บทที่ 14 : ให้ไข่ไก่เป็นของขวัญ (2/2)
บทที่ 14 : ให้ไข่ไก่เป็นของขวัญ (2/2)
ดูเหมือนว่าเหลียนเซ่อจะไม่ยอมยกโทษให้กับคำที่เธอพูดก่อนหน้านี้เขามองมาที่เธออย่างเคืองๆ "สักวันพี่สาวจะต้องเชื่อที่ข้าพูด!" พอพูดจบเด็กชายก็สะบัดหน้าค้อนใส่เธอลูกใหญ่
เหลียนฟางโจวส่ายหัวเล็กน้อยแล้วก็หัวเราะอย่างเอ็นดู ก่อนเธอจะหยิบไข่ 30 ฟองออกใส่ตะกร้าอีกใบที่เตรียมไว้ ในขณะที่ไข่ส่วนที่เหลือก็เก็บเอาไว้ในตะกร้าใบเดิม
เธอเดินถือตะกร้าใบที่มีไข่ 30 ฟองไปที่บ้านของป้าจาง พอถึงเธอก็เคาะประตูบ้านเบาๆ และก็เป็นนางจ้าวที่ออกมาเปิดประตูให้เธอพร้อมกับสายตาไม่เป็นมิตรเช่นเคย ก่อนไม่นานเท่าไหร่นักนางจ้าวจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “เจ้ากลับมาทำไมอีก? นี่เดินไปเดินมาบ้านข้าเป็นว่าเล่นเลยนะ หรือเจ้าเห็นว่าที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะที่ใครจะเข้าออกก็ได้อย่างนั้นเหรอ”
“ขอโทษจริงๆเจ้าค่ะ ที่ต้องได้มารบกวนพี่จ้าวอีก!” เหลียนฟางโจวพูดด้วยรอยยิ้ม พลางเหลือบตามองตะกร้าไข่ที่ถือมา และพูดต่อว่า “พอดีว่าพรุ่งนี้ข้ามีเรื่องรบกวนลุงหลี่ให้เป็นธุระให้ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนลุงหลี่ยังไงดี เพราะที่บ้านข้าเองก็ไม่ได้มีเงินทองมากมายนัก ข้าก็เลยทำได้แค่เอาไข่พวกนี้มาให้แทนคำขอบคุณเล็กๆน้อยๆขอให้พี่จ้าวรับมันไปด้วยเถอะเจ้าค่ะ อย่าได้รังเกียจว่ามันน้อยเลย”
นางจ้าวตัวแข็งทื่อเล็กน้อย พร้อมทั้งหน้าแดงด้วยความอาย ก่อนนางจะพูดด้วยน้ำเสียงพึงพอใจว่า “ถ้างั้นเจ้าก็เอาเข้าไปให้ท่านพ่อท่านแม่สิ...”
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะ เพราะเดี๋ยวข้าก็ต้องรีบกลับไปทำอาหารเย็นให้น้องๆ แล้ว มอบให้พี่จ้าวก็เหมือนกันนั่นแหละเจ้าค่ะ ”เหลียนฟางโจวยิ้มและยื่นตะกร้าไข่ให้นางจ้าว
“นี่มันมากเกินไป! ข้าว่าเจ้าเอากลับไปดีกว่า!” นางเจ้าพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ แต่กลับจ้องไข่ในตะกร้าตาเป็นมัน
“พี่จ้าวอย่าพูดแบบนั้นสิเจ้าคะ ถ้าท่านไม่รับไว้ข้าคงรู้สึกไม่สบายใจแน่” เหลียนฟางโจวแกล้งทำเป็นไม่สนใจข้ออ้างในการปฏิเสธของนางจ้าว ก่อนเธอยิ้มอย่างสุภาพ และยัดตะกร้าไข่ใส่มือนางจ้าว
"อ่า!" นางจ้าวยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่ถือตะกร้าก็พูดไปด้วยว่า “พรุ่งนี้เช้าข้าจะรีบเอาตะกร้าไปคืนก็แล้วกันนะ!”
“ไม่ต้องรีบก็ได้เจ้าค่ะ ค่อยเอามาคืนวันไหนก็ได้เพราะมันก็แค่ตะกร้าไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร” เหลียนฟางโจวพูดด้วยรอยยิ้ม
นางจ้าวปิดประตูหน้าบ้านและยืนนับไข่อย่างมีความสุข “นั่นเจ้าถืออะไรอยู่?”
“ไอโย่ว!!” นางจ้าวยกมือขึ้นมาตบหน้าอกด้วยความตกใจ ก่อนจะมองหน้าสามีอย่างหลี่ซานเก๋อค้อนๆและพูดว่า “มาทำไมไม่ให้สุ่มให้เสียง! ท่านทำข้าเกือบตกใจตายแล้วนะ! จู่ๆก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้!”
นางจ้าวเล่าเรื่องที่เหลียนฟางโจวมาส่งไข่ให้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถอนหายใจออกมาและพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฟางโจวมาขอให้บ้านเราช่วยแล้วก็เอาของมาให้เป็นการขอบคุณข้าว่านางโตขึ้นมาก แถมยังดูรู้ความ เปลี่ยนไปยังกับเป็นคนละคนกันเลยแหน่ะ”
หลี่ซานเก๋อขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “เจ้าไปรับของนางมาทำไม? ไม่รู้หรือไงนางยังมีน้องเล็กๆ ที่ต้องดูแลอีก พวกเขาต้องดูแลกันเองตามลำพังมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ!”
นางจ้าวเองก็เริ่มโมโห นางสวนสามีกลับทันควัน “ท่านพูดว่าอะไรนะ? ทำไมข้าจะรับไม่ได้ก็นางมารบกวนบ้านเราจริงๆ ให้ของมาก็สมควรแล้ว มีใครบ้างในหมู่บ้านนี้ที่ไม่ลำบาก มันมีแค่บ้านนางคนเดียวหรือไง? ใครๆเขาก็ลำบากด้วยกันทั้งนั้นแหละ!”
หลี่ซานเก๋อถอนหายใจ ก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่สามารถอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าฟังในเวลาอันสั้นได้ แต่เจ้ารับไข่พวกนี้เอาไว้ไม่ได้ เชื่อข้าเถอะรีบเอาไข่พวกนี้กลับไปคืนฟางโจวซะ ไม่งั้นถ้าท่านพ่อกับท่านแม่รู้เรื่องเข้าเจ้าจะโดนดุเอา!”
“ไม่คืน! ยังไงก็ไม่คืน!” นางจ้าวพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ข้าไม่ได้เป็นคนบอกให้นางเอามาซะหน่อย นางเอามาให้ของนางเอง คนเอาของมาส่งให้ถึงบ้านขนาดนี้ดีจะตาย มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะคืน!! ข้าไม่พูดเจ้าไม่พูดท่านพ่อท่านแม่จะรู้ได้ยังไง!!”
“มีเรื่องอะไรที่บอกพวกข้าไม่ได้อย่างงั้นหรือ? เหม่ยซีแล้วนั่นเจ้าถืออะไรอยู่ไว้ในมือ?” นางจางที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านได้ยินประโยคสุดท้ายเข้าพอดี นางจึงเอ่ยถามลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงสงสัย…