม่เหมือนถูกควบคุมเลยแฮะ? คงต้อง…ไปถามกับอนาสตาเซีย อึก!ไม่อยากไปหาเลย
เป็นตัวร้ายก็มีเรื่องให้ลำบากใจสินะ…
“ฉันว่าจะพาทุกคนและเจ้าหญิงองค์เล็กอพยพไปที่อื่น เพราะตอนนี้เมืองก็หายไปครึ่งนึง แถมยังเปิดเส้นทางให้พวกมนุษย์ชั่วๆอีก คงอยู่ต่อไม่ได้” ลิลลี่ตอบผม
นั้นสิ… คงอยู่ไม่ได้ที่อยู่ถูกเปิดเผยแบบนี้ คงหนีไม่พันถูกจับไปขายเป็นทาสแน่นอน แต่…
“พวกเธอไปได้ แต่ไวโอเลตต้องอยู่กับฉัน”
“นี้แก เผยท่าแท้มาแล้วสิเจ้าเลวทราม!” แน่นอนว่าลิลลี่ต้องไม่พอใจ เธอคงยังคิดว่าผมลักพาตัวไวโอเลตอยู่สินะ
“ตอนนี้ไวโอเลตเป็นสมบัติส่วนตัวของฉัน เธอเป็นทาสของฉัน มันเป็นสิทธิของฉันว่าจะให้อยู่หรือไป” ผมพูดออกมา พร้อมลูบหัวไวโอเวตที่นั่งตักผมตั้งแต่ต้น
“นายจะมากไปแล้วนะ!” เทรย์เวอร์ผู้เป็นคนมีคุณธรรมจริยธรรมสูงก็เกิดทนไม่ไหวขึ้นมา
“นายไม่ละอายใจบ้างหรือไง ฉันคิดผิดในตัวนายจริงๆ” โอเรียนน่าพูดดีใบหน้าผิดหวัง
ไอ้พวกจริยธรรมจอมปลอมเอ้ย! ทีในเกมพวกแกสองพี่น้องก็กระหน่ำแทงกันทุกเวลาทุกสถานที่เลย ก็แค่บทแบบนั้นยังมาไม่ถึงเท่านั้นเอง พูดแล้วก็ชักของขึ้น
“มากไป? แล้วแขนขวาของฉันล่ะมากไปไหม ดีแค่นั้นที่ฉันไม่ทำอะไรน้องแกห่ะ!” ผมก็ตอกกลับด้วยความหัวร้อนเหมือนกัน
“แล้วน้องฉันมาเกี่ยวไรด้วย!”
จังหวะนี้ผม เทรย์เวอร์และลิลลี่ต่างชักอาวุธออกมากันเตรียมพร้อมทุกเมื่อ
“หยุดนะคะพี่ชาย ลิลลี่กับคุณผูักล้าก็ใจเย็นๆด้วยคะ ฉันไม่เป็นไร” และตอนนั้นเองไวโอเลตก็ได้พูดขึ้นมา เพื่อห้ามปรามพวกเรา
ผมนั่งลงก่อนจะให้ไวโอเลตนั่งตักเช่นเคย ให้ตายสิ เหมือนว่าผมจะใจร้อนกว่าเดิม ตั้งแต่ที่ให้ริชาร์ดตัวจริงเข้าควบคุมร่าง
เมื่อไวโอเลตเห็นว่าทุกคนต่างสงบสติอารมณ์กันแล้ว เธอก็ได้พูดอีกครั้งว่า
“คุณริชาร์ดพูดถูกแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันเป็นสมบัติส่วนตัวของพี่ชาย เผ่าเอลฟ์นั้นต้องทำตามคำสาบานตัวเอง ยิ่งราชวงศ์ ถ้าราชวงศ์ผิดคำพูดเอง งั้นประชาชนคงไม่ต้องมาทำตามก็ได้” เห็นเป็นเด็กนมโตเฉยๆ ไม่ได้แล้วสิ ไม่ใช่ว่าเธออาจมีอายุมากกว่าเราเป็นสิบเท่าก็ได้ใครจะรู้ แน่นอนว่าเผ่าเอลฟ์นั้นขึ้นชื่อว่ามีอายุยืนยาวกว่าใคร
“แบบนั้นไม่เป็นไรเหรอ?” คุณหนูคายาพูดถึงเมื่อเธอเริ่มเข้าใจบางอย่าง
“ค่ะ ฉันไม่เป็นไร”
“เธอไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้นะ” เทรย์เวอร์เหมือนไม่ยอมแพ้ คงคิดว่าผมไปข่มขู่เธอสินะ ซัดหน้าสักหมัดไหมเนี่ย!
“เจ้าหญิงฉันรู้ความเที่ยงตรงของราชวงศ์เอลฟ์ดี แต่เขาก็ไม่ได้ช่วยราชินี พี่สาวของท่านตามสัญญานี่คะ!?” และนี้ก็คืออีกคนที่พยายามให้ไวโอเลตปล่อยใจ ลิลลี่ในตอนนี้มีสีหน้าย่ำแย่มาก
ไวโอเลตส่ายหน้าอย่างเดียวจังหวะนี้พร้อมพูดว่า
“นั้นแหละค่ะ ยิ่งทำให้ฉันต้องเป็นของพี่ชาย เพราะพี่สาวฉันยังคงหลงทางอยู่” ไวโอเลตเอนตัวลงจนหลังแนบอกผม เธอเงยหน้ามองผม “พี่ชายจะช่วยพี่สาวหนู ถ้าหนูเป็นของพี่”
หึ! คิดว่าฉันคนนี้เป็นใคร ฉันริชาร์ดผู้ร่ำรวยน่ะโว้ย ถึงจะเลวทรามยังไง ฉันก็เป็นคนที่รักษาสัญญาเป็นของตายอยู่แล้ว
“แน่นอน” ผมตอบอย่างมั่นใจ
ไวโอเลตยิ้มออกมา ใบหน้ามุ่งมั่นของเธอกำลังบอกผมว่าเธอได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น ฉันช่วยเธอแทนเขาก็ได้! เธอจะปลอดภัยถ้าอยู่กับฉัน!” เทรย์เวอร์ยื่นข้อเสนอให้แก่ไวโอเลต
“ใช่! ท่านพี่ของฉันนั้นแข็งแกร่งและมีคุณธรรม เขาจะไม่มีวันเรื่องสกปรกๆกับเธอแน่! ใช่ไหมคุณโจลี่ คุณดาร์เลเน่” โอเรียนน่าเสริมทัพ พร้อมหันไปขอกำลังคุณหนูคายาและดาร์เลเน่ด้วย
“นะ-นั้นสิ~” คุณหนูคายาตอบเห็น ก่อนจะหลบสายตาของผม คำตอบของเธอเนี่ยไม่มีความมั่นใจเลยนะ?
“…แต่ฉันว่าให้ริชาร์ดช่วยอาจจะกว่าก็ได้” แต่กันกับคุณหนูคายา ดาร์เลเน่มีความคิดที่แปลกแยก
“ทำให้ถึงดีกว่า?” ลิลลี่ถาม และทุกคนก็ต่างมองไปที่ดาร์เลเน่เป็นตาเดียวกัน
ผมก็แปลกใจ ที่ดาร์เลเน่เข้าข้างผม ผมก็นึกว่าจะต่อต้านผมซะอีก?
“ทำไมคุณถึงเข้าข้างมันล่ะค่ะ คุณก็น่าจะรู้ดีกว่าใครๆ” โอเรียนน่าไม่อาจยอมรับความจริงได้
นั้นสิ ถ้าถามว่าใครรู้ความเลวทรามของริชาร์ดมากที่สุด คงหนีไม่พ้นดาร์เลเน่ เธออยู่กับริชาร์ดมาตั้งสามปี แถมทุกวันยังทรมานจากการถูกข่มขืนทุกเวลาด้วย ผมก็อยากรู้ความคิดเธอเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเธอเปลี่ยนไปมาก จนผมเริ่มไม่แน่ใจว่า ดาร์เลเน่ตรงหน้าผมใช่ดาร์เลเน่ในเกมที่ผมรู้จักไหม? เธอจะเข้าข้างริชาร์ดมากไปแล้วไหมนะ?
ดาร์เลเน่มีสีหน้านิดเฉย เธอมองหน้าผม
“คิดดูสิ ถ้าจะไปช่วยราชินีอาซาเลีย เทรย์เวอร์จะต้องฆ่าสักกี่คน เขาต้องฆ่าใครบาง อาจเป็นคนที่ไว้ใจ อาจเป็นเด็ก อาจเป็นผู้หญิง หรือคนสูงอายุ และต้องเจอกับศัตรูมากมาย และอาจสูญเสียมากมาย พวกคุณคิดว่า เทรย์เวอร์จะฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขาได้ไหม?”
พอพูดจบ ดาร์เลเน่ก็หันไปมองเทรย์เวอร์เหมือนต้องการคำตอบจากเขา แน่นอนว่าเทรย์เวอร์ไม่สามารถตอบคำถามแบบนี้ได้ ทุกคนก็เช่นกัน
ดาร์เลเน่กำลังบอกเป็นนัดๆว่า เทรย์เวอร์นั้นมันไร้น้ำยา แค่จะรุกผู้หญิงก็ทำไม่ได้ ต้องให้ผู้หญิงมากางขาก่อนถึงจะทำได้ เริ่มไม่ใช่แล้วผมว่า
“นั้นเป็นเหตุผลที่เจ้าหญิงเลือกผู้ชายนี่เหรอคะ?” ลิลลี่ถามไวโอเลต เหมือนเธอจะต้องการยืนยัน
“อืม ถามที่พี่สาวว่า ท่านผู้กล้านั้นจิตใจอ่อนแอเกินไป” ไวโอเลตพูดออกมาตรงๆแบบไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลย
แต่เทรย์เวอร์ ก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ มันก็จริงที่เทรย์เวอร์นั้นเกือบตายหรือตายบ่อยๆครั้ง เพราะความใจอ่อนนั้น
จิตใจของแกมันอ่อนแอเกินไป ไม่ใช่ความยุติธรรมเสมอไปที่สามารถช่วยคนได้ บางคนนั้นก็ยอมเป็นปีศาจเพื่อช่วยคนอื่นเหมือนกัน…