บทที่ 20 : รอให้แม่ของข้ามาถามท่านเอง (2/2)
บทที่ 20 : รอให้แม่ของข้ามาถามท่านเอง (2/2)
“พี่ใหญ่” เมื่อเดินออกมาจากบ้านของลุงกับป้าได้สักพักเหลียนเซ่อก็พูดกับเหลียนฟางโจว ด้วยน้ำเสียงโมโหเจือผิดหวังว่า “ข้าไม่คิดเลยว่าท่านลุงกับท่านป้าจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา!! ตอนที่ท่านพ่อท่านแม่ของพวกเรายังอยู่ พวกเขาก็มักจะมาหยิบฉวยเอาของที่บ้านของเราไปฟรีๆ เป็นประจำ!! แล้วพวกเขายังกล้าพูดคำเหล่านี้กับเราอีกหรือ? นี่พวกเขายังเป็นลุงกับป้าของพวกเราอยู่ไหม?”
เหลียนฝางโจวหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะพูดว่า “เจ้าก็เห็นแล้วนิ ว่าพวกเขามันโง่แล้วก็เห็นแก่ตัวแค่ไหน เพราะฉะนั้นเจ้าอย่าไปให้ค่าคนพรรคนั้นเลย”
“ว่าแต่ ท่านแม่มาเข้าฝันพี่ใหญ่จริงหรือ?” เหลียนเซ่อสงสัยจนอดที่จะถามออกไปไม่ได้ ก่อนเขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และพูดต่อว่า “ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริงแล้วยังไงล่ะ? ก็อย่างที่ข้าเคยบอกท่านนั้นแหล่ะ ยังไงท่านลุงกับท่านป้าก็คงไม่มีทางคืนข้าวให้พวกเราแน่!! แต่ไม่เป็นไร พี่ใหญ่อย่ากังวลใจไปเลยยังไงพวกเราก็ไม่อดตายแน่ ขอเพียงแค่ผ่านฤดูหนาวนี้ไปให้ได้ก่อนเท่านั้น และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวอีกครั้ง ข้าจะเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด แล้วก็จะไม่ยอมให้พวกเขาเข้ามาวุ่นวายกับข้าวของเราได้อีก!!”
“เหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งปี กว่าจะถึงฤดูการเก็บเกี่ยวรอบหน้า” เหลียนฟางโจวเหลือบตามองสีหน้าที่เศร้าสร้อย ของเหลียนเซ่อ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุนว่า “เอาล่ะ เจ้าทำใจให้สบายๆ เข้าไว้ ข้าว 1,000 ชั่ง ยังไงพวกเราก็ต้องได้กลับคืนมาแน่ แต่ตอนนี้เจ้าต้องทำตามที่พี่บอกก่อน!!”
เหลียนเซ่อมองเธอด้วยความสงสัยในขณะที่เธอก็ส่งยิ้มหวานตอบเขา ตอนนี้ในหัวของเธอมีแผนเด็ดๆ รอไว้อยู่แล้ว
............................................
เช้าตรู่ของวันถัดมาหลี่ดามู่ก็ขี่วัวเทียมเกวียนมาจอดที่หน้าบ้านครอบครัวเหลียน เพื่อมารับเหลียนเซ่อไปหาซื้ออิฐและกระเบื้องที่ร้านเครื่องปั้นดินเผาตามที่คุยกันเอาไว้
เนื่องด้วยว่าเช้ามากธนาคารก็เลยยังไม่เปิด ทำให้เงินที่ได้มาก็ยังไม่ทันได้ไปแลกดังนั้นเหลียนฟางโจวจึงคว้าเอากระเป๋าที่มีเงินเหรียญอยู่ประมาณ 200 - 300 อีแปะขึ้นมา หมายว่าจะเอาไปจ่ายเป็นค่ามัดจำไว้ก่อน
เหลียนฟางโจวเองก็ขอไปกับพวกเขาด้วย ก็ไหนๆชื่อเสียงของเธอก็ด่างพร้อยไปขนาดนี้แล้ว สู้เธอใช้โอกาสนี้ออกไปสำรวจภูมิทัศน์โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นดิน หรือพวกพืชพรรณต่างๆของที่นี่ ไม่ดีกว่าหรือ
เมื่อเธอไปแจ้งความประสงค์กับหลี่ดามู่ เขาก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
เหลียนฟางชิงเองเมื่อเห็นว่าพี่ชายกับพี่สาวจะออกไปข้างนอก นางก็คิดว่าพวกเขาจะพากันไปเที่ยว นางจึงรีบเตรียมตัวหวังว่าจะได้ตามออกไปด้วยอีกคน แต่เหลียนฟางโจวก็ไม่ได้อนุญาต เธอหันไปสั่งความเหลียนฟางชิงและเหลียนซีให้อยู่เฝ้าบ้าน และเมื่อเหลียนฟางชิงได้ยินแบบนั้น นางก็หน้าบึ้งพร้อมทั้งเบ้ปากเหมือนจะร้องไห้ทันที
เหลียนฟางโจวเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยทำท่าจะร้องไห้ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เธอก้มตัวลงจากนั้นก็ดึงเหลียนฟางชิงเข้ามากอดและกระซิบที่ข้างหูเบาๆว่า “อยู่บ้านกับพี่สามแล้วเป็นเด็กดีนะ พอตอนค่ำๆ พี่ใหญ่กลับมา จะทอดไข่ดาวให้เจ้ากินดีไหม?”
เหลียนฟางชิงถึงกับตาโตและเลียริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่เด็กน้อยจะส่ายหัวรัวๆและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า “ไม่ได้นะ! ไข่พวกนั้นเราต้องเก็บเอาไว้ขายขายแล้วเราถึงจะมีเงินซื้อข้าว”
เหลียนฟางโจวรู้สึกชาวาบไปทั้งหัวใจเมื่อได้ยินคำพูดของเด็กน้อย ก่อนเธอจะพูดกับเหลียนฟางชิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “พี่ใหญ่จะเป็นคนหาเงินมาเอง ไข่พวกนั้นเราไม่ต้องขายแล้ว จากนี้ไปเราจะเก็บไข่พวกนั้นไว้ให้ชิงเออร์กับซีเออร์กินบำรุงร่างกายนะ”
“จริงๆนะ” เหลียนฟางชิงยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนที่นางจะพูดต่อว่า “แต่พี่ใหญ่กับพี่รองก็ต้องกินด้วยนะ”
“ได้สิพวกเราทุกคนจะกินมันด้วยกัน” เหลียนฟางโจวพูดด้วยรอยยิ้ม
เหลียนฟางโจวกับเหลียนเซ่อนั้นนั่งอยู่ในเกวียน ในขณะที่หลี่ดามู่เป็นคนเทียมวัว ทั้งสามคนค่อยๆเดินทางไปที่ร้านเครื่องปั้นดินเผา
เมื่อออกมาพ้นหมู่บ้านต้าฟาง เหลียนฟางโจวก็เริ่มสังเกตเห็นวิวทิวทัศน์ชัดเจนขึ้น ทั้งสองฝากฝั่งของถนนส่วนใหญ่จะเป็นเนินเขาเตี้ยๆ ส่วนพื้นราบใกล้ๆเนินเขานั้นก็ปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม จากที่เธอมองดูคร่าวๆ พบว่าพืชพรรณส่วนใหญ่จะเป็นพวกซีดาร์, เฟอร์, ต้นสน, ต้นโอ๊ค, ต้นเมเปิล, ต้นการบูร และต้นไม้ชนิดอื่นๆที่พบเห็นได้ทั่วไปในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
ตรงส่วนที่เป็นพื้นที่ราบก็มักจะมีไร่นาของชาวบ้านอยู่ด้วย แต่ดินบนแปลงนาเหล่านั้นล้วนแต่แห้งแตกระแหงขาดความชุ่มชื้น ในขณะที่บางแปลงก็มีแต่ต้นกล้าของมันเทศแล้วก็เผือกที่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเหมือนพร้อมที่จะยืนต้นตายเรียบร้อยแล้ว
ที่แปลงไหนที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำหน่อยก็จะถูกใช้เป็นนาข้าว ซึ่งตอนนี้ได้ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว เหลือไว้ก็แต่ตอซังข้าวสีเหลืองอร่ามปกคลุมไปทั่วท้องทุ่งเท่านั้น
เหลียนฟางโจวไม่จำเป็นต้องเอ่ยถามเหลียนเซ่อ เพราะเห็นเพียงเท่านี้เธอก็สามารถเข้าใจได้เองทั้งหมดแล้ว
ติดตามข่าวสาร นิยายเรื่องนี้ได้ที่ทางเพจด้านล่างนี้นะคะ