บาทที่ 30

บาทที่ 30

“หอกศิลา” หงเซียวตะโกนก้อง บรรดาผึ้งเซียนของเขาต่างพากันเข้าใจเจตนาของหงเซียว หนามศิลาจำนวนมากพุ่งเป็นแนวเฉียงจากพื้นดินเข้าใส่มนุษย์งูพวกนั้น

ฉึกๆๆๆๆๆ มนุษย์งูขนาดร่างปกติสองเมตรหลายตัวถูกหอกแทงเข้าอกบ้าง ท้องบ้าง ขาบ้าง ตรึงพวกมันไว้ตรงนั้น แต่มีหอกศิลาอันหนึ่งที่สร้างขึ้นมาด้วยการประสานระหว่างหงเซียวกับภูษาเซียนห้าธาตุ มีขนาดใหญ่และยาวมากเป็นพิเศษ มันปักเข้าไปในขาของมนุษย์งูที่สูงถึงหกเมตรนั้น

หญิงสาวทั้งห้าทำตาม หอกศิลาพากันแทงเข้าใส่ศัตรูอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งหอกขนาดใหญ่ที่มุ่งเป้าไปยังร่างขนาดใหญ่

เป๊าะๆๆๆๆๆๆ หนึ่งในร่างสูงหกเมตรนั้นพลันกวาดหอกในแนวนอน หอกศิลาทั้งหมดกลับไม่อาจทานแรงของมันได้ หากเทียบกับพลังปราณก็ดูท่าพวกมันจะมีระดับพลังสูงกว่าเขตร่างปราณ หากเทียบกับพวกหงเซียวพวกนี้ก็น่าจะเข้าสู่ชั้นมัชฌิมเซียนแล้ว

อีกหนึ่งในร่างสูงหกเมตรนั้นพลันก้าวออกมาแล้วแทงหอกออก หงเซียวตาไว เขาชี้กระบี่ในมือไปด้านข้าง ก่อให้เกิดเนินดินขนาดใหญ่ขึ้นขวางทางหอกนั้น

ฉึก หอกแทงทะลุเนินดินและจ่อไปที่อกของภูษาเซียนหกกรที่นั่งสวดคาถาอยู่ หากไม่มีเนินดินคาดว่าหอกก็คงจะทะลุอกของภูษาเซียนนาคินินทร์ไปแล้ว

หนึ่งในร่างสูงหกเมตรนั้นพลันใช้หางฟาดดีดตัวขึ้นมาสูงพร้อมกับปักหอกลงใส่ภูษาเซียนนาคินินทร์ของหงเซียว

ฉึก ฉึก ตั้งแต่ที่สร้างเนินดิน หงเซียวก็ได้ใช้พลังจากวิถีเซียนไร้ลักษณ์ดึงตัวภูษาเซียนนาคินินทร์ ไถลไปด้านหลังไกล ดังนั้นหอกที่ปักลงมานั้นจึงปักพลาด แต่ทว่าหอกศิลาที่จินหลินได้สร้างขึ้นนั้นกลับพุ่งทะลวงขึ้นจากพื้นเสียบไปในช่องท้องของมนุษย์งูตนนี้ขึ้นไปยังทรวงอกอย่างเหมาะเหม็ง

ดับดิ้น ร่างนั้นชะงักค้างก่อนที่จะล้มลงไปด้านข้างพร้อมกับดึงหอกศิลาให้หักคาตามลงไปด้วย

แต่ในเวลานั้นเองศึกระหว่างอมนุษย์ที่เหลือเจ็ดร่างกับหญิงสาวห้าคนก็อุบัติขึ้น โดยมีมนุษย์งูตนอื่นเข้าปะทะกับผึ้งเซียนที่มีร่างโลหะขนาดเท่ากับตัวคน

ซีชี่ใช้วิชาที่เธอไปเรียนมาใหม่ วิชาธาตุแสง วาบ เธอยื่นมือออกเกิดแสงสว่างสุดจ้าวาบขึ้นในชั่วพริบตาเดียว ทำให้มนุษย์งูทุกตัวที่หันหน้ามาทางพวกเธอถึงกับตาบอดไปชั่วขณะ พวกมันชะงักสะเปะสะปะ

ผึ้งเซียนได้โอกาส มันใช้กรงเล็บโลหะในมือทิ่มแทงศัตรูที่อยู่เบื้องหน้า มากกว่าสิบตนของมนุษย์งูแดดิ้นลงไปกับพื้นก่อนที่จะทันการฟื้นฟูสภาพของดวงตา

ห้าในเจ็ดของมนุษย์งูสูงหกเมตรนั้นได้รับบาดเจ็บอยู่แล้วจากตอนที่เปิดประตูเพราะว่าไม่สามารถป้องกันตัวได้ในขณะนั้น พลังการต่อสู้จึงตกลงไปกลายเป็นคู่คี่ก้ำกึ่งกับห้าสาว แต่เมื่อเจอแสงแฟลชเข้าไปพวกมันถึงกับปั่นป่วนรวนเรไปในทันที

เพราะว่าหอกศิลาที่แทงออกมานั้นค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับปฏิกิริยาโต้ตอบของมนุษย์งู ดังนั้นส่วนใหญ่จะพลาดและถูกทำลายทิ้ง แต่เมื่อแสงแฟลชเกิดขึ้น หอกศิลาที่พวกหญิงสาวปล่อยออกมานั้นทำให้สามในเจ็ดของพวกมันตกตาย และอีกสองบาดเจ็บหนัก

จินหลินซึ่งสวมภูษาเซียนห้าธาตุอยู่แล้วพลันร่ายคาถาร่างโลหะ ร่างของเธอพลันเปลี่ยนเป็นสีเงินด้าน มีเส้นสีทองพาดผ่าน เหมือนกับหุ่นแอนดรอยด์กลแสนสวย กรงเล็บโลหะสีทองขนาดใหญ่งอกออกมาจากข้อมือของเธอข้างละหนึ่งแท่งโค้งไปข้างหน้า

หงเซียวนั้นลอยตัวขึ้นเหนือทุกคน ตอนนี้เขาจับร่างของนาคินินทร์ขึ้นมาสวมเป็นภูษาเซียน ด้วยการสัมผัสเธอทำให้เขารู้ว่าต้องให้เธออยู่บริเวณหัวจึงจะมีอานุภาพมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเธอให้เป็นรัดเกล้าหรือ กวาน(冠) สีทองคล้ายมงกุฎสูงหกแฉกประดับยอดด้วยเพชรหกเม็ดอันสูงศักดิ์สวยงาม

รอบกายของเขานั้นมีอักขระแสงหกดวงหมุนวนรอบอย่างไร้ระเบียบ อักขระแสงแต่ละดวงนั้นเปลี่ยนรูปร่างไปตลอดเวลา เขายกมือขึ้นพนมไว้ที่กลางอกแล้วเหินร่างเข้าไปหามนุษย์งูร่างสูงหกเมตรตนหนึ่งอย่างไม่กลัวเกรง

“พี่ชาย” เหมยเหมยที่เห็นเขาลอยเข้าไปหาศัตรูโดยเหมือนไม่เตรียมตัวอะไรเลยร้องขึ้นมาด้วยความตระหนก แต่เธอต้องอ้าปากค้างยิ่งขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น

มนุษย์งูแค่นเสียงฟ่อออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับแทงหอกเข้าใส่หงเซียว แทนที่เขาจะรับมือ เขากลับยืนอยู่เฉยๆ แต่ทว่าอักขระดวงหนึ่งข้างกายของเขาพลันขยายตัวขึ้นและเปล่งแสงสว่าง พุ่งเข้าไปชนเข้ากับด้ามหอกนั้นทำให้หอกนั้นแฉลบห่างออกไปจากหงเซียว

อักขระอีกดวงหนึ่งนั้นพลันเปลี่ยนสภาพเป็นอักขระอีกแบบและพุ่งเข้าใส่กลางอกของมนุษย์งูตนนั้น มันร้องก้องขณะถูกกระแทกพุ่งชนพวกเดียวกันที่อยู่เบื้องหลัง

หอกนั้นพลันถูกอักขระดวงที่พุ่งชนนั้นควบคุม มันทิ่มแทงลงไปยังด้านล่างสวนกับหอกจากมนุษย์งูที่อยู่เบื้องล่างได้พากันแทงขึ้นมาด้านบน

ฟุบ หอกนั้นมีอานุภาพมาก มันแหวกหอกอื่นๆที่แทงขึ้นมาให้เบี่ยงออกข้างไปจนหมด จนไม่มีหอกด้ามไหนที่ทิ่มแทงหงเซียวโดนได้ และทิ่มถึงทรวงอกของมนุษย์งูตนหนึ่ง

บรึม ร่างของมนุษย์งูนั้นระเบิดออกรอบข้าง เศษเลือดเนื้อกระดูกที่แตกหักออกไปนั้นดูมีพลังทำลายรุนแรงมาก เมื่อมนุษย์งูที่อยู่รอบข้างมนุษย์งูตนนั้นพลันร่างฉีกขาดออกพร้อมกับกระเด็นออกไปรอบข้าง เว้นเป็นช่องว่างขนาดใหญ่

ห้าหญิงสาวต่างพากันปากอ้าตาค้างด้วยความประหลาดใจ นั่นภูษาเซียนอะไรกัน ช่างมีอานุภาพมากมายนัก

แต่พวกเธอก็ไม่ประหลาดใจนาน ต่างพากันทำตัวเลียนแบบจินหลิน เปลี่ยนร่างให้กลายเป็นโลหะ ใช้อาณาเขตโลหะ และสร้างกรงเล็บโลหะขึ้นมาแล้วพุ่งตัวติดตามหงเซียวบุกเข้าไปด้านใน

หงเซียวลดตัวลงสู่พื้น หอกในการควบคุมของอักขระแสงวาดเหวี่ยงรอบตัวหงเซียวเป็นแนวนอน คลื่นพลังนั้นกวาดมนุษย์งูกระเด็นไปทุกทิศทางราวกับตันหญ้าที่ถูกมีดฟัน ไม่ว่าจะสูงหกเมตรหรือสองเมตรก็ตาม

พริบตาเดียวแรงกดดันจากการจู่โจมของมนุษย์งูที่พวกเธอและผึ้งเซียนได้รับก็หายไปโดยปลิดทิ้ง ต่างพากันกระจายออกไปรอบข้างภายในห้องโถงใหญ่นั้นตรงเข้าปะทะกับมนุษย์งูจากรอบข้าง

หงเซียวนั้นกระโดดตัวขึ้นไปสูงอีกครั้ง ก่อนจะเขวี้ยงหอกนั้นลงสู่พื้น

บรึม หอกนั้นกระทบพื้นเบื้องหน้าแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พื้นดินบริเวณนั้นระเบิดเป็นแอ่ง เศษหินต่างพากันกระเด็นไปรอบข้าง และแน่นอนว่าจะต้องมีมนุษย์งูจำนวนมากสิ้นชีวิต

จินหลินและหญิงสาวคนอื่นต่างเห็นสภาพในห้องโถงได้ถนัดชัดตาในคราวนี้ นอกจากจะมีมนุษย์งูที่สูงสองเมตรอยู่เต็มห้องโถงแล้ว มนุษย์งูที่สูงหกเมตรก็ยังมีกระจายกันทั่วไป ประเมินว่าทุกสิบตัวจะต้องเป็นมนุษย์งูที่สูงหกเมตรนี่หนึ่งตัว

เมื่อสร้างร่างโลหะแล้ว บรรดาหญิงสาวก็เริ่มออกอาละวาด วิชาที่พวกเธอใช้ก็คือกรงเล็บเขี้ยวอสรพิษ วิชาการต่อสู้เดียวที่พวกเธอได้เรียน ยกเว้นชิวเยว่ ที่สะบัดกรงเล็บไปมาเปะปะ มีเซียนน้อยคนที่จะได้เรียนวิชาการต่อสู้ยกเว้นว่าจะฝึกวิชาปราณมาก่อน

หญิงสาวคนอื่นได้แต่ส่ายหน้า แต่ในเมื่อเธอไม่เป็นอันตรายอะไร พวกเธอจึงไม่ใส่ใจมากนัก

หอกแทงเข้ามา พวกเธอก้าวขาแบบแปลกๆ ทำให้ร่างของพวกเธอส่ายซ้ายขวาราวกับลำตัวงูหลุดรอดไปจากหอกได้ และกรงเล็บที่พุ่งออกไปก็เหมือนกับเขี้ยวที่ขย้ำชีวิตออกไปจากร่างของมนุษย์งู

จินหลินก้าวถอยหลัง จับผึ้งเซียนตัวหนึ่งไว้ชั่วขณะแล้วปล่อยมันไป ทันใดมันก็พลันเก่งวิชากรงเล็บเขี้ยวอสรพิษขึ้นมาในทันที หอกที่แทงเข้าใส่มันกลับไม่อาจแทงโดนได้ และเปิดช่องให้กรงเล็บในมือผึ้งเซียนนั้นทิ่มทะลุคอหอย

จินหลินเห็นเช่นนั้นจึงได้ร้องบอกต่อทุกคน ทุกคนก็ได้ทำตาม มีเพียงชิวเยว่ที่ยืนทำตัวปริบๆ ข้างๆ

จินหลินคิดวิธีได้วิธีหนึ่ง เธอถ่ายทอดความรู้ให้กับภูษาเซียนของชิวเยว่แทน และเมื่อชิวเยว่สวมภูษาเซียนเธอก็เริ่มทำได้เช่นกัน

แม่นางพวกเธอจะไม่ฝึกวิชากันบ้างหรืออย่างไร พวกเธอใช้วิธีการถ่ายทอดวิชากันแบบนี้ จะโกงกันไปถึงไหนกัน

เมื่อชิวเยว่ได้เรียนรู้แล้ว เธอก็ออกอาละวาดโดยไม่สนใจใครอีก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภูษาเซียนในการถ่ายทอดความรู้ให้กับผึ้งเซียน

หากจะเปรียบเทียบกันแล้ว มนุษย์งูปกติจะมีพลังเทียบได้กับปราณเขตแก่นปราณระยะสุดท้ายไปถึงเขตร่างปราณ และจินหลินและพวกก็เช่นเดียวกันเมื่อวิชาเซียนของพวกเธอเทียบได้กับเขตร่างปราณ แต่สำหรับชิวเยว่แล้ววิชาเซียนของเธอมีพลานุภาพเทียบเท่ากับระดับวิญญาณปราณที่สูงกว่าขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

แต่ทว่าผึ้งเซียนและภูษาเซียนนั้นไม่เหมือนกัน พวกมันมีความสามารถเทียบได้กับเซียนระดับหกปฐมเซียนทั่วไปซึ่งก็จะอยู่ประมาณในเขตแก่นปราณระยะสุดท้าย

แต่ไม่ว่าอย่างไร เนื่องจากว่าตอนนี้พวกเธอและผึ้งเซียนได้ใช้กรงเล็บเขี้ยวอสรพิษ ทำให้พลังโจมตีของพวกเธอมีความพลิกแพลงขึ้นมากหลายเท่ามนุษย์งูไม่อาจต้านติดได้

แต่อย่างไรก็ตาม พวกมันมีจำนวนมากกว่ามากนัก พวกมันใช้จำนวนกดทับพวกเธอเพื่อไม่ให้ใช้วิชาได้สะดวก