บทที่ 247 เล่นใหญ่
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว
"ใต้เท้าผู้ตรวจการ?"
ใบหน้าของเจียงอี้และเฉียนคุนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ คนจากจักรวรรดิมังกรเวหาเหล่านี้ทำอะไรกัน? เจียงอี้กลายเป็นทูตตรวจการไปตั้งแต่เมื่อใด?
ในขณะที่เขานึกถึงคำแนะนำในจดหมายของเฉียนว่านก้วน เจียงอี้พูดออกมาทันทีว่า "พวกเจ้าสองคนมาหาผิดคนแล้ว ข้าผู้นี้ไม่ใช่ทูตตรวจการของจักรวรรดิ!"
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวทั้งสองคนอายุไล่เลี่ยกัน ทั้งคู่แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมหรูหราและดูเหมือนพี่น้องที่มีหนวดยาวรูปร่างคล้ายตัวอักษรจีน 'แปด' ผู้ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้อาวุโสหลิงเชียงก็กำกำปั้นของเขาและตอบว่า "ใต้เท้าเจียง ผู้ต่ำต้อยผู้นี้คือผู้บัญชาการของจักรวรรดิที่ประจำการณ์อยู่ในอาณาจักรต้าเซี่ย ข้าน้อยได้รับข้อความนี้เมื่อหลายวันก่อนจากจักรวรรดิ องค์หญิงหลิงเสวี่ยได้ออกพระราชโองการให้มอบตำแหน่งแก่ใต้เท้าให้เป็นทูตตรวจการและลาดตระเวนในดินแดนต่างๆในนามของจักรพรรดิ!"
หลิงเจี้ยน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวอีกคนก็หยิบม้วนทองคำ ป้ายประจำตัวและตราประทับมังกรทอง ออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็นำเสนอด้วยความเคารพ "ใต้เท้าเจียง นี่คือพระราชโองการ ป้ายตราและตราประทับขุนนาง ท่านใต้เท้าได้โปรดตรวจสอบและรับมันไว้เถิดขอรับ!"
"องค์หญิงหลิงเสวี่ย!"
รูปร่างที่สวยงามปรากฏอยู่ในใจของเจียงอี้ องค์หญิงที่งดงามผู้นั้นต้องการอะไร? นางไม่ได้ถามเขาก่อนที่จะอนุมัติตำแหน่งให้เขาโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่ามันเป็นตำแหน่งสำคัญที่ลาดตระเวนดินแดนในนามของจักรพรรดิ
เจียงอี้ไม่ยอมรับพระราชโองการ ป้ายตราและตราประทับ ในขณะที่เขาลังเลและคิดถึงความตั้งใจที่แท้จริงขององค์หญิงหลิงเสวี่ย
หลิงเชียงและหลิงเจี้ยนวิตกกังวลเมื่อพวกเขาเห็นว่าเจียงอี้ยังเงียบอยู่และไม่ยอมรับคำสั่งของจักรพรรดิหรือตราประทับขุนนาง หลิงเชียงก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้และพูดว่า "ใต้เท้าเจียง องค์หญิงกล่าวว่าใต้เท้าไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อจักรวรรดิและจักรวรรดิจะไม่มีคำสั่งให้ใต้เท้าทำสิ่งใดตอบแทน ใต้เท้ามีอำนาจที่จะใช้ประโยชน์จากขุนนางทุกคนของตระกูลจักรพรรดิภายในอาณาจักรต้าเซี่ยนี้ ... เพื่อช่วยเหลือท่านในทุกสิ่งขอรับ!"
"อืม? ช่างเป็นข้อเสนอที่ดีจริงเชียว?"
คิ้วของเจียงอี้ยกขึ้นและเขาก็ตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่จำเป็นต้องแบกรับความรับผิดชอบใดๆ ไม่ต้องทำอะไรและไม่ต้องฟังพระราชโองการ? มันเป็นผลประโยชน์ฝ่ายเดียวและผลพลอยได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่มาจากจักรวรรดิ?
มีอะไรผิดปกติกับจักรวรรดิมังกรเวหาหรือเปล่าที่พวกเขาจะอนุญาตให้องค์หญิงหลิงเสวี่ยประทานตำแหน่งให้เขาโดยไม่ต้องเสียอะไรและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
"ลุกขึ้นก่อนแล้วรอข้าสักครู่ ข้าจะลองเก็บไปพิจารณา!"
เจียงอี้ส่งสัญญาณด้วยสายตาให้เฉียนคุน เมื่อทั้งคู่เข้าไปภายในห้อง เฉียนคุนเปิดใช้งานอาคมยับยั้งของห้อง จากนั้นเจียงอี้ก็ถามออกมาทันทีว่า "ตำแหน่งทูตตรวจการคืออะไร?"
เฉียนคุนคิดอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะอธิบายว่า "มันมีระดับชั้นหนึ่งและแม้แต่ราชาแห่งอาณาจักรต่างๆก็ต้องแสดงความเคารพต่อทูตตรวจการ แต่ตอนนี้จักรวรรดิมังกรเวหานั้นเป็นเพียงผู้ปกครองในนามเท่านั้น นายน้อยอี้เข้าใจใช่ไหม แม้ว่าองค์หญิงหลิงเสวี่ยจะไปเยี่ยมเหล่าอาณาจักรต่างๆ แต่บรรดากษัตริย์ทั้งหลายต่างก็จะไม่สนใจนางและอย่างมากที่สุดก็จะส่งองค์ชายหรือองค์หญิงให้มาดูแลนาง ดังนั้นตำแหน่งทูตตรวจการครั้งนี้ช่างเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างอึดอัดมาก ในนามของมันสามารถเป็นตัวแทนของจักรพรรดิในการลาดตระเวนในดินแดนต่างๆ แต่หากอาณาจักรต่างๆไม่ได้สนใจ มันก็ไม่มีค่าอะไรเลย ... "
"ไม่มีค่าอะไรเลยเหรอ?"
เจียงอี้เข้าใจทันที เมื่อเขาจำได้ว่าหลิงเชียงได้กล่าวว่า เขาสามารถใช้ประโยชน์จากขุนนางจากตระกูลจักรพรรดิในอาณาจักรต้าเซี่ยได้ เขาก็พบว่ามันน่าขบขันยิ่งขึ้น เขาเชื่อว่าในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน หลิงเชียงและหลิงเจี้ยนจะไม่ช่วยเขาและคงจะหนีไป
"เจ้าเล่ห์นัก!"
หลังจากเจียงอี้ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจความต้องการขององค์หญิงหลิงเสวี่ย
นางให้ตำแหน่งแก่เขาเพื่อสร้างความวุ่นวายในอาณาจักร ทำให้ความแข็งแกร่งและอิทธิพลของอาณาจักรต่างๆอ่อนแอลงและช่วยให้จักรวรรดิมังกรเวหาได้รับชื่อเสียง นางต้องการที่จะยั่วยุขุนนางและสังเกตปฏิกิริยาของพวกเขา! ถ้าสิ่งต่างๆดูท่าไม่ดี นางก็จะเขี่ยเขาออกไปเพราะองค์หญิงเป็นคนออกพระราชโองการนี้ ไม่ใช่จักรพรรดิ
"นายน้อยอี้ มีบางสิ่งที่ข้าไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่!" เฉียนคุนครุ่นคิดเกี่ยวกับมันและขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด
เจียงอี้โบกมือแล้วพูดโดยไม่ใส่ใจว่า "พูดมาเถอะ เรายังต้องเกรงใจอะไรกัน? ถ้าข้าไม่เชื่อใจเจ้า ข้าจะยังอยู่ที่นี่หรือ?"
"อื้อ!"
เฉียนคุนพยักหน้าและพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "นายน้อยอี้ ข้าคิดว่าท่านไม่ควรรับตำแหน่งผู้ตรวจการนี้ จักรวรรดิมังกรเวหาต้องการที่จะใช้ท่านเป็นเครื่องมือและหากสิ่งต่างๆไม่ถูกต้อง จนทำให้ทั้งหกอาณาจักรพากันโกรธเกรี้ยว เมื่อถึงตอนนั้น จักรวรรดิมังกรเวหาจะทอดทิ้งท่านอย่างไร้ความปราณี พูดก็พูดเถิด... ไม่ว่าผืนปฐพีนี้จะใหญ่โตเพียงใด มันก็จะไม่มีที่ใดที่ท่านสามารถอยู่ได้อีก"
"ฮ่าๆ!"
เจียงอี้แตะไปที่ไหล่เฉียนคุนเบาๆและยิ้มให้ "ข้าเข้าใจทุกอย่างที่เจ้าพูด แต่…ข้าจะรับตำแหน่งผู้ตรวจการนี้!"
ต่อต้านอาณาจักรทั้งหก?
ในเมื่อเขาได้รุกรานอาณาจักรทั้งสองแห่งไปแล้วและไม่มีที่ใดที่จะอยู่ได้ทั้งในอาณาจักรเสินหวู่และอาณาจักรต้าเซี่ย…มันจะมีปัญหาอะไรอีกในการรุกรานอีกสี่อาณาจักรที่เหลือ? เขาได้กระทำความผิดฐานกบฏและก่อให้เกิดความวุ่นวายในอาณาจักรเสินหวู่และอาณาจักรต้าเซี่ยไปแล้ว ทำไมเขาไม่ควรทำให้มันวุ่นวายมากกว่านี้?
หากจักรวรรดิมังกรเวหาต้องการใช้ประโยชน์จากเขา ทำไมเขาจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากจักรวรรดิมังกรเวหาได้?
ท้ายที่สุด ราชสำนักของจักรวรรดิยังคงมีความหมายในทวีปนี้ และอาณาจักรต้าเซี่ยคงจะกล้าแตะต้องเขาหากพวกนั้นต้องการตัดความสัมพันธ์กับจักรวรรดิมังกรเวหาอย่างสมบูรณ์!
มิฉะนั้น…การฆ่าทูตตรวจการก็เท่ากับการต่อต้านจักรวรรดิ!
ในตอนนี้อาณาจักรต้าเซี่ยกำลังอ่อนแอและไม่กล้าที่จะรุกรานอาณาจักรเสินหวู่หรือจักรสรรดิมังกรเวหา นั่นหมายความว่า…พวกเขาจะไม่กล้าฆ่าเจียงอี้!
ดังนั้นเจียงอี้จึงรีบออกไปหยิบพระราชโองการมาดู เขาชูมันขึ้นไปบนฟ้าและโค้งคำนับด้วยความพึงพอใจพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความซาบซึ้ง "ขอขอบคุณจักรวรรดิสำหรับสิ่งนี้ เจียงอี้จะพยายามอย่างเต็มที่!"
"ฮะ…"
หลิงเชียงและหลิงเจี้ยนต่างตกตะลึง แต่ก็มีความสุขอย่างรวดเร็ว องค์หญิงเสวี่ยมีคำสั่งให้พวกเขาโน้มน้ามเจียงอี้ด้วยทุกอย่างและให้ทุกสัญญาไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขใดๆ แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเจียงอี้จะยอมรับพระราชโองการนี้อย่างง่ายดาย
พวกเขาทั้งสองมองหน้ากันและคุกเข่าข้างหนึ่งอีกครั้ง "คารวะท่านใต้เท้าผู้ตรวจการเจียง!"
ในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ เจียงอี้ไม่ได้มีความหวาดกลัวใดๆบนเวทีและแสดงท่าทีด้วยมือของเขา “โปรดยืนขึ้นเถิด พวกท่านทั้งสองนับว่าเป็นรุ่นผู้อาวุโสของข้าและแข็งแกร่งกว่าผู้น้อยเจียงคนนี้มาก ข้าหวังว่าพวกท่านจะชี้แนะข้าในอนาคต!”
"เรามิกล้า เรามิกล้า!"
พวกเขาทั้งสองพูดเหมือนชายชาตรี ในขณะที่หลิงเชียงก็เกิดความคิดขึ้นและถามว่า "ท่านใต้เท้าผู้ตรวจการ อาณาจักรต้าเซี่ยได้รับหมายจับท่าน ให้ข้าน้อยผู้นี้ส่งเอกสารอย่างเป็นทางการไปยังราชวงศ์ของอาณาจักรต้าเซี่ยดีหรือไม่ขอรับ? บอกพวกเข้าเกี่ยวกับสถานะของท่านและขอให้พวกเขาเพิกถอนหมายจับไหมขอรับ?"
"สามารถเพิกถอนได้หรือ?"
ดวงตาของเจียงอี้สว่างขึ้น มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีในการเป็นอาชญากรและประพฤติตนเหมือนหนูข้างถนนซึ่งไม่สามารถทนเดินอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะได้ ไม่มีใครอยากใช้ชีวิตทั้งชีวิตในความมืดหรอก
"ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะขอรับ!"
หนวดของหลิงเชียงสั่นไปมาขณะที่เขาอธิบายว่า "ราชาแห่งอาณาจักรต้าเซี่ย ซูตี๋หวัง มีบุคลิกที่ค่อนข้างอ่อนแอหลังจากกองทัพของเขาที่มีจำนวนหลายแสนคนถูกกำราบโดยบิดาของท่าน ... เจียงเปี๋ยหลี เขาสูญเสียแรงใจไปอย่างสมบูรณ์ ถ้าเราส่งข้อความด้วยการเขียนที่ดุดันและโหดร้าย เขาอาจจะไม่กล้าที่จะต่อต้านจักรวรรดิอย่างเปิดเผย อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะไม่กล้าที่จะออกหมายจับเพื่อจับกุมใต้เท้าผู้ตรวจการต่อสาธารณชน"
นี่แหละผลประโยชน์!
มันเป็นไปตามที่เจียงอี้คาดและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าองค์หญิงหลิงเสวี่ยต้องการให้เขา…ปลุกปั่นให้มันฉิบหายและสร้างความปั่นป่วนระหว่างอาณาจักรต้าเซี่ยกับอาณาจักรเสินหวู่
ในเมื่อเขากำลังจะลงเล่น ...
เช่นนั้นเขาก็จะเล่นให้มันใหญ่กว่าเดิมไปเลย!
เจียงอี้เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่เขาจะหัวเราะและมองหลิงเชียงอย่างรวดเร็ว "ผู้บัญชาการหลิง โปรดนำเสื้อคลุมขุนนางมาให้ข้าและรวบรวมกองทัพขนาดใหญ่เพื่อรอคำสั่งจากนอกเมืองกำเนิดมังกร ข้าไม่ต้องการทหารชั้นสูงมาก ข้าแค่ต้องการความผ่าเผย! แม้ว่ามันเป็นเพียงพิธี เราก็ยังต้องเตรียมการและแสดงอิทธิพลของเรา!"
"นี่…"
หลิงเชียงและหลิงเจี้ยนเริ่มพากันหน้าเสียเนื่องจากพวกเขาไม่ทราบว่าเจียงอี้ขึ้นอยู่กับผู้ใด เนื่องจากเจียงอี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นทูตตรวจการ จึงไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งของเขาได้ทันทีใช่ไหม?
หลิงเชียงให้คำสั่งบางอย่างกับหลิงเจี้ยนเพื่อให้เขาไปจัดการบางอย่าง หลังจากนั้นหลิงเชียงก็พูดออกมาด้วยความสงสัยว่า "ใต้เท้าผู้ตรวจการเจียง ท่านวางแผนจะทำเช่นไรหรือ?"
"ข้าไม่ได้วางแผนอะไรเลย!"
เจียงอี้ยิ้มเยาะและพูดว่า "ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรเสินหวู่จะอภิเษกกับองค์หญิงแห่งอาณาจักรต้าเซี่ยหรอกเหรอ? ในเมื่อเป็นโอกาสที่มีครื้นเครง ใต้เท้าผู้ตรวจการณ์ผู้นี้ก็จะไปอวยพรเสียหน่อย ทูตตรวจการผู้นี้จะเดินทางไปเมืองเซี่ยยวี่บัดเดี๋ยวนี้!"
"ฮะ…"
หลิงเชียงและเฉียนคุนมองหน้ากันขณะที่สายตาหดลง หากดาวโชคร้ายอย่างเจียงอี้ต้องไปยังเมืองเซี่ยยวี่ เมืองนั้นอาจจะอยู่ในสภาวะที่ถูกก่อกวนและเกิดความโกลาหลขึ้นโดยสมบูรณ์