ตอนที่แล้วChapter 53 - 54: เสี่ยงโชคกับก้อนหิน, ได้หยกมาแล้ว (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 57 - 58: เกือบพลาด, ลี่เจินเจินไม่เป็นมิตร (ฟรี)

Chapter 55 - 56: ประมูล, หยกชิ้นต่อไป (ฟรี)


           Chapter 55: ประมูล

 

ทุกคนต่างก็สงสัยว่าเด็กสาววัยรุ่นคนนี้เข้าใจการพนันหินหรือเปล่า หรือไม่ก็ไม่สนใจเลย

 

“สาวน้อย หนูสนใจขายก้อนหินนี้ราคาห้าหมื่นหยวนไหม? ถึงมันจะมีเปลือกสีเขียวแต่ก็ใช่ว่าจะมีหยกอยู่ข้างในใช่ไหมล่ะ? ถ้าไม่มีอะไรอยู่ข้างในเลยมันก็เสียเปล่า ถ้าหนูขายมันตอนนี้ หนูก็จะได้เงินห้าหมื่นหยวนเลยนะ ถ้าหนูไม่ขายหนูก็จะไม่ได้อะไรเลย” ชายในชุดสูทค่อนข้างท้วมอายุราวๆห้าสิบปีเอ่ยขึ้น

 

ถ้าก้อนหินที่ถูกผ่าออกและเห็นสีเขียวที่ผิวด้านใน การตัดจะเรียกว่า “หน้าต่าง” หากเจ้าของไม่ต้องการเดิมพันต่อเพื่อรอลุ้นว่าข้างในมีอะไร เขาหรือเธอสามารถขายมันได้

 

ผู้ซื้อต่อก็ต้องมานั่งลุ้นเอาต่อว่าผิวก้อนหินที่เห็นสีเขียวนั้น ข้างในจะใช่หยกหรือไม่ เพราะชั้นสีเขียวไม่ได้แปลว่าข้างในจะเป็นหยกมีค่า

 

ก้อนหินที่พบว่ามีชั้นสีเขียวบางๆก็มีเยอะหรือข้างในก็มีหยกขนาดเล็ก

 

แต่ก้อนหินที่มี ‘หน้าต่าง’ มีราคาแพงกว่าก้อนหินที่ไม่มี ‘หน้าต่าง’ เหมือนก้อนที่กู้หนิงซื้อมาสองพันหยวนและมีคนประมูลห้าหมื่นหยวน

 

ถ้าก้อนหินมีสีเขียวทั้งหมด เป็นไปได้ว่ามีอยู่หยกอยู่ข้างใน ถ้าชั้นสีเขียวบาง มันก็อาจเสียเวลาเปล่า ถ้ามีหยกอยู่ข้างใน มันอาจมีค่าตามขนาดของหยก

 

ชายวัยกลางคนพยายามหลอกกู้หนิง ในสายตาของเขากู้หนิงเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นและต้องไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการพนันหิน

 

ถึงแม้จะไม่มีหยกอยู่ข้างใน เขาก็จะซื้อมันในราคาห้าหมื่นหยวนอยู่ดี แต่หากมีหยกอยู่ข้างในจริง เขาก็จะทำเงินได้มากกว่านี้

 

ถึงกู้หนิงจะไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับการพนันหิน เธอรู้เพียงว่าหยกที่อยู่ข้างในต้องมีมูลค่าสูง ห้าหมื่นหยวนไม่สามารถซื้อมันได้แม้เพียงเสี้ย

 

“หนูจะอยู่รอดูและเดิมพันกับมันจนกว่าหยกจะออกมาค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

ชายวัยกลางคนผิดหวัง แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

พนักงานทำการเจียระไนมันออก หลังจากผ่าครั้งที่สอง ก็มีชั้นสีเขียวปรากฏสู่สายตาทุกคน และประเภทของหยกก็เผยออกมา

 

“ใช่จริงๆ!” พนักเอ่ยอย่างตื่นเต้น

 

“สีเหลืองหน่อยๆ น้ำงามมาก นี่มันเป็นประเภทข้าวเหนียว” เจ้าของร้านเดินเข้ามาและตื่นเต้นเช่นเดียวกัน

 

“สาวน้อย หนูขายมันให้ลุงห้าแสนหยวนได้ไหม? ชายวัยกลางคนประมูล

 

“ฉันจ่ายให้หนูเลยแปดแสนหยวน”

 

“หนึ่งล้านหยวน”

 

“สองล้านหยวน”

 

เมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึงสองล้านหยวน ก็ไม่มีใครประมูลต่ออีก หยกยังไม่ถูกผ่าออกมาหมด ยังคงไม่รู้ว่ามันมีขนาดใหญ่เท่าไหร่และมีค่าเท่าไหร่

 

กู้หนิงไม่ได้ห้ามพวกเขาประมูล หลังจากพวกเขาแข่งประมูลกันเสร็จ กู้หนิงก็เปิดปากพูดขึ้นว่า “หนูจะขายมันก็ต่อเมื่อมันถูกเอาออกมาหมดแล้ว”

 

หยกก้อนนี้ต้องมีค่ามากกว่าสองล้านหยวนแน่

 

พนักงานทำการผ่ามันต่อ เขาเอาชั้นแรกออกไปได้แล้ว จากนั้นก็เริ่มเจียระไนมัน ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยกขนาดครึ่งลูกฟุตบอลก็เผยโฉมออกมา หยกประเภทข้าวเหนียวเป็นหยกระดับสูง แน่นอนว่ามันมีมูลค่ามาก ยิ่งกว่านั้น ขนาดของมันไม่เล็กเลย

 

“ห้าล้านหยวน”

 

“หกล้านหยวน”

 

“เจ็ดล้านหยวน”

 

“สิบล้านหยวน!” เสียงอันทรงพลังดังขึ้น การเสนอราคาเกิดช่องว่างถึงสามล้านหยว ชายสูงวันอายุเจ็ดสิบที่ยังดูกระฉับกระเฉงเดินเข้ามา

 

“โอ้ อาจารย์ฝู ไม่ได้เจอกันซะนานนะครับ เชิญครับๆ” ผู้ชายอีกคนเอ่ยทักทาย

 

“เมื่อต้นเดือนหลานชายผมเกิด อยู่บ้านนานไปหน่อยเลยไม่ค่อยได้ยืดเส้นยืดสาย ก็เลยออกมาเดินดูอะไรรอบๆ ไม่น่าเชื่อว่าผมมาเจอหยกน้ำดีเข้า ผมอยากจะขอซื้อไว้เป็นของขวัญต้อนรับหลานชาย!” อาจารย์ฝูกล่าว

 

อาจารย์ฝูทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย เขาเป็นนักธุรกิจที่มีสินทรัพย์กว่าแปดพันล้านหยวน ตระกูลของเขารวยติดอันดับหนึ่งในสามตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองระดับสองอย่างเมือง G

 

แม้แต่ตระกูลที่ร่ำรวยสุดๆนั้นยังแบ่งออกเป็น ชั้นแรก ชั้นสองและชั้นสาม แต่ก็มีเพียง 10 ตระกูลเท่านั้น

 

เพราะมีเพียงสิบตระกูลที่สามารถถูกเรียกว่าเป็นมหาเศรษฐี และอาจารย์ฝูก็ติดอันดับเจ็บของทำเนียบตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แน่นอนว่านอกจากตระกูลที่ร่ำรวยสูงสุดในรายชื่อแล้วยังมีตระกูลร่ำรวยที่ยังไม่เปิดเผยให้เห็นอีกมากมาย

 

“ดูเหมือนว่าอาจารย์ฝูจะสนใจหยกข้าวเหนียวก้อนนี้เป็นพิเศษ แต่ผมก็ชอบมันมากเสียด้วย ผมเกรงว่าจะต้องแข่งประมูลกับอาจารย์ฝูเสียแล้ว” ชายอีกคนเอ่ยขึ้น

 

“สิบเอ็ดล้านหยวน”

 

ถึงแม้ชายคนดังกล่าวจะไม่ได้ร่ำรวยมั่งคั่งเท่าอาจารย์ฝู เขาก็ให้ราคาสูงสำหรับหยกก้อนนี้ เขาไม่อยากพลาดมัน

 

