ตอนที่แล้วบทที่ 13 ปกรณัมแห่งความทรมาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 ปกรณัมแห่งจิตใจ

บทที่ 14 ปกรณัมแห่งความบ้า


  

บทที่ 14 ปกรณัมแห่งความบ้า

“ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ…”

เสียงของริวตะดังขึ้นเหมือนคนขาดสติแม้ว่าจะหลุดออกมาจากห้วงความทรมานนั้น เขาก็เจอกับชิซึกุ

ชิซึกุหันหลังให้เขาและแม้เขาจะเรียกแต่ทว่าชิซึกุก็ไม่หันกลับมามอง เธอเดินเข้าไปในความมืดที่แทบจะไร้ที่สิ้นสุด

จนกระทั่งริวตะสะดุดหินล้มชิซึกุจึงหันหน้ากลับมา มองริวตะด้วยสายตาที่อ่อนโยนและรู้สึกผิด

“ขอโทษน---”

ก่อนที่จะได้พูดจบหัวของชิซึกุก็ระเบิด 'โพล๊ะ' ออกเหมือนกับแตงโมยัดไว้ด้วยประทัด ร่างกายริวตะสั่นไหว

“ไม่..ไม่…ไม่…ไม่ ชิซึกุ…. สึกุ!”

เขาร้องออกมาจนกระทั่งสะดุ้งตื่น… แต่ว่าเขาไม่ได้อยู่เฉยๆ เพราะครั้งนี้ต่างออกไปชิซึกุนั้นได้เข้าสู่การมอบพลังซึ่งเป็นการทดลอง

เขารีบลุกขึ้นและวิ่งไปห้องชิซึกุ

“ชิซึกุ!”

แต่พอเปิดเข้าไปก็เจอเพียงความว่างเปล่า… ซึ่งในเวลานี้ชิซึกุได้เข้าร่วมการทดลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

…….

ริวตะไม่สามารถทำอะไรได้ แม้จะพยายามถามคนในอาณาจักรแห่งนี้ แต่ไม่มีคนรู้จักสักคน

เมื่อชิซึกุหายไปและนักเรียนบางคนหายไปหลายวันเข้า ก็มีทางอาณาจักรออกมาประกาศเองว่าคนเหล่านั้นได้ไปทำธุระให้ทางอาณาจักร

วันเวลาผ่านไปราวกับน้ำไหลจิตใจริวตะเริ่มแตกสลายไปทีละนิดทีละหน่อย ยิ่งใช้เวลานานยิ่งมีโอกาสรอดยาก

และในตอนนั้นเองก็เริ่มมีคนกลับมา เริ่มจากมาริ.. ตามด้วยคนอื่นๆ .. และรวมถึงฟุวะ

ทว่าแม้เวลาจะผ่านไป ชิซึกุก็ไม่ยอมกลับมาริวตะที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากความฝัน กับการที่เห็นชิซึกุตายต่อหน้านับครั้งไม่ถ้วน

จึงคิดดีไม่ได้เลยว่าทำไมชิซึกุไม่ยอมกลับมา ทำให้ริวตะเป็นเหมือนคนบ้าขาดสติที่ร้องหาแต่ชิซึกุ นอกจากจิตใจร่างกายยังถูกทำร้าย

ร่างกายถูกทำร้ายด้วยคนอื่นๆ .. ในวันหนึ่งและในอีกไม่กี่วันข้างหน้าพวกเขาต้องเดินทางไปยังโรงเรียนแล้ว

ริวตะถูกฟุวะเรียกออกไปหลังจากที่มีนกลับมา มันก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับริวตะไปพักใหญ่เพราะใช้เวลาในการควบคุมพลัง

ริวตะยืนตาค้างอยู่ในห้องของมัน สายตาของเขาไร้ซึ่งแสงแห่งชีวิตใดๆ ก่อนที่จะถูกฟุวะต่อย

“ตุบ ตุบ ตุบ”

แต่ว่าริวตะเหมือนตุ๊กตาที่มีชีวิตเขาโดนต่อยจนท้องม่วงคล้ำ หน้าคล้ำบวมปูด ฟันร่วงแต่ก็ยังไร้ซึ่งความทรมาน

“ชิ แกนี่มันน่าเบื่อเป็นบ้าเลยว่ะ!”

ว่าแล้วฟุวะก็เตะใส่ริวตะจนกระเด็นอัดผนัง ก่อนที่ร่างกายจะทรุดลงกับพื้นคอตกเหมือนไม่มีชีวิตชีวา

“อ๊ะ จริงสิ แกมีอารมณ์กับมันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ยัยชิซึกุไม่อยู่แล้วจัดการเลยสิ”

ในตอนนั้นฟุวะเองก็พูดกับสมุนคนหนึ่ง แน่นอนมันคือคนที่เคยคิดจะข่มขืนริวตะในตอนแรก

“นอกจากมันจะไม่มีคนมาช่วยแล้ว ยังไม่ขัดขืนเลยพนันได้เลยว่าแกได้เป็นคนแรกของมัน ฮ่าๆ”

“นั่นสิวะ จัดการเลย จัดการเลย จัดการเลย”

เสียงคนอื่นๆ ในห้องสนับสนุน ชายคนนั้นมันเลยรู้สึกอับอายเกาแก้มหน่อยๆ แล้วพูดออกมา

“ไอ้พวกบ้า ใครจะไปมีอารมณ์กับคนหน้าตาอุบาทว์แบบนี้ฟะ อีกอย่างฟุวะ นายเตะจนมันเละไปหมดแล้วถึงจะทำไปก็ไม่สนุกหรอก!”

“ก็จริงว่ะ ฮ่าๆๆ”

“ฮ่าๆ”

ริวตะในตอนนี้ไม่น่าดูมาก ใบหน้าฟกช้ำ แม้แต่เสื้อผ้ายังปกปิดร่างกายไม่มิดชิด ซึ่งภายใต้ร่างกายนั้นมีรอยแผลและรอยช้ำมากมาย

รอยแผลเป็นเหล่านี้เขาถูกผู้หญิงใช้มีกรีด ในขณะที่รอยฟกช้ำถูกผู้ชายเตะต่อย ในขณะที่ตัวเองต่อต้านขัดขืนไม่ได้เลย

และในตอนนั้นเองฟุวะก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงพูดออกมา

“พูดถึงยัยชิซึกุ แล้วชั้นคิดถึงเรือนร่างยัยนั่นจริงว่ะ”

“ห๊ะ มันเกิดอะไรขึ้น?”

และคนอื่นๆ ที่สนใจ ในขณะที่นัยน์ตาริวตะก็มีประกายแสงขึ้นมา ฟุวะมันก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ตอนชั้นมอบพลังแต่ยัยนั่นมอบพลังไม่สำเร็จ ชั้นเลยฉวยโอกาสเอาคืนแล้วข่มขืนมัน แถมได้ครั้งแรกของมันมาด้วยว่ะ”

“โอ้วววว พูดจริงดิ.. ห๊า พูดจริงอ่ะ!”

ไหล่ของริวตะสั่นทันที แน่นอนว่าฟุวะเองก็สังเกตได้เขาจึงนิ้มชั่วร้ายออกมาก่อนจะสาธยายออกมา

“พวกแกไม่รู้หรอก หลังจากที่ทดลองไม่สำเร็จยัยนั่นก็กลายเป็นผัก แต่พอโดนชั้นข่มขืนเลยน้ำตาไหล แต่สีหน้ายังนิ่งเหมือนเดิม โคตรตลกเลยว่ะ!”

“เอาจริงดิ นายเจ๋งเป็นบ้าเลยว่ะเพื่อน!”

“ปราบม้าพยศอย่างชิซึกุ สมกับเป็นนายว่ะ ฮ่าๆ”

“อ้อ จริงสิชั้นมีรูปด้วยนะ”

ฟุวะยิ้มออกมา เอาโทรศัพท์ออกมา เขาพกแบตสำรองที่ชาติพลังงานจากแสงอาทิตย์มาด้วยเลยมีแบตใช้เหลือเฟือ

ก่อนที่จะเปิดรูปภาพขึ้นทำให้ทุกคนเห็นภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือ

“ว้าว นี่ฝีมือนายคนเดียวเหรอ?”

“อย่าพูดบ้าๆ นอกจากชั้นยังมีองค์ชายมาเล่นสนุกด้วย พร้อมกับทหารหลายคน จนยัยนั่นตายทั้งเป็นเลยล่ะ โดนข่มขืนจนหยุดหายใจอ่ะ ฮ่าๆ!”

ฟุวะพูดอย่างสะใจก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ให้ริวตะดู

“นายอยากดูด้วยไหม..”

สายตาริวตะเลื่อนไปให้ชิซึกุที่นอนเปลือยกายอยู่บนพื้นหินในขณะที่ตามีน้ำตาไหลออกมาแต่ร่างกายทั้งท่อนบนท่อนล่าง

เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำขุ่นสีขาว…..

“แล้วก็นะ ก่อนที่ยัยนั่นจะตายยังดิ้นรนเฮือกสุดท้ายแล้วพูดว่า.. ‘ริตคุง.. ขอโทษนะ’ ด้วยล่ะ ให้เดานั่นคงหมายถึงนายใช่ไหม ฮ่าๆ ถึงจะตายแต่ยังคิดถึงนายชั้นชื่นชมจริงๆ”

“….อ๊ะ.. อ๊า.. อ๊า… อ๊า…..”

ริวตะส่งเสียงออกเปิดปากออกพยายามจะร้อง แต่เสียงไม่ถูกส่งออกมา ‘ตาย… ชิซึกุ..ตายไปแล้ว… ชิซึกุ… ชิซึกุ…ชั้น…ชั้นยังไม่ได้ตอบกลับความรู้สึกเธอเลยไม่ใช่รึไง… ทำไม…ทำไม….’

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขา ปากเปิดกว้างเสียงที่พยายามส่งออกมาแต่ไม่อาจรอดออกจากไปได้

เจ็บปวด.. ทรมาน.. โศกเศร้า.. สิ้นหวัง.. และ..หวาดกลัว

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

ริวตะร้องออกมาด้วยความกลัวภาพทุกอย่างเบื้องหน้าเปลี่ยนไปจนหมด.. ทุกๆ อย่างหายไปมีเพียงปีศาจ

มีเพียงปีศาจสองเขาตาแดงก่ำ ด้วยความน่ากลัวยืนรายล้อมริวตะ… “ปะ..ปีศาจ.. อ๊ากกก!”

เขาร้องออกมาแล้ววิ่งออกจากห้องไป.. ที่ไหน.. ไม่ว่าที่ไหนก็เต็มไปด้วยรอยขีดขวดเต็มผนัง เหมือนมีการต่อสู้ทำให้ริวตะหวาดกลัว

ทั้งยังได้กลิ่นเลือด ไม่สิ.. เขาได้รับกลิ่นเลือดจากที่ไกลต่างหากทำให้หวาดกลัว..

“ใครก็ได้…ใครก็ได้..ช่วยชั้นที..”

จนกระทั่งวิ่งไปชนอิจิโนะ

“โอ้ย…”

“อ๊ากกกกก ปีศาจ!”

ริวตะร้องออกมาเมื่อเห็นหน้าของอิจิโนะรีบถอยห่างทันที อิจิโนะจึงคิ้วกระตุกจากการที่ถูกเรียกว่าปีศาจหลังจากถูกมองหน้า

“หึ..ได้ยินว่ายัยชิซึกุสารเลวนั่นตายไปแล้วนี่ เห็นหลายวันมานี่ชั้นไม่ยุ่งเกี่ยวกับนาย คิดว่าชั้นจะปล่อยนายไปแล้วเหรอ”

“อย่าเขามา.. อย่าเข้ามานะ.. อย่าเข้ามายัยปีศาจ…!”

“คำก็ปีศาจ สองคำก็ปีศาจ… ได้ๆ .. ชั้นจะทำให้แกเป็นปีศาจยิ่งกว่าชั้นเอง!”

อิจิโนะหัวเราะออกมาแล้วเสกไฟขึ้นมาในมือ ก่อนจะตบมันใส่หน้าของริวตะจนไฟนั้นแผดเผาใบหน้าของชิซึกุ…

........

[คำเตือน : มันส่งผลกระทบต่อจิตอย่างมาก #เตือนแล้วนะ]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด