Chapter I Scene 12
“
Chapter I Scene 12
”
เกิดเสียงดังขึ้นของโลหะกระทบกัน ใช่ มันคือเสียงของดาบนั้นเอง
ผมดึงคอเสื้อของชายฉกรรจ์คนหนึ่งเข้ามาพร้อมใบดาบสีดำเงาสะท้อนแสงบาดคอ ก่อนจะถีบส่งให้ไปไกลๆ แผลที่คอของชายคนนั้นก็เริ่มเป็นสีดำและตายลงไม่กี่นาที
“บ้าเอ๊ย! เจ้าพวกนี้มีแม้กระทั่งนักดาบต้องสาป!”
นี้ไม่ใช่ศพแรกของผมหรอกนะ หลังจากการเดินมาได้หนึ่งวัน พวกเราก็ได้เจอกับพวกโจรไม่มีตาดักซุ่มโจมตี พวกมันหลบซ่อนอยู่หลังกลุ่มหินที่เราเดินผ่าน
แต่มันก็เป็นแค่การโชว์โง่เท่านั้นแหละนะ ถึงแม้ว่าพวกโจรมันจะมีมากถึง 30 กว่าคน ต่อให้สถานการณ์ในตอนนี้จะมีแค่ผมกับเทรย์เวอร์ พวกมันก็ชะตาขาดแล้ว
ตามระเบียบ ออกมาล้อมรอบพวกผมแล้ว พวกมันก็จะประเมินพวกผู้หญิงและพูดออกมาว่าจะทำยังไงกับพวกเธอหลังจากฆ่าผมและเทรย์เวอร์ ผมเลยจัดการเปิดฉากในการฆ่าหัวหน้ามันก่อนคนแรก
และก็ผ่านไปห้านาที กลุ่มโจรก็ได้ตายกันหมด เอ๋เดี๋ยวนะสถานการณ์แบบนี้มันคุ้นๆนะเนี่ย? จำไม่ได้ซะด้วย ดีนะยังเหลือโจรคนหนึ่งยังมีให้ถามอยู่
“เอาล่ะ จะตอบดีๆไหมว่าพวกนายชื่อว่าอะไร?” ผมเดินเข้าไปหาโจรที่ยังมีชีวิตอยู่ ขณะควงดาบเล่นไปด้วย
“ฮี่ๆ แกพลาดแล้ว แกกำลังหาเรื่องกลุ่มอินทรีเหล็กอยู่” หัวเราะเหมือนเสียงม้าพร้อมตอบผมออกมาอย่างยโส
“อ่อ” ผมจำได้แล้ว กองโจรอินทรีเหล็กนั้นเอง ไม่ใช่ว่าพวกมันควรโผล่มาตอนเทรย์เวอร์ไปเมืองเอลฟ์ไม่ใช่เหรอ… เออจริงด้วย พวกเราก็กำลังไปเมืองเอลฟ์นิ!
“กองโจรอินทรีเหล็กเหรอ ฉันได้ข่าวว่าพวกเขาพึ่งดักปล้นกองคาราวานเมื่อเร็วๆนี้นี่ เห็นว่าพวกมันจับผู้หญิงและฆ่าชายทั้งหมดด้วย!” คุณหนูคายาอธิบายออกมาราวกับว่าเป็นบทบาทของเธอ ก่อนจะไปหลบหลังดาร์เลเน่ด้วยความกลัว
“พวกเขายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม!?” ตามมาด้วยพระเอกตัวจริง ที่เดินมากระชากคอโจรถามเสียงดัง
“ฮี่ๆ ถึงจะมีชีวิต พวกนั้นก็ไม่ต่างจากตุ๊กตาหรอกนะ!”
“สารเลว!!”
ได้คำตอบโจร เทรย์เวอร์ก็เกิดทนไม่ได้จนต้องชกเข้าที่หน้าโจรเต็มแรง
“เราต้องไปช่วยพวกเขา!” เทรย์เวอร์พูดออกมาด้วยท่าทางที่มุ่งมั่น
“ไม่ละ ฉันไม่ใช่คณะช่วยเหลือคนไร้ยางหรอกนะ พวกแกจะทำอะไรก็เรื่องของพวกแก ฉันจะไปต่อล่ะ” ผมปฏิเสธในทันท่วงที ก่อนจะเดินจากไป
พูดตามตรงเลยนะ นี้ไม่ใช่อีเวนต์สำหรับผมแต่เป็นของเทรย์เวอร์ ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย ผมแค่ไปที่ซ่อนของสมบัติและเอาสิ่งที่ต้องการเท่านั้น ไม่มีออกนอกทางไม่ว่าจะในกรณีใดๆก็ตาม จะเรียกผมเลือดเย็นก็ได้ แต่ริชาร์ดไม่มีความเห็นใจหรอกนะ
“น่าผิดหวังจริงๆ”
“คุณริชาร์ด”
พอเดินมาได้สักพัก ผมก็ถูกดึงแขนไว้
“เดี๋ยวสิริชาร์ด” เป็นดาร์เลเน่นั้นเองที่เดินมาหยุดผมไว้
อะไรล่ะนั้น สายตาที่เหมือนกำลังบอกว่า ‘ขอร้อง’ จะบอกให้ผมไปช่วยชาวบ้านเหมือนฮีโร่งั้นเหรอ เธอเห็นผมเป็นแบบนั้นตอนไหนกัน ผมริชาร์ดนะ ริชาร์ด ตัวร้ายตลอดกาลหาใครแทบได้เปรียบ ไม่ใช่คนใจบุญอย่างเทรย์เวอร์นะโว้ย
อยากจะพูดแบบนี้จริงๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป เหมือนว่าส่วนที่เป็นริชาร์ดจะไม่ยอม ชาตินี้ก็ไม่ขอญาติดีกับใครทันนั้นแหละ
แต่ว่าในส่วนของเดชนั้น ค่อนข้างมีความรู้สึกผิดต่อดาร์เลเน่เลยล่ะ อาาา~ ผมกำลังสับสนในตัวเองไม่รู้ว่าควรเป็นใครดี ริชาร์ดหรือเดช
“ขอร้อง”
เอาก็เอาวะ ยังไงมันก็ไม่ใช่อีเวนต์ใหญ่โตอะไรนี้ใช่ไหม คงไม่ได้ไปเจอบอสใหญ่ที่นั้นหรอกนะ เอ่อ… เหมือนผมปักธงอะไรบางอย่างเลยแฮะ คงไม่ล่ะมั่งนะ?
“รู้แล้วน่า” และผมก็ได้ใจอ่อนจนได้ พร้อมรับปากไป
ผมเดินกลับมาพร้อมดาร์เลเน่ ตรงไปที่โจรที่รอดทันที
“นายเปลี่ยนใจ?” เทรย์เวอร์ถามอย่างสงสัย
“ไปขอบใจดาร์เลเน่เถอะ” ผมตอบอย่างเย็นชาพร้อมกระชากโจรขึ้นมา
“จะทำอะไรน่ะ” เทรย์เวอร์ถามอีกครั้ง มันมีปากไว้ถามหรือไงวะ!
“การจะไปช่วยคนไม่รู้ที่ไป มันก็ไม่ต่างจากอะไรกับคนโง่เท่านั้น หรือต่อให้แกถามมัน มันก็ไม่ตอบแกเหมือนกัน” ผมอธิบายขึ้น
“ใช่แล้ว ยังไงข้าไม่บอกโว้ย!” โจรมันก็ยืนยันด้วยตัวเองอีกที
“เพราะงั้นฉันมีธุระจะพูดคุยกับมันตามลำพังหน่อย!” ผมพูดออกมาและลากเจ้าโจรไปทางโขดหินที่มันซุ่มโจมตีพวกผม
“เดี๋ยว…” เหมือนเทรย์เวอร์จะมีอะไรพูดกลับผมอีก แต่ดาร์เลเน่ก็ได้จับไหล่หยุดมันไว้ รู้ดีนี้
พอผมลากโจรมาหลังโขดหินนั้นเอง เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดยากจะจินตนาการได้ก็ดังขึ้น แน่นอนว่ามันเป็นเสียงเขา โจรนั้นเอง
“อ๊าาากกกกกกก!!!”
และก็ผ่านไปหนึ่งนาที ผมก็เดินออกมาจากโขดหิน คนเดียว ผมใช้หลังมือที่ไม่เปื้อนเลือดเช็ดหยดเลือดที่กระเด็นติดหน้าออก
พอผมเดินออกมา ผมก็พบว่าคนอื่นๆต่างหน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยล่ะ ยกเว้นดาร์เลเน่นะที่มีสีหน้าปกติ
“นะ-นายทำอะไรกับเจ้าโจร?” โอเรียนน่าถามผมออกด้วยเสียงสั่นๆ เหมือนเป็นตัวแทนของทุกคน
“พวกนายคงไม่อยากรู้หรอก” ผมตอบออกไป ก่อนที่ผมจะอธิบายบางส่วนออกมาด้วยใบชั่วร้าย “ถ้าอยากรู้จริงๆ อย่างแรกฉันก็หักนิ้วมันทีละนิ้วจากซ้ายไปขวา แล้วก็ค่อยๆดึงฟันมันออกมา ทีละซีก…”
“ไม่เอาแล้ว ฉันไม่อยากรู้แล้ว!” โอเรียนน่าหน้าซีดกว่าเดิม ก่อนจะไปซ่อนตัวอยู่หลังเทรย์เวอร์ คุณหนูคายาก็เหมือนกัน พวกเธอต่างสั่นสะเทือนด้วยความกลัว
และตอนนั้นเองผมก็ถูกตีเข้าที่ต้นแขน
“ทำอะไรของเธอดาร์เลเน่?”
“นายกำลังทำให้พวกเธอกลัว”
“ก็ถามเองไม่ใช่เหรอฉันแค่ตอบคำถามผิดตรงไหน… ก็ได้ฉันจะไม่พูดถึงมันอีก”
และนั้นผมก็ได้ที่อยู่ของพวกกองโจรมา อยู่เหมือนจะอยู่ที่ภูเขาใกล้ๆนี้แหละ แต่มันอยู่คนล่ะทิศจากป่าโบราณเลย ดูเหมือนว่าผมจะต้องออกนอกเส้นทางเสียหน่อย งั้นแหละที่ทำให้เสียเวลาไปอีก…สินะ
ผมได้เปลี่ยนทิศทางตรงไปที่อยู่กองโจรในทันที โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่ามันจะเป็นเรื่องยุ่งยากสุดๆรออยู่
“ใช่ครับ ผมได้ภาชนะตามที่สั่นได้แล้วครับ” ชายคนหนึ่งกำลังติดต่อสื่อสารกับใครบางคนผ่านทางอุปกรณ์เวททรงกลมอยู่
“ครับ รับทราบครับ ภาชนะสมบูรณ์แบบครับ ไม่มีอะไรเสียหายยกเว้นสภาพจิตใจ ผมรู้ว่ามันไม่ต้องใช้ ครับ รับทราบครับ ลูกครึ่งปีศาจครับ ตาสองสี ครับตรงตามคำสั่งแน่นอนครับ ครับท่าน ผมจะส่งภาชนะให้กับตัวแทนองค์กรด้วยตัวเองเลยครับ รับทราบครับ ไม่มีถ้าผิดพลาดแน่นอน” ชายคนนั้นพูดตอบรับด้วยความเคารพนับถือ ก่อนสัญญาณทางนั้นจะตัดขาดไป
ชายคนนั้นถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาค่อยๆวางอุปกรณ์เวทในมือลง ก่อนจะลุกขึ้น เขาหันหลังไป
ตรงหน้าเขานั้นมีเด็กผู้หญิงอายุ 11-12 ปีกำลังนั่งอยู่ ด้วยที่ถูกโซ่ล่ามไว้อย่างแน่นหนา เธอเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาดีถึงแม้จะสกปรกเล็กน้อย นั้นก็ไม่อาจบดบังความงามเกินวัยของเธอได้ ผมสีม่วงอมชมพู ดวงตาสองสีซึ่งข้างซ้ายสีแดงและข้างขวาสีม่วง ถึงแม้ว่าจะมีองค์ประกอบความงามนั้น แต่เธอกลับดู…ไร้ชีวิตชีวา
“ข้าช่างเสียดายจริงๆ ที่จะต้องยกเจ้าให้กับองค์กร น่าเสียดาย น่าเสียดาย…” ชายคนนั้นพูดออกมาพร้อมส่ายหน้า เขายกเส้นผมของเธอขึ้นมาดม
ตาของเขามีแต่ตัณหาราคะ แต่เมื่อเห็นดวงตาสองสีไร้ชีวิตนั้น เขาก็หมดอารมณ์อย่างว่าในทันที
“จงภูมิใจเถอะที่่เจ้าจะได้เป็นภาชนะของท่านผู้นั้น” ชายคนนั้นพูดออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ชายคนนี้นั้น รู้กันในนามว่าลูเซี่ยนแห่งกองโจรอินทรีเหล็ก…