ไซตามะต่างโลก Ep.20 - นกส่งหนังสือพิมพ์
ไซตามะต่างโลก Ep.20 - นกส่งหนังสือพิมพ์
“นี่มันเป็นสมบัติที่ปล้นคนอื่นมา”
ไซตามะเหลียวหลัง กล่าวด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า “และฉันจะต้องนำมันกลับไปส่งคืนให้แก่เจ้าของ”
“อย่าทำแบบนั้นเชียวนะ! ไอ้คนหัวโบราณ สาวสวยแบบฉันก็ยังไม่คิดเหลียวแล แกมันไม่ใช่ผู้ชาย!!”
นามิกัดฟัน ด่าด้วยรู้สึกเกลียดชังที่เธอไม่สามารถสยบชายหัวล้านได้ ในหัวใจบังเกิดความคิดร้าย
‘ปากบอกว่าจะคืนสมบัติให้กับเจ้าของ แต่ความจริงแล้วคิดจะฮุบไปคนเดียวล่ะสิใช่ไหม? ฉันเองก็เคยใช้วิธีนี้มาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน ไม่มีทางถูกนายหลอกด้วยวิธีเดียวกันหรอก!’
เมื่อนึกได้แบบนี้ แม้ท่าทีจะขัดขืนอยู่บ้าง แต่นามิก็ไม่ได้ลงมือขัดขวางเขาอีกต่อไป เพียงเดินตามและคอยพร่ำบ่นอยู่ข้างๆ
นามิพยายามสื่อสารกับไซตามะ “ยังไงก็เถอะ เจ้าพวกนี้มันเป็นสิ่งที่ฉันทุ่มเทพยายามอย่างหนักถึงจะขโมยมาได้ แต่ถ้านายต้องการจะฮุบมันเอาไว้แค่คนเดียว นายก็ควรจะแบ่งให้ฉันบ้าง แน่นอนว่าไม่ฟรี ฉันจะแลกเปลี่ยนกับถ้าหากว่าฉันเจอ ‘แกะอ้วน’ อีกในครั้งต่อไป ฉันจะแจ้งให้นายเอง แล้วพวกเราก็มาทำงานร่วมกันเป็นไง ข่าวกรองของฉันดีมากเลยนะ เฮ้! นี่ฟังอยู่รึเปล่า?”
หลังจากบ่นมานาน ในที่สุดก็เกิดผลสักที
ไซตามะหยุดฝีเท้าของเขา หันหน้ามามองนามิด้วยท่าทีสบายๆ ทว่าสายตาฉายแววจริงจัง “นี่มันตามสำนวน ‘กินข้าวโดยไม่คิดหว่านเมล็ดพืช’ ชัดๆ เธอทุ่มเทพยายามที่ไหนกัน? สมบัติพวกนี้มันไม่ได้เป็นของเธอซักหน่อย โจรที่ขโมยของคนอื่นมา จะสามารถใช้ของๆคนอื่นได้อย่างมีความสุขจริงๆน่ะหรอ?”
“อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับโจรธรรมดาพวกนั้นนะ!”
นามิเหวี่ยงกำปั้นออกไปด้วยความโกรธ คร่ำครวญว่า “ที่ฉันทำ คือการขโมยสมบัติจากพวกโจรหรือโจรสลัดต่างหาก ดังนั้นฉันจะไม่มีความสุขที่จะใช้มันได้ยังไง!”
“ขโมยของโจร นั่นหมายความว่าฉันไม่ใช่พวกหัวขโมยไร้ค่า แต่เป็นหัวขโมยที่ชอบธรรม!”
ไซตามะไม่สนใจเธออีกต่อไป เขาเริ่มหันเหทิศทางเรือกลับเมือง “โจรสลัดขโมยสมบัติจากพลเรือน แล้วเธอก็ไปขโมยต่อจากพวกมันอีกที แต่ในเมื่อสามารถนำมันกลับมาได้แล้ว เธอก็ควรจะคืนมันให้เจ้าของเดิมสิ”
“เธอเรียกตัวเองมาหัวขโมยที่ชอบธรรม? แต่พอได้เงินมากลับฮุบมันเอาไว้ซะเอง แบบนี้มันจะไปแตกต่างจากพวกโจรสลัดที่ปล้น ฆ่า เผา ตรงไหน?”
“เหอะ พูดได้ดีนี่ แต่อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่!”
นามิยังคงไม่ยินยอมรับคำโต้แย้งของไซตามะ “ถ้าที่นายพูดมาเป็นความจริง นายก็เป็นคนโง่ที่หาได้ยากบนโลกใบนี้ ต่อให้เป็นพวกทหารเรือ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทะนงตัวถึงขนาดนี้กันหรอก พวกเขาคงแอบมุบมิบ และลอบขนสมบัติส่งตรงไปถึงหน้าประตูบ้านตัวเองแล้ว”
ไซตามะยกมือขึ้นเกาหัว “ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ อันที่จริงแล้วฉันเป็นทหารเรือเหมือนกัน แถมยังยศพลจัตวาด้วย แต่ไม่ได้มีความคิดทำอะไรแบบนั …”
“ฟัฟฟฟ ..”
นามิแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ “เห็นหน้านิ่งๆแบบนี้ แต่นายเองก็มีอารมณ์ขันกับเขาเป็นเหมือนกันนะ ยังไงก็เถอะ อย่ามาโกหกกันดีกว่า ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ว่าในบรรดาพลจัตวาของกองทัพเรือ มีพวกวิตถาร ชอบโชว์ของลับรวมอยู่ด้วย”
“เรื่องนั้น …”
ไซตามะอ้าปากค้าง แต่สุดท้ายเพียงพ่นลมหายใจ ส่ายมือให้เธอออกไปไกลๆ “เอาเถอะ อย่ามาประกบติดตัวฉันแบบนี้อีกก็แล้วกัน เรื่องที่เธอว่ามีจริงๆแล้วมันมีเหตุผล แต่ถ้าจะให้อธิบายมันคงซับซ้อน ดังนั้นฉันขอไม่พูดดีกว่า”
แล้วนามิก็ไม่เอ่ยถามอะไรอีก
เพราะมีผู้ชายแค่ไม่กี่คนหรอกนะ ที่สามารถปั่นหัวเธอได้เหมือนกับเขา
ยังไงก็ตาม ตอนนี้สิ่งที่เธออยากจะพูด ก็ได้พูดมันออกไปจนหมดแล้ว เธอไม่สามารถฉกเงินคืนมาจากเขาได้ ดังนั้น วิธีเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ พอถึงในเมือง เธอจะแกล้งปลีกตัวจากเขาชั่วคราว และคอยแอบตามอย่างลับๆ เพื่อเฝ้าดูว่าเขาจะนำสมบัติที่ได้มาไปเก็บไว้ที่ไหน จากนั้นก็จะขโมยมันกลับมา!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นามิก็ไม่เดินตามเขาอีกต่อไป เธอค่อยๆแยกตัวห่างออกไปอย่างเงียบๆ และคอยเฝ้ามองไซตามะจากระยะไกล
แน่นอน ว่าการกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ย่อมไม่สามารถปกปิดสัตว์ประหลาดหัวล้านได้ แต่เพราะกังวลว่าเดี๋ยวจะมีปัญหาน่าปวดหัวตามมาอีก ไซตามะจึงขี้เกียจเกินกว่าจะไปจัดการกับเธอ
ในที่สุดก็กลับมาที่เมือง ไซตามะเห็นชายแก่ที่ตอนนี้ถูกรายล้อมด้วยชาวบ้าน และมีผ้าพันแผล พันเต็มตัว เขาก็อุทานออกมา
“อา .. ฉันลืมไปเลยว่าลุงถูกแทง”
ไซตามะเกาหัว ก้าวไปข้างหน้า พูดคุยกับชายแก่ “เอ้านี่! ฉันนำของที่ถูกปล้นไปกลับมาแล้วนะ แต่ลุงอย่าฮุบไว้เป็นของตัวเองเชียว นำมันไปแจกจ่ายให้คนในเมืองด้วยล่ะ”
“ขอบคุณ ขอบคุณนะพ่อหนุ่มทหารเรือ …”
ชายแก่จ้องมองไซตามะ ดวงตาของเขาฉายแววสำนึกคุณ “คุณช่วยพวกเราได้มากเลยจริงๆ งั้นเอาแบบนี้เป็นไง พวกเราจะจัดงานแต่งให้คุณเป็นการตอบแทน อ๊ะว่าแต่คุณแต่งงานแล้วรึยัง? ฉันสามารถแนะนำผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองให้รู้จักได้นะ”
“ไม่ต้องหรอก นี่ช่วยฟรีๆ ไม่คิดได้รับค่าตอบแทนอะไร”
ไซตามะโบกมือเล็กน้อย กล่าวด้วยดวงตาดั่งปลาตาย “ฮีโร่จะไม่กำจัดความชั่วร้ายเพื่อหวังผลรางวัล แต่ตอนนี้มีบางอย่างที่กำลังรบกวนจิตใจของฉันอยู่ … ขอร้องล่ะ นี่ก็จะ 4 5 ตอนแล้ว ใครก็ได้ช่วยไปเอาเสื้อมาให้ฉันใส่ที”
“ถ้าแค่เสื้อผ้าล่ะก็ อยากได้เท่าไหร่ก็เอาไปได้เลย!”
ต่อมา พวกผู้ชายในเมืองก็พากันกลับบ้านไปเอาทั้งเสื้อและกางเกงมา และช่วยกันสวมให้ไซตามะ
ในวันที่อากาศร้อนเช่นนี้ ไซตามะกลับอยู่ในสภาพสวมชุดซ้อนทับๆกันกว่า 7-8 ชุด แต่เมื่อมองไปยังชาวเมืองที่กระตือรือร้นแบ่งปันเสื้อผ้าให้แก่เขา เจ้าตัวก็ไม่ว่าอะไร เพียงคิด
‘อา … อย่างน้อยนี่ก็ทำให้พวกเขามีความสุขได้ล่ะนะ .. ’
…
ไซตามะบัดนี้มีสภาพบวมป่องเหมือนกับหมีแพนด้า เขาเดินโงนแเงนเข้าไปในป่าทึบ ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าออก และถอนหายใจโล่งอก
จากนั้นก็กระโดดเช็คสมดุลตัวเองเบาๆ และเดินจากไป
ในช่วงเวลานี้
นามิซึ่งแอบตามไซตามะมาตลอดทาง เมื่อเห็นว่าเขาได้คืนเงินทั้งหมดให้กับผู้คนในเมืองจริงๆ และไม่แม้กระทั่งรับเงินตอบแทนจากพวกเขามาเลยแม้แต่น้อย ในหัวใจของเธอก็ต้องฟุ้งไปด้วยความประหลาดใจ
คนๆนี้ ..
ที่แท้ก็พูดเรื่องจริง!
เขาไม่ได้คิดจะฮุบสมบัติเอาไว้คนเดียว แต่เอามันกลับคืนไปให้เจ้าของอย่างที่ได้รับปากไว้
ในปัจจุบัน ในยุคสมัยแห่งโจรสลัด ยังคงหลงเหลือคนที่ในหัวใจมีแต่ความดีงาม และเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรมอยู่จริงๆหรือนี่ ...
ยอมรับเลย ว่านายเป็น ‘ลูกผู้ชาย’ ตัวจริง …
แต่ในเวลาเดียวกัน ก็เป็นคนที่โง่จนน่าสิ้นหวัง ..
นามิเป็นขโมย ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทำเป็นไม่เห็นแก่ตัวเหมือนกับไซตามะได้
ทว่าคนที่ซื่อสัตย์ ไม่ว่าจะอยู่ในโลกแบบไหน ก็มักจะได้รับการยกย่องจากผู้คน เปล่งประกายเฉกเช่นแสงจากดวงตะวันอยู่เสมอๆ
ปากอ้าถอนหายใจเบาๆ
นามิเหลียวหลัง เดินจากไป
‘ฉันหวังว่านายจะซื่อสัตย์แบบนี้ได้ตลอดไปนะ คุณทหารเรือพลจัตวา … ’
…
หลังจากที่กลับมาที่เรือ ไซตามะก็ลืมนึกถึงเรื่องสาวผมสั้นสีส้มซะสนิทเลย
แต่ก็ช่างมันเถอะ
-เรือเริ่มออกจากท่า แล่นอย่างช้าๆออกสู่โร๊คทาวน์
ภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็เสร็จสมบูรณ์จนหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ฉะนั้นก็สมควรที่เขาจะได้พักผ่อนซักที …
ด้วยบรรยากาศท่ามกลางทะเลที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ไซตามะกระโจนขึ้นไปบนเสากระโดงเรือ นอนอาบแดดผล็อยหลับไป
สายลมทะเลพัดผ่านใบหน้าของเขา ในหูแว่วเสียงนกนางนวล
โอ้ช่างเป็นยามบ่ายที่ยอดเยี่ยมซะจริงๆ
ทว่าหลับตาลงได้ไม่นาน เสียงของนกนางนวลก็เหมือนจะดังขึ้น
ใกล้เข้ามาเหมือนกับกำลังตะโกนอยู่ข้างหู…
เฮ้ๆ นี่มันจะเข้ามาใกล้มากเกินไปรึเปล่า!?
ไซตามะลืมตาขึ้นทันใด และพบว่ามีนกนางนวลตัวอ้วนใหญ่กำลังเกาะอยู่บนเสาข้างๆกันกับเขา
ไซตามะกระพริบตาปริบๆให้กับนกอ้วน
นกอ้วนก็มองเขา เอียงคอด้วยความสงสัย
สักพัก ไซตามะก็เอื้อมมือไปคว้าคอนกอ้วน ก้มหน้าตะโกนถามต้นหนเรือ “เฮ้ -- ฉันว่าพวกเราเจอมื้อเย็นแล้ว”
อะไรนะ?
พอได้ฟัง ต้นหนเรือก็เงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าในมือของไซตามะเป็นอะไร สีหน้าของเขาก็กลายเป็นว่างเปล่า
หลังจากนิ่งค้างไปนาน เจ้าตัวก็ได้สติกลับคืน รีบตะโกนทันที “ท่านพลจัตวา! นั่นห้ามกินเด็ดขาดเลยนะ! มันคือนกที่คอยส่งหนังสือพิมพ์ให้พวกเราทุกวัน!”
นกส่งหนังสือพิมพ์?
ไซตามะตกใจ คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะดีดนิ้วดังเป๊าะ และกล่าว “อ้า! จริงสิ ฉันเคยได้ยินถึงเรื่องนกส่งหนังสือพิมพ์จากปู้หลินกับทาชิงิมาก่อนเหมือนกัน แต่ว่าพวกเขาเป็นคนนำหนังสือพิมพ์มาให้ฉันทุกวัน ดังนั้นนี่เลยเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นมัน …”
“…”
“ว่าแต่กินไม่ได้จริงๆหรอ?”
“ไม่ได้!!”