“คนที่ใจป้ำที่สุดเท่านั้นถึงจะได้หยกก้อนนี้ไป ถ้าอย่างนั้นเรามาแข่งกันเถะ

 

สิบห้าล้านหยวน” อาจารย์ฝูเสนอราคาประมูลเพิ่มอีกสี่ล้านหยวน

 

“สิบหกล้านหยวน”

 

“สิบเจ็ดล้านหยวน”

 

“สิบแปดล้านหยวน”

 

“สามสิบล้านหยวน”

 

ราคาประมูลตอนนี้สูงถึงสามสิบล้านหยวน ผู้ประมูลคืออาจารย์ฝู

 

สามสิบล้านหยวนเกือบจะเป็นราคาสูงสุดของหยกแล้ว ผู้ซื้อไม่อยากเสียเงินไปมากกว่านี้ เพราะเขาอาจจะนำไปขายราคาได้ไม่มากกว่านี้แล้ว

 

ความรู้สึกผสมปนเปยากจะอธิบายของเจ้าของร้าน เขาทั้งตื่นเต้นและเสียในในขณะเดียวกัน

 

ทำไมน่ะหรือ?

 

เขาตื่นเต้นที่มีลูกค้าซื้อหินดิบจากร้านเขาและข้างในนั้นมีหยก มันเป็นการโฆษณาให้ร้านเขาอย่างดี ร้านของเขาจะต้องได้รับความนิยม

 

ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกเสียใจที่เขาไม่รู้ว่าเขามีของที่มูลค่าประเมินค่าไม่ได้อยู่ในร้านของเขาด้วย หากเขารู้ก่อนหน้านี้เขาจะเป็นคนผ่ามันเอง

 

แต่เจ้าของร้านรู้ดีว่าวงการการพนันหินเป็นอย่างไร เขาเตรียมจิตใจมาอย่างดีนอกจากนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องยอมรับความจริงให้เร็วที่สุด

 

ผู้ชายที่แข่งประมูลกับอาจารย์ฝูคาดไม่ถึงว่าอาจารย์จะประมูลราคาสูงขนาดนี้ เขาจึงยอมแพ้ในที่สุด “อาจารย์ฝู ท่านชนะแล้ว”

 

เขาไม่ต้องการจ่ายเงินสามสิบล้านหยวนสำหรับหยกก้อนนั้น เขาเป็นนักธุรกิจ เขาต้องการกำไรมากกว่าแทนที่จะเสียเงิน

 

“ฮ่า ฮ่า เสี่ยวจ้าว ไม่ต้องกังวลไป บางทีอาจจะมีของที่ดีกว่ารอเจ้าอยู่ก็ได้!” อาจารย์ฝูปลอบใจเขา ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่อาจารย์ฝูกล่าวจะเกิดขึ้นจริงหลังจากนั้น

 

ใช่ หยกชิ้นต่อไปที่มีขนาดเล็กกว่าแต่มีมูลค่ามากกว่าอันแรก

 

“ขอบคุณครับอาจารย์ฝู” เขายิ้มอย่างเศร้าสร้อย เขารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะหาหยกคุณภาพดีได้

 

“ใครเป็นเจ้าของหยกชิ้นนี้?” อาจารย์ฝูเอ่ยถาม

 

กู้หนิงรู้ว่าหยกข้าวเหนียวเป็นหยกระดับสูง ถึงมูลค่าของมันจะน้อยกว่าหยกราชันย์ มันก็ยังคงมีราคาสูง กู้หนิงคาดคะเนราคาของมันที่สามสิบล้านหยวน แต่เมื่อได้ยินว่ามีคนประมูลมันถึงสามสิบล้านหยวน เธอก็ยังแทบตกใจ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

 

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อาจารย์ฝู หยกก้อนนี้เป็นของฉัน”

 

เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กสาววัยรุ่น อาจารย์ฝูก็ประหลาดใจยิ่งนัก โดยเฉพาะเงินสามสิบล้านหยวนแต่เด็กสาวคนนี้ยังคงมีอาการสงบนิ่ง

 

เธอสามารถสงบเยือกเย็นกว่าคนอายุรุ่นราสฃวคราวเดียวกันกับเธอ

อาจารย์ฝูประทับใจในตัวกู้หนิง

Chapter 56: หยกชิ้นต่อไป

 

“เด็กดี” อาจารย์ฝูเอ่ยชม “หนูต้องการเช็คหรือเงินโอน?”

 

“เงินโอนค่ะ” กู้หนิงเอ่ย เธอหยิบบัตรธนาคารออกมาและบอกหมายเลขบัญชีของเธอแก่อาจารย์ฝู

 

“ย่อมได้” อาจารย์ฝูตอบ เขาเรียกให้ใครสักคนโอนเงินเข้าบัญชีเธอทันที

 

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น กู้หนิงก็ได้รับข้อความที่แจ้งว่ามีเงินเข้าบัญชีสามสิบล้านหยวน จากนั้นกู้หนิงก็มอบหยกให้แก่อาจารย์ฝู

 

“คุณหนูต้องการผ่าส่วนที่เหลือหรือเปล่าครับ?” พนักงานเอ่ยถาม

 

“ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ” กู้หนิงตอบ เธอหยิบหินธรรมดาให้พนักงาน

 

อาจารย์ฝูกำลังจะจากไป แต่เขาอยู่ต่อเมื่อเห็นว่ากู้หนิงยังมีก้อนหินเหลืออยู่อีก

 

เมื่อเห็นว่าหินดิบของกู้หนิงที่ถูกผ่าก่อนหน้ามีหยกอยู่ข้างใน ผู้คนก็ตื่นเต้นเฝ้ารอดูก้อนต่อไป

 

ถึงแม้พวกเขาจะเชื่อว่ากู้หนิงคงไม่โชคดีมากพอจะเจอหยกอีกอัน แต่พวกเขาก็ยังมีความหวังเต็มเปี่ยม

 

ช่างน่าเสียดาย ที่ก้อนนี้เป็นแค่ก้อนหินธรรมดาๆ ถึงอย่างไรผู้คนก็ยังไม่แยกย้ายเพราะกู้หนิงยังเหลือหินดิบอีกก้อน

 

ก่อนหน้านี้กู้หนิงก้ไม่ประสบความสำเร็จจนกระทั่งก้อนหินก้อนที่สามจะถูกผ่าออกและพบว่ามีหยกอยุ่ข้างใน และในครั้งนี้ก้อาจมีความเป็นไปได้ว่าจะมีหยกอยู่ในก้อนสุดท้ายนี้ด้วยเช่นกัน

 

ถึงกระนั้นโอกาสความเป็นไปได้ก็น้อยมาก

ก้อนสุดท้ายขนาดไม่ใหญ่ กู้หนิงรู้ว่าชั้นผิวของหินไม่หนามาก ดังนั้นเธอจึงเอ่ยว่า

 

“ก้อนนี้ค่อยๆเจียระไนออกดีกว่าค่ะ”

 

“ไม่มีปัญหา” พนักงานเอ่ย

 

มันค่อนข้างใช้เวลานานในการเจียระไนเมื่อเทียบกับผ่าออก แต่ทุกคนก้อดทนเฝ้ารอคอย

 

ผ่านไปสักพัก ชั้นสีเขียวก็เผยออกมาก พนักงานที่ทำการเจียระไนเปล่งเสียงขึ้นอย่างตื่นเต้น

 

“มีหยกอยู่ข้างใน อีกแล้ว!”

 

“เด็กสาวคนนี้ช่างโชคดีนัก! สองในห้ามีหยกอยู่ข้างใน” เวลานี้เจ้าของร้านรู้สึกเสียใจจริงๆ

 

มีชั้นสีเขียวโผล่ออกมาให้เห็นเพียงนิดหน่อย จึงยังไม่อาจบอกประเภทของหยกได้

 

พนักงานเจียระไนต่อ ยิ่งชั้นหินถูกเอาออกมาเท่าไหร่ความตื่นเต้นของทุกคนก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น

 

เมื่อชั้นผิวหินถูกเอาออกจนเกือบหมด หยกก็ปรากฏสู่สายตาทุกคนอย่างแจ่มชัด

 

“พระเจ้า! นั่นใช่หยกน้ำแข็งเหรอรึเปล่า!”

 

หยกน้ำแข็งเป็นรองเพียงหยกแก้วเท่านั้น แต่มันก็เป็นหยกระดับสูงสุด มันดีกว่าหยกข้าวเหนียวซะอีก

 

หยกชิ้นนี้ใสวาววับและความโปร่งแสงดีเยี่ยม มันอยู่ในชั้นหินลึกจึงจัดอยู่ในประเภทน้ำแข็งระดับสูง ถึงมันจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนักซึ่งมีขนาดเป็นหนึ่งในสามของหยกข้าวเหนียวก่อนหน้า แต่ราคาของมันไม่ได้ต่ำกว่าชิ้นก่อนเลย

 

กู้หนิงดูดซับพลังงานจากหยกทันที

 

เมื่อหยกถูกนำออกมา ก็มีเสียงของชายชราดังขึ้นอีกครั้ง “ยี่สิบล้านหยวน!”

 

มันเป็นเสียงของอาจารย์ฝู! ไม่มีใครกล้าเกทับ เพราะมันคนรวยจริงๆอยู่ไม่กี่คนในบริเวณนี้

 

ผู้ชายที่แข่งประมูลกับอาจารย์ฝูก่อนหน้านี้อยากจะร้องไห้ เขาเอ่ยว่า “อาจารย์ฝู ไหนท่านบอกว่าจะมีของดีๆรอผมอยู่อย่างแน่นอน? ทำไมครั้งนี้ท่านถึงจะชิงตัดหน้าผมประมูลอีกครั้งล่ะครับ? ผมขอเกทับยี่สิบห้าล้านหยวน!”

 

หยกน้ำแข็งมีค่ามากกว่าหยกข้าวเหนียว แต่เนื่องจากก้อนนี้มีขนาดไม่ใหญ่ มันจึงมีค่าประมาณยี่สิบห้าล้านหยวน ถ้ามันถูกนำมาทำจิวเวอร์รี่ คนซื้ออาจจะจ่ายเพิ่มได้อีกสิบล้านหยวน

 

แต่หากต้องประมูลราคาสูงกว่านี้ มันคงไม่คุ้มที่จะซื้อไป

 

“คนใจป้ำเท่านั้นถึงจะได้หยกไปครอบครอง ผมคิดว่ามันก็ค่อนข้างยุติธรรมดีนะ”

 

“ท่าน....” ผู้ชายคนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไรดี ถ้าหากอาจารย์ฝูประมูลอีกครั้ง เขาก็ต้องแพ้อีกรอบเป็นแน่

 

“อ้าวเถอะ ครั้งนี้เป็นของเจ้าล่ะกัน” อาจารย์ฝูเข้าใจเขาผู้ที่มีนามว่าจ้าวหยูเฟิง ที่ต้องการหยกชิ้นงามนี้เป็นอันมาก อาจารย์ฝูไม่อยากเสียเพื่อนเพียงเพราะหยกก้อนเดียว

 

จ้าวหยูเฟิงตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง “ขอบคุณมากๆ อาจารย์ฝู!”

 

ดังนั้นจ้าวหยูเฟิงจึงได้หยกชิ้นนี้ไปในราคายี่สิบห้าล้านหยวน

 

ภายในวันเดียวกูหนิงก็ทำเงินได้ห้าสิบห้าล้านหยวน ถึงภายนอกกู้หนิงจะยังสงบนิ่ง แต่ภายในใจเธอเต้นเร็วระรัว เธออยากจะตะโกนร้องออกมาให้สุดเสียงหากเธอสามารถทำมันได้ตอนนี้

 

“คุณหนูกู้ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเป็นประธานบริษัทอัญมณีฟูหรง ‘จ้าวหยูเฟิง’ นี่นามบัตรของผม ถ้าหากคุณหนูกู้มีหินดิบอีก โปรดแจ้งให้ผมทราบ ผมจะรับซื้อมันไว้ในราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน และได้โปรดให้ผมได้เป็นลูกค้าของคุณเป็นคนแรกด้วยนะครับ” จ้าวหยูเฟิงโน้มน้าวกู้หนิง ไม่ว่าจะเป็นโชคหรือความสามารถ มันก็ยากมากที่จะผ่าหินดิบออกมาแล้วเจอก้อนหยกระดับสูงอยู่ข้างใน

 

กู้หนิงได้ทำการตรวจสอบรายชื่อบริษัทค้าขายอัญมณีในประเทศ ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทเอาไว้แล้วเมื่อคืนนี้ ดังนั้นเธอจึงรู้จักแบรนด์ฟูหรง

 

สำนักงานใหญ่ของฟูหรงไม่ได้ตั้งอยู่ในเมือง G แต่มีร้านมากมายกระจายอยู่ทั่วประเทศด้วยทรัพย์สินถึงสองพันล้านหยวน เป็นบริษัทอันดับสามในประเทศของอุตสาหกรรมนี้ และประธานบริษัทคือจ้าวหยูเฟิงผู้ที่มีอายุเพียงสี่สิบปีเท่านั้น

 

จ้าวหยูเฟิงไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อหยกด้วยตัวเอขาเอง เขามาที่นี่เพื่อหาความสำราญขณะที่เขามาเยี่ยมร้านค้าของเขาในเมือง G

 

กู้หนิงตื่นเต้นดีใจที่จ้าวหยูเฟิงอยากเป็นพันธมิตรกับเธอด้วยตัวของเขาเอง ดังนั้นถ้าเธอจะหาหยกจากก้อนอีก เธอจะขายให้จ้าวหยูเฟิงด้วย

 

พวกเขาอาจจะเป็นคู่แข่งกัน ถึงแม้คู่แข่งจะแข่งขันกันเอง แต่พวกเขาก็ยังสามารถร่วมมือกันได้

 

กู้หนิงนรับนามบัตรของเขามา “ได้สิคะ หนูจะโทรหาคุณจ้าวก่อนใครถ้าหนูมีหยกอีก”

 

“สาวน้อย อย่าลืมฉันสิ หนูสามารถติดต่อฉันมาได้นะ ฉันจ่ายให้หนูไม่น้อยไปกว่าจ้าวหยูเฟิง” อาจารย์ฝูยื่นนามบัตรของเขาให้กู้หนิงและยัดมันใส่มือกู้หนิงทันที กู้หนิงรู้สึกขำที่เห็นพวกเขาทั้งสองแย่งเป็นผู้ซื้อกันเอง

 

ถึงแม้ตอนนี้กู้หนิงจะยังไม่รู้เบื้องหลังของอาจารย์ฝู เธอรู้แค่ว่าชายสูงวัยคนนี้ต้องเป็นคนที่มั่งคั่งและมีอิทธิพลมาก

 

กู้หนิงไม่ได้ตั้งเป้าไปที่ความมั่งคั่งของชายสูงวัย

 

เธอเพียงต้องการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างเธอกับลูกค้าโยเฉพาะลูกค้ารวยๆ

 

“อาจารย์ฝู ท่านทำแบบนี้มีจุดประสงค์ใช่ไหม?” จ้าวหยูเฟิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

 

“แล้วไง? ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ชื่นชอบหยก ผมก็ชอบมันเหมือนกัน!” อาจารย์ฝูโต้กลับเหมือนเด็ก “สาวน้อย จำฉันเอาไว้ให้ดีๆนะ!” เขาเอ่ยเตือนกู้หนิงอย่างใจดี

 

“ได้ค่ะ” กู้หนิงอมยิ้มน้อยๆ

 

เธอจะต้องหาก้อนหินที่มีหยกอยู่ข้างในให้ได้เยอะๆ คงไม่มีใครต้องเจ็บใจถ้าเธอจะแบ่งขายให้อาจย์ฝุด้วย

 

อาจารย์ฝูพอใจที่ได้ยินคำตอบจากเธอ

 

หลังจากนั้นกู้หนิงก็ขอตัวออกจากร้านไปก่อน

 

ไม่นานก็มีคนรู้ข่าวว่ามีร้านที่ผ่าก้อนหินแล้วได้หยกระดับสูงสองก้อน ทุกคนต่างแห่มาที่ร้านเผื่อจะมีโชคบ้าง ร้านจึงได้รับความนิยมไปด้วย

 

น่าเสียดายที่พวกเขาไม่โชคดีเหมือนกู้หนิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด