บทที่ 17 ปกรณัมแห่งความริษยา
บทที่ 17 ปกรณัมแห่งความริษยา
“ไอ้หมาบ้า ไอ้หมาบ้า เอาแหวนชั้นคืนมา”
ริวตะร้องออกมาดิ้นรนพยายามต่อยเสือ และยังคิดว่าเสือตัวนี้เป็นหมา แต่ว่าก็ไม่สะทกสะท้านเสือเลยแม้แต่น้อย
เขาเจ็บปวด.. แหวนที่ครั้งหนึ่งเคยแลกกับชิซึกุ ชีวิตของเขาที่สดใสได้ก็เพราะเธอ หากไม่มีเธอเกรงว่าคงไม่มีเขาในจุดนี้
เขาคงไม่อาจทานทนได้ถึงจุดนี้.. ที่เขาไม่ยอมฆ่าตัวตายอาจจะเพราะหวังอยู่ก็ได้ว่า… เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความจริง
แต่เสือไม่มีความสงสารปากขนาดใหญ่มันอ้าอกกว้างจะงับใส่หัวริวตะ.. เขายิ้มออกมา “จบแล้วสินะ.. โลกอันเน่าเฟะมันจบแล้วสินะ”
“สำหรับโลกบัดซบแบบนี้.. ชั้นไม่ต้องการอะไรจากมันแล้ว….”
ริวตะที่ได้สติกลับมาในช่วงสุดท้ายของชีวิตพึมพำและทิ้งตัวใส่เสือ.. แต่ในตอนนั้นเอง.. ภาพของยูสะก็ปรากฏขึ้นในหัวของริวตะ
ก่อนจะเป็นภาพที่ชิซึกุถูกกระทำระบายความใคร่จนตาย…
“ไม่… ชั้นต้องการ…ชั้นต้องการ…”
“ชั้นต้องการที่จะพรากความอิสระของพวกมัน พรากเอาทุกสิ่งทุกอย่างของพวกมัน พรากเอา… เหมือนที่มันได้พรากเอาทุกๆ อย่างจากชั้น”
“ชั้นอิจฉา.. อิจฉาที่พวกมันมีอิสระ มีทางเลือก..มีทุกๆ อย่าง ในขณะที่ไม่ว่าชั้นจะทำอะไรก็ต้องตกเป็นผู้กระทำ”
“ใช่.. สิ่งที่ชั้นต้องการจากโลกใบนี้คือทุกสิ่งทุกอย่างของพวกมันทุกคน..”
“ชั้นอิจฉาโลก อิจฉาโชคชะตา อิจฉาทางเลือก อิจฉา.. มันคงถึงเวลาที่ชั้นจะตอบคืนแล้ว”
ในพริบตานั้นคือทุกสิ่งทุกอย่างแทบหยุดนิ่งกับที่ปากเสือที่กำลังจะกัดคอริวตะก็ขาดลมหายใจและร่วงลงพื้นทันที…
“ชั้นอิจฉาแกเช่นกัน..ที่สามารถเลือกที่จะกินชั้นได้.. แต่แกเองก็อิจฉาชั้นใช่ไหม.. ใช่ ชั้นสัมผัสได้เลยล่ะ ถึงความอิจฉาในการเป็นมนุษย์ของฉันจากแกน่ะ… และ..ทุกสิ่งทุกอย่างของแกก็ต้องเป็นของชั้น.. นั่นคือ..”
“ข้อแลกเปลี่ยน!”
ในตอนนั้นเองความสามารถทั้งหมดของเสือถูกส่งเข้ามาในร่างของริวตะ เร่งความเร็วกายภาพ
เหยียบเวหา, เขี้ยวทะลวง, ขนพิฆาต
“มาสิ… แกก็อิจฉาชั้นใช่ไหมล่ะ”
ในตอนนั้นเองวิญญาณของเสือที่ตายไปก็ลอยเข้าไปในร่างของริวตะ.. ใช่ หากเป็นก่อนหน้านี้เขาเองก็มองไม่เห็นและไม่ทราบ
แต่ตอนนี้เขาได้ตระหนักแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอะไร เมื่อตัวของเขามีมุมมองที่เปลี่ยนไป ดังนั้นสิ่งนี้จึงปรากฏขึ้น
ความสามารถที่แท้จริง.. บาปแห่งความริษยา.. อินวิเดีย!
ใช่… ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นเขาไม่ได้มีพลังในการกลายเป็นหญิงมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพียงแต่เขาแค่ไม่ตระหนักและยังไม่เหมาะสมกับคำว่า ‘บาป’
ดังนั้นจึงไม่อาจที่จะรับรู้ถึงความสามารถนี้ได้.. แต่ทว่าแม้จะไม่อาจสัมผัสถึงแต่ความสามารถที่เขามีก็ยังมีจึงทำให้เกิดผลที่เรียกว่า
“พันธนาการวิญญาณริษยา”
นั่นคือวิญญาณใดๆ ก็ตามที่ริษยาริวตะ จะถูกหน่วงพันธนาการไว้ในตัวริวตะไม่อาจกลับไปเกิดใหม่ได้
และผลที่ได้รับความทัณฑ์ทรมานจากวิญญาณเหล่านั้น วิญญาณที่เต็มไปด้วยความอิจฉาที่มีต่อริวตะที่สามารถฆ่าพวกมันได้
ดังนั้นมันจึงถูกพันธนาการ.. พันธนาการที่จำต้องเคียดแค้นทรมานริวตะไปอย่างไม่จบสิ้น.. และแน่นอนพวกมันเองก็ไม่ยอมให้ริวตะตาย
นั่นเพราะริวตะคือสิ่งที่พวกต้องมันทรมาน.. ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่พยามจะฆ่าริวตะวิญญาณเหล่านี้จะสังหารวิญญาณของสิ่งนั้นจนตายไปก่อน
ใช่แล้ว.. เหมือนที่ซาโต้คิดจะฆ่าริวตะ เขาจึงถูกวิญญาณพรากชีวิต แต่ตัวซาโต้นั้นไม่มีเงื่อนไขตรงตามที่ว่า ‘ริษยา’ เขามีเพียง ‘โลภะ’ ต่อริวตะ
จึงไม่ถูกหน่วงพันธนาการ ทว่าเสือตัวนี้มันอิจฉาริวตะจึงถูกหน่วงพันธนาการไว้.. และผลของความสามารถของบาปคือ ‘การช่วงชิง’
เมื่อมีสิ่งใดๆ อิจฉาริษยาต่อตัวริวตะ.. ต่อให้ไม่ตาย… ความสามารถมันริวตะก็จะมีด้วยเช่นกัน… และไม่ใช่เพียงแค่ความสามารถ
แต่รวมไปถึงนามธรรม วัตถุ ทุกๆ อย่าง เพียงแต่ว่าสิ่งเหล่านั้นต้องอิจฉาริษยาริวตะเสียก่อน
แน่นอนว่าที่ตัวริวตะกลายเป็นหญิงเพราะว่าริวตะอิจฉาตนเอง ตามทั่วไปเงื่อนไขคือ ‘ผู้อื่นริษยาตน’
แต่ริวตะ ‘ตนริษยาตน’ จึงเป็นเหมือนผู้อื่นอิจฉา แต่ก็ยังเป็นคนคนเดียวกันด้วยเหตุนี้ริวตะจึงกลายเป็นหญิง
ใช่.. แม้แต่เวทมนตร์รักษาของมาริ
แขนขาที่หักของริวตะพลิกกลับและกลายเป็นปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น.. และแขนของริวตะงอกออกมาด้วยความสามารถของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยฆ่า
ใบหน้าที่ถูกแผดเผาของเขาก็ถูกฟื้นคืนจนสู่สภาพปกติ.. หากแต่เมื่อลืมตาขึ้นดวงตาของเขาแทบจะเปล่งแสงสีเขียวออกมา
“เอาล่ะ..ถึงเวลา..ช่วงชิง…”
ลักษณะนิสัยของผู้คนที่ครอบครองพลังแห่งบาป.. มันจะถูกบิดเบือนจนสุดโต่ง โดยเฉพาะความริษยาที่เป็นการพัฒนาที่เหนือกว่าตะกละและโลภะขึ้นมา
ความต้องการช่วงชิงจากการริษยานั้นจึงสุดโต่งอย่างมาก แม้บอกว่าริวตะยังเป็นริวตะ แต่อารมณ์ความรู้สึก ‘ริษยา’ ของเขานั้นถูกดึงออกมาในระดับสูง
แต่อย่างไรก็ตามผลของพลังนี้จะนับว่าดีก็ดี แต่นับว่าเลวร้ายก็ใช่ เพราะว่าเมื่อรับมาด้วยพลังที่แข็งแกร่ง
แต่ทุกๆ คืนต้องทรมานจากทัณฑ์ความแค้นของวิญญาณ ของการถูกตัดหัว ระเบิดหัว เห็นคนที่ตัวเองรักตายซ้ำไป ซ้ำมา…
และนอกจากนี้เมื่อใช้ความสามารถจากการที่ช่วงชิงมาด้วยการใช้ความริษยาของศัตรู ผ่านไปสักพักมันจะเกิด….
ในตอนนั้นเองก็มีเข็มปรากฏออกมาจากเปลือกตารวมถึงด้ายก่อนที่ดวงตาจะถูกเย็บด้วยเข็ม
ใช่แล้ว บทลงโทษของผู้ที่ใช้ความริษยานั่นคือ ถูกเย็บตาอย่างทรมานแต่แน่นอนว่ามันมีเวลาหลังจากใช้เช่นกัน แต่ถึงแม้ถูกเย็บไปแล้วแต่ใช่ว่าจะใช้ความสามารถอื่นไม่ได้
เพียงแค่ใช้ความสามารถเดิมไม่ได้เท่านั้น และนอกจากนี้หากใช้ความสามารถอื่นเรื่อยๆ ความทรมานก็จะถูกทบขึ้นทีละ 2 เท่า
ใช่แล้ว.. แม้มันจะแข็งแกร่ง..แต่ก็เหมือนดาบเหล็กที่ร้อนพึ่งดึงออกจากเตานั่นแหละ สูญเสียการมองเห็นชั่วคราวกับรับความทรมานจากการถูกเย็บดวงตา
เพื่อใช้ความสามารถหนึ่งครั้งและครั้งที่สองจะถูกทับซ้อนความเจ็บปวดเป็น 2 เท่า จากนั้นเป็น 4 เท่า.. ทีละสองเท่าเรื่อยๆ
……………….
ห่างไกลออกไปภายในถ้ำหินมีหลุมลึกที่ไร้ที่สิ้นสุดอยู่เมื่อมองลงไปจนสุดหลุมก็เห็นหลุมศพหลุมหนึ่งวางอยู่
และมีรูปปั้นนั่งคุกเข่าก้มข้างหนึ่ง ก้มหน้าให้หลุมศพอย่างพักดี.. ในตอนนั้นเองหัวของรูปปั้นก็สั่นไหว
ก่อนที่รูปปั้นจะแตกร้าวและแตกออก พบว่ามีคนอยู่ข้างใน.. ไม่สิ..มีเขาสีดำทมิฬ ใช่..มันคือปีศาจที่แท้จริง
ดวงตาของมันส่องแสงสีม่วงออกมา ปีกสีดำพุ่งออกมาจากกลางหลังและขนเหมือนขนนกสีดำก็ร่วงออกมานิดหน่อย พร้อมกับเสียงแหบพร่าโบราณ
“ถึงเวลาแล้วสินะ.. นายท่านของข้า… ถึงเวลาที่……….”
เสียงที่ดังตามหลังถูกสายลมหวีดวิวที่พัดลงมาพัดจนไม่อาจได้ยิน…
……………
[จบภาคหนึ่ง : ปกรณัมทั้งมวล --- เอาล่ะ.. ผมให้ทุกคนเดากันครับว่า ต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่!]