ตอนที่แล้วChapter I Scene 04
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter I Scene 06

Chapter I Scene 05


Chapter I Scene 05

วันนี้ก็ปาเข้าไปแล้ว 5 วัน ตอนนี้ผมแทบไม่มีแรงประคองให้ตัวเองอยู่ท่าเดิม ช่วงห้าวันนี้ ก็จะมีบาสเตียนที่พยายามให้ผมกินอะไรบางอย่าง ดาร์เลเน่ก็มาดูผมบางครั้ง โจลี่ก็ไปเรียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางครั้งเธอก็จะหยุดยืนดูผม

ด้วยการที่ไม่ดื่ม ไม่กินและไม่นอน ทำให้สภาพร่างกายเข้าขั้นวิกฤต สติก็เริ่มเลือนลางทุกที ผมว่าตัวเองที่ไม่ยอมอาบน้ำคงเหม็นน่าดูเลยล่ะ บางก็มีบารอนคายามาบอกให้ผมยอมแพ้ไป และพูดประมาณว่า ‘ถึงแม้ว่าลูกสาวข้าจะไม่อภัยเจ้า แต่ข้าให้อภัยเจ้า เพราะงั้นยอมแพ้เถอะ’

ไม่ล่ะ ทำมาถึงขนาดนี้แล้ว จะยอมแพ้ทำไมกัน

และก็เข้าวันที่หก ดาร์เลเน่ก็ได้มาหาผม พร้อมบางอย่างที่วางไว้ด้านหน้าผม ถึงแม้จะไม่เงยหน้ามอง แต่ผมก็รู้ว่ามันคืออาหารจากกลิ่นหอมๆที่ลอยมาตามลม

“รู้ไหมว่าตอนนี้นายไม่เหลือความร้ายกาจแล้วนะ ผอมก็ผอม โทรมก็โทรม จะมาทำเหมือนหมาถูกเจ้าของทิ้งอีกนานไหม?”

“กินซะก่อนจะไม่มีโอกาส”

“เก็บ…ไปเถอะ ฉัน ไม่กิน” ผมปฏิเสธเธอไป ก่อนจะพูดอีกครั้ง “มี…กระ ดาษ..อยู่ใต้เตียงฉัน …ถ้าฉันเป็นอะไร…ไป ให้พ่อ แม่ฉัน เธอจะ เป็นอิสระ…”

สิ่งผมบอกไปนั้นคือกระดาษที่ผมเขียนขึ้นมาเอง เพราะในฉากจบนั้น ถึงแม้ว่าดาร์เลเน่จะสามารถฆ่าริชาร์ทได้ เธอก็ไม่ได้เป็นอิสระ แถมยังถูกจับแล้วถูกโทษประหาร ถึงแม้ว่าจะหนีออกมาได้จากความช่วยเหลือของเทรย์เวอร์ แต่ก็เป็นนักโทษข้ามประเทศและถูกตั้งค่าหัวด้วย ถ้าอยากช่วยเธอจริงๆเทรย์เวอร์ต้องรวบรวมนางเอกทั้งสี่ ถึงจะมีอำนาจมากพอที่จะทำ

เพราะงั้นผมได้เขียนจดหมายไว้ นี้ผมใจดีมากขนาดไหน ใช่ว่าผมจะทำเรื่องชั่วๆอย่างดีเสียหน่อย

“เหรอ” เธอตอบออกมาพร้อมยกอาหารไป

แล้วก็มาถึงวันที่เจ็ดตอนค่ำ ผมไม่ไหวแล้วสินะ และในตอนนั้นเอง ก็มีน้ำหยดลงบนหัวผม จากเบาๆก็เริ่มแรงขึ้น

ฝนตกนั้นเอง ตายแน่นอนเรา…

หืน? ฝนหยุดตกแล้ว แต่ผมยังได้ยินเสียงฝนอยู่นะ

“ลุกขึ้นมาได้แล้ว นายอยากตายมากหรือไง?” เสียงโจลี่ดังขึ้น ผมว่าเธอกำลังถือร่มอยู่ ทำไมเธอยังไม่นอนกัน?

“ไม่หนาวเหรอ?” โจลี่ถามผมอีกครั้ง แต่น้ำเสียงเธอดูเหมือนอ่อนมากกว่าที่ผ่านมา

ถามมาได้ ตากฝนตอนกลางคืนก็ต้องหนาวสิ เพราะงั้นโจลี่ คายา พูดคำว่ายกโทษเถอะน่า ผมขอร้องล่ะ

“รู้ไหมว่าในวันนั้น ฉันกลัวมากแค่ไหน” เธอเริ่มที่จะเล่าเรื่องราวออกมา พร้อมสัมผัสที่หัวผม เธอลูบมันไปด้วยในขณะเล่าต่อไป

“ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าบอกให้นายหยุดกี่ครั้ง ครั้งแรกของฉันที่คิดว่าจะมอบให้คนที่รัก อ่อนโยนเป็นดั่งฝันที่หอมหวาน เป็นต้องมาเป็นนายที่เจ็บปวดเหมือนฝันร้าย นายทำกับฉันไม่หยุดจนถึงเช้า ก่อนจะปล่อยฉันทิ้งไว้หน้าบ้าน ตอนนั้นฉันเลยตัดสินใจฆ่าตัวเอง ใช่มันควรเป็นแบบนั้น แต่ก็ถูกช่วยเอาไว้ ก่อนที่ฉันจะได้ข่าวว่านายถูกทำร้ายและกัสก็ถูกจับประหาร เขายิ้มให้ฉันก่อนตาย แต่จู่ๆนายจะมาขอโทษฉัน ถ้าฉันยกโทษให้ก็เป็นการโกหก ฉันไม่อาจให้อภัยนายได้ริชาร์ท”

กัสที่โจลี่พูดถึง ก็คือที่ลอบทำร้ายผมยังไงล่ะ เป็นลูกคนใช้ที่เป็นเพื่อนเล่นสนิทของโจลี่ เหมือนว่าเจ้ากัสจะแอบชอบโจลี่ด้วย เหมือนว่ากัสจะมีบทบาทสำคัญอยู่น่ะ?

คำตอบของโจลี่ก็เป็นดั่งคำตัดสินแล้ว

“แต่…ถ้าจะให้ตายไป นายก็หนีบาปของตัวเอง แต่ฉันก็ให้อภัยไม่ได้ด้วย” โจลี่พูดออกมาเสียงแข็งก่อนจะถามผมด้วยเสียงที่อ่อนลง “ถามหน่อยสิ พวกเราก็ไม่เคยรู้จักกัน ทำไมนายถึงฉุดฉันล่ะ?”

เหตุผลที่เจ้าริชาร์ทฉุดโจลี่งั้นเหรอ ในเกมก็ไม่บอกด้วย เดี๋ยวนะ ผมว่ารู้ ก็ต้องนี้ผมคือเจ้าบ้าริชาร์ทนี้?

“…อิจฉาน่ะสิ เพราะอิจฉาเจ้าบ้านั้น ที่มีผู้หญิงน่ารักๆล้อมหน้าล้อมหลังอย่างใจจริงน่ะสิ” ผมเงียบอยู่นาน กว่าจะตอบออกไปด้วยเสียงเบาๆไร้แรง

เพราะริชาร์ทนั้นอิจฉาเทรย์เวอร์มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีสถานะเท่ากัน ความสามารถก็เท่าๆกัน แต่กลับมีคนเข้าหาต่างกัน เทรย์เวอร์นั้นมีผู้คนเข้าอย่างใจจริง แต่ริชาร์ทเจ้าหาเชิงธุรกิจมากกว่า

“เลยมาระบายที่ฉัน?”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“งั้นลุกขึ้นมาได้แล้ว ถึงฉันจะไม่ให้อภัยนาย แต่จะยอมช่วยก็ได้ พ่อบ้านที่ชื่อบาสเตียนบอกฉันหมดแล้วล่ะนะ ที่นายต้องการความช่วยเหลือจากฉัน”

เจ้าบ้าบาสเตียน!

เมื่อเธอรู้และยอมให้ความร่วมมือจริงๆ ผมก็คงไม่จำเป็นก้มหัวขอโทษสินะ ก็เธอบอกว่าไม่ยกโทษให้ผมนิ

ผมเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าเธอยิ้มเบาๆออกมา ก่อนที่เธอจะพูดว่า

“หน้าตาดูไม่น่ากลัวเหมือนก่อนแล้วนะ รู้ตัวไหม?”

“เอาอะไรไหม?” โจลี่ถามผมเมื่อช่วยผมเข้ามาในบ้านของเธอ

“งั้นขอช็อกโกแลตร้อนใส่นมและน้ำผึ้งเยอะๆ”

“ไม่เกรงใจเลยนะ” เธอบ่นออกมา ก่อนเดินหายเข้าที่คาดว่าเป็นครัว

ความเกรงใจจะทำให้ฉันตายนะสิ ตัวสั่นเพราะหิวจัดแล้วเนี่ย

ข้างนอกนั้นมืดมิด ถ้าไม่มีดวงจันทร์กับดาวบนฟ้าก็คงมองไม่เห็น ผมคาดว่านี้คงเป็นเวลาตี 2-3 ได้ โจลี่ไปได้ไม่นานก็เดินออกมาพร้อมแก้วในมือ

ผมเริ่มไม่ไว้ใจเมื่อโจลี่ถือแก้ว

“ฉันไม่ปาใส่นายหรอกนะ”

แก้ววางไว้ตรงหน้าผม ในนั้นมีของเหลวสีน้ำตาลอ่อนๆ ผมจ้องมัน ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากกินมันหรอกนะ แต่ผมไม่มีแรงจะยกแขนด้วยซ้ำ

“ทำไมถึงไม่กินล่ะ” เห็นแบบนั้น โจลี่ก็ได้ถามผม

“…กินไม่ได้ ไม่มีแรง” ทำหน้าเงียบนาน ผมก็ได้ตอบออกไป

“นายเป็นเด็กหรือไง”

ช่วยไม่ได้ ก็ไม่ได้กินอะไรมานานนี่

“ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวฉันช่วยก็ได้” พูดแล้วโจลี่ก็คว้าแก้วขึ้นมาเป่าเบาๆ

ก่อนที่โจลี่จะเข้ามาจับแก้วมาใกล้ริมฝีปากผม และเริ่มป้อนผม ถึงแม้ว่าจะมีโจลี่มาช่วยผมก็จะทำหกเละทั้งตัวเองและโจลี่

“ให้ตายสิทำเละเลย นายเป็นเด็กจริงๆใช่ไหม?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด