Chapter I Scene 14
“
Chapter I Scene 14
”
ตูมมมมมม!ตูมมมม!ตูมมมมม!!!!
เกิดเสียงระเบิดไปทั่วหุบเขาแห่งนี้ แน่นอนว่าผมกำลังปาระเบิดไปทั่วฐานกองโจรอินทรีเหล็ก ผมพยายามปาไปที่มีแต่พวกโจรไม่ให้ไปใกล้เต็นท์ที่คาดว่ามีชาวบ้านถูกจับอยู่
เกิดความวุ่นวายไปทั่ว โจรพยายามวิ่งไม่หยุดกับพื้นเพราะกลัวระเบิดลงหัวกัน
“บ้าเอ๊ย! มันเป็นใครว่ะถึงปาระเบิดใส่ฐานเรา!!”
“มันอยู่นั้น!!”
“ฆ่ามัน!”
เหมือนพวกโจรเริ่มตั้งสติและรู้ตัว พวกมันก็ได้แห่มาทางผมพร้อมอาวุธรูปแบบต่างๆ อย่างกับพวกแฟนคลับคลั่งไคล้เกาหลีที่พยายามชูป้ายกันเลยล่ะ
ผมปาระเบิดไปทางพวกมัน ตูม! กระเด็นกระดอนกันไป แต่ก็จะมีจำนวนมากที่กรูเข้ามา ช่วยไม่ได้
ผมชักดาบออกมา พร้อมฟันใส่คนที่วิ่งมาถึงคนแรก มันใช่ขวานจามใส่ผม แต่ไม่สำคัญอะไรหรอกว่าพวกมันจะใช่อาวุธอะไรกัน ผมแค่ป้องกันและตอบโต้เท่านั้น
ถึงแม้จะฆ่าไปเยอะแล้วก็เถอะ พวกมันก็มาไม่หยุดเลย หนึ่งตายก็จะมีคนใหม่มาแทน ถึงผมจะถูกฟันหรือจาม หรือธนู แต่มันก็ไม่สามารถผ่านการป้องกันของชุดที่ผมสั่งทำเป็นพิเศษ เห็นหรือยัง นี้แหละพลังของเงินตรา
เมื่อผมวาดดาบตัดเป็นวงกลม ตอนนั้นดวงจันทร์ก็ได้สาดส่องลงมาพอดี จนเกิดเป็นประกอบสีดำวงกลมขึ้น โจรที่ล้อมรอบผมสี่ห้าคนก็ได้จบชีวิตลงโดยที่ร่างกายของพวกมันขาดเป็นสองท่อน แยกออกจากกัน
พวกโจรที่ยังไม่เข้ามาบวกกับผมก็ถึงกับผวาทีเดียว ยิ่งเห็นผมใต้แสงจันทร์ ก็จะสามารถเห็นผมอาบไปด้วยเลือดสีแดงสด แถมยังสวมหน้ากากปีศาจน่ากลัวอีก
“ปะ-ปีศาจ!”
พวกโจรเริ่มหมดความกล้า และแน่นอนเป็นไปตามระเบียบ เมื่อมีสถานการณ์แบบนี้ มันก็จะมีแบบนี้
“อย่าไปกลัวมัน! มันก็แค่ตัวคนเดียว!!”
จะให้ถูกมาสอง แต่อีกหนึ่งกำลังไปช่วยคนตั้งหากล่ะ เมื่อได้ยินคำปลุกขวัญกำลังใจ พวกโจรก็มีความกล้ากันขึ้นมา ไอ้โจรที่ตะโกนปลุกขวัญกำลังใจเป็นหัวหอกวิ่งเข้าพร้อมคนอื่นๆที่ร้องเสียงดัง
หลบดาบก่อนฟันให้ขาดครึ่งในทีเดียว คนที่สองก็บาดคอไป คนที่สามก็ฟันเข้าที่สีข้างลากยาวไปอีกฝั่ง คนที่สีก็แทงทะลุหัวใจ และคนที่ห้าฟันตัดคอ คนทั้งห้าแทบจะตายในทันที ถ้าไม่ตายในทีเดียว บาดแผลพวกมันก็จะเป็นสีดำและตายอยู่ดี นี้แหละคำสาปของดาบต้องสาป
พวกโจรเสียขวัญกำลังใจอีกครั้ง และเริ่มหัวหดกันในเมื่อพวกมันไม่คิดจะบุกเข้ามา ผมจำเป็นต้องเข้าไปหาเอง
คนที่ผมพุ่งเข้าไปหาร้องออกมาเหมือนหมูถูกเชือดคอ และตอบโต้อัตโนมัติด้วยดาบที่ฟันมา แต่ผมจับเข้าที่ข้อมือมันและบังคับให้ปล่อยดาบ ผมผลักมันไปชนกับเพื่อนๆของมัน เมื่อมันรู้สึกตัวและดีใจที่มีชีวิตอยู่ แต่เหมือนสังเกตที่มือมันเอง สิ่งที่มันถืออยู่ไม่ใช่ดาบหรืออะไรที่คุ้นเคย แต่เป็นระเบิดที่จุดไฟแล้ว และ ตูมม!!
ผมเริ่มไล่กวาดล้างพวกโจรที่หลายๆคน คงเกินร้อยศพแล้วล่ะตอนนี้ และยังมีบางส่วนวิ่งหนีตายกันด้วย คงเหลือกันได้มากหรอก พอผมเดินไปเจอกับเต้นท์ที่เก็บเหล้าเบียร์ ผมก็จะโยนระเบิดใส่ และมันก็ได้ระเบิดอย่างกับพุในงานเทศกาลเลยล่ะ
“เสียงดังอะไรกันว่ะ!!” ชายผมดำตัดสั้น รูปร่างสมบูรณ์เพราะดูแลเป็นอย่างดี ลูเซี่ยนตะโกนเสียงดังพร้อมออกมาจากที่พักขณะถือดาบเล่มใหญ่
เกิดเสียงวุ่นวายไปทั่วหุบเขาของเขา ลูกน้องของเขากำลังแตกตื่นวิ่งหนีตายกัน
“เกิดอะไรขึ้น!!” ลูเซี่ยนคว้าหนึ่งในลูกน้องเขาขณะวิ่งมาทางนี้
“ปะ-ปีศาจ” ลูกน้องตอบกลับด้วยความกลัว
ลูเซี่ยนตกใจกับคำตอบของลูกน้อง ก่อนจะปล่อยมันไป ลูเซี่ยนรีบวิ่งออกไป ไปทางที่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นพร้อมคิดถึงคำตอบลูกน้องเมื่อกี้
‘ปีศาจงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ ไหนองค์กรบอกมามันเป็นพันธมิตรกับพวกเราไง? พวกมันผิดสัญญา!?’
ลูเซี่ยนวิ่งออกมาได้ไม่นาน เข้าก็ได้พบต้นตอของปัญหาทั้งปวง มันยืนภายใต้แสงจันทร์ มันเต็มไปด้วยเลือดเนื้อของผู้คน มันสวมหน้ากากปีศาจและถือดาบสีดำเงาในมือ
“แกเป็นใคร!” ลูเซี่ยนถามออกไป
ลูเซี่ยนมีโอกาสได้พบกับปีศาจบ่อยครั้ง พวกมันเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง เว้นแต่ว่าพวกปีศาจนั้นมันมีหูที่แหลม เขา ปีก และหาง แต่ก็ไม่อาจแน่ชัดเพราะปีศาจระดับสูงบางตนนั้น อาจซ่อนได้ทุกอย่างที่ได้กล่าวมา ทำให้ลูเซี่ยนไม่สามารถตัดสินใจได้
“แกเป็นปีศาจงั้นเหรอ!!” ลูเซี่ยนถามย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเจ้าคนตรงหน้าไม่ตอบกลับ
เมื่อเจ้านั่นพึ่งจะรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังเรียก มันหันมาทางลูเซี่ยนท่าทางเฉยๆ และพูดขึ้นว่า
“เรียกฉันว่านักดายต้องสาป”
พูดเสร็จ ก็หายไปจากสายตาของลูเซี่ยน รู้ตัวอีกทีก็ได้ปรากฏตรงหน้าลูเซี่ยนแล้วพร้อมวาดดาบขึ้นมา
“อย่ามาดูถูกกันนะโว้ย!!” ลูเซี่ยนตวาดขึ้น พร้อมใช่ดาบกันการโจมตีได้
เมื่อเห็นว่าการโจมตีถูกกันไว้ได้ มันก็ดึงดาบกลับพลิกดาบ และฟันลงมา แต่ลูเซี่ยนก็ยกดาบกันไว้ได้อีกครั้ง แต่นั้นเป็นการเปิดช่วงวางให้เห็น มันถีบเข้าที่ท้องลูเซี่ยนในทันที
ลูเซี่ยนล้มลงไปพร้อมไถลลื่นไปตามพื้นดิน โดยไม่ให้หยุดพักลูเซี่ยนก็ได้เห็นว่ามีดาบแทงลงมา ลูเซี่ยนเอียงคอหลบอย่างฉับพลัน แต่มันยังไม่จบลง มันดึงดาบกลับและแทงอีกครั้ง
ทำให้ลูเซี่ยนจำเป็นป้องกันและพลิกตัวกลับในเวลาเดียวกัน เมื่อลุกขึ้น ลูเซี่ยนก็ได้อยู่ห่างจากศัตรูไม่ถึงห้านิ้ว เหวี่ยงดาบไปด้านหลังเตรียมจะฟันใส่ แต่รู้ตัวอีกที ลูเซี่ยนก็เข่าทรุดลงไปแล้ว มีเลือดไหลออกมาจากคอเขา
ถูกดาบบาดคอโดยไม่รู้ตัว!!
‘ได้ไงกัน!’ ลูเซี่ยนคิดอย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมใช้มือที่ไม่ได้ถือดาบจับคอไว้ เขาพยายามหยุดเลือดลง
แต่มันเปล่าประโยชน์ เลือดไม่ได้หยุดไหล แถมบาดแผลของเขายังกลายเป็นสีดำ และลุกลามบานปลาย เมื่อลูเซี่ยนคิดอีกที ก็มันคือดาบต้องสาป ถึงไม่ตายเพราะเลือดออก ก็ตายเพราะคำสาปอยู่ดี
‘ไม่! ฉันยังตายไม่ได้! ปณิธานของฉัน!!!’
ลูเซี่ยนหยิบเอาเม็ดสีแดงเท่าลูกปัดออกมา เขาใส่มันลงปากและกลืนลงไป
เกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันกับร่างกายลูเซี่ยน เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่ล้นทะลักออกมาจากจิตวิญญาณตัวเอง บาดแผลหายไป คำสาปหายไป มีออร่าสีดำระเบิดออกมาจากร่างกายลูเซี่ยน
ศัตรูได้หยุดเท้าลงแล้วหันกลับไปดูลูเซี่ยน
“แบบนี้ไม่เห็นมีในเกมเลยนิ” มันพึมพำออกมาอย่างไม่เข้าใจ
ลูเซี่ยนที่มีร่างกายที่ใหญ่โตจนเสื้อผ้าขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อง ตามร่างกายสามารถเห็นเส้นเลือดดำที่ปูดบวมขึ้นมาราวกับมันจะระเบิด ลูเซี่ยนลุกขึ้น
ดาบใหญ่ในมือนั้น ถูกเปลี่ยนไปราวกับมีชีวิตและผนึกเข้าที่แขนขวาของลูเซี่ยน
"ข้าจะฆ่าเจ้าาาาา!!!" ลูเซี่ยนคำรามออกมาด้วยเสียงที่เหมือนสัตว์ร้าย