ตอนที่แล้วผู้กล้าไร้อาชีพ บทที่8 พวกนั้นนี่น่าสมเพชจริงๆนะเนี่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปผู้กล้าไร้อาชีพ บทที่10 นั่นหยาบคายมากเลยนะ

ผู้กล้าไร้อาชีพ บทที่9 มาใหม่ไม่ใช่เหรอเนี่ยเรา


บทที่9 มาใหม่ไม่ใช่เหรอเนี่ยเรา

หลังจากผ่านประตูเข้าไป รถม้าก็หยุดลงที่หน้าจัตุรัสเมือง

“เป็นการเดินทางที่ยาวนานจังนะ ขอบคุณที่เหนื่อยยากนะ พวกเราถูกช่วยเอาไว้จริงๆ”

“อะไรเหรอครับ”

“ก็เห็นๆอยู่ไม่ใช่รึไง เธอจัดการเจ้าออร์คคิงได้ ถ้าไม่มีเธอล่ะก็ พวกเราคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วล่ะ”

“พูดอะไรน่ะครับ ถึงผมไม่อยู่ที่นั่น พวกคุณก็จัดการได้ใช่มั้ยล่ะครับ”

“...ฮี่”

ที่ผมหมายถึงก็คือ ความสามารถของคุณน้าคนขับเกวียนเป็นที่น่าประทับใจมาก

“เธอรู้สินะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว คุณมีความรู้ในเรื่องของสกิลดาบ คนขับเกวียนธรรมดาๆเดา”สกิล“ที่ผมใช้เพียงแค่มองไม่ได้หรอกนะ”

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา

เพราะว่าท่าทางของนักดาบขั้นสูงมักจะหลุดออกมาเวลาเขาเคลื่อนไหว

“อย่างที่เธอคิดล่ะนะ อันที่จริงแล้ว ถึงจะดูเป็นแบบนี้ก็เถอะนะ แต่ฉันเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของอาชีพขั้นสูง แต่รู้สึกไม่เข้ากับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว ก็อยู่แบบนี้มาเป็นปีแล้วล่ะ”

“ทำไมเหรอครับ”

“ก็.. รู้สึกเหนื่อยหลังจากที่สู้มามาก ก็เลยออกเดินทางทั่งโลกเพื่อที่จะผ่อนคลาย และตอนนี้ก็บังเอิญมาเป็นคนขับรถม้าล่ะนะ”

อาฮะ อย่างที่คิดไว้เลยว่าไม่ใช่เกวียนโดยสารธรรมดา

ยังไงก็ตาม ผมก็นั่งไปโดยที่ไม่ต้องกังวล

อีกอย่าง ไม่จำเป็นต้องมีคนคุ้มกันด้วย

เพราะว่าเขาเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องจ้างคนคุ้มกันหรอก

“จะว่าไป เธอช่วยบอกฉันความลับของเธอหน่อยได้ไหมคุณลูกค้า”

“ความลับของผม?”

“ใช่ อาชีพที่แท้จริงของเธอไง หรือไม่ก็ทำไมเธอถึงใช้สกิลของราชินีแห่งดาบได้ล่ะทั้งๆที่เธอเป็นผู้ชาย”

“ผมบอกไปหลายรอบแล้วนะว่าผมไม่มีอาชีพน่ะ”

“อีกแล้ว....”

มันเป็นความจริงล่ะนะ

เขาไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว

“ผมเรียนสกิลของราชิณีแห่งดาบด้วยการดูแม่ของผมใช้มัน”

“ฮ่าๆๆๆๆ เธอนี่ต้องการจะให้มันเป็นความลับจริงๆเลยนะเนี่ย”

อันที่จริงแล้วเมื่อกี้นี้ผมพูดความจริง100%ล่ะ

“ไม่หรอกไม่ใช่ว่าฉันอยากจะสร้างปัญหาหรอกนะ แต่ว่ายังมีอีกหลายกิลด์ที่เธอเข้าไม่ได้ถ้าหากว่าไม่แสดงอาชีพของตัวเองนะ ฉันไปล่ะ”

เขาพูดทิ้งท้ายและเดินจากไป

สรุปยังไงเขาก็ไม่เชื่อผมอยู่ดีสินะ

“แต่ว่ามันไม่ง่ายกว่าเหรอถ้าเราเอาใบรับรองอาชีพให้เขาดู”

ผมจำได้แล้ว

มันมีใบรับรองอาชีพที่จะเขียนเกี่ยวกับอาชีพและสกิล

มันถูกสร้างขึ้นโดยอาชีพนักประเมินเท่านั้น และจะได้รับในช่วงพิธีรับพร

ผมมั่นใจว่าผมเป็นไร้อาชีพ เพราะว่าผมได้เช็คมันก่อนออกจากบ้านล่ะนะ

ถ้าหากว่าแสดงนี้ไป ก็จะไม่ถูกสงสัยแน่นอน

“โอเค งั้นก็ต้องแสดงไอ้นี่ล่ะนะ”

แต่ยังไงเมืองนี้ก็สมกับเป็น “เมืองแห่งดาบ”

คนแทบทุกคนต่างมายังที่แห่งนี้เพื่อที่จะมุ่งไปยังจุดสูงสุดแห่งดาบ

อีกทั้งยังมีนักดาบจำนวนมากที่เหมือนจะมาเมืองนี้เป็นครั้งแรกเหมือนผม และก็คนที่หน้าตาเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“กิลด์ของพวกเราเป็นศูนย์รวมของเหล่าอัศวิน!! ถ้าหากว่าใครมีอาชีพอัศวินล่ะก็ เข้ามากิลด์เราได้เลย”

“เฮ้ โย่ว! พวกเรามาจากกิลด์”เส้นทางแห่งดาบ“ใครๆก็เข้าได้ ไม่เกี่ยวกับอาชีพ! ถ้าถือดาบได้ล่ะก็ถึงจะเป็นนักล่าหรือนายพรานก็ไม่เกี่ยงกัน”

“กิลด์”พยุหะ“ของพวกเรารับสมาชิกใหม่ที่มีความสนใจเกี่ยวกับกองทหาร พวกเราจะฝึกการต่อสู้กันเป็นกองทัพ”

ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังหาสมาชิกใหม่เข้ากองกำลังกัน

เมืองแห่งดาบมีองค์กรจำนวนมากที่เรียกๆกันว่า “กิลด์นักดาบ”

และเมืองนี้จะมีทัวร์นาเมนต์จำนวนมากถูกจัดขึ้น เงินรางวัลนั้นเป็นรายได้ของเหล่านักดาบเลยก็ว่าได้ แต่ว่าถ้าไม่มีกิลด์ ก็จะไม่สามารถเข้าไปในทัวร์นาเมนต์ได้ คิดว่านะ

เพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์

และอีกอย่าง กิลด์ที่มีนักดาบเก่งๆจำนวนมากจะมีอำนาจในการจัดการเมืองได้เลยทีเดียว

“อุฮุ งั้นกิลด์ที่แม่เคยอยู่นี่ชื่ออะไรนะ”

ในอดีต กิลด์ที่แม่เคยอยู่นั้นเป็นกิลด์ระดับสูงทั้งในด้านชื่อเสียงและฝีมือ

แม่ของผมได้เขียนจดหมายแนะนำตัวให้มาเพราะว่าสมาชิกกิลด์น่าจะจำได้

ผมจะไปอยู่กิลด์นั้นซักพัก... แต่จำชื่อไม่ได้

“ถามใครดีมั้ยนะ”

และผมก็มองหาคนที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับจุตุรัสแห่งนี้

ผมคิดและพยายามเรียกใครซักคน

“นายตรงนั้นน่ะ!! มาใหม่ใช่มั้ย”

แต่ว่าผมกลับถูกเรียกซะเอง

ผมหันกลับไปมองและได้พบกับผู้หญิงที่อายุราวๆยี่สิบปี

เธอมีผมสีบลอนด์และดูหน้าตาดี

และนั่นทำให้คนรอบๆหันมามองด้วย

“...ลิเลียอีกแล้วเหรอนั่น ล่อให้เด็กใหม่เข้ากิลด์อีกล่ะสิ”

“เหอะ ไม่มีใครอยากเข้ากิลด์ที่ไม่มีอนาคตหรอก”

ไม่ ไม่ใช่เพราะว่าความสวยหรอก

สิ่งที่เธอได้รับนั้นคือการเหลือบมองและเหยียดหยาม

“ได้โปรดเข้ากิลด์เราด้วยเถอะ! ฉันขอร้องล่ะ! ไม่มีค่าลงทะเบียนนะ!”

เธอขอร้องด้วยทุกอย่าง ทำไมดูสิ้นหวังจังล่ะ

ต้องเป็นกิลด์ที่อ่อนแอแน่ๆเลย

“ไปหาคนอื่นเถอะ”

ผมปฏิเสธ

แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นก็คุกเข่าลงและเอาหน้าผากแนบพื้น

โดเกซะ(การหมอบกราบแบบญี่ปุ่น) นั่นเป็นวัฒนธรรมของเหล่านักดาบตะวันออกนี่นา

“แล้วอย่างนี้ล่ะ!!”

ดูเหมือนว่ากิลด์นี้จะประสบปัญหาขาดแคลนลูกกิลด์อย่างหนัก

“แต่ผมขอปฏิเสธ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด