บทที่15 ถ้าเราชนะ ก็หมดหนี้แล้ว
บทที่15 ถ้าเราชนะ ก็หมดหนี้แล้ว
ทุกการแข่งขันในเมืองนี้นั้นมีการเดิมพัน
และในการแข่งขันใหญ่ๆจะมีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมหาศาลตลอดเวลา
“ตอนนี้ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีเงินเดิมพันที่ลงไว้สำหรับการแข่งขันของกิลด์ระดับท็อปเก่าและกิลด์ระดับท็อปใหม่เยอะเลยล่ะ”
ในห้องรับรองก่อนการแข่ง ลิเลียพูดออกมาด้วยความกังวล
ดูเหมือนว่าเงินเดิมพันที่จะได้นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงเดิมพันไป
แต่ว่ามันยังห่างจากเงินที่จ่ายหนี้อยู่เยอะเลย
“แต่ว่าอัตราส่วนของกิลด์เราเป็น20กว่าเท่า เพราะว่าไม่มีคนคิดว่าจะชนะล่ะนะ... นั่นทำให้ถ้าเราชนะการแข่งขันคราวนี้ ก็หมดหนี้แล้วล่ะ!”
ดูเหมือนว่าผู้ลงแข่งสามารถที่จะพนันข้างตัวเองได้ และลิเลียก็เหมือนจะลงข้างเขี้ยวมังกรเป็นจำนวนมหาศาลเลย
ถ้าเราแพ้ กิลด์ก็จะพังทลาย
นี่คงจะเป็นศึกครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายล่ะนะ
“ตายจริง กินใจจริงๆเลย เด็กสาวที่พยายามแทบเป็นแทบตายเพื่อปกป้องกิลด์ของพ่อของเธอ น่าประทับใจ น่าประทับใจจริงๆ”
มีเสียงดังออกมาจากหน้าประตู
เมื่อผมมองไป มีลุงคนหนึ่งที่หน้าตาดูเหมือนตั๊กแตนตำข้าวยืนอยู่
ผอมสูง หัวยุ่ง
เขายิ้มเยาะ ด้วยดวงตาอันแหลมคมดังสัตว์ป่า
“โกแร็ง...!”
“ฉันได้ยินมาว่าเธอเอาคนไร้อาชีพมาเป็นสมาชิกสินะ แย่หน่อยน้า พอดีฉันเป็นคนจัดการผู้เข้าแข่งขันล่ะนะ”
เขาเหลือบมามองผม
“ลิเลีย คนรู้จักเหรอ”
“...ไม่ ไม่อยากจะรู้จักด้วยซ้ำ นั่นคือหัวหน้ากิลด์ดาบทมิฬ”
อาฮะ
ไม่คิดว่าฟังผิดหรอก แสดงว่าหมอนี่คือหัวหน้าของกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองสินะ
ลิเลียจ้องใส่เขาไม่กระพริบ
“โอ๊ะโอ๋ ไม่ต้องมองกันด้วยสายตาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่านะ ต้องขอบใจฉันล่ะ เธอได้รับโอกาสสุดท้าย แน่นอนว่าเธอเข้าใจดี มันไม่มีทางที่กิลด์อันตกต่ำของเธอจะสู้กับกิลด์ของฉันได้”
ความแตกต่างระหว่างกิลด์ระดับท็อปเก่าและใหม่นั้นช่างชัดเจน
ตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นการแข่งขันสนุกดี แต่ดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์อื่นสำหรับคนๆนี้
“ฉันไม่อยากแพ้ให้กับกิลด์คู่แข่งอย่างเป็นทางการของฉันหรอกนะ ฉันอยากจะทำอะไรซักหน่อย”
ไม่น่าใช่เรื่องที่ดี
ถ้าคุณเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคนๆนี้ คุณจะเข้าใจ ขนาดผมที่พึ่งเจอเขาครั้งแรกยังเข้าใจเลย
คนชนิดที่ชอบทำลายผู้อ่อนแอกว่า
"..."
“แต่ช่างเถอะ เธอจะจ่ายหนี้ได้รึเปล่าก็ไม่สำคัญ อ้อใช่ เพื่อความแน่ใจ ถ้าเธอจ่ายหนี้ไม่ได้และกลายเป็นทาสล่ะก็ ฉันจะซื้อเธอไปเองนะ”
“....”
◇ ◈ ◇
ด้วยสายตาที่จ้องมองมา ลิเลียกอดร่างของตน
“ไม่มีทางย่ะ ขอโทษละกัน”
“หึๆๆๆๆๆๆๆ”
หลังจากที่เธอปฏิเสธด้วยความรังเกียจ ชายคนนั้นก็หันหลังกลับไป
“แต่ว่าฉันไม่ประมาทหรอกนะ ไม่เหมือนกับใครซักคนที่เสียแขนตัวเองไป น่าเศร้าจริงๆ”
เขาทิ้งคำพูดไว้และเดินจากไป
เมื่อได้ยินคำนั้น ลิเลียก็หันกลับไปทองที่เขา
“อะไรของแก...! พอพ่อของฉันเป็นแบบนั้นไป แกเลยกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองนี้ พอใจรึยังล่ะ!”
[เอาล่ะ งานหลักของวันนี้จะเริ่มแล้วนะครับ “ดาบทมิฬ” เจอกับ “เขี้ยวมังกร”!!]
เสียงดังกระหึ่มไปทั่วห้องโถง
ด้วยสายตาที่จับจ้องของคนจำนวนมาก พวกเราเดินเข้าไปในสนาม
มีสนามทรงสี่เหลี่ยมตั้งอยู่ และการประลองจะเริ่มต้นที่นั่น
“เฮ้ ดูนั่นสิ! พวกเขี้ยวมังกรมีแค่สามคนเอง!”
“จริงด้วย! ฉันได้ยินมาว่ากิลด์พวกเขาล่มไปแล้ว ไม่มีทางหรอก พวกเขาต้องแพ้แน่ๆเลย!”
ผู้ชมต่างฮือฮาเมื่อเห็นว่ามีสมาชิกเพียงแค่สามคน
และด้านตรงข้ามก็มีพวกดาบทมิฬสิบคนที่เป็นจำนวนสูงสุดปรากฏออกมา
“โอ้ววว! ดูเหมือนว่าจะมีนักดาบแรงค์A ตั้งสี่คนแน่ะ!”
“ที่เหลือก็เป็นแรงค์B ทั้งหมดเลย!”
“อย่างที่คิด ไม่มีสุดยอดนักดาบโกแร็ง แต่ว่าก็ยังยากสำหรับพวกเขาอยู่ดี!”
ลิเลียที่ยืนข้างๆผมทำสีหน้าปั้นยาก
“แรงค์A สี่คน....”
เพราะไม่มีแรงค์A ทางฝั่งเราเลยซักคน ฝั่งเราคงจะโชคร้ายล่ะนะ
“นี่มันคือการล่าชัดๆ เพราะว่าหมอนั่นเป็นพวกชอบเล่นกับเหยื่อล่ะนะ เอาเถอะ ฉันดีใจที่ได้สู้กับคู่ต่อสู้เก่งๆล่ะนะ”
“นั่นเยี่ยมไปเลย!! งั้นก็รีบไปจัดการพวกมันเลย!!”
“อาฮะ อย่างนั้นแหละ แต่จะว่าไปนี่อะไรนะ”
ถึงนี่จะเป็นกิลด์ที่แม่ผมเคยอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากกว่านั้น
ถึงจะบอกให้เอาใจใส่ก็เถอะ แต่มันยากสำหรับผมล่ะนะ
“อ๋อใช่ เรย์นะใช่มั้ย”
“อย่ามาเรียกชื่อกันง่ายๆแบบนี้สิ”
(โน้ต: คนญี่ปุ่นปกติจะเรียกกันด้วยนามสกุล ถ้าเรียกด้วยชื่อต้นคือคนที่สนิทกันพอสมควรหรือคนที่อยากให้เรียกด้วยชื่อต้น)
เมื่อผมพยายามเรียกเด็กสาวจากเมืองของผมที่เงียบไปพักใหญ่ๆ เธอก็ตะโกนออกมาแบบนั้น
“เธอโกรธอะไรเหรอ”
“ง-เงียบไปเลย! ไม่ได้โกรธซักหน่อย!”
ดูเหมือนว่าเธอจะคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาอยู่
ลิเลียพูดขอร้อง
“เรย์นะจัง...ได้โปรด... เข้าใจว่าตอนนี้เธอยังหงุดหงิดที่แพ้ให้กับอาเรล แต่ว่าตอนนี้เราต้องตั้งใจกับการแข่งนะ...”
“ข-เข้าใจแล้ว! แต่ว่าฉันไม่ได้หงุดหงิดซักหน่อย!?”
[เอาล่ะครับมาเริ่มรอบแรกกันได้เลย! เริ่มจาก “กลาดิเอเตอร์” จากทางกิลด์ดาบทมิฬ จิโอ!! และฝั่งตรงข้าม เขี้ยวมังกร! ...อ..เอ๋? “ร-ไร้อาชีพ” อาเรล!!]