ตอนที่แล้วChapter I Scene 21
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter I Scene 23

Chapter I Scene 22


Chapter I Scene 22

ผมถูกลากคอโดยลิลลี่มาจนถึงต้นไม้ที่ใหญ่กว่าต้นไหนๆ ผมสงสัยว่านี้อาจเป็นพระราชวังก็ได้

และผมก็ได้คิดถูกด้วย มีผู้หญิงที่งดงามและแสบตากว่าใครๆเดินออกมา เธอมีผิวพรรณผ่องใสราวกับไข่มุก มีผมสีบลอนด์ สว่างและนัยน์ตาเขียวดั่งมรกต ไม่ต้องพูดถึงรูปร่างเลย เธอเซ็กซี่กว่าในรูปเสียอีก

ใช่แล้ว เธอคือราชินีเอลฟ์นั้นเอง

เอลฟ์ทุกตนโดยรอบต่างคุกเข่าลงไปตามๆกัน เห็นแบบนั้นเทรย์เวอร์ โอเรียนน่า ดาร์เลเน่ คุณหนูคายาและโนราก็ได้คุกเข่าก้มหน้าลงไปตามกับเขา

เพราะงั้นสถานที่นี้จึงมีแค่ผมยังยืนอยู่ เห็นแบบนั้นลิลลี่ก็ลุกขึ้นมาก่อนจะกระชากคอผมให้หมอบลงไปตามเธอ ถ้าไม่มีโซ่ล่ามมือล่ะก็?

“อย่าได้มากพิธีเกินไปเลยท่านเทรย์เวอร์ ท่านภูติได้บอกเรื่องราวกับข้าแล้ว อย่าให้ข้าได้หยาบคายไปกว่านี้ เพราะงั้นลุกขึ้นเถอะ” เสียงอันไพเราะเปล่งมาจากราชินีเอลฟ์ มันช่างหวานหยดย้อยจริงๆ

ไม่ใช่สิ เธอควรจะมีน้ำเสียงที่เย็นชาสิ เธอหน้าจะพูดออกมาแบบนี้มากกว่า ‘ข้าไม่ขอต้อนรับมนุษย์สกปรกเช่นเจ้า ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้กล้าตาม!’ แบบนี้มากกว่านะ

เธอน่าจะเกลียดชังมนุษย์เข้ากระดูกดำ ไม่ใช่หวานหยดย้อยเช่นนี้! อาาา~จริงสิ! พวกเรามาเมืองเอลฟ์ก่อนเนื้อหาจริงๆทำให้มีตัวแปรยังไม่สำเร็จสินะ? แปลว่าราชินีเอลฟ์ยังอ่อนข้อให้เทรย์เวอร์ง่ายขึ้น แบบนี้เรียกว่าดีไหมนะ?

เดี๋ยวสิ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมมีลางสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากแฮะ อย่างเกิดปัญหามอนสเตอร์บุกเมืองอะไรแบบนี้น่ะ?

เห็นความลำบากใจ เทรย์เวอร์ก็ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับโอเรียน ดาร์เลเน่ คุณหนูคายาและโนราก็ได้ลุกขึ้น ผมก็สะบัดตัวเองจากโอบแขนของลิลลี่ และลุกขึ้น เหมือนผมจะได้รับสายตาเย็นชาจากราชินีเอลฟ์? สงสัยว่าคงคิดไปเองมั่ง

“ขอบพระทัยสำหรับน้ำใจท่านองค์ราชินี กระผมมีชื่อว่าเทรย์เวอร์ และนี้สหายของกระผม” เทรย์เวอร์เอ่ยแนะนำตัวอย่างชำนาญ ก่อนที่โอเรียนจะแนะนำตัวต่อจากนั้นเป็นตามลำดับ ดาร์เลเน่ คุณคายา และโนรา

ผมนี้แปลกใจจริงที่โนราสามารถพูดยาวๆอย่างแนะนำตัวได้ด้วย?

และมาถึงตาผม

“ผมชื่อ…” แต่ยังไม่ทันได้พูดจบ ราชินีเอลฟ์ก็ได้เอ่ยแนะนำตัวเองตัดหน้าผมซะงั้น

“เรามีชื่อว่า อาซาเลีย” ราชินีเอลฟ์ อาซาเลียแนะนำตัวเอง แน่นอนว่ามันเป็นชื่อดอกไม้ เหมือนถ้าจำไม่ผิดดอกไม้นี้ปลุกยากและต้องการความละเอียดเป็นอย่างมาก

เอ่~ ผมว่าราชินีเอลฟ์อาซาเลีย เหมือนเธอ…จะเกลียดผมนะ ทำไมหว่า~? ผมทำอะไรผิดไป หรือเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นนักโทษกันนะ?

“เราขอเชิญพวกท่านมาพักในวังของเรา”

“ขอบพระทัยองค์ราชินี”

“โปรดเรียกเราว่าอาซาเลียเถอะ เราไม่ชอบพิธีการเท่าไร”

“แล้วแต่ท่านเลยองค์…เออ อาซาเลีย”

ราชินีอาซาเลียยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจบนใบหน้าของเธอ ที่ประสบผลสำเร็จ

ก่อนที่ราชินีอาซาเลียจะเชิญพวกเราเข้าวังโดยไม่คิดจะสนใจถามชื่อของผม เอาเถอะ

และในตอนที่ผมกำลังเดินตามไปด้วย ผมก็ถูกองครักษ์ขวางทางไว้ซะก่อน

เอ่?!

“เฮ้ยเดี๋ยวเซ! ทำไมฉันไปด้วยไม่ได้!!” ผมตะโกนถาม

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของผมทุกคนก็ได้หันหลังมา พวกเทรย์เวอร์นั้นแปลกใจที่ผมถูกกันเอาไป เทรย์เวอร์หันไปมองราชินีอาซาเลีย

“ขอโทษด้วยนะ แต่เราไม่สามารถให้ผู้ที่ถูกท่านภูติบอกว่าเป็นจอมมารเข้าวังเราได้ เราไม่รู้ว่าเจ้าจะคิดจะทำอะไรกับเรา ถ้ามีโอกาส” ราชินีอาซาเลียอธิบายให้ผมฟัง และเป็นการตอบคำถามที่ทุกคนสงสัยในเวลาเดียวกัน

แต่เหมือนราชินีอาซาเลียกำลังยิ้มอย่างชั่วร้ายมาทางผม ผมว่ามันต้องมีมากกว่าเหตุผลนั้นแน่นอน ผมว่าเธอกำลังสนุกที่ได้ปั้นหัวผมอยู่ ผมไม่รู้เธอทำไปทำไม แต่ผมรู้ว่าความชั่วร้ายของผมกำลังร้องขึ้นว่า ราชินีอาซาเลียก็เป็นคนประเภทเดียวกันกับผม ผมมีลางสังหรณ์ว่าพวกเราอาจเจอเรื่องยุ่งยากในวันพรุ่งนี้ก็ได้

“ริชาร์ดนายไม่เป็นไรหรอกน่า นายมีเต้นท์อยู่ คืนเดียวเอง” เทรย์เวอร์บอกกับผม ก่อนที่ทุกๆจะพยักหน้าและเดินหายไปในวัง

ก่อนที่จะหายเข้าวังไป ราชินีอาซาเลียได้หันมายิ้มให้ผม ผมรู้จักรอยยิ้มนั้นดี เป็นรอยยิ้มแบบเดียวกันที่ริชาร์ดชอบทำในเวลาชั่วร้าย

ผมหรี่สายตาลง จับตาดูราชินีเอลฟ์นามว่า อาซาเลียหายไปในวัง

เธอไม่รู้แล้วว่า เธอกำลังเล่นอยู่กับใคร เธอกำลังเล่นเป็นตัวร้ายอยู่งั้นเหรอ? งั้นฉันจะขอบอกอะไรให้ ฉันนี่แหละสุดยอดวายร้ายของเรื่องราวนี้!

ผมถูกปลดพันธนาการออกจากมือโดยลิลลี่ เอลฟ์ต่างๆก็เดินไปใช้ชีวิตกันตามปกติ เหลือแค่ผมกับลิลลี่เท่านั้น

“นะ-นายจะมาบ้านฉันก็ได้นะ?” ลิลลี่พูดออกมา พร้อมเชิดหน้าชูตาอย่างถือดี

“แน่ใจว่าเธอจะให้ฉันไปค้างด้วย?” ผมหรี่ตาลง และยิ้มออกมาเหมือนกับราชินีอาซาเลีย เป็นรอยยิ้มชั่วร้าย

“แน่นอน แต่ถ้านายคิดทำเรื่องบ้าๆกับฉัน ฉันฆ่านายแน่!” ลิลลี่ตอบออกมาอย่างมั่นใจและทำตาดุใส่ผม

แน่นอนว่าเธอไม่สามารถขัดขืนผมได้ถ้าผมจะทำจริงๆ ผมทำสีหน้าเบื่อออกมา ก่อนจะตอบตกลงไป ผมจะไปค้างบ้านลิลลี่

“บ้านสวยดีนิ” ผมพูดออกมาเมื่อเข้าไปในบ้านต้นไม้?หรือเรียกว่า โพรงดีนะ

ซึ่งมันก็กว้างขวางกว่าที่ผมคิดเสียอีกนะ

“ขยายมิติเหรอ?”

“ใช่แล้ว!” ลิลลี่ยืนยันคำถามลอยๆของผม แบบนี้เองสินะ คงจะมีภูติสักตนทำให้สินะ บ้านพวกนี้

ลิลลี่ปล่อยให้ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะหายเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับผักผลไม้สดในถาดไม้ เธอถือวางไว้บนโต๊ะอาหารกลางห้องนี้

“อะไร?” ผมถามออกไปอย่างสงสัย จริงๆผมน่าจะรู้นะ ผักผลไม้พวกนี้คงไม่ใช่ข้าวเย็นหรอกนะ?

“ข้าวเย็นไง” ตอบออกมาพร้อมเอียงคอเหมือนไม่เข้าใจผม จริงๆด้วย

แบบนี้เอง เพราะแบบนี้พวกเอลฟ์จึงมีกำลังน้อยกว่าเผ่าอื่นๆ เพราะพวกเขาเอาแต่กินผักผลไม้อย่างเดียว

“อะไร? จะบอกว่านายโง่เกินไปจะกินมัน?”

มองตาลิลลี่ ไม่ได้ตอบโต้อะไร ถือว่าผมไว้หน้าเจ้าบ้านแล้วกัน ยังไงผมก็อยู่บ้านเขา ดั่งคำว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามอะไรแบบนี้ ผมเลยยื่นมือไปหยิบผลไม้สีแดงที่คล้ายมะเขือเทศสุกลูกใหญ่

“ก็ไม่เลวร้ายอะไร” ผมพูดออกมาหลังกัดคำแรกลงไป ก่อนที่ลิลลี่จะกินส่วนของตัวเองทันทีที่เห็นผมกิน

หลังกินเสร็จ… ผมว่าผมควรไปหาเนื้อข้างนอกกินเพิ่มเติม

“เอาล่ะ เดี๋ยวฉันต้องออกไปทำงานเดี๋ยวจะกลับมา ระหว่างนั้นก็อยู่ในนี้ และอย่าจับอะ…ไร…”

“แล้วนายทำบ้า

อะไรเนี่ย!!!” ลิลลี่ตะโกนเสียงดังออกมา เมื่อเห็นผม

“น่ารักซะไม่มี?”  ก็เพราะผมกำลังค้นตู้เสื้อผ้าเธออยู่ยังไง และลิลลี่ก็หันมาเห็นผมดึงส่วนของลิ้นชักและหยิบกางเกงในลายลูกไม้ของเธอออกมา

“หยุดเลยนะ!” ลิลลี่รีบมาแย่งมันออกจากมือผมทันท่วงที เหมือนเธอจะโกรธนะ

“งั้นฉันนอนล่ะ” ผมว่าพลางเปิดประตูห้องที่คาดว่าเป็นห้องนอนเข้าไป ขณะที่ลิลลี่กำลังยุ่งกับการล็อกตู้เสื้อผ้าของเธอ

“เดี๋ยวสิ! ทำไมนายถึงมานอนบนเตียงคนอื่นเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตห่ะ!!” แน่นอนลิลลี่เห็นผมมานอนบนเตียงเธอ ก็โวยขึ้นมาเสียงดัง

“กลิ่นหอมดีจังเตียงนี้ หลับล่ะ” ว่าพร้อมถอดหน้ากากออกไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงและหลับตาลงโดยไม่สนใจลิลลี่ที่พยายามดึงผมลงจากเตียง แต่สักพักเธอก็ถอดใจไปเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด