GE479 ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งปีศาจ ( 5 ) (ฟรี)
ปีศาจยักษ์ทั้ง 8 ดวงตาเบิกกว้างเมื่อได้เห็นสัญลักษณ์ปีศาจของหนิงฝาน และเร่งเปิดทางให้
พวกมันเฝ้าคุ้มกันที่นี่มานาน ย่อมมีเกียรติและศักดิ์ศรีเป็นของตน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่ครอบครองสัญลักษณ์ปีศาจโบราณ พวกมันก็ต้องเคารพ
“เชิญท่านผู้ยิ่งใหญ่เข้ารับการทดสอบที่ 2!”
“อืม” หนิงฝานพนักหน้าเล็กน้อย แล้วเดินผ่านประตูหน้าวังเข้าไป
ภายในวัง บรรยากาศรอบข้างมืดมิด เหนือพื้นวังขึ้นไปมีแสงระยิบระยับ แต่ทันทีที่ประตูวังปิดลง เพลิงสีแดงถูกจุด ส่องสว่างทั่วทิศ
เบื้องหน้ามีตะเกียงที่ทำจากทองแดงขนาดใหญ่ 2 ตัวคอยให้แสงสว่าง โดยใช้โลหิตเป็นเชื้อเพลิง
ถัดจากตะเกียงไป มีเส้นทางที่แตกกิ่งก้านไปมากมาย ระหว่างทางมีรูปปั้นสวมเกราะดำสูงใหญ่ 5 พันจ้างนั่งอยู่บนเก้าอี้ บนหน้าอกของพวกมันมีสัญลักษณ์ปีศาจที่มีร่องรอยของความเสียหายประทับอยู่
แม้สัญลักษณ์เหล่านั้นจะมีความเสียหาย แต่ก็อัดแน่นไปด้วยแก่นพลังมากมาย หนิงฝานคาดเดาว่าได้ดูดซับ อย่างน้อยๆน่าจะได้หมื่นแก่นพลังต่อหนึ่งสัญลักษณ์
หนิงฝานรู้ว่า หากเข้าไปหมายจะช่วงชิงสัญลักษณ์ รูปปั้นปีศาจเหล่านั้นจะจู่โจมเข้าใส่ทันที
พวกมันแต่ละตนอยู่ในขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นต้น การจะผ่านบททดสอบต้องดูดกลืนสัญลักษณ์ปีศาจให้ครบ 8 สัญลักษณ์ ซึ่งหมายความว่าต้องสังหารพวกมันอย่างน้อย 8 ตน
หากได้ดูดซับสัญลักษณ์ทั้งหมด 108 สัญลักษณ์ ก็จะได้แก่นพลังเท่ากับ 1.08 ล้านแก่น ซึ่งเทียบเท่าแก่นพลังทั้งหมดของขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นต้น
“การทดสอบที่ 2 ไม่ใช่แค่การทดสอบทั่วไป แต่ยังมอบพลังให้เป็นนัยเพื่อยกระดับ ฉะนั้นข้าต้องทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อดูดซับสัญลักษณ์พวกนั้นให้หมด!”
หนิงฝานก้าวเท้าไปเบื้องหน้า ร่างกายเปล่งแสงทองคำดำ... เขาไม่ได้ฝึกฝนร่างกายตามวิถีปีศาจโบราณมาตั้งแต่แรก แต่เขายกระดับด้วยการผันกายทองคำให้กลายเป็นแก่นพลัง จึงทำให้ร่างกายเปล่งแสงสีทองคำดำออกมา
หนิงฝานเลือกเส้นทางแล้วมุ่งหน้าเข้าหาปีศาจยักษ์ เมื่อปีศาจเจ้าของเส้นทางสัมผัสได้ถึงการมาของหนิงฝาน มันลุกยืน แล้วเปล่งแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว
มันก้าวเท้ามาเบื้องหน้า วังทั้งหลังสั่นสะเทือน ก่อนจะซัดฝ่ามือศิลาขนาดยักษ์เข้าใส่หนิงฝาน
ฝ่ามือดิ่งเข้าหาหนิงฝานอย่างรวดเร็ว อานุภาพทรงพลังเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นจู่โจมเต็มกำลัง
“วิชาปีศาจโบราณ ฝ่ามือสังหารปีศาจ 1 ฝ่ามือ!”
ปีศาจยักษ์ใช้วิชาฝ่ามือจู่โจมหนิงฝาน แม้วิชาจะถูกจัดอยู่ในระดับไร้ดัดแปลงขั้นต้น แต่อานุภาพจะรุนแรงกว่ามาก
หนิงฝานกระตุ้นตาขวา จ้องมองการไหลเวียนของแก่นพลังในร่างปีศาจยักษ์ เพื่อทำความเข้าใจและช่วงชิงวิชาของมัน
“วิชาปีศาจโบราณ ฝ่ามือสังหารปีศาจ 1 ฝ่ามือ!”
*เปรี้ยง*
สองฝ่ามือปะทะกันอย่างรุนแรง ฝ่ามือของปีศาจยักษ์ไม่อาจต้านทานฝ่ามือของหนิงฝานได้ จึงถูกฝ่ามือประทับเข้าร่าง แตกสลายกลายเป็นเศษหิน
ปีศาจยักษ์อยู่เพียงขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นต้น ย่อมไม่มีทางต่อกรกับหนิงฝานที่อยู่ในขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นกลางได้
เมื่อสังหารปีศาจยักษ์เสร็จ หนิงฝานก็ดูดซับสัญลักษณ์ปีศาจของมันไป และได้แก่นพลังมาทั้งหมด 1 หมื่นแก่น
“ต่อไป...”
หนิงฝานมุ่งสู่เส้นทางถัดไป ปีศาจเจ้าของเส้นทางผุดลุกขึ้นและจู่โจมเข้าใส่ทันที
“วิชาปีศาจโบราณ ฝ่ามือสังหารปีศาจ 2 ฝ่ามือ!”
“วิชาปีศาจโบราณ ฝ่ามือสังหารปีศาจ 3 ฝ่ามือ!”
ฝ่ามือขนาดยักษ์ 2 ฝ่ามือตรงเข้าหาหนิงฝาน
ตาขวาของหนิงฝานทำงาน ทำความเข้าใจกับวิชาของอีกฝ่าย
“วิชาปีศาจโบราณ ฝ่ามือสังหารปีศาจ 2 ฝ่ามือ... วิชาปีศาจโบราณ ฝ่ามือสังหารปีศาจ 3 ฝ่ามือ!”
หนิงฝานซัดฝ่ามือเข้าปะทะกับฝ่ามือที่ตรงเข้ามา การจู่โจมของปีศาจยักษ์ไม่อาจต้านทานหนิงฝานได้ จึงถูกฝ่ามือของหนิงฝานบดขยี้
หลังจากผ่านเส้นทางที่ 1 เส้นทางที่เหลือก็เปลี่ยนไป ในเส้นทางที่ 2 นี้ หนิงฝานต้องรับมือกับปีศาจยักษ์ถึง 2 ตนพร้อมกัน ซึ่งทำให้เขาได้สัญลักษณ์ปีศาจมา 2 สัญลักษณ์
หากเขาคาดเดาไม่ผิด ทุกครั้งที่ผ่านเส้นทาง จำนวนของปีศาจที่เฝ้าเส้นทางจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี นอกจากนี้ วิชาฝ่ามือที่พวกมันใช้ก็จะต่างระดับกันไป
หากมีปีศาจแค่ 2 ตัว หนิงฝานไม่หวาดกลัวพวกมัน แต่หากมีมากกว่านั้น เขาต้องระวังเป็นพิเศษ
“เกราะอัสนี!”
เกราะสีทองสวมกายเพิ่มพลังป้องกันของตน แล้วก้าวไปยังเส้นทางต่อไป!
“วิชาปีศาจโบราณ ฝ่ามือสังหารปีศาจ 4 ฝ่ามือ”
“5 ฝ่ามือ”
“6 ฝ่ามือ”
“7 ฝ่ามือ”
ปีศาจยักษ์ 4 ตนซัดฝ่ามือเข้าใส่หนิงฝานพร้อมกัน แต่ละฝ่ามือสามารถทำอันตรายขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ แต่หากฝ่ามือของพวกมันทั้ง 4 ผสานกัน ก็ทรงพลังมากพอที่จะทำให้ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางบาดเจ็บหนัก
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาเดาไม่ผิด ยิ่งผ่านเส้นทางได้ จำนวนของพวกมันก็มากขึ้นเป็นเท่าตัว
แต่ในเมื่อเขาก้าวมาแล้ว เขาก็จะไม่ถอยเด็ดขาด เขาเร่งกระตุ้นตาขวา ศึกษาวิชาฝ่ามือของพวกมันอย่างละเอียด
หนิงฝานซัดฝ่ามือปีศาจ 4 ฝ่ามือ และ 5 ฝ่ามือ เข้าใส่ปีศาจ 2 ตน ปลิดชีพพวกมันในพริบตา ส่วนเกราะอัสนีทำหน้าที่รับการจู่โจมอีก 2 ฝ่ามือที่เหลือของพวกมัน
*ตูม!*
ฝ่ามือยักษ์ปะทะกับเกราะอัสนีเสียงดังสนั่น แต่ยังไม่อาจสร้างความเสียหายได้
หนิงฝานซัดฝ่ามือสังหารปีศาจ 6 ฝ่ามือ และ 7 ฝ่ามือ เพื่อจัดการกับปีศาจที่เหลืออีก 2 ตน แล้วดูดซับสัญลักษณ์ปีศาจของพวกมันมา จนได้ 4 หมื่นแก่นพลัง
หนิงฝานหันมองเส้นทางต่อไป และคาดเดาว่าเขาต้องพบกับปีศาจจำนวนเท่าใด
ครั้งแรกพบปีศาจ 1 ตน ครั้งที่ 2 พบ 2 ตน และครั้งที่ 3 พบ 4 ตน ฉะนั้นครั้งต่อไปสมควรพบ 8 ตน!
“ปีศาจ 8 ตน… ข้าน่าจะพอสู้ได้!”
หนิงฝานมุ่งหน้าไปยังเส้นทางต่อไป เมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงการมาของหนิงฝาน ก็เร่งจู่โจมเข้าใส่โดยไม่ลังเล
“ฝ่ามือสังหารปีศาจ 8 ฝ่ามือ!”
“9 ฝ่ามือ!”
“10 ฝ่ามือ!”
…
“15 ฝ่ามือ!”
ฝ่ามือทั้ง 8 ใช้ออกในเวลาเดียวกัน แม้หนิงฝานจะมีเนตรโม๋หลัว ก็ไม่อาจทำความเข้าใจทั้งหมดได้
นอกจากนี้ หนิงฝานจะไม่ยอมรับฝ่ามือทั้ง 8 ตรงๆ เพราะการผสานการจู่โจมของพวกมัน ไม่ได้ด้อยไปกว่าการจู่โจมเต็มกำลังของราชามังกรในหอคอยอัสนี แม้การจู่โจมจะไม่สามารถทำลายเกราะอัสนีได้ แต่ก็สร้างรอยร้าวได้
“ปีกเพลิง!”
ปีกเพลิงทั้ง 4 คู่ปรากฏที่แผ่นหลัง หลังจากหนิงฝานได้วิชาเคลื่อนที่ในพริบตาของเผ่าพันธุ์ปีศาจโบราณมา เขาใช้มันผสานกับปีกเพลิงของตน จนทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้น เทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูง!
เงาร่างของหนิงฝานหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาสามารถหลบเลี่ยงได้ 7 ฝ่ามือ และรับการจู่โจมเข้าไปเต็มๆเพียง 1 ฝ่ามือ
ในชั่วพริบตาเดียวกัน หนิงฝานเข้าใจฝ่ามือของปีศาจ 4 ตนแรก เจตนาสังหารปรากฏขึ้นในแววตา แล้วซัดฝ่ามือสวนเข้าใส่ทันที
หนึ่งในปีศาจถูกฝ่ามือของหนิงฝานซัดใส่จนกลายเป็นผง ปีศาจอีก 7 ตนที่เหลือตกตะลึง และเร่งซัดฝ่ามือเข้าใส่หนิงฝานอีกระลอก
ในขณะเดียวกัน หนิงฝานเฝ้าสังเกตุวิชาฝ่ามือของปีศาจอีก 4 ตนที่เหลือ เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจในวิชา
ในฝ่ามือที่พวกมันซัดออกมาแต่ละครั้ง ประกอบไปด้วยหลายฝ่ามือ ผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็น 1 ฝ่ามือ แม้ว่า 1 ฝ่ามือจะทรงพลังเทียบเคียงการจู่โจมของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น แต่เมื่อฝ่ามือผสานเข้าด้วยกันถึง 15 ฝ่ามือ ย่อมทรงพลังขึ้นมหาศาล จนอาจจะรุนแรงกว่าการจู่โจมเต็มกำลังของราชามังกร
เมื่อเข้าใจในวิชา ก็เร่งโคจรแก่นพลังที่ฝ่ามือ 15 รอบ ก็ซัดออกไปเบื้องหน้า!
