Chapter I Scene 09
“
Chapter I Scene 09
”
ผมลากเจ้าสองตัวที่มาบ้านเอวาจนถึงฐานทัพของพวกมัน ผมเหวี่ยงเจ้าสองตัวนั้นอัดที่ประตูและหน้าต่าง ทำให้คนข้างในเสียงดังอย่างกับจัดปาร์ตี้เลยล่ะ
ก่อนที่ผมจะพุ่งเข้าไปเปิดฉากฆ่าทุกคนในนั้น มีแต่พวกปลายแถว ปลายแถว ปลายแถวและปลายแถว จบในดาบเดียว
จบธุระที่ชั้นหนึ่ง ผมก็ขึ้นไปชั้นสอง ที่นั้นผมได้พบกับหัวหน้าของเหล่าปลายแถวกับลูกน้องอีกหนึ่ง จัดการซะ ก่อนจะวางวงเวทธาตุไฟไปทั่วอาคารและ
ตูม!
ระเบิดมันทิ้ง เป็นอันสิ้นงาน เดี๋ยวสิ นี้ผมจำเป็นต้องมาทำแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่ใช่ว่าผมเป็นตัวโกงหรอกเหรอ มันควรเป็นหน้าที่ของเทรย์เวอร์นี้ เอาเถอะ
ผมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันจะส่งผลมาถึงตัวผม ไม่ว่าจะให้ฆ่าหรือทำลายไปมากแค่ไหนก็ตาม… โดยไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจแบบนั้นของผมจะนำไปสู่ปลายทางอันยุ่งยากเสียแล้ว
ผมกลับมาที่บ้านเอวา พอไปถึงห้องเดิมที่แม่เอวานอนป่วยอยู่นั้นเอง ภาพตรงหน้าผมก็คือความอบอุ่นของสองแม่ลูกนั้นเอง รออยู่นานกว่าแม่เอวาจะรับรู้ถึงตัวตนของผม และก็สั่นสะท้านในทันที แน่นอนว่าเธอนั้นรู้จักผม และรู้จักผมมากพอที่จะกลัวด้วย ช่างมีปฏิกิริยาตรงข้ามกับเอวาเลยล่ะ
“ทะ-ท่านริชาร์ด!” แม่เอวาอุทานเสียงดังด้วยความลืมตัว
และเธอพยายามลุกขึ้นมา แต่ผมก็ยกมือห้ามเธอไว้และพูดว่า
“ฉันแค่คำตามคำขอเอวาเท่านั้น อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากเลย”
“ทะ-ที่ท่านทำแบบนี้ ยะ-อย่าบอกนะว่าท่านต้องการลูกสาวฉัน?” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน สีหน้าของเธอราวกับว่าโลกกำลังถึงจุดจบยังไงยังงั้น
เฮ้ยๆเฮ้ย~ เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วโว้ย!
“แม่คะ หนูได้ตัดสินใจแล้ว ยกโทษให้หนูด้วย” ไม่ทันให้ผมได้พูดแก้ความเข้าใจผิดนั้นเอง เอวาก็เข้าไปพูดกับแม่เธอเป็นการเติมไฟ
และทั้งคู่ก็ได้กอดกันร้องไห้ออกมาเสียงดัง
มีแต่พวกงี่เง่าชะมัดยาด ตีโพยตีพายกันไปแล้วโดยไม่ฟังผมเลย
“ได้โปรดอย่าเอาเธอไปเลย เธอยังเด็ก เอาฉันไปแทนเถอะค่ะ!” และแม่เอวาก็เสนอตัวเองแทน แบบไม่ได้ฟังเหตุผลผมเลย ผมยอมรับว่าเธอสวยมากๆ แต่ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้นะ เฮ้ย~
“ไม่นะ เอาหนูไปสิพี่ชาย!” นี้ก็เอาอีกคน ทั้งแม่ทั้งลูกเลย เหมือนกันจริงๆ!
ผมเลยจัดการเขย่าสมองทั้งคู่แรงๆไปหลายนาที
และสองแม่ลูกก็ได้จับหัวตัวเองร้องโครมครามออกมาให้ได้ยินกัน
“คงใจเย็นกันแล้วใช่มั้ย?” ผมถามขณะมองพวกเธอพยักหน้าหงึกๆตอบรับผม
“ถึงแม้ว่าจะช่วยก็เถอะ แต่พวกนั้นคงไม่ได้เลิกราง่ายๆหรอก พวกมันต้องการตัวเอวา เพราะงั้นพวกเธอยังไม่ปลอดภัยหรอกนะ” ผมอธิบายออกมา เหมือนกับว่าพวกเธออยากจะพูดอะไรออกมา ผมก็ได้ชิงพูดเสียก่อน “เพราะงั้นแหละ ทำไมพวกเธอไม่มาอยู่กับฉันซะล่ะ”
พูดออกไปอย่างเท่ ในท่ายื่นมือไปหาพวกเธอพยายามทำตัวเหมือนพระเอก
“ปะ-แปลว่าต้องการพวกเราสองแม่ลูก!”
“พี่ชายหื่นกาม”
หมดกันบรรยากาศตรูที่สร้างมา ??? จัดไปอีกดอกเลย
เขย่าๆๆๆๆๆ
“แล้ว?” ดาร์เลเน่ถามผมแล้วหันไปมองมิลาด้าที่ยืนข้างๆผมโดยกำลังเติมชาให้ผมอยู่
อ่อมิลาด้าเนี่ยเป็นชื่อของแม่เอวา ส่วนเอวาก็กำลังวิ่งเล่นอยู่น่ะ
“ก็อย่างที่บอกไป ลูกสาวเธอกำลังถูกองค์กรใต้ดินตามล่าอยู่ ฉันที่เป็นผู้ดีและแสนหล่อเหลาก็บังเอิญไปช่วยมาน่ะ” ผมพูดโมขณะยกชาขึ้นมาดื่มอย่างผู้ดี รสชาติเยี่ยมมาก จากนี้ไปให้มิลาด้าชงชาให้ดีกว่า
“ถ้านายเรียกว่าผู้ดี ฉันว่าโจรป่านอกเมืองคงเป็นนักบุญไปแล้วล่ะ” ดาร์เลเน่ก็ได้พูดประชดผมออกมา
นั้นก็เกินไปมั่งครับคุณดาร์เลเน่
“สรุปว่านายจะให้สองแม่ลูกเป็นเมียน้อยนาย”
“ใช่…ซะที่ไหน!!”
“คุณริชาร์ดเลวทรามต่ำช้า ลามกและยังหน้าไม่อายด้วย”
คุณคายาก็เอาอีกคนด้วยเหรอ?
ผมกระแอมออกมาเป็นการกลบเกลื่อน ก่อนจะพูดจริงจังออกมา
“คุณหนูคายา ผมเรียกคุณมาครั้งนี้ เพราะผมต้องการจะให้คุณช่วยเล็กๆน้อยๆ” ผมพูดออกไปตรงๆ ก่อนจะยกชาขึ้นมาจิบ จริงๆด้วย ชารสเยี่ยมจริงๆ
“ช่วย? ให้ช่วยอะไรคะ?” คุณหนูคายาถามอย่างสงสัยตามปฏิกิริยาปกติออกมา
ผมมองไปที่บาสเตียน บาสเตียนก็พยักหน้าให้ผมก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้านและเดินออกมาพร้อมกล่องไม้สีดำที่มีลวดลายแกะสลักรูปงูอยู่ในมือ
บาสเตียนส่งมันให้กับผม และผมก็วางมันไว้บนโต๊ะตรงหน้าทั้งสอง
“ฉันอยากให้เธอเปิดมันหน่อย”
“แต่ฉันไม่-” ไม่ให้คุณหนูคายาได้พูดจบ ดาร์เลเน่ก็ได้ขัดขึ้นมาก่อน
“แล้วพวกเราจะได้อะไรถ้าช่วยนาย”
“พวกเรา?”
“ฉันไม่ได้ขอให้เธอช่วยเสียหน่อยดาร์เลเน่ เธอไม่มีประโยชน์อะไรในเรื่องนี้” ผมหันไปพูดกับดาร์เลเน่ที่ขัดคุณหนูคายา
“ถึงจะเป็นแบบนั้น เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนฉัน ฉันไม่มีวันปล่อยไปแบบไม่รู้เรื่องหรอกนะ แถมนายอาจเอาเปรียบโจลี่ก็ได้” ดาร์เดเน่พูดออกมา ด้วยความไม่ไว้วางใจผม หรือริชาร์ดนั้นเอง
“ถ้าเป็นเทยร์เวอร์คงช่วยแบบหลับหูหลับตาสินะ!” พูดออกมาพร้อมตบลงบนโต๊ะเสียงดัง พูดแล้วก็อารมณ์ขึ้นโว้ย!
“ก็เขาดีกว่านายเป็นพันเท่ายังไงล่ะ!”
พวกเราจ้องเขม็งกันด้วยอารมณ์ที่พุ่งพรวด แทบมีไฟลุกออกมาจากลูกตาทีเดียว
“เอาน่าๆทั้งสองคน ปะทะสมกันเป็นสามีภรรยาจริงๆเลยนะ” คุณหนูคายาเข้ามาห้าม
“ไม่ใช่ซะหน่อย”×2 ก่อนที่ผมกับดาร์เลเน่จะค้านออกมาเสียงดัง ก่อนจะสะบัดหน้าหนี
เอาละๆ ผมว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้คงมีหวังเรื่องไม่เดินต่อเนื่องแน่ เพราะงั้นต้องสงบสติอารมณ์ไว้ อายุเท่าไรแล้วเราเนี่ย(หมายถึงอายุของเดช) ยกชาขึ้นดื่มแล้วยื่นให้มิลาด้าเติมชาให้
“แล้วฉันจะได้อะไรจากช่วยคุณคะ?” คุณหนูคายาถามออกมาเพื่อให้เพื่อนสาวอย่างดาร์เลเน่เลิกเป็นห่วง
ช่วยไม่ได้ คงต้องอธิบายจนกว่าจะเข้าใจสินะ
“ไอ้กล่องไม้ด้านหน้าเธอนี้ มันเป็นหนึ่งในสมบัติที่หลงเหลือจากยุคจักรวรรดิแดง หนึ่งในอาณาจักรที่รุ่งเรืองเมื่อพันปีก่อนน่ะ มันมีค่ามหาศาลและฉันจะแบ่งให้เธอ 90% จากของทั้งหมด” พูดออกมาตบลงเบาที่กล่องไม้พร้อมยิ้มอย่างชั่วร้าย
“90% เลยเหรอคะ!” โจรี่อุทานออกมเสียงดัง
“หึ! มันคงไม่มีค่าอะไรสินะ นายก็คงจะเอาของมีค่าที่สุดไปล่ะสิ” ดาร์เลเน่พูดแดกดันในทันที
ยัยนี้! ถ้าเป็นตอนกลางคืนนะจะไม่ให้นอนเลย!!
คุณหนูคายาก็ได้แค่หัวเราะแห้งๆออกมากับพฤติกรรมของดาร์เลเน่ที่แสดงออกมา ให้ตายสิ ยัยดาร์เลเน่ในเกมไม่เห็นจะจูจี้จุจิแบบนี้เลยนะ เธอเป็นร่างพัฒนาแล้วรึไง!
“มูลค่าก็แค่ซื้อราชอาณาจักรได้ทั้งราชอาณาจักรก็แค่นั้นแหละ 5% ก็สามารถปลดพันธนาการเธอจะทั้งสองตระกูลเลยล่ะ” ผมหันไปตอบให้ดาร์เลเน่หน้าตาย
“จะ-จริงเหรอคะ!” คุณหนูคายาถามออกมาอย่างตื่นเต้นสุดขีด เพราะเธอก็อยากช่วยเพื่อนสาวแต่ก็หาวิธีไม่ได้ ส่วนดาร์เลเน่ก็มีสีหน้าสงสัย
“แน่นอน!” ผมตอบอย่างมั่นใจ