บทที่ 16 : ความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัว (2/2)
บทที่ 16 : ความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัว (2/2)
“ฟางโจว!!” ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อป้าจางก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ อีกทั้งใบหน้าของนางยังแฝงไปด้วยความเสียใจ “เจ้าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง! นี่เจ้าดูถูกน้ำใจของลุงกับป้าอย่างงั้นหรือ!! เมื่อไหร่กันที่ครอบครัวของพวกเราเริ่มมีปัญหา? ถ้าเจ้ายังเห็นว่ายายแก่คนนี้เป็นป้าของเจ้าอยู่ล่ะก็จงเอาไข่พวกนี้กลับไปซะ และต่อไปหากเจ้าต้องการความช่วยเหลือก็แค่พูด ป้าไม่อนุญาตให้เจ้าเอาอะไรมาตอบแทนทั้งนั้น! แต่ถ้าเจ้ายังดึงดันไม่เชื่อฟังป้าจะรับไข่พวกนี้ไว้ก็ได้ แต่นับจากนี้ไปเจ้าไม่ต้องไปเหยียบบ้านป้าอีก!!”
"……………... " เหลียนฟางโจวเงียบไปสักพัก ก่อนเธอจะยิ้มแหยๆและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลังเล "ท่านป้าข้าแค่ -"
“พูดมาแค่ว่า เจ้าจะยอมรับไข่พวกนี้กลับไปไหม?” ป้าจางถาม พลางจ้องหน้าเธอตาเขม็ง
เหลียนฟางโจวรู้สึกชาหนึบที่ปากไปหมด ตอนนี้เธอทั้งอึดอัดแล้วก็หนักอกหนักใจเป็นอย่างมาก ใจเธอนั้นอยากจะตอบอีกอย่าง แต่พอเห็นท่าทีอันแข็งกร้าวของป้าจางแล้ว เธอก็คงจะตอบเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วล่ะ
“รับเจ้าค่ะ ข้าต้องรับแน่นอน!!” เหลียนฟางโจวพยักหน้าอย่างแรงเพื่อเป็นการยืนยัน “ป้าจางกับลุงหลี่ช่างเป็นคนดีจริงๆ ในอนาคตข้าจะต้องตอบแทนบุญคุณพวกท่านอย่างแน่นอน!”
"ถูกต้องแล้ว!" ใบหน้าของป้าจางเริ่มผ่อนคลายลงนางวางตะกร้าลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ฮ่าๆ ถ้าเกิดว่าในอนาคตพวกเจ้าเกิดร่ำรวยขึ้นมาแล้วอยากจะตอบแทนพวกเราล่ะก็ ตอนนั้นลุงกับป้าก็จะยินดีมาก แต่ตอนนี้พวกเจ้าพี่น้องยังเด็ก แถมยังอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโตเพราะฉะนั้นพวกเจ้าควรจะได้กินอาหารที่ดีแล้วก็มีประประโยชน์ ดังนั้นไข่พวกนี้พวกเจ้าก็เก็บไว้กินบำรุงตัวเองเถอะ แล้วถ้าไม่พอยังไงก็มาเอาที่บ้านป้าอีกได้ ป้ายินดี ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจแล้วเข้าใจไหม?"
ด้วยอุปนิสัยของเหลียนฟางโจวแล้วเธอไม่มีทางที่จะเอาปัญหาของตัวเองไปเป็นภาระคนอื่นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอคงทำได้แค่ตอบรับไปก่อน เพราะเธอไม่ต้องการหักหาญน้ำใจของป้าจาง เธอพยักหน้ารับเบาๆ พลางตอบด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ท่านป้า”
“แบบนี้สิถึงจะถูก!! ป้าจะพูดเรื่องนี้กับเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเจ้ายังเกรงใจและมองป้าเป็นคนอื่นคนไกลอยู่อีก คราวนี้ป้าจะโกรธเจ้าจริงๆ แล้วนะ!!” เมื่อได้รับความตอบที่น่าพึงพอใจจากเหลียนฟางโจวแล้ว ไม่นานนักหญิงชราก็เดินกลับบ้านไป
“ป้าจางแล้วก็ครอบครัวช่างเป็นคนดีจริงๆ!!” เหลียนเซ่อพูดขึ้นมาบ้าง
“ใช่!” เหลียนฟางโจวถอนหายใจเล็กน้อย และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบๆว่า “ป้าจางกับครอบครัวเป็นเพียงแค่เพื่อนบ้านเราแท้ๆ แต่พวกเขากลับดีกับพวกเรามากขนาดนี้ ในขณะที่บางคนซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกันกับเราแท้ๆกลับรังแต่จะหาเรื่องรังแกแล้วก็เอาเปรียบพวกเราไม่หยุดหย่อน! อาเซ่อไหนเจ้าลองบอกพี่ทีสิ คนที่ถูกสุนัขกัดกินมโนธรรมอันดีงามไปจนหมดแล้ว เรายังจะต้องทำตัวสุภาพด้วยอีกไหม?”
เมื่อเหลียนเซ่อได้ยินคำเหล่านั้น เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่า เร็วๆ นี้จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ เด็กชายหรี่ตามองผู้เป็นพี่สาว ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงปนสงสัย “พี่สาวท่านกำลังคิดจะทำอะไร?”
เหลียนฟางโจวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยิ้มอย่างเยือกเย็นและตอบว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าก็รู้!! แต่ตอนนี้เรารีบกินก่อนเถอะ!!”
หลังจากกินอาหารเย็นและล้างถ้วยล้างชามเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลียนฟางโจวก็หันไปสั่งความเด็กน้อยทั้งสองคนให้อยู่เฝ้าบ้าน ก่อนสุดท้ายจะหันไปพูดกับพี่ชายคนโตของเด็กๆ อย่างเหลียนเซ่อต่อว่า “ป่ะ พวกเราสองคนไปเที่ยวบ้านลุงกับป้ากัน!”
“ไปบ้านของพวกเขา? ไปทำไมกัน?” เหลียนเซ่อเอ่ยถามขึ้นด้วยความงุนงง
เหลียนฟางโจวยิ้มอย่างซุกซน “แน่นอนว่าเราก็ต้องไปทวงของที่เป็นของเราคืนน่ะสิ เจ้าจะปล่อยให้พวกเขาฮุบของๆ เราไปเสียดื้อๆนะหรือ?”
“พี่สาว ท่านว่าอะไรนะ....”
“ข้าวตั้งหลายพันชั่ง” เหลียนฟางโจวตอบ พร้อมทั้งฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี “จะปล่อยให้พวกเขาเอาไปฟรีๆได้ยังไง”
ดวงตาของเหลียนเซ่อกลายเป็นมืดครึ้ม ก่อนเขาจะกระซิบบอกเหลียนฟางโจวเบาๆว่า “พี่สาว ข้าว่าช่างมันเถอะ เพราะยังไงลุงกับป้าก็คงไม่มีทางคืนให้เราหรอก ท่านอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย!”
ตอนที่นาสามหมู่ของพวกเขาถึงฤดูเก็บเกี่ยว ลุงกับป้าก็พากันมาช่วยเก็บเกี่ยวอย่างกระตือรือร้น ในตอนนั้นพวกเขาก็คิดว่าลุงกับป้าคงมีใจอยากจะช่วยเหลือ เพราะเห็นว่าพวกเขายังเป็นเด็ก แต่ใครเล่าจะรู้ว่าหลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จลุงกับป้าจะแบ่งข้าวให้พวกเขาเพียงแค่สามสี่ถุงเล็ก แล้วข้าวที่เหลือทั้งหมดอีกหลายพันชั่งพวกเขาก็ฮุบเอาไว้เสียเอง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเหลียนเซ่อก็รู้สึกผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมาก คนแบบนี้ยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นลุงกับป้าของพวกเขาได้อีกหรือ คนอะไรโกงได้แม้กระทั่งคนในสายเลือดเดียวกัน ไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาถูกผีอะไรบังตา ถึงได้มองว่าสองผัวเมียนั่นเป็นคนดีไปได้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเอ่ยถามเรื่องข้าวส่วนที่เหลือ แต่ทุกครั้งที่อ้าปากถามป้าก็มักจะด่าเขากลับมาอย่างรุนแรงเสมอ อีกทั้งยังมักจะบอกว่าข้าวที่เหลืออยู่มีเท่าที่แบ่งให้เท่านั้น เขาเลยจนปัญญาที่จะโต้เถียง
เหลียนฟางโจวพูดอย่างมั่นใจว่า “อย่าห่วงเลยยังไงเดี๋ยวพวกเขาก็ต้องคืนให้เรา ตอนที่ไปถึงเจ้าก็อยู่เงียบๆไม่ต้องพูดอะไร เดี๋ยวเรื่องนี้พี่จัดการเอง”
เมื่อเห็นว่าเหลียนฟางโจวตั้งใจอย่างแน่วแน่ เหลียนเซ่อก็จนปัญญาที่จะทัดทานพี่สาว เขาได้แต่ส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินตามหลังพี่สาวไปด้วย เพราะกลัวว่าพี่สาวของตนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และถูกลุงกับป้ารังแกเอา อย่างน้อยถ้าเขาไปเป็นเพื่อนก็น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย