Chapter I Scene 08
“
Chapter I Scene 08
”
จะใช้คำว่าองค์กรงูทมิฬแทนกลุ่มงูทมิฬ
“ไอ้สองตัวนั้นไปนานจังวะ!” สเวนบ่นออกมาเมื่อยังไม่เห็นหัวลูกน้องตัวเอง ที่ส่งออกไปดูเป้าหมายที่องค์กรเล็งไว้
เป้าหมายนั้นเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 11-12 ได้ชื่อของเธอคือ เอวา เธอนั้นมีพลังที่สามารถติดต่อภูตได้ ถ้าพูดถึงภูตนั้น สเวนรู้แค่ว่ามันคือตัวตนอันบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นจกพลังเวทของโลก เขาก็ไม่รู้อะไรมากมาย เขารู้แค่จะจับตัวเอวาตามคำสั่งเบื้องบนให้สำเร็จก็พอ
โดยที่สเวนนั้นได้จ้างหมอผีใต้ดินมาทำการสาปแช่งแม่ของเอวา และบีบบังคับเธอ มันก็ขึ้นกับเวลาว่าเอวาจะยอมแพ้ตอนไหน เขาเลยต้องส่งลูกน้องไปดูตลอดเวลา
สเวนนั้นคิดว่างานนี้มันช่างง่ายดายเหลือเกิน
ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็เกิดเสียงดังขึ้นที่ชั้นล่าง
“เกิดอะไรขึ้น!!” สเวนตะโกนออกมาเสียงดัง
และในทันท่วงที ลูกน้องจากชั้นล่างก็เร่งรีบวิ่งขึ้นมาได้ท่าทีที่ตื่นตระหนกตกใจ
“มีอะไรเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง!?” สเวนถามย่ำอีกครั้ง
“สะ-ศัตรูบุกครับหัวหน้าสเวน!” ลูกน้องคนนั้นรีบรายงานในทันที
“ศัตรูงั้นเหรอ!! เป็นไปไม่ได้ มันมากี่คน มันคือใคร อัศวิน ทหารหรือนักผจญภัย!?”
“มาคนเดียวครับ ไม่ใช่ฝ่ายไหน แต่เป็นขุนนางครับหัวหน้า!”
(บ้าไปแล้ว!) สเวนคิดอย่างตกใจ องค์กรของเขานั้นเป็นองค์กรใต้ดิน ที่มีอำนาจพอๆกับราชอาณาจักรเลยนะ
จะมีใครกล้าหาญมาท้าทายกัน? ขนาดราชวงศ์ยังไม่กล้ามาตอแยได้ง่ายๆ แต่ศัตรูกลับเป็นแค่ขุนนางและมาเพียงคนเดียวด้วย
สเวนสามารถได้ยินเสียงต่อสู้อันรุนแรงด้านล่างได้ มีทั้งเสียงดาบ ระเบิดและเวทมนต์ สุดท้ายก็เงียบลงไปไม่ถึงกี่นาที และมีเสียงคนเดินขึ้นบันไดมา
ลูกน้องที่ขึ้นมารายงานสเวนก็รีบวิ่งมาข้างสเวนในทันที ชักดาบออกมา เขาสั่นไหวเพราะคลื่นแห่งความกลัว
ตึก… ตึก… ตึก…
เสียงขึ้นขั้นบันไดค่อยๆดังขึ้นและใกล้ขึ้นมา นั้นยิ่งเป็นการกดดันทั้งสองอย่างดี และในที่สุด เสียงเท้าดังกล่าว ก็ได้หยุดลงหน้าประตู
สเวนและลูกน้องต่างกลืนน้ำลายด้วยความเครียดสะสม
และประตูก็ถูกฟันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนจะมีบุคคลหนึ่งเดินเข้ามา เป็นชายหนุ่มผมดำ ตาแดง ผิวซีดเผือดอย่างกับคนไม่ออกจากที่มืดๆมาเป็นเดือน ชายหนุ่มคนนั้นมีรอยยิ้มและใบหน้าที่ชั่วร้ายเหมือนธรรมชาติของเขาเอง เขาเดินเข้ามาพร้อมดาบสีดำในมือ
เพียงแค่เห็นหน้าสเวนก็สามารถระบุชื่อของชายหนุ่มคนนั้นได้ทันที
“ริชาร์ด เซริก?”
(ทำไมกัน?)
ถึงกับมึนงงในทันที สเวนจำได้ว่าพวกเขาไม่เคยทำเรื่องบาดหมางต่อตระกูลเซริกเลย อาจเรียกว่ามันมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับดีก็ว่าได้
แต่ทำไม? คนที่เป็นถึงว่าที่ผู้นำคนนั้นถึงมาโจมตีพวกเขากัน?
“แกต้องการอะไร!!?” สเวนตะโกนถามริชาร์ด ในเวลานี้ไม่ต้องมีคำว่ามารยาทแล้ว
ริชาร์ดยิ้มออกมาพร้อมหลับตาข้างเดียวตอบออกมาว่า
“บังเอิญว่าฉันเกลียดหัวหน้าองค์กรแกวะ”
เป็นคำตอบสั้นๆที่จับใจความได้ง่าย
“ย๊ายยยย!!” ลูกน้องที่อยู่ข้างๆสเวนนั้น เห็นว่าได้จังหวะ ก็วิ่งเข้าใส่พร้อมง้างดาบขึ้นเหนือหัว
ฉึบ!
เกิดเสียงขึ้น ไม่ได้เกิดจากดาบของลูกน้องสเวน แต่เป็นของริชาร์ดที่ได้สะบัดดาบแบบไม่ตั้งใจอะไร ลูกน้องของสเวนก็ถูกแบ่งออกเป็นสองท่อนและแยกออกจากกันในเวลาต่อมา
“โอ โทษทีๆ บังเอิญเมื่อกี่ฉันเหมื่อยแขนเลยอยากขยับหน่อยน่ะ” ริชาร์ดก็พูดออกมาเหมือนคนรู้สึกผิด แต่ใบหน้านั้นไม่ได้แสดงเช่นนั้นเลย
(ปีศาจชัดๆ) สเวนคิดขึ้นอย่างขวัญกระจาย
และในพริบตานั้น ริชาร์ดก็ได้เคลื่อนที่ผ่านสเวนไปราวกับสายลม สีข้างของสเวนก็ได้มีเลือดพุ่งกระฉูดขึ้นมาทันท่วงทีจนล้มลงไป แต่เขายังไม่ถึงกับตาย
“เอาล่ะ ฉันหมดธุระล่ะ และก็ขี้เกียจเกินจะหาแท่งคำสาปแช่งด้วย เพราะงั้นระเบิดทิ้งก็แล้วกัน และเรียกฉันว่าริชาร์ดนักดาบทมิฬ ฉันว่ามันเท่ดีนะถ้าจะเรียกฉันแบบนั้น” ริชาร์ดว่าแล้วก็กระโดดออกจากตึกชั้นสองทางหน้าต่าง
ลงพื้นอย่างนุ่มนวล เดินจากไปโดยไม่ใส่ใจอะไร
สเวนหันไปรอบๆตัว เขาเห็นวงเวทสีแดงเล็กใหญ่เต็มห้อง และให้เดาด้านล่างก็เหมือนกัน
“เวรเอ๊ย…”
ตูมมมมมมมม!!!!!
อาคารทั้งอาคารก็ได้ระเบิด
“หมดเรื่อง”
เย็นวันนั้นเอง
“เละเทะเป็นบ้าเลย” คนในชุดคลุมสีดำปกปิดทั้งตัวและมีส่วนสูงแค่ 132 โดยประมาณเท่านั้นเอง แต่จากน้ำเสียงแล้วเราจะรู้ว่าเป็นผู้หญิง
“ไม่คิดเลยจะมีคนกล้าหาเรื่ององค์กรได้ คงเป็นพวกบ้าขนาดแท้สินะ” คนที่สวมชุดคลุมทั้งตัวอีกคนที่มีความสูงมากกว่าคนแรกพูดขึ้น แน่นอนว่าเธอเป็นผู้หญิงเหมือนกัน
“เหมือนมีใครรอดอยู่ด้วยล่ะ” คนเตี้ยพูดออกมา ก่อนจะเตะแผ่นไม้ขนาดใหญ่ออกอย่างไม่ยากเย็น
ใต้แผ่นไม้นั้น มีคนถูกเผาเป็นถ่ายอยู่ แต่หายใจเบาๆนั้นก็สามารถบอกได้ว่าเขาคงไม่อยู่นานบนโลกนี้
“เหมือนเขาอยากพูดอะไรนะ?” ทั้งคู่เข้าไปนั่งย่อๆใกล้ๆคนเหมือนถ่าย เพื่อให้ได้ยินเสียงของเขา
“ระ-ริชาร์ด ระ-ริชาร์ด ริชาร์ด นะ-นักดาบทมิฬ ริชาร์ด นักดาบ…ทมิฬ” เขาพูดวนไปวนมาคำเดิมก่อนสิ้นลมหายใจไป
“เอ๋~ ริชาร์ดเหรอ ตัวยุ่งยากเลยไม่ใช่เหรอ~นั้น” คนเตี้ยพูดออกด้วยท่าทางสนุกสนาน
“เราตั้งนำตัวเอวาไป หัวหน้าบอกอย่างชัดเจน” คนสูงออกความเห็นอย่างจริงจัง
ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินหายไปในเงามืด
“ผิดพลาดเหรอคะ? ช่างเป็นเรื่องไม่น่าให้ภัยจริง ริชาร์ด เซริกคุณก็คิดจะขัดขวางฉันสินะ?”