EP.7 ประชันฝีมือ (อ่านฟรี)
ผมพยายามที่จะต่อสู้กับตุ๊กตาตัวนั้นต่ออีกสี่ครั้ง ในแต่ละครั้งก็มักจะจบลงด้วยการพ่ายแพ้อย่างหน้าอาย
สี่ครั้งแล้วที่ผมต้องแพ้อย่างราบคราบ แม่เจอผมนอนอยู่บนพื้นของโถงเก็บของในตอนที่เธอกำลังตามผม
ไปทานอาหารเย็น ร่างกายของผมเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและรอยขีดข่วน
ถึงแม้ว่าเจ้าตุ๊กตานั่นจะไม่สามารถทำให้ผมเกิดบาดแผลที่รุนแรงจากดาบไม้ได้ แต่นั่นก็ทำให้ผม
มีแผลอยู่ดีผมคิดว่าการโจมตีแบบเดิมซ้ำๆ อาจจะไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับร่างกายผมเท่าไหร่นัก
ผมเดินออกไปข้างนอกเพื่อรับอากาศสดชื่นเพื่อที่จะให้สมองผมโปร่งมากพอที่จะหาทางต่อสู้กับตุ๊กตาได้
หมู่บ้านของผมช่างร่มรื่นและเงียบดีเสียจริง ผมละชอบมันเหลือเกิน หมุ่บ้านของผมตั้งอยู่ใกล้ๆ
กับ The Alure Kingdom และ Crune Emprie ทั้งสองหมู่บ้านคล้ายๆเป็นพี่น้องกัน ทั้งสองฝ่ายจะคอย
ส่งเหล่าทหารมาปกป้องลูกบ้านจากภัยต่างๆนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้หมู่บ้านของผมนั้นสงบสุขอยู่เสมอ
ผมเดินออกจากนอกหมู่บ้านเพื่อที่จะหาสถานที่ที่พอจะฝึกฝนการต่อสู้และวางแผนได้
และแล้วผมก็มาหยุดอยู่ที่ภูเขาใกล้ๆหมู่บ้าน จากนั้นผมมุ่งหน้าไปสู่ข้างบนภูเขาและแล้วก็ถึงจุดที่สูงสุด
จนมองเห็นต้นไม้รอบๆ ผมมองไปรอบๆเพื่อมองหาว่าจะมีใครอยู่แถวนี้รึเปล่า ผมตัดสินใจนั่งลงใต้ต้นไม้
ผมสามารถมองเห็นวิวทั่งหมดของหมู่บ้านจากมุมนี้ มันช่างสวยงามจริงๆ
มันก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ผมไม่ได้มานั่งเงียบๆและมองวิวสวยๆแบบนี้ มันคือสิ่งที่ผมปารถนาที่จะทำ
เมื่อผมแก่ตัวลงช่วงเวลาแห่งความสงบเหล่านั้นมักจะถูกทำลายลงเสมอ นั่นก็คือการตอกย้ำให้ผมต้อง
ต้องฝึกหนักเพื่อผ่านการคัดเลือกให้ได้
ผมลุกขึ้นยืนและชักดาบออกจากกระเป๋า ผมหลับตาลงและจินตนาการถึงตุ๊กตาตัวนั้นในใจของผม
รู้ดีว่าควรจะทำอย่างไร ผมสามารถเห็นทุกวิธีที่จะทำให้ผมไปสู่ชัยชนะได้ ผมค่อยๆเปิดตาขึ้นอย่างช้าๆ
และเริ่มฝึกการฟันดาบให้หนักและเร็วขึ้นแต่ถึงยังไงแล้วผมเองก็ยังไม่สามารถควบคุมร่างกาย
ให้ทำในสิ่งที่ผมต้องการได้ดีนัก
ผ่านไปหลายชั่วโมงที่ผมฝึกต่อสู้จนร่างกายผมเต็มไปด้วยเหงื่อ ผมนั่งลงใต้ต้นไม้และหลับตาลงอีกครั้ง
และเมื่อผมลืมตานั้น มีบางสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผมนั่นคือ ผมเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
ยืนจองหน้าผมอยู่ ความตกใจทำให้ผมกระโดดถอยหลังจนหัวไปกระแทกกับต้นไม้เข้า
“เธอโอเค ใช่ไหม?” เด็กผู้หญิงคนนั้นถามผมด้วยเสียงกังวล
“ทำไมเธอถึงมายืนจ้องมาที่ผม?” ผมตอบกลับไปในขณะพร้อมกับจับหัวผมไปด้วย
มองดูที่เด็กผู้หญิงคนนี้แล้วดูน่าจะอายุใกล้เคียงกับผม เธอสวมชุดสีแดงพร้อมกับตระกร้าในมือเธอ
เธอมีผมสีบลอนด์ยาวปะบ่าและตาสีฟ้า
เธอชี้ไปที่หมู่บ้าน พร้อมกับยิ้มกว้างแล้วพูดว่า “มันช้าไปแล้วเพราะตอนนี้พระอาทิตย์ตกแล้ว
ฉันคิดว่าเราควรเข้าไปข้างในตอนนี้เลย ฉันได้แต่คิดว่าทำยังไงให้เธอตื่น แต่ทันใดนั้นเธอก็ตื่นทันที “
ผมมองไปบนท้องฟ้าแล้วก็พบว่าพระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้วจริงๆ ผมคงต้องหลับแบบไม่รู้ตัวแน่
“เธอรู้ได้ไงว่าผมอยู่ที่นี่” ผมถามเธอด้วยความสงสัย
“เธอกำลังหมายถึงอะไร? ฉันอยู่ของฉันตรงนี้มาได้สักพักแล้ว”
เมื่อเห็นว่าผมเริ่มสับสน เธอจึงชี้ไปที่อีกด้านหนึ่งของต้นไม้ว่าผมอยู่ที่ไหน
ผมเริ่มเขินอายเพราะความเขินอาย
“ฉันชื่อเอมมี่ ที่นี่เป็นที่ที่ฉันชอบมา”
“ผมชื่อเรย์” เธอพูดและส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง
“ฉันรู้จักเธออยุ่แล้วแหละ เธอค่อนข้างดังในหมู่บ้าน”
ผมรู้ดีว่าสิ่งที่เธอพูดมันหมายความว่ายังไง ทุกๆคนที่อยู่แถวนี้ยังไงก็ต้องรู้จักผม ผมคือลูกชายคนเดียว
ของสองนักสู้ในหมู่บ้านนี้นอกจากนั้นพวกเขายังรู้จักผมเพราะผมสีแดงนั่นเอง ครอบครัวทาเลนที่ถูกสาป
หลังจากที่ผมกับเอมี่เดินลงมาจากเขาลูกนั้นก็พบกับเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งและหนึ่งในนั้นก็เป็นเด็กผู้ชาย
ที่หน้าคล้ายเอมี่แต่ต่างกันแค่เสื้อผ้าและทรงผมของเขาเท่านั้นเอง
“ถอยห่างออกไปจากน้องสาวของผม” เด็กชายคนนั้นตะโกนเสียงดัง
เขารีบมุ่งตรงเดินมาเพื่อแทรกระกว่างผมกับเอมมี่
“เขายังไม่ได้ทำอะไรฉันเลย แกรี่”
เด็กชายคนนั้นพูดพร้อมกับสำรวจว่าเอมมียังโอเคหรือเปล่า เขากังวลถึงขั้นเช็คว่าสีหน้าของเขา
เปลี่ยนไปหรือไม่ เขากับพูดกับผมว่า “ถ้าคุณใกล้น้องสาวผมอีก แกตายแน่”
“แกมันก็แค่เด็กที่ถูกต้องคำสาป รีบออกไปจากหมู่บ้านนี้สะ” เพื่อนที่อยู่ข้างๆแกรี่ รีบเสริมต่อ
เลือดในตัวของผมพุ่งพล่านไปทั้งตัวพร้อมกับอารมณ์โกรธของผมที่เกิดขึ้นภายใน
ผมรู้สึกเฉยๆถ้าพวกเขาจะดูถูกผม แต่ผมจะไม่ยอมให้มาดูถูกพ่อแม่ผมแน่นอน
พ่อและแม่ปกป้องคนในหมู่บ้านนี้มาหลายปี มีแต่พวกงี่เง่าพวกนี้ที่อยู่ข้างหน้าผมที่ไม่รู้อะไร
ผมรีบพุ่งเข้าไปหาเด็กคนนั้นและพร้อมที่จะซัดเข้าที่บนหน้าขี้เหร่ๆของเขาทันที หมัดของผมซัดไป
ที่หน้าเขาอย่างจัง เขาไม่มีท่าทีที่จะสู้ผมได้เลย ตอนแรกแกรี่ยื่นมือข้างนึงเข้ามาเพื่อที่จะห้าม
แต่สู้ไม่ได้หรอกเพราะผมนั้นแข็งแรงกว่าอยู่แล้ว
“พวกแกจะมายุ่งกับผมทำไม” ผมรีบตะโกน
“ถ้าต้องการที่จะต่อสู้กับใคร ให้มาต่อยผม” แกรี่พูด
“ไม่ต้องกลัวจะไม่โดน โดนอย่างทั่วถึงแน่นอน” ผมรีบปล่อยมัดลงบนที่หน้าแครี่เข้าอย่างจัง