EP.8 หนทางใหม่ (อ่านฟรี)
เด็กผู้ชายสองคนที่ยื่นอยู่ข้างแกรี่เดินมึงตรงเข้ามาหาผม แต่แกรี่ยื่นมืออีกข้างเผื่อมาห้ามพวกเขาไว้
“ไม่ต้อง เดี้ยวผมจัดการมันเอง” แกรี่พูดพร้อมกับถอดดาบที่เอวแล้วโยนทิ้งลงพื้น
“ห้ามใช้อาวุธ” แกรี่พูด
“ได้ สบายมาก” ผมรีบตอบไปทันควัน
ผมถอดดาบออกจากเอวแล้วขว้างละพื้นเหมือนกัน ผมแอบดีใจนะที่แกรี่ดวลโดยที่ไม่ใช้อาวุธ
ผมว่ามันก็แฟร์ดีเหมือนกันถึงแม้ว่าผมจะเคยเป็นมังกรที่รักษากฎว่าจะไม่ฆ่าเด็ก
เพราะเด็กนั้นไร้เดียงสาเหลือเกิน แต่ก็มีเพียงผู้ใหญ่เท่านั้นแหละที่จะเลี้ยงเด็กให้โตมาแบบผิดๆ
“ผมต้องทำได้” ผมบอกกับตัวเอง ถึงแม้ว่าผมจะผ่ายแพ้พ่อแบบราบคาบแต่นี่ก็เป็นครั้งแรก
ที่ผมจะได้ต่อสู้กับคนที่อายุเท่ากันครั้งแรก คงจะเป็นโอกาสที่ผมจะได้ทดสอบตัวเอง
ผมตัดสินใจว่าจะบุกก่อน หมัดของผมพุ่งไปที่หน้าเขาอย่างจัง แต่แกรี่หลบไว้ได้ทัน
หลังจากนั้น เขาจับแขนผมและดึงตัวผมเข้าไปใกล้ๆ และซอกเขามาที่หน้าของผม
ทันใดนั้นหน้าของผมก็หงายและเลือดที่จมูกก็ไหลมาในไม่ช้า
เด็กผู้ชายที่อยุ่ข้างหลังแกรี่เริ่มหัวเราะเยาะผม ผมมองไปที่เอมมี่พร้อมกับเห็นหน้าเศร้าของเธอ
เธอได้แต่โทษตัวเองว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก็เพราะเธอ มันไม่ใช่ความผิดของเธอหลอก
แต่มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ทุกคนจะเป็นแบบนี้
แกรี่กำลังรอให้ผมขยับตัวเพื่อต่อสู้อีกครั้ง เขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับต่อสู้กับตุ๊กตาอีกครั้ง
ผมเรื่มโจมตีอีกครั้งพร้อมกับปล่อยหมัดลมอีกครั้งเพราะเขาหลบผมได้ทัน แต่ผมใช้เทคนิค MOMENTUM
ในการหมุนร่างกายเพื่อหันไปแทงเข่าสูงพร้อมกับยกขาให้สูงขึ้นเพื่อถึบเขา แต่แกรี่ก็ใช้มือทั้งสองข้าง
ล็อคขาผมไว้ได้ทัน จากนั้นเขาก็หายไปจากสายตาผมและก็พบว่าเขาอยู่ใต้ขาผมและสกัดขาผมทันที
ผมล่วงลงพื้นจากการที่เขาต่อยเข้าที่ท้องผม และแล้วการต่อสู้ก็ได้จบลง ผมพ่ายแพ้อีกครั้ง
เพราะผมโดนแตะเข้าท้องอย่างจังและผมก็ไม่สามารถที่จะยืนได้ไหว
แกรี่เดินไปหยิบข้าวของที่วางอยู่ที่พื้นและเตรียมที่จะเดินทางกลับพร้อมกับน้องสาวและเพื่อนของเขา
แต่เขาเดินกลับมาอีกรอบพร้อมกับพูดว่า
“แกมีพ่อที่เก่งพร้อมที่จะสอนต่อสู้ให้เก่ง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แกควรจะหาอะไรที่แกถนัดและทำมันให้ดี"
ผมเลือกที่จะนอนที่พื้นอีกสักพัก ความเจ็บปวดได้จางหายไปแล้วแต่ผมนั้นอดไม่ได้ที่เอาคำของแกรี่มาคิดต่อ
เพราะมันมีบางคำพูดที่กระทบจิตใจผมเข้าอย่างจังและผมเองก็อยากจะหาคำตอบให้ได้ว่าสื่งนั้นคืออะไร
………………..
หลังจากที่แกรี่และเอมมี่ได้กลับมาถึงบ้าน น้องสาวของเขาก็เริ่มที่จะตำหนิแกรี่ทันทีว่า
เรย์ไม่ได้ทำอะไรผิดสักอย่างแล้วการที่เธอเข้าไปหาเขามันจะผิดอะไร
“ฉันแค่เป็นห่วงเธอนะเอมมี่ การที่ไปอยู่ใกล้เด็กหัวแดงที่ถูกคำสาปนั่นมันำไม่มีอะไรดีหรอก”
แกรี่พยายามอธิบาย
“ฉันเกลียดพี่” เอมมี่ตะโกน
เอมมี่ร้องไห้และรีบวิ่งกลับไปที่ห้องของเธอ ส่วนแกรี่ที่อยู่ในห้องและเริ่มถอดเสื้อผ้าออก
และดึงชุดเกราะออกอย่างช้าๆเขาสังเกตได้ว่ามีปลายแขนของเขามีบางอย่างที่แปลกไป
แกรี่หยิบแผ่นโลหะขึ้นมาพร้อมคิดไปพรางๆว่า แผ่นโลหะนี้ทนต่อดาบเหลือเกินแต่ตอนนี้
แผ่นโลหะกลับมีรอยบุบขนาดใหญ่สองอันขนาดเท่าลูกเบสบอล
“มันจะต้องเกิดจากการยกเข่าแตะครั้งนั้นแน่ๆ เพราะการต่อสู้เข้าใกล้ตัวและรุนแรงกว่าที่ผมคิด”
สิ่งที่แกรี่คิดนั้นถูกแล้วถ้าเขาไม่ใส่แผ่นเกาะโลหะการแตะครั้งนั้นสามารถทำให้แขนเขาหักได้แน่ๆ
เรย์ก็จะชนะการต่อสู้ และสิ่งที่เรย์ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วเรย์ต่อสู้ได้ดีจริงๆหรือไม่ถ้าเขาคิดว่าไม่มี
ใครในหมู่บ้านที่จะเอาชนะยากเท่าแกรี่
แกรี่ถูกฝึกฝนให้เป็นนักต่อสู้มาตั้งแต่เกิด เขาฝึกฝนทุกๆวันเหมือนกับที่เรย์ทำ
ความฝันของเขาคือการพาตัวเองและครอบครัวออกไปจากสังคมคนจน
เหมือนที่เขาอยู่ในตอนนี้
……………………….
หลังจากต่อสู้กับแกรี่ ผมก็ตัดสินใจมุ่งหน้ากลับบ้าน ผมพ่ายแพ้ราบคราบให้กับคนในอายุรุ่นเดียวกัน
ผมคิดว่ามีบางอย่างที่ควรจะเปลี่ยนแปลง ผมไม่สามารถที่จะทำอะไรในรูปแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลัง
จากที่แกรี่พูดประโยคนั้นใส่ผม นั่นก็ทำให้ผมคิดได้ว่า “ทำในสิ่งที่ผมถนัด”ผมคิดหนักหลังจากต่อสู้ได้
ว่าถ้าผมทำในสื่งที่ทำมันได้ดีหรือถนัด สิ่งนั้นมันคงจะเข้ามาหาผมเอง
หลายสัปดาห์ต่อมาหลังจากที่ผมต่อสู้กับแกรี่ ผมได้กลับไปที่ภูเขาลูกนั้นอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ฝึกฝน
อย่างจริงจังพร้อมกับหาไอเดียใหม่ๆ และทุกครั้งที่ผมไปที่นั่นก็จะเจอเอมมี่ นั่งอยู่ข้างๆต้นไม้
ต้นเดิมเสมอเราสองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและตัดสินใจ ที่จะลืมเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับแครี่
เธอเล่าให้ผมฟังว่าหลังจากที่กลับไปเธอไปคุยกับพี่ชายแล้ว ทำให้เขาไม่มีทางมาว่าเราสองคนอีก
ผมไม่รู้ว่าสื่งที่เธอพูดเป็นความจริงหรือเปล่าเพราะเธอเอาแต่คอยมองว่าจะมีใครแอบมองหรือ
เดินมาทางเรารึเปล่า
ผมกลับมาที่โรงเก็บของเพื่อจะเจอกับตุ๊กตาตัวนั้นอีกครั้ง หนึ่งสัปดาห์ของการฝึกฝน
และความพยายามที่จะคิดหนทางใหม่ๆทั้งหมดจะได้รับผมตอบแทนที่ดีที่สุดหรือไม่
ผมปลุกตุ๊กตาตัวนั้นพร้อมกับพูดว่า “Level1”สิ้นเสียงที่ผมพูดแสงสีม่วงที่ออกจาก
ตุ๊กตาก็เริ่มประกายออกมานั่นคือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกได้ว่าการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว
หลังจากนั้นแค่ไม่กี่วินาทีแสงสีม่วงก็ได้สว่างขึ้นอีกครั้งและมีเสียงดังขึ้นว่า
“Level 1 Passed”
เหงื่อของผมออกไม่ใช่จากร่างกาย แต่เป็นความเครียดทางจิตใจหากรูปแบบการต่อสู้แบบใหม่
ไม่ทำงานผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงผมเอามือไปแตะที่ด้านหลังของตุ๊กตาอีกครั้งและวางมือลง
“Level 2” ผมพร้อมมากแล้วที่จะพิสูจว่าตัวผมจะไปได้ไกลแค่ไหน