“ฝ่ามือสังหารปีศาจ 15 ฝ่ามือ!”
อานุภาพของฝ่ามือ 15 ชั้นผสานรวมเป็นหนึ่ง ทรงอานุภาพยิ่งกว่าฝ่ามือสังหารปีศาจทั่วไป แม้ว่าวิชานี้จะอยู่ในระดับไร้ดัดแปลงขั้นต้น แต่เมื่อหนิงฝานเป็นผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางย่อมไม่อาจรับมือได้
อานุภาพของฝ่ามือทำให้เกิดภาพปีศาจโบราณขึ้นที่ด้านหลังของหนิงฝาน พร้อมกับเสียงแผดร้องของปีศาจจำนวนมหาศาลดังกึกก้อง
*ตูม*
ฝ่ามือของหนิงฝานเข้าปะทะกับฝ่ามือของปีศาจทั้ง 7… ฝ่ามือของพวกมันถูกทำลาย แต่ลดทอนอานุภาพฝ่ามือหนิงฝานได้เพียงเล็กน้อย ก่อนจะตรงเข้าปลิดชีพพวกมันไป 3 ตนในพริบตา อีก 4 ตนที่เหลือบาดเจ็บสาหัส
หนิงฝานไม่เปิดโอกาสให้พวกมันได้พัก จึงทะยานเข้าสังหารพวกมันทั้ง 4 ให้ตกตามกันไป… การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้แก่นพลังในร่างหายไปกว่าครึ่ง
หนิงฝานดูดซับสัญลักษณ์ปีศาจทั้ง 8 ได้แก่นพลังไป 8 หมื่น... วิชาฝ่ามือสังหารปีศาจเป็นวิชาที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม แต่ก็ใช้แก่นพลังไปมหาศาลเช่นกัน
หากซัดฝ่ามือสังหารปีศาจ 15 ฝ่ามือออกไปซ้ำๆ แก่นพลังของเขาคงจะเหือดแห้ง
หนิงฝานยังไม่มุ่งต่อ เขานั่งพักและฟื้นฟูแก่นพลังของตนก่อน
การทดสอบที่ 2 แค่ได้สัญลักษณ์ปีศาจทั้ง 8 มาก็ถือว่าผ่านแล้ว ตอนนี้หนิงฝานได้ 15 สัญลักษณ์ปีศาจ เขาจึงสามารถออกจากวังได้ทันที
แต่เขายังไม่คิดจะออกไปตอนนี้ เขาอยากจะคว้าโอกาสเบื้องหน้าเอาไว้
สัญลักษณ์ปีศาจแต่ละอัน มีแก่นพลังมากถึงหมื่นแก่น และการสังหารปีศาจยักษ์แต่ละตัวก็สามารถเรียนรู้วิชาจากพวกมันได้
ดังนั้นหนิงฝานจะพยายามสังหารพวกมันให้หมด เพื่อให้ได้วิชาฝ่ามือสังหารปีศาจที่สมบูรณ์
หากได้ครอบครองวิชาฝ่ามือสังหารปีศาจที่สมบูรณ์ อย่างน้อยเขาก็จะได้วิชาต่อสู้ที่ทรงพลังยิ่งกว่าวิชาของราชามังกรในหอคอยอัสนี
ผ่านไป 3 วันหนิงฝานฟื้นฟูแก่นพลังได้เต็มที่ และมุ่งไปยังเส้นทางต่อไปเพื่อเผชิญหน้ากับปีศาจ 16 ตน
หลังจากจัดการกับพวกมันเสร็จ เขาก็ใช้เวลาพักอีก 3 วัน ก่อนจะมุ่งไปเผชิญหน้ากับปีศาจ 32 ตน
หลังจากต่อสู้กับพวกมันเสร็จ หนิงฝานก็พักอีก 5 วัน หลังจากนี้ไม่รู้ว่าต้องเผชิญกับปีศาจแบบไหน
ผ่านไปอีกครึ่งเดือน หนิงฝานผ่านการต่อสู้ที่รุนแรง ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล อาการบาดเจ็บสาหัส เกราะอัสนีแตก แก่นพลังเหือดแห้ง
หนิงฝานสวมผ้าคลุมลวงสวรรค์ไปพร้อมกับการใช้วิชาดาราทมิฬฟื้นฟู จากนั้นก็ค่อยๆลอบสังหารพวกมันไปทีละตนในเส้นทางสุดท้าย
ปีศาจเหล่านั้นรู้จักแต่วิชาฝ่ามือสังหารปีศาจ ไม่รู้จักกับวิธีจัดการกับวิชาอำพราง ทำให้หนิงฝานได้โอกาสในการสังหารพวกมัน
ยามนี้ หนิงฝานดูดซับสัญลักษณ์ปีศาจทั้งหมด 108 สัญลักษณ์แล้ว ทำให้เขาได้แก่นพลังมาทั้งหมด 1 ล้านแก่น รวมกับของเดิมอยู่แล้วเป็น 5 ล้านแก่น!
ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นจะต้องมีปราณ 1 ล้านเกราะ ขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นต้นก็ต้องมีแก่นพลัง 1 ล้านแก่น
ขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นกลาง ต้องมีแก่นพลัง 3 แก่น
ขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นสูง ต้องมีแก่นพลัง 10 ล้านแก่น
และขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นสูงสุด ต้องมีแก่นพลัง 20 ล้านแก่น
ดังนั้นยามนี้ หนิงฝานมาถึงครึ่งทางของขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นกลางแล้ว
สิ่งที่ได้จากการต่อสู้ที่หนักหน่วงที่ผ่านมา ทำให้หนิงฝานได้แก่นพลังจำนวนมหาศาล ซึ่งหากเทียบกับสุราที่หมักเอาไว้ที่สมควรจะได้ปราณแสนเกราะ ย่อมไม่นับเป็นอันใด
ภูเขาแห่งนี้นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ปีศาจอย่างแท้จริง เพราะแม้จะกล่าวว่ามีการทดสอบ แต่การทดสอบก็มอบประโยชน์มหาศาลให้
จากการทดสอบที่ 2 นี้ นอกจากหนิงฝานจะได้แก่นพลัง เขายังได้วิชาฝ่ามือสังหารปีศาจ 108 ฝ่ามือมา ซึ่งวิชาที่สมบูรณ์นี้เทียบได้กับวิชาระดับไร้ดัดแปลงขั้นสูง แต่ย่อมทรงพลังกว่าวิชาระดับไร้ดัดแปลงขั้นสูงอย่างแน่นอน
“ฝ่ามือสังหารปีศาจ… วิชานี้ทรงพลังมาก น่าจะสังหารราชามังกรได้ในพริบตา! แต่ถึงข้าจะมีแก่นพลัง 5 ล้าน ก็ใช้ 108 ฝ่ามือ ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น… อีกอย่างวิชาดึงวิญญาณก็ไม่สามารถใช้เติมแก่นพลังได้ หากมีแก่นพลังไม่พอก็ไม่อาจต่อสู้ต่อไปได้ ต้องเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นเท่านั้น”
หนิงฝานส่ายหน้าด้วยความเสียดาย เพราะหากใช้ได้ 7 ครั้ง ก็สังหารจิตวิญญาณปีศาจพวกนั้นได้หมด
ในเมื่อใช้ฝ่ามือสังหารปีศาจ 108 ฝ่ามือไม่ได้ เขาก็ไม่มีวิชาอื่นที่จะสังหารพวกมันได้ง่ายเช่นกัน เพราะต่อให้เป็นวิชาของราชามังกร ก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้มาก
“ไม่รู้ว่าการทดสอบนี้จะให้รางวัลอะไร...”
การทดสอบในรอบที่สอง หนิงฝานได้ทั้งแก่นพลังและวิชา แม้จะไม่ได้คาดหวังกับรางวัล แต่อย่างน้อยๆก็ควรจะได้อะไรบ้าง
ในขณะที่เขาคิด แสงสีดำได้ฉายลงมาเบื้องหน้า ก่อนปรากฏกล่องไม้สีดำ
ภายในกล่องมีก้อนผลึกที่บรรจุวิชาปีศาจเอาไว้
หนิงฝานประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่ารางวัลของการทดสอบที่ 2 จะเป็นวิชา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาดีใจมากนัก
แต่หากจะเทียบกับวิชาแล้ว หนิงฝานอยากได้สมุนไพรหรือโอสถมายกระดับพลังมากกว่า
การทดสอบที่ 1 หนิงฝานได้วิชาเคลื่อนที่พริบตามา ซึ่งเป็นประโยชน์กับเขามาก
แต่ในการทดสอบที่ 2 หนิงฝานได้วิชาฝ่ามือสังหารปีศาจมาแล้ว การที่เขาแห่งนี้มอบวิชาให้เขาอีก จึงไม่นับว่าเป็นประโยชน์มากนัก
“ไม่รู้ว่าวิชาที่ได้มาจะเป็นวิชาระดับไหน… แต่ข้าสังหารปีศาจและดูดกลืนสัญลักษณ์จนหมด น่าจะได้รางวัลที่ไม่ธรรมดา...”
หนิงฝานบดขยี้ผลึกในมือ ก่อนจะปรากฏเสียงหนึ่งในทะเลสติ... แม้ว่าเขาไม่ได้คาดหวังกับสิ่งที่ได้ แต่เมื่อได้ฟัง เขากลับตกตะลึง
รางวัลชิ้นที่ 2 ที่ได้มาไม่ใช่สิ่งที่จะดูแคลนได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ
“วิชาปีศาจโบราณ ‘ศาสตร์แห่งการปลิดชีพ’! เมื่อยามที่สังหารศัตรูได้ จะสามารถดึงเอาแก่นโลหิตของมันให้กลายเป็นแก่นพลังของตนได้ ยิ่งสังหารศัตรูที่แข็งแกร่ง แก่นพลังที่ได้ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย… วิชานี้คล้ายกับวิชาดึงวิญญาณ!”
หนิงฝานตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะวิชานี้นับว่าขัดต่อกฏสวรรค์!
วิชาดึงวิญญาณ คือการดึงเอาพลังที่อยู่แวดล้อมมาเป็นพลังของตน แต่ศาสตร์แห่งการปลิดชีพคือการดึงเอาแก่นโลหิตของศัตรู มาเป็นพลังของตน ยิ่งสังหารมากก็ยิ่งได้แก่นพลังมาก ที่สำคัญ แม้จะเป็นในช่วงยุคโบราณ ก็ใช่ว่าปีศาจทุกตนจะได้ครอบครองวิชานี้ ยิ่งในยุคปัจจุบัน ยิ่งไม่แน่ว่าจะมีผู้ใดครอบครองวิชานี้
เมื่อได้วิชานี้มาครอบครอง หนิงฝานก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแก่นพลังแล้ว
เพราะยิ่งสังหารได้มาก ก็ยิ่งฟื้นฟูแก่นพลังได้มากเช่นกัน หากว่าแข็งแกร่งพอ ไม่ว่าศัตรูจะมีจำนวนมากเท่าไหร่ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหมดพลังและถูกสังหาร
วิชาศาสตร์แห่งการปลิดชีพ ทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้ฝ่ามือสังหารปีศาจ เพราะหากแก่นพลังไม่พอ ก็แค่สังหารและดูดกลืนมา!
รางวัลในครั้งนี้ตรงกับสิ่งที่หนิงฝานต้องการมากที่สุด
หนิงฝานกลับออกจากวัง เหล่าปีศาจทั้ง 8 ที่เฝ้าคุ้มกันจ้องมองหนิงฝานราวกับเห็นผี
พวกมันรู้ว่าหนิงฝานสังหารปีศาจในนั้นทั้งหมด และได้สัญลักษณ์มาทั้งหมดเช่นกัน!
ต่อให้พวกมันร่วมกันสู่กับหนิงฝาน ก็ไม่มีทางสู้เขาได้ นอกจากนี้ รางวัลที่เขาได้ก็ทำให้พวกมันตกตะลึงจนต้องหลุดพูดออกมา
“ศาสตร์แห่งการปลิดชีพ… ก่อนตาย ‘นายท่าน’ บอกว่าจะไม่มอบวิชานี้ให้ผู้ใดนอกจาก 9 ปีศาจโบราณที่ทรงพลัง แต่วันนี้กลับมอบให้ผู้เยาว์ผู้นี้! หรือนายท่านจะรู้ว่าผู้เยาว์คนนี้คู่ควร?”
“นายท่าน?”
หนิงฝานชำเลืองมองพวกมัน และรู้ว่าภูเขาแห่งนี้มีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังอยู่
บางทีผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นอาจเป็นผู้ที่อยู่ในยุดเดียวกับโม๋หลัว หรืออาจจะทรงพลังยิ่งกว่า แต่จากคำว่า ‘ก่อนตาย’ แสดงว่าผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นไม่อยู่แล้ว… จึงเสียดายที่ไม่ได้พบกับผู้เชี่ยวชาญระดับนั้น
ผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นคงสร้างที่นี่ขึ้นก่อนที่ตนเองจะตาย ส่วนเหล่าปีศาจโบราณก็ถูกสังหารแทบจะทั้งหมด จึงหมายความว่า ภูเขาลูกนี้คงอยู่มาตั้งแต่ก่อนการกวาดล้างสมัยโบราณแล้ว
ก้าวแรกของการฝึกฝนคือแสวงหาความเป็นนิรันดร์ ก้าวที่ 2 เพื่อจะเข้าใจสัจธรรมความจริง… แต่เหตุใดต้องทำเช่นนั้น? เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่ไล่ตามก็สลายกลายเป็นฝุ่นผงเมื่อสิ้นชีวิต
มนุษย์นั้นแปลก มักจะไล่ตามในสิ่งลวง และหลงลืมสิ่งใกล้ตัวที่สำคัญไป
ชีวิตนิรันดร์และสัจธรรมเป็นเพียงสิ่งลวงที่อยู่บนเส้นทางของการฝึกฝน หากให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าย่อมถือเป็นเรื่องที่สมควรกว่า
หนิงฝานไม่ได้ไล่ตามชีวิตนิรันดร์ ไม่ได้ไล่ตามความแข็งแกร่ง แค่ไล่ตามความอบอุ่นและอยากไขว่คว้ามันมาด้วยมือของตน
หนิงฝานต้องความเป็นอิสระ ไม่ยึดติดกับความเป็นเทพหรือปีศาจ ไม่ได้ใฝ่หาความจริงหรือชีวิตนิรันดร์เหมือนที่ผู้อื่นกระทำ
เมื่อปีศาจทั้ง 8 เห็นแววตาของหนิงฝาน พวกมันตกตะลึง แววตาที่แสดงออกถึงความอิสระในชีวิต เป็นแววตาที่คล้ายกับผู้เป็นนายของพวกมันมาก
ดังนั้น พวกมันจึงเคารพและนับถือต่อหนิงฝาน
“เชิญท่านไปยังยอดเขาเพื่อรับการทดสอบที่ 3”
“อืม”
หนิงฝานพยักหน้าก่อนจะมุ่งไปยังยอดเขาด้วยวิชาเคลื่อนย้ายพริบตา ระหว่างทาง ไร้ซึ่งปีศาจตนใดเข้าขวาง
ปีศาจจำนวนมากที่เห็นหนิงฝาน ล้วนจ้องมองด้วยความเคารพ เพราะพวกมันรู้ว่าหนิงฝานครอบครองโลหิตราชาปีศาจ มีสัญลักษณ์ปีศาจโม๋หลัว และครอบครองสัญลักษณ์ปีศาจทั้ง 108 สัญลักษณ์
บนยอดเขา มีลักษณะเป็นหมอกสีโลหิตทมิฬกลุ่มหนาลอยเด่น หนิงฝานยืนรออยู่บนหมอกเหล่านี้เพื่อรับการทดสอบที่ 3
หนิงฝานรู้สึกราวกับเวลลาหยุดไหล เพราะทันทีที่หนิงฝานมาถึง จู่ๆหมอกที่หนิงฝานเยียบย่างก็แปรสภาพเป็นแอ่งโลหิตที่กำลังเดือดพร่าน ร่างสีดำทมึนราวกับหมึกกระโดดขึ้นมาจากแอ่ง ก่อนจะแปรสภาพเป็นบุรุษรูปงามคนหนึ่ง
“ข้าคือผู้ควบคุมการทดสอบที่ 3… ข้าแข็งแกร่งทัดเทียมเจ้า และจะเป็นคู่มือให้เจ้า หากเจ้าเอาชนะข้าได้ก็ถือว่าผ่านการทดสอบนี้! แต่ถึงจะเอาชนะข้าไม่ได้ ตราบใดที่รับข้าได้ 3 กระบวนท่าก็ถือว่าเจ้าผ่านการทดสอบ เพียงแต่รางวัลของเจ้าจะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง… เจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้หรือเปล่า?”
บุรุษที่ปรากฏตัวดูทรงพลัง แววตาสงบนิ่งและเยือกเย็น ราวกับรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของหนิงฝานทั้งหมด
หนิงฝานสัมผัสได้ว่าบุรุษเบื้องหน้าได้ตายไปตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ผู้ที่ปรากฏตัวเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดวงจิตที่เหลืออยู่ แต่ถึงอย่างนั้น คนผู้นี้ก็ทรงพลังจนทำให้หนิงฝานหายใจลำบาก
บุรุษผู้ผนึกพลังของตนไว้ที่ขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นต้น เพื่อให้ต่อสู้ได้สูสีกับหนิงฝาน
แม้ว่าหนิงฝานจะเปลี่ยนพลังจากขอบเขตกายทองคำให้เป็นขอบเขตปีศาจคลั่ง แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่นับว่าเป็นปีศาจที่แท้จริง
บางทีแค่ขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นต้นก็อาจจะเอาชนะหนิงฝานได้แล้ว นั่นหมายความว่าบุรุษเบื้องหน้าทรงพลังมากกว่าราชาสุสานบุบผา
ราชาสุสานบุบผาเป็นผู้มีพรสวรรค์เหมือนกันหยุนเทียนเฉว ซึ่งแค่ดวงจิตที่ 2 ในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ก็สามารถสังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงได้
แม้ว่าแรงกดดันของบุรุษผู้นี้จะอยู่เพียงขอบเขตปีศาจคลั่งขั้นต้น แต่พรสวรรค์ของคนผู้นี้เหนือกว่าราชาสุสานบุบผาจนเทียบไม่ติด
“ข้าขอถามชื่อผู้อาวุโสได้หรือไม่?”
“ข้าคือจักรพรรดิเซียนอันดับ 7 แห่งวังเทพเซียนสื่อเซ่า นาม โม่โฉว...”
“จักรพรรดิเซียนโม่โฉว!”
หนิงฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาได้ทราบเรื่องราวต่างๆจากเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของสื่อเซ่า ครั้งหนึ่งสื่อเซ่าเคยเล่าถึงบริวารของตน หนึ่งในนั้นคือจักรพรรดิเซียนโม่โฉว
ด้วยชื่อเสียงของเทพเซียนสื่อเซ่า เขามีบริวารที่เป็นจักรพรรดิเซียนอยู่นับพันล้านคน แต่โม่โฉวกลับเป็นจักรพรรดิเซียนอันดับ 7 จากทั้งหมด พรสวรรค์ของคนผู้นี่ย่อมไม่ธรรมดา
หนิงฝานเดาว่า ผู้ที่เป็นคนสร้างภูเขาแห่งนี้ขึ้นมา อาจเป็นโม่โฉวก็ได้
คาดไม่ถึงว่าการทดสอบรอบที่ 3 นี้ จะต้องมาต่อสู้กับจักรพรรดิเซียนโม่โฉว
หากจะกล่าวเรื่องชื่อเสียง โม่โฉ๋วคู่ควรกับคำกล่าวที่ว่าไร้ผู้ต้าน แต่ถึงอย่างนั้น ใช่ว่าเขาจะไร้เทียมทาน เพียงแค่หาคนที่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ด้วยได้ยาก
ดังนั้น หนิงฝานจึงอยากรู้มากกว่าเขาจะเอาชนะผู้เชี่ยวชาญระดับโม่โฉวได้หรือเปล่า
“ถ้าเจ้าไม่กล้ารับคำท้าข้า งั้นก็รับข้าให้ได้ 3 กระบวนท่า ก็จะถือว่าเจ้าผ่านการทดสอบ” โม่โฉวกล่าวอย่างเรียบเฉย
“เหตุใดข้าจะไม่กล้า!” หนิงฝานก้าวเท้าไปเบื้องหน้า ปลดปล่อยแรงกดดันที่รุนแรงโดยไร้ซึ่งความกลัว
เขาจะเอาชนะโม่โฉวให้ได้!...