ตอนที่ 2 แล้วมันจบยังไง
อันนากล่าวขึ้นมาห้วนๆท่ามกลางความเงียบภายในรถ
“ฉันไม่ชอบมีอา”
“ห้ะ??.....” เจมส์ทวนอีกครั้งท่าทีไม่แน่ใจในสิ่งที่แฟนสาวของเขาพูด
“เธอได้ยินชัดนะแหละที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ ถ้าจะเธอยังคบเพื่อนคนนี้อยู่ ฉันก็ไม่อยากจะเดทกับเธอต่อ” อันนาพูดด้วยความโมโหพร้อมกับหันหน้าไปนอกรถเพื่อให้อารมณ์โกรธที่เก็บไว้ได้เย็นลงบ้าง และลดการปะทะซึ่งๆหน้ากับแฟนของเธอ
“เลือกสิเจมส์ว่าเธอจะคบฉันหรือเลือกเพื่อนขี้อ่อยเจ้าอารมณ์ของเธอ??” อันนาระเบิดอารมณ์ใส่เจมส์อีกรอบ
“หึ..เรื่องวันนี้ช่างน่าอับอายนัก ยัยนั่นคงขาดความอบอุ่นจากที่บ้านสินะ ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น”
อันนาสุดจะทนกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญกับสายตาผู้คนในวันนี้ที่โรงหนังและท่าทางที่ดูให้ท่าของมีอาต่อเจมส์
เจมส์ตอบด้วยความแทบไม่เชื่อหูตัวเองที่แฟนเขาจะมองเพื่อนของเขาในแง่ร้ายขนาดนี้
“นี่เธอพูดเรื่องอะไรเนี่ย เธอจะบ้ารึเปล่า?ฉันพอจะเข้าใจได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้นะ แต่เธอยังไม่รูจักมีอาดีด้วยซ้ำ” เขาพยายามมองถนนสลับกับมองสีหน้าของอันนาไปด้วย พลางคิดในใจว่า ทำไมมันถึงไปกันใหญ่เลยเถิดได้ขนาดนี้
“ก็บอกให้เลือกไง เลือกสิ…!!!! ฉันไม่มีความจำเป็นต้องรู้จักกับยัยคนนั้นเพิ่มเติม แค่นี้มันก็มากพอแล้วกับการเจอกันวันแรก” อันนาขึ้นเสียง เธอไม่สามารถรับพฤติกรรมของมีอาได้
เจมส์ถามเธอกลับไปว่า “จะบ้ารึไงเราเพิ่งเดทกันไม่กี่อาทิตย์ ละเธอมาบอกให้ฉันเลิกคบเพื่อนที่ฉันคบมาตั้งแต่เด็กเนี่ยอะนะ คำตอบที่เธอจะได้เธอก็ต้องรู้อยู่แล้วสิ หรือเธอแค่อยากจะเลิกกับฉัน ก็ควรพูดมาตรงๆ”
“หึ...เห็นรึยังหละ ว่าฉันนะคิดไม่ผิดจริงๆด้วยผู้ชายนี่ก็โง่เหมือนกันหมด เธอมองไม่เห็นรึไงว่ามีอานั่นกำลังให้ท่าเธออยู่ ยัยนั่นมันร้ายนัก นี่ขนาดฉันมาด้วยนะยังทำตัวอ่อยเธอได้ขนาดนี้ แล้วอีกอย่างเธอก็คงชอบมีอามานานละแหละมั้ง แค่ไม่กล้าบอกเธอสินะ” ด้วยน้ำเสียงดูถูก ปนด้วยความโกรธและความผิดหวังของอันนา
เจมส์อึ้งไปซักพักนึงกับคำตอบและคำถามที่เพิ่งได้ยินกับหูจากปากแฟนสาวมื่อกี้ สมองเขารีบประมวลผลอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการกับสถานการณ์ในตอนนี้และมันได้บอกให้เขาไล่เธอ..... เพื่อไม่ให้แตกหักกันไปมากกว่านี้
“ลงไปจากรถฉัน”
อันนาทวนคำถาม เพราะเธอไม่คิดว่าเจมส์จะกล้าทำแบบนั้นกับเธอ
“อะไรนะ??? เมื่อกี้เธอเพิ่งไล่ฉันลงจากรถงั้นหรอ??”
“ใช่ เธอได้ยินไม่ผิด ลงไปได้แล้ว!!!!!” เจมส์หน้าแดงก่ำ ตอบไปด้วยเสียงเย็นชา สายตาเย็นยะเยือกไม่เหลียวมองสีหน้าของอันนาแม้แต่น้อย
น้ำตาของอันนาค่อยๆหยดลงอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อว่าแฟนไล่เธอลงจากรถกลางดึกได้ลงคอ เธอถามเจมส์กลับไปด้วยเสียงสั้นเครือ
“เธอไม่เป็นห่วงฉันเลยหรอ ที่ผ่านมาเธอรักฉันบ้างรึเปล่า?”
เจมส์ตอบกลับไปอย่างไร้เยื่อใย “ฉันเรียกแท็กซี่ให้เธอละ กลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านซะ”
มีอาถึงบ้านก็รีบตรงรี่เข้าไปหาลินดาแม่ของเธอในครัว เพราะรู้ว่าเวลานี้แม่ของเธอยังคงอบขนมอยู่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขายในรุ่งเช้าของวันถัดไป ที่ร้านเบเกอรีของลินดาเป็นร้านเก่าแก่ที่อร่อยที่สุดในย่านนั้น เธอเรียกแม่เบาๆแล้วเข้าไปกอดแม่ขณะที่แม่กำลังนวดแป้งอยู่ แม่ของเธอรีบปลดมือเธอออกแล้วบอกให้ลูกสาวถอยออกไป
“ยัยเด็กคนนี้ อ้อนเก่งซะเหลือเกิน ถอยไปก่อน มากอดแม่แบบนี้เดี๋ยวก็เลอะหมด ไหนเล่าให้แม่ฟังสิเป็นยังไงแกไปดูหนังกับแฟนมา?” ลิดาถามลูกสาวด้วยความกลัวใจในความใจร้อนขี้รำคาญของลูกสาวเธอจะทำเดทพัง
มีอาโกหกแม่ของเธอไปว่าเธอมีแฟนแล้วและต้องไปเดทกับแฟนเพราะแม่ของเธอพยายามจับคู่เดทให้เธอกับลูกชายเพื่อนแม่ เธอก็อึกอักรีบแก้ต่างไป
“ก็ดีนะแม่ เขาบอกหนูด้วยนะว่าเค้าอะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนู เขาถึงกับคุกเข่าร้องไห้เลยแหละ” เธอแอบยิ้มและเล่าจากฉากในหนังเมื่อตอนเย็น
แม่ของเธอตั้งใจฟังเจ้าลูกสาวจอมแสบเล่า
“ฟังแล้วค่อยสบายใจหน่อย” แม่หันมายิ้มให้มีอาพร้อมกับไปล้างมือ แล้วบอกให้เธอรีบเข้านอน
“ไปนอนเถอะเจ้าเด็กน้อย ดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องไปช่วยแม่แต่เช้าอีก” ลินดายืนส่งยิ้มให้กับมีอา ลูกสาวก็อดเป็นห่วงแม่ไม่ได้รีบบอกให้แม่เข้านอนเหมือนกัน
“แม่ก็รีบนอนหละ อย่าอบขนมจนดึกนะ พักผ่อนบ้างแก่แล้วนะแม่” มีอาหันหลังเดินออกไปจากห้องครัวเพื่อไปยังห้องนอนของเธอ
แม่เธอพึมพำ “ยัยเด็กน้อย” เธออมยิ้มพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
มีอาหันมามองแม่ของเธอ และคิดน้อยใจว่า เธอไม่เคยเป็นลูกคนโปรดของแม่เธอเลยตั้งแต่ไหนแต่ไร แม่ไม่แม้แต่จะกอดเธอกลับ แม่ไม่เรียกชื่อเล่นเธอเหมือนพี่สาวเธอแมรี่ ไม่เคยเรียกเธอว่าลูกเหมือนแมรี่ เรียกเธอแต่ยัยเด็ก เจ้าเด็กน้อย จนเธอก็มิวายอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมแม่ถึงไม่รักเธอเท่าพี่บ้าง เธอทำผิดอะไรทำไมถึงไม่ได้รับความรักและการดูแลแบบที่แมรี่ได้จากแม่บ้าง มันช่างเป็นคำถามที่ค้างคาในใจของมีอามาโดยตลอด
เมื่อ 8 ปีที่แล้วพ่อได้หายออกไปจากบ้าน บ้านของเราเงียบเหงาและลำบากขึ้นมาก แม่ต้องหาเช้ากินค่ำเพื่อดูแลเรา 3 คนให้อยู่รอด จนกระทั่งแมรี่โตพอที่จะดูแลตัวเองได้และเธอก็ไม่สามารถทนกับสภาพการณ์ของที่บ้านได้อีกต่อไป
และอีก 4 ปีถัดมาแมรี่ก็ได้หายออกไปเช่นกัน เหลือเพียงแค่มีอากับแม่ในบ้าน แม่พยายามที่จะรักมีอาเพิ่มขึ้น มีอาเองก็เรียกร้องความสนใจจากแม่เพิ่มขึ้นไม่แพ้กัน เธอหวังแค่อยากได้ยินชื่อของเธอจากปากแม่หรือเรียกเธอว่าลูกบ้างก็ยังดี ในใจลึกๆบางที มีอาก็แอบหวังเล็กๆว่าแมรี่จะไม่กลับบ้านมาอีก ให้แม่ได้ให้ความรักแก่เธอแค่คนเดียว เธอจ้องแม่และถามกลับไปว่าแม่เรียกเธออีกทำไม
ลินดายิ้มมุมปากและจ้องกลับไปที่มีอา “ก็แค่สงสัย ว่ามันจบยังไง”
"อะไรจบยังไงแม่??” เธอฉงนใจกับคำถามของแม่
“ก็ในหนังไง นางเอกให้อภัยรึเปล่า แม่อยากรู้ หลังจากที่พระเอกเค้าคุกเข่าร้องไห้หนะ?” มีอากระอักกระอ่วนในการตอบคำถามแม่ ไม่คิดว่าแม่จะรู้ทันเธอ
"ให้ตายเถอะ แม่รู้ได้ไงเนี่ย".....