ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
~♪♫♬♪♫♬♪♫~
~♬♪♫♬~
~♪♫♬~
ติ้ง!
[สำเร็จภารกิจพิเศษ : เล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อนำเงินไปบริจาคบ้านเด็กกำพร้า
ได้รับ : ปลดล็อคแถบค่าชื่อเสียง ,ค่าชื่อเสียง +100 , ปลดล็อคแถบค่าเสนห์ ,เสนห์ + 100, หมุนวงล้อ 1 ครั้ง]
เห้ออ.. เล่นไวโอลินติดต่อกัน 3 ชั่วโมงมันเหนื่อยมากนะ! ผมตอนนี้เหมือนคนอาบน้ำใหม่ๆอะคิดดู เหงื่อชุ่มไปหมด
ไหนดูสิว่าได้กี่บาท ..ผมเอื้อมมือไปหยิบเงินในกล่องไวโอลินที่ผมนำมาตั้งรับบริจาค .. 1 2 3.. 7..8 พัน !! ได้ขนาดนี้เชียวหรอนี่แค่ตลาดนัดเล็กๆเองนะ
ผมเอาเงินเก็บใส่กระเป๋าแล้วเก็บไวโอลินเตรียมที่จะกลับบ้าน ผมจะได้พักผ่อนเสียที วันนี้ทำอะไรเยอะไปหมดด ปวดหัวจริง!
หมับ!
“เดี๋ยวครับคุณ!” มีผู้ชายคนนึงอยู่ดีๆก็ดึงมือผมไว้
“ครับ?” มันหันไปถามเขาแล้วมองมือที่มาจับข้อมือผม เหมือนเขาเพิ่งจะรู้ตัวก็รีบชักมือกลับทันที
“เอ้ย ผมขอโทษครับ! ผมชื่อ กราฟครับ” เค้าโค้งให้ผมแทนคำโทษ
“เอออ.. นันครับ”
“อันนี้นามบัตรผม” กราฟยื่นนามบัตรให้ผม “ผมฟังคุณเล่นไวโอลินมาสักพักใหญ่ๆ คุณสนใจมาเล่นดนตรีให้กับเพลงของผมไหมครับ?”
“เออ ..อะไรนะครับ?”
“อ้อ! ผมเป็นนักร้องน่ะครับ ตอนนี้ผมมีเพลงที่แต่งเสร็จแล้วเหลือแต่ดนตรีที่ยังไม่ได้อัด บังเอิญผมเห็นคุณแล้วผมสนใจคุณมาก! คุณสะดวกไหมที่จะมาเล่นไวไอลินให้ผมไหมครับ?” คืออ เขาจะให้ผมไปเล่นดนตรีประกอบให้สินะ น่าสนใจเหมือนกัน
“อ่อ.. ก็ได้นะครับ เมื่อไหร่ครับ? ช่วงนี้ผมไม่ค่อยจะว่างสักเท่าไหร่” ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเตรียมตัวจะสอบผมไม่ค่อยอยากจะออกบ้านสักเท่าไหร่ อยากเป็นหมอนะครับ! ต้องอ่านหนังสือเยอะๆ เผื่อเกิดสอบแล้วลืมขึ้นมาทำไง ความจำดีแค่ไหนก็อย่าพลาดแม้จุดเล็กๆเท่าจุลินทีย์
“ไม่เป็นไรครับๆ ว่างเมื่อไหร่โทรหาผมได้โดยตรงตามนามบัตรที่ให้ไปเลยนะครับ” กราฟโบกมือเชิงไม่เป็นไร
“ครับ งั้นผมไปแล้วนะครับ” ผมยิ้มให้เขาแล้วเดินออกมาทันที
เล่นดนตรีประกอบงั้นสินะ น่าสนใจ..ชีวิตใหม่นี่มีแต่เรื่องท้าทายทั้งนั้นจริงๆ
ระหว่างเดินกลับบ้าน รอบนี้ผมไม่นั่งแท็กซี่กลับเพราะตลาดนัดอยู่ใกล้บ้านมากๆ ระหว่างนี้ผมควรที่จะจัดการเรื่องที่ทำค้างไว้สินะ
“คราวด์ หักเงินจากบัญชีผม 8000 บาท บริจาคบ้านเด็กกำพร้าที่ไม่ค่อยได้รับการดูแลทีแล้วก็แจ้งไม่ประสงค์ออกนามให้ผมด้วย” ผมพูดสั่งการคราวด์
‘ยินดี นายท่าน’
.
.
.
2 วันต่อมา
‘นายท่านครับ’ เสียงของคราวด์เรียกผมที่กำลังนั่งอ่านข้อมูลการสอบไปเรื่อยๆ ตอนนี้น่าจะรอบที่ 7 แล้วที่ผมอ่านซ้ำไปซ้ำมา
“ว่าไงคราวด์” ผมทักตอบแต่ตาก็ยังมองข้อมูลอยู่ดี
‘เงินปันผมหุ้นที่เหลือออกมาแล้วครับ’
หืมม.. ลืมไปเลยแหะ ได้เท่าไหร่ล่ะ
“ได้เท่าไหร่คราวด์” ผมถามกับไปทันทีอย่างตื่นเต้น
‘65ล้าน...’
“ทำไมน้อยจังคราวด์?” ผมถามกลับไปทันทีหรือรอบนี้ดวงผมมันมันไม่ได้ผลกันนะ
‘ผมยังพูดไม่จบครับ 65 ล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ ครับนายท่าน’
ดอลล่าห์… ส..หรัฐฯ ตีเป็นเงินไทย...หน่วย สิบ ร้อย พัน… ล้าน…
“ห้าาาาาาาา!!! ทำไมมันเยอะงั้นละคราวด์!!”
‘นายท่านใช้เงินไปกว่า 90% เพื่อลงหุ้นตัวนี้ครับ’
ผมยังยืนช็อกอยู่..มันเยอะมากจนเกินไปกับเด็กอายุ 18 ปีหรือเปล่านะจะโดนมาตรวจสอบอะไรหรือเปล่า..
เห้อออช่างมันเถอะ เราก็ไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อยนี่นา มันคงถึงเวลาที่ผมจะให้เงินพ่อกับแม่แล้วสินะ
ผมปิดจอโฮโลแกรมแล้วเดินลงไปข้างล่าง วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านแต่ก็ใกล้จะเวลาเลิกงานแล้วละนะ แม่ผมทำงานร้านอาหาร พ่อผมทำงานบริษัทธรรมดากับน้องสาวที่ไปเรียนอยู่ น้องผมอายุ 15 เรียนอยู่ม.3 ครับ
“คราวด์ ติดต่อคุณคิมให้หน่อยว่าผมจะเข้าไปที่ธนาคาร” คุณคิมที่เป็นนายธนาคารที่เรากำลังทำธุรกิจกันอยู่ครับ ช่วง 2 วันที่ผ่านมาผมได้ไปดูที่ดินที่ผมซื้อมาเรียบร้อยแล้ว และเซ็นสัญญาก่อสร้างเรียบร้อยตอนนี้กำลังเริ่มทำการก่อสร้างอยู่
แล้วก็ผมหมุนวงล้อรางวัลจากภารกิจพิเศษแล้วด้วย รู้ไหมรอบนี้ผมได้อะไร! ผมไม่ได้อะไรเลยสินะ โอ้โห แต่ผมคิดว่าดวงของระบบมันใช้ไม่ได้กับระบบวงล้อหรือเปล่า? มั้ง?
‘ครับ นายท่าน’
ผมนั่งแท๊กซี่มาธนาคารเรียบร้อย เดินเข้าไปก็เจอคุณคิมที่ยืนรออยู่แล้ว
“สวัสดีคุณนัน วันนี้มีอะไรให้ผมรับใช้” คุณคิ้มโค้งให้ผม และยิ้มอ่อนๆดันแว่นขึ้นเล่นน้อย
“ผมมาเปิดบัญชีใหม่ 3 บัญชีครับ อ้อ! แล้วก็เอาบัตรด้วยนะครับ” ผมตอบความต้องการของผมให้คุณคิมฟัง
“ได้ทันทีครับ คุณนันจะเอาเงินฝากบัญชีละกี่บาทครับ”
ผมบอกออกไปตามด้วยสีหน้าตะลึงของคุณคิมพักสัก แต่แค่แปปเดียวเท่านั้นก็ปรับสีหน้ามาเป็นเหมือนเดิม สมเป็นมืออาชีพจริงๆ
“ยินดีครับ”
ผมนั่งรอคุณคิมจัดการอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ ผมขอบคุณนายคิมเสร็จแล้วเตรียมตัวที่จะกลับบ้านตอนนี้เวลา 5 โมงแล้วทุกคนน่าจะกลับมากันแล้ว
.
.
เมื่อผมมาถึงบ้านก็เปิดประตูเข้าไปในบ้าน เจอพ่อที่นั่งดูทีวีอยู่กับน้องสาวของผม
“พี่นัน กลับมาแล้วหรอคะ ไปไหนมาเอ่ย” น้องสาวของผมวิ่งเข้ามากอด ช่วงนี้ติดผมแจเลยเพราะผมปิดเทอมเลยมีเวลาอยู่กับน้องเยอะ
“พี่ไปทำธุระมาค่ะ” ผมชอบพูดคะ ค่ะกับน้องนะ ผมคิดว่ามันน่ารักดี
“มาพอดีเลย อาหารเสร็จแล้วลูกมาทานกันได้แล้ว”
“ครับ/ค่า” เสียงตอบรับอย่างพร้อมเพียง
ระหว่างทานอาหารกันพร้อมหน้าผมก็คิดว่ามันถึงเวลาที่ผมจะมอบของขวัญให้ครอบครัวขของผมสักที
“พ่อครับ แม่ครับ”
“ว่าไงลูก” แม่กับพ่อตอบอย่างพร้อมเพียง ทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแต่เหมือนไม่ได้สงสัยมากมาย
“ถ้าผมอยากให้แม่กับพ่อออกจากงาน แม่กับพ่อจะออกมาไหมครับ?” ผมถามออกไป
“ถ้าออกจากงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนละลูก” พ่อตอบ
“ใช่จ้ะ” แม่ตอบ
ผมยื่นสมุดบัญชีกับบัตรเดบิตให้พ่อกับแม่คนละเล่ม
“อะไรเนี่ยลูก” แม่กับพ่อมองแล้วหยิบขึ้นมาเปิดดู
“ผมให้ครับ ในนั้นมีเงินอยู่คนละ 10 ล้านบาท ผมจะโอนให้พ่อกับแม่ทุกเดือน เดือนละ 10 ล้าน แล้วก็ผมซื้อที่ดินเปิดร้านดอกไม้ที่แม่อยากจะเปิดให้แล้วนะครับ ผมทำเป็นกึ่งคาเฟ่ ที่นั่นผมสร้างที่อยู่ไว้ด้วยเดี๋ยวเราจะย้ายไปอยู่ที่นั้นกันนะครับ แม่กับพ่อลาออกจากงานได้เลย” ผมพูดรัวออกเป็นชุดตอนนี้พ่อกับแม่เงียบมากเงียบจนผมงงว่าเป็นอะไรกันหรือเปล่า หรือว่าช็อกไปแล้ว
“เอออ แม่ครับ.. พ่อครับ เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ลูกไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหน?” พ่อผมถามขึ้นมา สีหน้ากังวลเล็กน้อย
“ผมเล่นหุ้นนะครับที่จริงผมมีเงินมากกว่านั้น แต่ไม่ใช่ผมงกหรือว่าไม่ให้ครอบครัวอะไรนะครับ ผมอยากให้ทุกคนประหยัดด้วยแหละ อยู่ดีๆ เรามีเงินมากมายมันไม่ใช่เรื่องดีอะไร ผมเลยจำกัดวงเงินไว้ให้ใช้ในแต่ละเดือน แต่ถ้าอยากซื้ออะไรที่มันเกินแล้วมันจำเป็นที่ต้องจะใช้ พ่อกับแม่มาเบิกที่ผมได้เลย”
“ฮึก..” แม่ผมร้องไห้แล้วลุกขึ้นมากอดผม ความเปียกชื้นที่ไหล่ของผมทำให้ผมอยากจะร้องให้บ้างเหมือนกัน
“ขอบคุณนะลูก..” เสียงของแม่สั่นๆ ปนสะอื้น
“ครับ” ผมยิ้มให้พ่อกับแม่ ผมหันไปหาน้องสาวของผมที่ตอนนี้น้ำตาคลออยู่
“น้ำ มาหาพี่นี่มา” ผมเรียกน้องให้มาหาผม น้องเดินมาหาผมใกล้ๆผมกอดน้องสักพัก แล้วยื่นสมุดบัญชีอีกเล่มให้น้อง
“อันนี้ของน้อง พี่ให้เงินเดือนละ 15,000 บาทนะคะ เท่ากับเงินเดือนขั้นต่ำของพนักงานทั่วไป พี่จำกัดวงเงินให้พี่อยากให้น้องประหยัดนะคะ ^^”
“ฮึก.. ขอบคุณค่ะพี่” น้องผมโผเข้ามากอดแน่นกว่าเดิม
เรากอดกันอยู่สักพัก ก็ผละออกจากกัน
“ทานข้าวกันต่อดีกว่านะครับ” พวกเราทานข้าวกันสักพัก ทานเสร็จก็มานั่งกันอยู่ที่หน้าทีวี
“พ่อกับแม่อย่าลืมออกจากงานนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเอารายละเอียดของร้านที่เราจะเปิดกันมาให้ ผมคงให้พ่อกับแม่จัดการได้เลยเพราะช่วงนี้ผมเตรียมตัวสอบ”
“ได้สิ เดี๋ยวพ่อจัดการให้ ลูกไปอ่านหนังสือเถอะ ^^” พ่อผมยิ้มให้แล้วลูบหััวผมไปด้วย
“ง้นผมไปอ่านหนังสือต่อละนะครับ”
“จ้า” แม่ตอบ
เห้อออวันยุ่งๆ ก็หมดไปอีกวัน
สถานีต่อไปสอบ สอบ สอบ !!!
.......