ไซตามะต่างโลก Ep.12 - ทาชิงิ
ไซตามะต่างโลก Ep.12 - ทาชิงิ
ด้วยการเข้ามามีส่วนร่วมของไซตามะ แนวทางของกองทัพเรือในอนาคตก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
ขณะเดียวกัน เจ็ดเทพโจรสลัดก็ปฏิเสธที่จะเชื่อฟัง ส่วนสี่จักรพรรดิในนิวเวิลด์ก็ทำตามอำเภอใจดั่งที่ตนต้องการ
ปัญหาต่างๆ ที่ทำให้กองทัพเรือต้องปวดหัว แก้ไขอะไรไม่ได้ เริ่มปรากฏขึ้นมาในหัวข้อวาระการประชุมต่างๆ เพื่อเริ่มจัดวางกลยุทธ์เก็บกวาดให้สิ้นซาก
สำหรับโจรสลัด พวกมันยังคงใช้ชีวิตราวกับเมามายในความฝัน ออกปล้น เผา ฆ่า ไม่เว้นแต่ละวัน
แต่ยิ่งทำแบบนั้นมากขึ้น ผู้คนก็จะยิ่งลุกขึ้นต่อต้านความชั่วร้ายนี้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน!
ทางกองทัพเรือ ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีทหารใหม่มาเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีทหารชั้นยอดมากมายถือกำเนิดขึ้นจากบรรดาทหารใหม่ ทหารชั้นยอดหลายคนถูกส่งตรงมายังศูนย์ใหญ่ เพื่อเฝ้ารอคอยคำสั่งที่จะได้ออกไปต่อกรกับความชั่วร้าย
วันเวลาค่อยๆผ่านไปจากวันเป็นเดือน และจากเดือนเป็นปี
จนกระทั่ง 10 ปี
เวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปีเต็ม!
ในที่สุดกองทัพเรือก็ได้ตระเตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ และเริ่มดำเนินการตามแผนที่วางมาเป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปีได้เสียที!
ตามยุทธศาสตร์สงครามที่ถูกเสนอขึ้นโดยเซ็นโงคุ ในการประชุมกองทัพเรือระดับสูงเมื่อเร็วๆนี้ ได้ข้อสรุปว่าทหารเรือในปัจจุบัน ได้กลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ไม่เพียงแต่สามพลเรือเอกที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดในการต่อสู้เท่านั้น แต่ภายใต้พวกเขา ก็ยังมีอีกหลายคนที่แกร่งมากพอ และพร้อมจะเข้ามาแทนที่พวกเขาได้ตลอดเวลา
ป้อมปราการแห่งความยุติธรรมกระจายอยู่ทั่วทุกมุมทะเล กองกำลังทหารยิ่งนานวัน ก็ยิ่งทวีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด
แต่เมื่อกำลังรบเพิ่มพูนขึ้น ปัญหาอีกมากมายก็ย่อมผุดตามออกมาเช่นกัน
นั่นก็คือ พวกขยะที่ซุ่มซ่อนตัวอยู่ในกองทัพเรือ
ดังนั้น ก่อนที่สงครามกับจักรพรรดิแห่งนิวเวิลด์จะถือกำเนิดขึ้น ทางกองทัพเรือจึงจำต้องมั่นใจในเสถียรภาพภายในของตนเองเสียก่อน เพื่อที่พวกเขาจะไม่ขัดขากันเองในยามสงคราม
ด้วยเหตุนี้เอง
ภารกิจกวาดล้าง .. จึงได้เริ่มต้นขึ้น!
….
วันหนึ่ง หลังจากสิบปีต่อมา
ไซตามะที่พึ่งกลับมาจากสาขากองทัพเรือก็ถูกหยุดเอาไว้โดยนักดาบสาวผมสั้นในชุดแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน
“ไซตามะซัง!”
นักดาบสาวสวยที่ในมือถือโทรเลข โบกมันไปมา วิ่งตรงมาทางไซตามะ “ข่าวใหญ่ล่ะ! ทางศูนย์บัญชาการใหญ่ได้มอบหมายภารกิจมาให้แล้ว!”
นักดาบผมสั้นไม่ใช่ใครอื่น เธอคือ ‘ทาชิงิ’
วันเวลาสิบปีที่ผ่านมา มันไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆไว้บนใบหน้าของไซตามะเลย ราวกับว่าพลังของเขา มันได้เหลือล้ำขีดจำกัดของห้วงกาลเวลาไปแล้ว
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ ชื่อเสียงของไซตามะก็ค่อยๆเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่โจรสลัด ส่งผลให้โจรสลัดนับไม่ถ้วนต่างหวาดกลัว และไม่กล้าที่จะเข้ามายังเมืองโร๊คทาวน์ เพื่อทำพิธีกรรมทางทะเล ก่อนมุ่งหน้าเข้าสู่แกรนไลน์
และด้วยความสำเร็จทั้งหมดที่ไซตามะได้สร้างขึ้น เขาจึงได้รับการขนานนามจากพวกโจรสลัดว่า ‘ราชาปีศาจหัวล้าน’ และชื่ออันแสนทรงพลังนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปทั่วโลก
ถึงแม้ไซตามะจะไม่สนใจ แต่ด้วยความสำเร็จทางทหารของเขาที่ยังคงสั่งสมมาเรื่อยๆ ส่งผลให้ในตอนนี้เขาได้รับการเลื่อนยศจากนาวาเอก ขึ้นเป็นพลจัตวาแล้ว
และผู้ช่วยของเขา นอกไปจากปู้หลิน ก็ยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มักจะสับสนว่าแว่นของเธอมันอยู่ตรงไหน ทั้งๆที่มันเสียบไว้อยู่บนหัวเธอ …
ทาชิงิ
ไซตามะเอื้อมมือไปรับโทรเลข
เขาชำเลืองมอง ยกมือขึ้นลูบคางพึมพำกับตัวเอง “โอ้ .. เมื่อเร็วๆนี้ฉันเองก็ได้รับรายงานมาว่านาวาเอกมอร์แกนจากสาขา 153 ได้ทำสิ่งเลวร้ายในเมืองเชลล์มาเหมือนกัน แถมลูกชายของเขาก็ยังมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ … ทางศูนย์บัญชาการใหญ่ต้องการให้ฉันไปตรวจสอบอย่างงั้นสินะ?”
ไซตามะกระพริบตาปริบๆ หันไปถามทหารสาวแว่น “ทาชิงิ ที่นี่อยู่ใกล้กับสาขา 153 รึเปล่า?”
“อา .. ไม่ใกล้เลยสักนิด”
ทาชิงิจี้นิ้วยกขอบแว่นขึ้นพลางครุ่นคิด “จากที่นี่ถึงสาขา 153 ถ้าเป็นเรือธรรมดาก็จะใช้เวลาประมาณ 12 วัน ส่วนเรือรบของเราคงเร็วกว่านั้น น่าจะใช้เวลาซักราวๆ 1 สัปดาห์”
ความรู้สึกเบื่อหน่ายเริ่มขีดเขียนขึ้นบนใบหน้าของไซตามะ “อาเร๊ะ? ไม่มีทางที่ใช้เวลาน้อยกว่านั้นเลยรึไง?”
“คิดว่าไม่น่าจะมี …”
ทาชิงิยื่นมือออกไป และจัดแจงเสื้อคลุมแห่งความยุติธรรมของไซตามะให้เรียบร้อย ก่อนจะมองเขาด้วยความเคารพชื่นชม “เป็นเพราะการปรากฏตัวขึ้นของพลจัตวาอย่างคุณ ทำให้ในอีสต์บลูมีพวกโจรสลัดอยู่น้อยที่สุด แต่ในทางตรงกันข้าม มันก็ทำให้มีทหารเรือระดับสูงอยู่เพียงไม่กี่คนเช่นกัน .. และเนื่องจากมอร์แกนที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการฐานสาขา 153 มียศเป็นถึงนาวาเอก ดังนั้นในตลอดทั้งอีสต์บลู เลยมีเพียงคุณเท่านั้นที่มีคุณสมบัติจะไปทำการตรวจสอบเขา”
“ถ้าเป็นอย่างที่ว่ามา คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสินะ”
ไซตามะจัดการความคิดของตัวเอง ยกนิ้วโป้งให้ทาชิงิ “งั้นที่นี่ก็ปล่อยให้ปู้หลินเป็นคนดูแล ส่วนพวกเราก็ไปกันเถอะทาชิงิ ไปตอนนี้เลย!”
ทาชิงิยิ้ม ยืนตรงตะเบ๊ะ “รับทราบ! ท่านนายพลจัตวา!”
…
เรือแล่นออกจากท่า
นอกเหนือไปจากต้นหนและทหารเรือบางคนที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนเรือรบแล้ว ก็มีกำลังรบเพียงสองคนเท่านั้น นั่นคือไซตามะและทาชิงิ
แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เพราะตราบใดที่มีหัวล้านอยู่ที่นี่ นั่นย่อมหมายความว่าอันตรายใดๆย่อมไม่ย่างกรายเข้ามาถึงตัวคุณ ต่อให้ตัวคุณยืนอยู่ใจกลางดงของสี่จักรพรรดิก็ตามที
ไซตามะยืนอยู่บนดาดฟ้า สองตาเฝ้ามองท้องทะเล สองหูรับฟังรายงานจากทาชิงิ เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดอันแสนน่าเบื่อ
“ข้อเสนอให้ยกเลิกเจ็ดเทพโจรสลัด ได้เข้าสู่วาระการประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว …”
“เด็กต้องสาป นิโคโรบิน ต้องสงสัยว่าปรากฏตัวขึ้นในอาณาจักรอลาบัสต้า”
“พลเรือเอกอาคาอินุได้ออกไปตรวจสอบการคอรัปชั่นในสาขา G-5 แต่ภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว เนื่องจากสมาชิกทุกคนถูกสังหารลง ณ จุดนั้น …”
…
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ทาชิงิก็ดูเหมือนจะรับไม่ไหว และไม่สามารถอ่านมันได้อีกต่อไป
ดวงตาดั่งปลาตายของไซตามะเหลือบมองเธอ ปากอ้าหาว ส่ายมือไปมา “เอาล่ะๆ เรื่องพวกนี้เป็นปีก็คงจะพูดไม่หมด เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว … ว่าแต่ผู้ชายที่ชื่อมอร์แกนนั่นมีประวัติว่ายังไงบ้างนะ”
“อ๊ะ ใช่ๆ!”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ จิตใจของทาชิงิก็ดูจะดีขึ้นเล็กน้อย เธอหยิบเอกสารจำนวนหนึ่งออกจากจากกองเอกสาร “ข้อมูลที่ว่านี้ถูกถ่ายโอนมาจากศูนญ์บัญชาการใหญ่ มันระบุเอาไว้ว่านาวาเอกมอร์แกนเป็นคนที่กล้าหาญ เก่งกาจในด้านการต่อสู้ เขาประสบความสำเร็จในการจับกุมตัว ‘คุโระจอมร้อยเล่ห์’ ส่งผลให้สามารถเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นนาวาเอกได้ แต่ชัยชนะในครั้งนั้น ไม่เพียงต้องแลกมาด้วยแขนขวา แต่กระดูกกรามทั้งหมดของเขาก็ถูกบดขยี้จนเละ เกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอด …”
ไซตามะยกมือขึ้นเกาแก้มเสียงแกรกๆ “เท่าที่ฟังดู ก็เหมือนกับว่าเขาจะเป็นคนดีนี่นา ..”
“เขาเป็นทหารเรือผู้กล้าหาญ แต่มีหลักฐานบางอย่างที่ระบุว่าเขาทำสิ่งชั่วร้าย”
ทาชิงิถอนหายใจ “จริงๆแล้วฉันหวังว่าทางศูนย์บัญชาการใหญ่จะเข้าใจผิดในเรื่องนี้ เพราะถ้าทหารเรือผู้กล้าหาญ ที่แกร่งพอจะต่อกรกับกลุ่มโจรสลัดเกิดทำเรื่องเลวทรามขึ้นมาจริงๆ มันคงจะเป็นเรื่องน่าเศร้า …”
ไซตามะยกมือขึ้นลูบคางตัวเอง ตอบรับกลับไป โดยมิอาจคาดเดาว่ามันคือการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย “อืม …”
…
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
เรือรบของไซตามะก็ได้จอดเทียบท่าลงในเมืองเชลซ์
เห็นได้ชัดว่ามอร์แกนได้ยินข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ทันทีที่ไซตามะลงจากเรือ ทหารทุกคนต่างก็โบกธงตลอดรับเขาไปตลอดทั้งทางเดิน
“ท่าน … ท่านนายพลจัตวาไซตามะผู้ยิ่งใหญ่ …”
ชายหนุ่มที่ดูผอมแห้ง วิ่งเหยาะๆเข้ามาพลางถูมือของเขา ก้มหน้าทักทายครั้งแล้วครั้งเล่า “กระผมชื่อว่าเฮลเมปโป คุณพ่อได้ขอให้ผมออกมาต้อนรับท่านเป็นการส่วนตัว หวังว่าพิธีการต้อนรับของเราจะทำให้ท่านพอใจ …”
“อา ขอบคุณที่เหนื่อยนะ”
ใบหน้าของไซตามะยังคงแลดูเกียจคร้าน ไม่สนใจอะไรเลย “แล้วมอร์แกนล่ะ? เขาไม่ได้มาด้วยหรอ?”
หัวใจของเฮลเมปโปกระตุกวูบ! มือที่ถูไปมาถี่ระรัวยิ่งขึ้น ตอบด้วยรอยยิ้มฝืนๆ “เอ่อ … เอ่อคือว่า พอดีคุณพ่อกำลังวุ่นอยู่กับการจัดระเบียบและรักษากฏ ก็เลยไม่สามารถออกมาต้อนรับที่นี่ได้ … กระผมรู้สึกเสียใจจริงๆ”
แม้ปากจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่เฮลเมปโปก็เฝ้าภาวนาในหัวใจของเขาว่าราชาปีศาจหัวล้านจะไม่โกรธเคือง
เพราะแน่นอนว่าพ่อของเขาไม่ได้ไปทำอะไรไร้สาระอย่างการรักษากฏหมายบ้าบออะไรทั้งนั้น
…
“ว่าไงนะ? นายพลจัตวาจะมาเยี่ยมงั้นหรอ?”
ในความทรงจำเมื่อค่ำคื่นก่อน ใบหน้าของพ่อที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นเหล้ายังคงประทับอยู่ในสายตา “ก็แล้วยังไง! มันยิ่งใหญ่มาจากไหน ฉันถึงต้องออกไปตากแดดตากลมรอรับเจ้าหมอนั่น! ถ้าจะมารายงานเรื่องไร้สาระแบบนี้ ก็ไปให้พ้นหน้าฉันซะ!”
เฮลเมปโปแทบจะร้องไห้
‘นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่ามีคนที่มียศมากกว่ามาเยี่ยมเยือนนะคุณพ่อ’
‘รู้ไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเลย ที่จะทำเป็นไม่เห็นหัว ชายหัวล้านที่สามารถสั่นสะเทือนผืนดินอยู่ในสายตา … ถึงแม้ว่าหน้าตาของเขาจะดูโง่ก็เถอะ แต่มันก็สมควรจะระมัดระวังไว้ก่อนไม่ใช่รึไง?’
และด้วยเหตุนี้เอง คุณหนูเพลย์บอยที่เป็นกังวลแทนพ่อของตัวเอง จึงจัดเตรียมกลุ่มทหาร แล้วออกมาต้อนรับไซตามะด้วยตัวเขาเอง