ตอนที่แล้วDTH ตอนที่ 25 หลบหนีด้วยการเมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDTH ตอนที่ 27 เจ้าบังคับข้า

DTH ตอนที่ 26 ใครเป็นคนทำ


(TL : ผมได้engใหม่มาจึงอาจจะมีบางคำเปลี่ยนจึงขอเรียนเอาไว้ให้ทราบไว้ตั้งแต่ตอนนี้นะครับ

ป.ล. ขอแปลอาทิตย์ละตอนจนถึงประมาณวันที่15/6/63นะครับ สาเหตุมาจากnotebookที่แปลมันค้างๆบางทีแปลแล้วหมดอารมณ์เลยกะว่าจะซื้อคอมใหม่เดือนหน้าต้องกราบขออภัยด้วยครับ)

ณ ตระกูลเหลียง

“ท่านพี่วันนี้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้น” คุณหนูสองของตระกูลเหลียงวิ่งเข้ามาในบ้าน “เหลียง หยงฉีได้ไปที่ตระกูลหยวนและถูกทำให้เสียหน้าโดยคุณหนูเจ็ด เขาจึงเอาอารมณ์ทั้งหมดมาลงกับของภายในบ้าน”

“เมื่อข้าเห็นเขาทำแบบนั้น ข้าก็อยากจะหัวเราะ”

คุณหนูสองยิ้มและหัวเราะออกมา แต่อย่างไรก็ตามเธอก็เห็นเพียงใบหน้าที่ดูเบื่อของพี่ชายเธอเท่านั้น

“ท่านพี่ทำไมท่านไม่ตอบสนองเลย หรือว่าท่านจะไม่หายใจแล้ว?”

เหลียง อี้ชูวางหนังสือในมือของเขาลงจากนั้นก็ส่ายหัวและยิ้มออกมา “ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคงเป็นน้องชายของเจ้า เมื่อเจ้ารู้ว่าเขาถูกตีทำไมเจ้าถึงมีความสุขกันเล่า?”

“ฮิฮิ น้องชาย? ข้าไม่ได้มีน้องชายแบบนั้นสักหน่อย ข้ามีเพียงแค่ท่านเท่านั้นที่เป็นพี่น้องของข้า” คุณหนูสองพูด

เมื่อเห็นว่าเหลียง หยงฉีไม่ได้พูดอะไรอีก คุณหนูสองจึงรู้สึกเบื่อ ดังนั้นเธอจึงเดินออกไปเพื่อดูน้องชายสามที่ตอนนี้บ้าไปแล้ว

หลังจากที่ท่านพ่อกลับมาจากตระกูลหยวน ใบหน้าของท่านก็แลดูมืดมนและท่านยังเดินตรงเข้าไปในห้องศึกษาโดยทันที

แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

แต่ข้าก็แน่ใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่

ในตอนนั้นเหลียง หยงฉีก็ได้นึกถึงคำพูดของหลิน ฟานและพบว่ามันสมเหตุผลมาก

แต่เขาทำมันไม่ได้ เขาไม่มีความมั่นใจมากพอและเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขานั้นไม่มีความสามารถ

หากหลิน ฟานรู้เรื่องที่เขากำลังคิดอยู่เขาคงจะให้บนเรียนที่ชื่อว่า ‘หลักสูตรเพิ่มความมั่นใจ’ แก่เขาแน่นอน

ลานหลังบ้านตระกูลหลิน

หลิน ฟานที่นอนอยู่บนเตียงกำลังศึกษาระบบสนับสนุนขนาดเล็กก่อนที่จะเข้านอน

“เฮ้อ วันนี้มันช่างเต็มไปด้วยการต่อสู้ของสติปัญญาและความแข็งแกร่งของจิตใจ”

เขาหัวเราะออกมา

ท่านพ่อดูเหมือนจะไม่ได้ประทับใจในความจริงใจของเขา

แม้แต่คะแนนความโกรธเขาก็ยังได้รับมาจำนวนมาก

คะแนนความโกรธ: 5374

“ชีวิตของนายน้อยผู้มั่งคั่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก มันสามารถให้ความรู้สึกแบบที่ชีวิตที่แล้วของข้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน”

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่จะต้องนอนแล้ว มาดูกันสิว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรสนุกๆมาให้ข้าทำอีก”

เขาเป็นคนที่ไม่มีเป้าหมาย และเป็นที่รู้จักกันในนามของนายน้อยผู้ฟุ่มเฟือย

ในวัยเด็กเขาก็เอาแต่เล่นสนุกและไม่เคยคิดที่จะฝึกฝน

ช่างเป็นช่วงเวลาที่สูญเปล่ายิ่งนัก

ณ เวลานี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความมืดมิด

พระจันทร์ไม่ได้เต็มดวงดังนั้นมันจึงไม่สว่างมากนัก

โจว เชียงเหมากำลังออกลาดตระเวนลานด้านหลัง

มันมีโอกาสที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาจะถูกนักลอบสังหารทำร้าย (TL: จะใช้นักลอบสังหารกับนักฆ่าสลับกันบางช่วงเพื่อเพิ่มความลื่นไหลในการอ่านนะครับ)

ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นเขาจะต้องเป็นคนรับรองความปลอดภัยของลูกพี่ลูกน้องของเขา

ที่ทางเข้าลานด้านหลังมียามสองคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นพูดออกมา “ท่านอาจารย์ ที่นี่มีพวกข้าอยู่แล้วสองคน ท่านสามารถไปพักก่อนได้เลย”

“เงียบ และไม่ต้องพูดอะไรอีก อย่าปล่อยให้ลมหรือแม้แต่หญ้าคลาดสายตา”

มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่โจว เชียงเหมาจะไม่ไปพักผ่อน

เพราะคนที่พักอยู่ข้างในเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เขาเป็นห่วงมากกว่าพวกยาม ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับทุกการเคลื่อนไหว

เขาจะไม่ฝากชีวิตลูกพี่ลูกน้องของเขาเอาไว้กับพวกยามแน่

“เดี๋ยวข้าจะมาตรวจสอบพวกเจ้าภายหลังว่าหย่อนยานหรือไม่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพวกเจ้าต้องรายงานข้าให้เร็วที่สุด และห้ามดำเนินการใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด” โจว เชียงเหมาพูด

“ขอรับ” ยามทั้งสองตอบ

โจว เชียงเหมาตอนนี้นั้นตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เขาพยายามกระจายการรับรู้ของเขาออกไป ทันใดนั้นก็ได้มีหมอกสีขาวไหลออกมาจากร่างกายผ่านขาของเขาเหมือนใยแมงมุงครอบคลุมพื้นที่บริเวณลานด้านหลังทั้งหมด

เมื่อแสงจันทร์สาดส่องลงมาบนพื้นสิ่งที่ดูเหมือนใยแมงมุงก็กลับกลายเป็นน้ำค้างแข็งในฤดูหนาว

เมื่อมีใครเข้ามาในลานเขาจะสามารถรับรู้ได้ทันที

ผู้ที่ไม่ได้มีกำลังภายในแข็งแกร่งจะไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้

ลมหนาวที่พัดผ่านได้ทำให้ผมของเขาปลิวขึ้นไปในอากาศ

ในตอนนั้นเองอยู่ๆการแสดงออกของโจว เชียงเหมาก็เปลี่ยนไปเป็นน่ากลัว เขารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังเขา

คนที่สามารถมาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของเขาได้โดยที่เขาไม่รู้ตัวจะต้องเป็นบุคคลที่ทรงพลังมากแน่

ทันใดนั้นเหงื่อก็ได้ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา

ตู้ม!

เขาโดนกระแทกเข้าที่คออย่างแรงจนตัวของเขาลอยไปข้างหน้าพร้อมกับสติที่ใกล้จะหมดลง

ดวงตาของเขาเบิกกว้าง รูม่านตาของเขาหดเล็กลง

ข้าห้ามหมดสติ

ตอนนี้ในใจของโจว เชียงเหมามีเพียงความคิดนี้เท่านั้น

ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด

มิฉะนั้นลูกพี่ลูกน้องจะ...

เขาเปิดปากและกัดลิ้นของเขา เมื่อลิ้นของเขาถูกกัดจิตใจของเขาก็ตื่นตัวทันที

‘คัมภีร์หัวใจปีศาจ’ ก็เริ่มทำงานทันที

กล้ามเนื้อส่วนหลังของเขาขยายออก กำลังภายในภายในร่างกายของเขากลายเป็นหมอกและไหลออกมาจากรูขุมขนด้านหลังของเขา

อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น

อากาศกำลังบิดเบี้ยวและระเหยตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น

“แทง...”

ปัง!

นิ้วถูกแทงเข้ามาที่กลางหลังของเขา

ตุบ!

เขาล้มลงกับพื้นและหมดสติไปโดยไม่สามารถขัดขืนได้

“ไม่เลว ดูเหมือนว่าเขาจะพัฒนาขึ้นเล็กน้อย”

ด้านหน้าทางเข้าลานด้านหลัง

ยามทั้งสองล้มลงกับพื้น โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนที่พวกเขาจะสลบไป

มันเป็นหลิน วานยี่ที่เดินเข้ามาในลานพร้อมกับหน้ากากผีและเสื้อผ้าสีดำ

ภายในห้อง

หลิน ฟานกำลังนอนหลับอย่างสบาย ผ้าห่มที่คลุมตัวของเขาอยู่ถูกเตะลงไปบนพื้น

เสียงกรนเบาๆค่อยๆดังออกมาจากตัวเขา

เอี๊ยด!

หน้าต่างไม้ถูกเปิดออกทำให้มีเสียงดังเล็กน้อย

ถ้าเป็นคนธรรมดาการกระทำแบบนี้จะทำให้พวกเขาตื่นอย่างแน่นอน แต่สำหรับหลิน ฟานมันกลับไม่ได้ทำให้เขาตื่นขึ้นเลยแม้แต่น้อย

เมื่อหลิน วานยี่มองไปยังลูกชายที่ไร้ประโยชน์ของเขาที่กำลังหลับ มันก็ทำให้อารมณ์ของเขาแย่ลงทันที

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วทำไมเขาถึงไม่รู้จักจำ

เสียงตอนเปิดหน้าต่างมันก็ค่อนข้างดัง

แล้วทำไมเขาถึงยังไม่ตื่นอีก?

เขายังคงหลับสนิทอยู่เหมือนเดิม

หลิน วานยี่เดินมาที่ข้างเตียงพร้อมกับกริชในมือจากนั้นเขาก็นำมันไปพาดเอาไว้ที่คอของหลิน ฟาน

จิตสังหารเริ่มกระจายออกมาจากตัวของเขาจนทำให้อากาศโดยรอบเย็นขึ้นทันที

สำหรับผู้เชียวชาญตราบใดที่มีจิตสังหารต่อให้มันเล็กน้อยเพียงใดก็สามารถรู้สึกได้

สถานการณ์ภายในห้องเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ

หลิน วานยี่วางกรีชเอาไว้ที่คอลูกชายของเขาพร้อมกับเจตนาฆ่าที่เริ่มเข้มข้นขึ้นไปทุกขณะ

อย่างไรก็ตามหลิน ฟานก็ยังคงหลับสนิทอยู่

มิหนำซ้ำเขายังกรนออกมาอีกด้วย

ตอนนั้นเองดูเหมือนเขารู้สึกคันที่เป้า เขาจึงเอามือมาเกาก่อนที่จะนอนต่อไป

หลิน วานยี่กำหมัดของเขาแน่นจนมีเสียงกระดูกดังออกมา

“ความโกรธ +88”

“ความโกรธ +123”

“เจ้าเด็กไม่เอาไหน เจ้าจะนอนต่อใช่ไหม? ได้ ข้าจะทำให้เขาหลับฝันดี” หลิน วานยี่ดึงกรีชกลับมาจากนั้นเขาก็เอานิ้วกดเอาไปยังจุดหนึ่งของร่างกายหลิน ฟาน

แต่ดูเหมือนหลิน ฟานจะไม่ได้รู้สึกอะไรและยังคงหลับต่อไป

ปัง!

เสียงเหมือนบางอย่างถูกกระแทก

ท้องฟ้าเริ่มมีสัญญาณของรุ่งสาง

เอี๊ยด~

“ลูกพี่ลูกน้อง! ลูกพี่ลูกน้อง!” โจว เชียงเหมารีบผลักประตูเข้ามาและเมื่อเห็นหลิน ฟานนอนอยู่บนเตียงใบหน้าของเขาก็แสดงอาการตื่นตระหนกทันที

เขาคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกพี่ลูกน้องของเขา

เขาจึงรีบดึงตัวลูกพี่ลูกน้องของเขาขึ้นมา

“ลูกพี่ลูกน้อง! รีบตื่นสิ! ข้ามันคนไร้ประโยชน์...” ก่อนที่โจว เชียงเหมาจะพูดจบ

หลิน ฟานก็ตื่นขึ้นมาและพูดอย่างไม่พอใจ

“ลูกพี่ลูกน้องเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? นี่มันเช้ามากเจ้าจะมาปลุกข้าทำไม?”

เมื่อเห็นว่าลูกพี่ลูกน้องไม่ได้เป็นอะไรเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเขาก็คว้าไหล่ของหลิน ฟานและเขย่าเขา “มันเยี่ยมมากที่ท่านไม่เป็นอะไร มันเยี่ยมมากจริงๆ ท่านทำให้ข้ากลัวแทบตาย”

“เดี๋ยวก่อนนะ”

หลิน ฟานพยายามทำให้โจว เชียงเหมาใจเย็นลง แต่ทันใดนั้นเองเขาก็เอื้อมมือของเขาไปแตะที่ตาซ้าย

จิ

เขาถอนหายใจด้วยความเจ็บปวด

เขาลูกออกจากเตียงก่อนที่จะวิ่งไปทางกระจก

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเศร้าก็ดังไปทั่วทั้งลานด้านหลังทั้งหมด

“ไอสารเลวตัวไหนมันกล้าต่อยตาข้า?!” หลิน ฟานตะโกนออกมา

ใครเป็นคนทำแบบนี้กับข้ากัน?

ข้าแค่นอนและตื่นมาก็เป็นแบบนี้แล้ว

“ลูกพี่ลูกน้อง มันมีนักฆ่าบุกเข้ามาเมื่อคืนนี้ ข้าไม่สามารถสู้มันได้และถูกทำให้หมดสติ และสุดท้ายท่านก็ได้รับบาดเจ็บ” โจว เชียงเหมาโทษตัวเอง

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเขาอ่อนแอเกินไปลูกพี่ลูกน้องคงไม่ได้รับบาดเจ็บ

“นักฆ่า?” หลิน ฟานตกตะลึง

ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกตัวเลย?

ด้วยการที่ตาซ้ายของเขาอยู่ในสภาพนี้ผู้บุกรุกจะต้องโจมตีอย่างรุนแรงแน่นอน แต่ทำไมเขาถึงยังหลับต่อไปได้ละ

แล้วเขาก็ยังฝันดีอีกด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด