ตอนที่แล้วบทที่ 17 : ทวงข้าวคืน (1/2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 19 : รอให้แม่ของข้ามาถามท่านเอง (1/2)

บทที่ 18 : ทวงข้าวคืน (2/2)


บทที่  18  :  ทวงข้าวคืน  (2/2)

ในใจของเหลียนหลี่นั้น  ทั้งรู้สึกโมโหแล้วก็หงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก  แต่เขาก็ทำได้แค่คิดในใจว่า  ‘ข้าจะต้องไม่เต้นไปตามเกมของนาง!’  ก่อนเขาจะเอ่ยถามอย่างเยือกเย็นว่า  "จริงๆ แล้ว พวกเจ้ามาบ้านข้าทำไม?  รีบๆ พูดธุระของพวกเจ้ามา  จะได้รีบๆ ออกจกบ้านข้าไปซะ!"

เห็นดังนั้นเหลียนฟางโจวจึงพูดขึ้น  "เมื่อตอนช่วงเก็บเกี่ยวของฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา   ท่านลุงกับท่านป้าอุตส่าห์เมตตาไปช่วยบ้านเราเก็บเกี่ยวข้าวในนาทั้งหมดจนเสร็จ  พวกเราพี่น้องรู้สึกขอบคุณแล้วก็ซาบซึ้งใจในน้ำใจของพวกท่านเป็นอย่างมากวิญญาณท่านพ่อท่านแม่ของพวกเราที่อยู่สวรรค์เอง  ก็คงจะขอบคุณพวกท่านด้วยเช่นกัน!    แต่ข้าเห็นว่าพวกท่านนั้นช่วยเก็บรักษาข้าวพวกนั้นแทนเราไว้นานแล้ว  เพราะฉะนั้นพวกเราเลยคิดว่าคงถึงเวลาแล้วล่ะ  ที่พวกเราจะรับข้าวพวกนั้นไปดูแลเองสักที!"

“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”  นางเฉียวเริ่มโมโหจนถึงขีดสุด  ก่อนนางจะตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด   “เจ้าฝันเหรอ?!”

เหลียนฟางโจวเพิกเฉยต่อการขัดจังหวะของนางเฉียว  เธอยังคงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงในโทนเดิมว่า  “เมื่อคืนท่านแม่มาเข้าฝันข้า  บอกว่าให้มาเอาข้าวหนึ่งพันชั่งคืนที่บ้านท่านลุงกับท่านป้า  และส่วนที่เหลือก็ให้มอบให้ท่านทั้งสอง  เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูที่พวกท่านนั้นอุตส่าห์ช่วยเก็บเกี่ยวให้  ท่านลุงกับท่านป้าก็แก่ปูนนี้แล้ว  คงจะไม่ทำตัวหน้าไม่อายฮุบเอาข้าวของหลานๆไปหรอกใช่ไหมเจ้าคะ?”

“หยุดแต่งเรื่องไร้สาระ  แล้วก็อ้างเรื่องผีสางได้แล้ว!!”   นางเฉียวไม่เคยสัมผัสกับคำว่าเป็นผู้ให้อยู่แล้ว  เพราะส่วนมากนางมักจะเป็นผู้รับอยู่เสมอ  แล้วยิ่งอ้อยเข้าปากช้างขนาดนี้แล้วด้วย  มีหรือที่นางจะยอมคายออกมาง่ายๆ

ถึงแม้ว่าเรื่องที่เหลียนฟางโจวพูดจะเป็นเรื่องจริงแล้วยังไงล่ะ  แค่คิดว่านางต้องจะเสียข้าวพวกนั้นออกไป  นางก็รู้สึกเหมือนกับกำลังจะโดนเฉือนเนื้อแล้วไป  นังเด็กจองหอง  ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

นางเฉียวหัวเราะเย้ยหยัน  “หึเจ้านี่มันเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเสียจริง  นี่ถึงขนาดไปเอาแม่ที่ตายไปแล้วมาอ้างเป็นตุเป็นตะเลยเหรอ  คิดว่าเอาคนตายมาอ้างแล้วพวกเราจะกลัวเหรอ  ฝันไปเถอะว่าพวกเราจะเชื่อฝันไร้สาระของเจ้า!!!”

“สิ่งที่ท่านป้าพูดมามันก็ไม่ถูก”  เหลียนฟางโจวเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ดังมากนัก  “ที่ข้าพูดไปทุกคำนั้น  ล้วนแต่เป็นความจริง  คิดดูสิ  ข้าจะกล้าเอาเรื่องพวกนี้มาล้อเล่นได้ยังไงกันล่ะเจ้าคะ  อีกอย่างถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงมีหรือที่ข้าจะกล้าบุกมาหาท่านลุงกับท่านป้าถึงบ้านเช่นนี้?”

“ใช่  เมื่อก่อนเจ้าอาจจะไม่กล้า  แต่ตอนนี้เจ้ามันโดนผีเข้า  มีอะไรบ้างที่เจ้าจะไม่กล้าทำ!!”  นางเฉียวพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

ในขณะที่นางเฉียวกำลังตอบโต้กับเหลียนฟางโจวอยู่เหลียนหลี่ก็กำลังครุ่นคิดอย่างสงสัยว่า  ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะแม่ที่ตายไปแล้วของนางมาเข้าฝันจริงๆ  มีหรือที่เด็กอย่างนางจะกล้าวิ่งมาก่อเรื่องถึงที่บ้านของเขา?

แต่ถึงอย่างนั้น  เหลียนหลี่กับนางเฉียวก็ยังมีความคิดตรงกันที่ว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะส่งข้าวหนึ่งพันชั่งคืนให้กับเด็กพวกนี้  พวกเขาไม่แม้แต่อยากจะพูดถึงมันด้วยซ้ำ

เหลียนหลี่ลืมตาขึ้นแล้วก็จ้องมองไปยังสองพี่น้อง  ก่อนจะพูดขึ้นว่า  “ข้าว่าที่แม่ของเจ้าพูดนั้นก็ไม่ถูกนะ   ทำไมหลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วข้าวของพวกเจ้าถึงจะมาอยู่ที่บ้านของข้าได้ล่ะ?  ก็ในเมื่อตอนที่เก็บเกี่ยวเสร็จ  พวกเราก็เอาข้าวทั้งหมดให้พวกเจ้าไปหมดแล้ว  ทำไมพวกเจ้ายังมาทวงถามหาข้าวพวกนั้นอยู่อีก?  พวกเจ้าสองพี่น้องไม่มียางอายบ้างเลยหรือไง  ในสายตาของพวกเจ้ายังเห็นข้าเป็นลุงอยู่ไหม?”

“ที่ลุงของพวกเจ้าพูดมานั้น  ถูกต้องที่สุด!!”   นางเฉียวเมื่อได้ยินสามีพูดมาแบบนั้น นางก็รีบพูดเสริมด้วยน้ำเสียงเชิงน้อยใจว่า  “ทำดีแล้วไม่ได้ดีจริงๆพวกเราอุตส่าห์ลำบากลำบน  ไปช่วยพวกเจ้าเก็บเกี่ยวอย่างยากลำบากตลอดทั้งวันทั้งคืน เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด  แต่พวกเจ้าก็ยังมาหาว่าพวกเราผัวเมียโกงเอาข้าวของพวกเจ้าไปอีก  พวกเราก็ไม่คาดหวังว่าพวกเจ้าจะต้องมาขอบคุณหรือให้เกียรติพวกเราหรอกนะ  แต่ก็ไม่เคยคิดว่าพวกเจ้าจะเนรคุณได้ขนาดนี้!  สวรรค์จะต้องลงโทษพวกเจ้าแน่!!”

“ท่านป้า!!  ท่านกล้าสาบานหรือไม่  ว่าทุกคำที่ท่านพูดออกมาเป็นความจริง!!”  เมื่อเหลียนเซ่อได้ยินคำพูดของนางเฉียวที่พูดกลับดำให้เป็นขาว  เขาถึงกับโมโหจนควันออกหู

“สวรรค์!!  ท่านดูสิ!!”  นางเฉียวแกล้งร้องไห้ออกมาเสียงดัง  “หลานชายที่ไหนกล้าบังคับให้ป้าสาบานแบบนี้บ้าง?   เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวมันยังรู้คุณคน  แต่นี้เป็นคนแท้ๆทำไมถึงได้อกตัญญูขนาดนี้!!  นี่มันไม่ยุติธรรมเลย...”

“พอแล้วๆ  เจ้าพูดให้น้อยลงหน่อยเดี๋ยวเขาจะหาว่าพวกเราเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กอีก”  เหลียนหลี่พูดขัดนางเฉียวออกมาเมื่อเห็นว่าเรื่องเริ่มชักจะไปกันใหญ่  ก่อนเขาจะพูดกับสองพี่น้องบ้านเหลียนด้วยน้ำเสียงเนิบๆว่า  “ข้าวพวกนั้นข้ามอบให้พวกเจ้าไปหมดแล้ว  ถ้าเจ้าจะมาขอเพิ่มอีก  มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอก”

“พวกท่านให้ข้าวพวกเรามาก็จริง  แต่นั่นมันไม่ใช่ข้าวทั้งหมดของพวกเรา  นา 3 หมู่ของพวกเราให้ผลผลิตราวๆ1,400 – 1,500 ชั่ง  แต่ที่พวกท่านให้เรามามันแค่  300 – 400  ชั่งเท่านั้น!!  ท่านกล้าพูดได้อย่างไรว่าให้พวกเรามาหมดแล้ว!!”   เหลียนเซ่อตอบกลับด้วยความโมโห

“ฮ่าๆ”  เหลียนหลี่หัวเราะเย้ยหยันก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสบประมาทว่า  “พวกเจ้ามีหลักฐานอย่างนั้นหรือ?  หรือว่าตอนนั้นพวกเจ้าชั่งน้ำหนักเอาไว้?   แล้วถ้าชั่งเจ้ามีพยานรู้เห็นด้วยไหม?  ยังไงข้าก็ยืนยันว่าข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ข้าให้บ้านเจ้าไปหมดแล้ว  ส่วนหลังจากนั้นพวกเจ้าจะเอาไปขายหรือว่าเก็บเอาไว้กินต่อ  มันก็เรื่องของพวกเจ้า  ข้าไม่รู้อะไรด้วยแล้ว!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด