บทที่ 6 – ปกรณัมฟาร์มมนุษย์
บทที่ 6 – ปกรณัมฟาร์มมนุษย์
ชั้นตื่นขึ้นมาตอนเช้าที่ห้องของตัวเอง เมื่อคืนนี้ไม่ใช่ฝันแน่ๆ แต่ชิซึกุคงจะเอาชั้นมาส่งสินะ.. เฮ้อ..
ว่าแล้ว ตั้งแต่นี้ชั้นต้องระวังเรื่องทำความสะอาดร่างกายหรือแม้แต่เข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง แม้กระทั่งตอนมีอารมณ์ชั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ชั้นเดินออกมาจากห้องในขณะที่มีคนมาหาพวกเรา ไม่ใช่ชายชราอีกต่อไปแต่เป็นชายคนหนึ่งชื่อว่า กัลน์
เขาเป็นอัศวินแห่งอาณาจักรนี้ และวันนี้ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าทุกคนมองชั้นด้วยสายตารังเกียจยิ่งกว่าเมื่อวานอีก
ช่างมันละกัน ชั้นไม่สนใจซะด้วย มาคิดเรื่องที่สำคัญดีกว่าเจ้าพระเจ้านั่นบอกว่าเด็กที่เกิดในวันที่มีฝนดาวตกจะได้มาต่างโลก
ชั้นเลยสงสัยว่า…ยูสะจะได้มาโลกนี้ด้วยหรือเปล่านะ พอพ่อกับแม่หายตอนยัยนั่นอายุแค่ 11 ปี พวกเราก็อยู่กันสองคนตลอดมา
ถ้าเกิดยัยนั่นได้มาโลกนี้จะยิ่งน่าเป็นห่วงอีก ชั้นคิดมากเรื่องนี้พอสมควร ถ้ายังอยู่โลกเดิมก็หมายความว่าต้องอยู่คนเดียวชั้นต้องรีบกำจัดจอมมาร
ถึงจะไม่มีพลังก็เถอะ ขืนปล่อยยัยเด็กนั่นอยู่คนเดียวคงร้องไห้ทุกคืนแน่ๆ ขณะที่ชั้นคิดแบบนั้นเอง
“ไงริวตะ”
ตอนนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาชั้นอย่างสนิทสนม.. นั่นคือชิซึกุแน่นอน ว่าแต่ชั้นไปสนิทกับเธอคนนี้ขนาดนั้นตอนไหนนะ
“อะ..อืม”
“ให้ตายสิ เมื่อคืนนายเล่นสลบไปกลางห้องน้ำทำเอาชั้นตกใจแทบแย่รู้ไหม”
“ขะ..ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
ด้วยเหตุนี้ชิซึกุจึงทำตัวติดกับชั้นเหมือนเพื่อนกันจริงๆ แต่ถึงชิซึกุจะชอบทำตัวร่าเริงสนิทง่าย แต่เธอดูไม่ค่อยมีเพื่อนเลยแฮะ
ขณะที่คิดอยู่นั้น กัลน์ก็พูดขึ้นมา
“เอาล่ะ ข้าจะอธิบายเหี่ยวกับฟาร์มมนุษย์ให้เข้าใจง่ายๆ ฟาร์มมนุษย์คือการทำให้ความแข็งแกร่งทางด้านเวทมนตร์ของพวกเจ้าสูงขึ้นโดยยังไม่เพิ่มระดับจินตนาการ”
“พลังเวทจินตนาการแบ่งออกเป็น ห้าระดับในโลกนี้ ระดับต่ำ (Low Tier) ระดับกลาง (Mid Tier) ระดับสูง (High Tier) นี่คือสามระดับแรกซึ่งถือเป็นขีดจำกัดของการทะลุระดับพลังเวทจินตนาการ”
“หรือง่ายๆ พวกเราทุกคนในชีวิตนี้จะสามารถทะลุระดับได้เพียงสามครั้งเท่านั้น ทว่าพวกเจ้าที่เป็นผู้กล้านั้นมีระดับพื้นฐานเทียบเท่าระดับกลาง!”
“ดังนั้นพวกเจ้าจึงสามารถทะลุเข้าสู่ระดับสูงและระดับที่เหนือกว่าได้นั่นเอง ซึ่งเป็นระดับอัศวิน (Knight Tier) และระดับสุดท้าย ระดับพระเจ้า (God Tier)”
“แต่ทว่านอกจากระดับพลังเวทแห่งจินตนาการ ยังมีความแข็งแกร่งทางเวท ซึ่งหากพวกเจ้าที่แข็งแกร่งทางจินตนาการอยู่แล้วฝึกเพิ่มมันจะทำให้พวกเจ้าอยู่ระดับกลางแต่สู้กับระดับสูงได้!”
แบบนี้นี่เอง ถึงจะไม่มีพลังแต่ในโลกนี้ยังมีคอนเซปด่านพลัง งั้นหมายความว่าคนธรรมดาที่เกิดมานั้นแม้จะมีพลังเวทจินตนาการและความสามารถ
แต่หากยังไม่ทะลุด่านไปถึงระดับต่ำก็จะยังไม่ใช้เวทแห่งจินตนาการได้สินะ งั้นแปลว่ามีแค่ชั้นคนเดียวน่ะสิ ที่ยังใช้เวทมนตร์ไม่ได้
“โดยการที่จะทำให้ความแข็งแกร่งทางเวทพวกเจ้าสูงขึ้นนั้นคือฟาร์มมนุษย์ โดยการ..ฆ่ามนุษย์คนอื่น”
นั่นไงว่าแล้วเชียว.. แต่ว่าคนอื่นๆ จะยอมรับกันได้เหรอฟะ? ฆ่ามนุษย์นี่ยังไงซะพวกนี้ก็ยังเป็นคนธรรมดาจนถึงตอนนี้นะ
อีกสักห้าวินาทีต้องมีคนต่อต้านตามสเต็ปแน่นอน.. แต่ที่ทำให้ชั้นประหลาดใจก็คือ ไม่มีคนพูดอะไร
กัลน์บรรยายต่อ
“แน่นอนว่าที่ฆ่าไม่ใช่ชาวเมือง แต่เป็นทาสจากต่างเดือนหรือพวกอมนุษย์ลูกครึ่งปีศาจที่ชั่วร้ายและอาชญากรรมต่างๆ”
“…”
แต่มันก็ฆ่าอยู่ดีไหมฟะ แต่ว่าทุกคนในห้องก็ไม่ตอบสนองเหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
“เอาล่ะ ตามข้ามา”
เดี๋ยวๆ แต่ไม่ว่าชั้นจะทำยังไงแต่ทุกคนก็เดินตามปกติไป เฮ้ย หมายความว่าไงฟะ ขนาดชิซึกุข้างๆ ชั้นยังเดินตามเหมือนจะไปล่าสัตว์ในป่า
“เดี๋ยวสิ.. นี่มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?”
“แปลกอะไร?”
ชั้นพูดออกมาชิซึกุเลยหันมาถามชั้นด้วยน้ำเสียงที่แข็งๆ แบบนี้มัน ชั้นมองไปที่สายตาของชิซึกุซึ่งมีแสงแปลกๆ ส่องออกมา
“ก็ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองไง?”
ชั้นพูดแบบนั้นทำเอาชิซึกุหัวเราะออกมา “พูดอะไรของเธอนะ.. มันก็แค่ทาสกับอาชญากรรมเท่านั้นนะ ฮ่าๆ”
“…”
ชั้นพูดไม่ออก แม้ไม่สนิทกับผู้หญิงซื่อบื้อคนนี้มาก แต่ชั้นรู้ว่าเธอไม่มีทางจะตอบแบบนี้ มีอะไรผิดปกติ
คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน คุยกันอย่างเป็นปกติ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ถูกสะกดจิตเหรอ? โลกแบบนี้จะมีของแบบนั้นก็ไม่แปลกนะ
แต่ทำไมกันล่ะ? ทำไมชั้นถึงไม่ถูกสะกดจิตด้วย? มีอะไรที่ชั้นแตกต่างหลังจากมาที่นี่…. อ๊ะ.. ใช่!
ตำราเวทนั่นไง! ถึงจะไม่รู้ว่าคืออะไรแต่มันใช่แน่ๆ ต้องเกี่ยวจ้องกันแน่ๆ … ชั้นคิดแบบนั้นก็เดินมาถึงทางลงไปใต้ดินของปราสาท
แค่เปิดประตูกลิ่นเหม็นคาว อับชื้น กลิ่นคาวของเลือดกระจายใส่จมูกของชั้นทำให้ชั้นปิดจมูกทันที
“กลิ่นแย่เป็นบ้าเลย!”
ชั้นบ่นออกมาในขณะที่เดินตามคนอื่นลงไป พอเดินไปถึงชั้นใต้ดินที่มีแค่แสงไฟจากเทียนก็มีคุกเหล็กอยู่มากกว่าร้อยแห่งเรียงรายกันอยู่
มีลานกว้างที่มีซากศพและเลือดสดไหลไปทั่ว.. เหม็นคาวจริงๆ ในกรงก็มีคนมากกว่าห้าคนถูกจับให้อยู่กรงเดียว
บางคนก็นั่งหมดอาลัยตายอยาก บางคนก็มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นจนร่างกายแห้งเหี่ยว กลิ่นอับชื้นลอยมาจนชั้นแทบอ้วก
“นี่มันโสมม.. โสมมชัดๆ!”
ชั้นคิดในใจ แต่ทุกคนนอกจากชั้นไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
“เอาล่ะ เลือกกรงคนละกรงแล้วเข้าไปฆ่าพวกมันซะ!”
ดาบเหล็กถูกโยนมาให้ชั้นและคนอื่นๆ ทุกๆ คนก็เดินเข้าไปในกรงใครกรงมัน ขณะที่ชั้นยืนนิ่ง
“หืม เธอยืนทำอะไรอยู่รีบๆ ไปจัดการได้แล้ว มันเสียเวลา!!”
“อะ..อืม”
ชั้นไม่กล้าที่จะนิ่งรีบวิ่งไปหากรงหนึ่ง ขณะเดียวกันกัลน์ก็อธิบายอยู่ข้างหลังชั้น ขณะที่เริ่มทำการฆ่า ‘คน’
“มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังจินตนาการสูง ต่างจากมอนสเตอร์ที่มันไม่ใช้พลังเวทแห่งจินตนาการ แต่มันใช้ ‘ความสามารถ’ ซึ่งมันมีได้มากกว่าหนึ่งต่างจากพวกเรา”
“ดังนั้นเวลาฆ่าพวกมอนสเตอร์หรือก็คือพวกสมุนของปีศาจนั้น หลังจากฆ่าพลังของมันก็จะถูกดูดเข้ามาในร่างกายเรากลายเป็นตัวช่วยเพิ่มระดับ”
“แต่ทว่ามนุษย์นั้นมีแค่ความสามารถเดียวเวลาเราฆ่ามันนั้น มันจึงไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับแต่พลังแห่งจินตนาการของคนที่เราฆ่านั้นจะถูกสูบเข้ามาในร่างของเรา”
“ซึ่งแม้ไม่ช่วยเพิ่มระดับพลังเวทแห่งจินตนาการ แต่ก็ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านเวทอย่างมหาศาลนั่นเอง”
แบบนี้นี่เอง ความสามารถ = เพิ่มระดับ พลังจินตนาการ = เพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านเวท
กรงที่ชั้นเลือกตรงหน้ามีคนอยู่สามคน.. คนหนึ่งเป็นคนที่นั่งกอดเข่าหมดอาลัยตายอยาก อีกสองคนกำลังมีเพศสัมพันธ์อย่างอนาจาร
“….”
ชั้นเดินเข้าไป… อย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ทว่าทันทีนั้นเองชายที่นั่งหมดอาลัยตายอยากก็เงยหน้าขึ้นมามองชั้น
“ผะ…ผู้หญิง….”
มันพูดแล้วพุ่งมาใส่ชั้นทันที พร้อมกับผลักชั้นกดลงพื้น.. ไม่… แบบนี้มัน!? ชายคนนี้ร่างกายเป็นหนังหุ้มกระดูกพยายามข่มขืนชั้น
“มัวทำอะไรอยู่ รีบๆ ฆ่ามันสิ!”
เสียงของอัศวินที่ชื่อกัลน์ดังมา… ชั้นกัดฟัน.. ไม่ฆ่าก็ต้องถูกมันย่ำยี แม้จะสั่นๆ แต่ชั้นก็กำดาบแน่น
ถ้าจำไม่ผิดแม้จะแทงหัวใจไปแล้วแต่ก็ยังสามารถอยู่รอดได้อีก ซึ่งหากมันติดอาวุธชั้นจะถูกมันฆ่าด้วยดังนั้นจุดสังหารที่ดีสุดคือ
“หัว!”
ชั้นแทงดาบใส่หัวมัน พร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาอาบใบหน้าของชั้น.. และพลิกตัวมันไปด้านข้างออกจากตัวของชั้น…
“แฮ่กๆ .. อุ๊บ..”
ชั้นปิดปากแต่ก็ไม่อยู่ชั้นอ้วกออกมาอีกครั้ง นี่เป็นการฆ่าคนครั้งแรกในชีวิตของชั้น
............
[พระนางเอกขยันถูกข่มขืนจัง... เสน่ห์เยอะจริง - ผู้เขียน]