ผู้กล้าไร้อาชีพ บทที่9 มาใหม่ไม่ใช่เหรอเนี่ยเรา
บทที่9 มาใหม่ไม่ใช่เหรอเนี่ยเรา
หลังจากผ่านประตูเข้าไป รถม้าก็หยุดลงที่หน้าจัตุรัสเมือง
“เป็นการเดินทางที่ยาวนานจังนะ ขอบคุณที่เหนื่อยยากนะ พวกเราถูกช่วยเอาไว้จริงๆ”
“อะไรเหรอครับ”
“ก็เห็นๆอยู่ไม่ใช่รึไง เธอจัดการเจ้าออร์คคิงได้ ถ้าไม่มีเธอล่ะก็ พวกเราคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วล่ะ”
“พูดอะไรน่ะครับ ถึงผมไม่อยู่ที่นั่น พวกคุณก็จัดการได้ใช่มั้ยล่ะครับ”
“...ฮี่”
ที่ผมหมายถึงก็คือ ความสามารถของคุณน้าคนขับเกวียนเป็นที่น่าประทับใจมาก
“เธอรู้สินะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว คุณมีความรู้ในเรื่องของสกิลดาบ คนขับเกวียนธรรมดาๆเดา”สกิล“ที่ผมใช้เพียงแค่มองไม่ได้หรอกนะ”
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
เพราะว่าท่าทางของนักดาบขั้นสูงมักจะหลุดออกมาเวลาเขาเคลื่อนไหว
“อย่างที่เธอคิดล่ะนะ อันที่จริงแล้ว ถึงจะดูเป็นแบบนี้ก็เถอะนะ แต่ฉันเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของอาชีพขั้นสูง แต่รู้สึกไม่เข้ากับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว ก็อยู่แบบนี้มาเป็นปีแล้วล่ะ”
“ทำไมเหรอครับ”
“ก็.. รู้สึกเหนื่อยหลังจากที่สู้มามาก ก็เลยออกเดินทางทั่งโลกเพื่อที่จะผ่อนคลาย และตอนนี้ก็บังเอิญมาเป็นคนขับรถม้าล่ะนะ”
อาฮะ อย่างที่คิดไว้เลยว่าไม่ใช่เกวียนโดยสารธรรมดา
ยังไงก็ตาม ผมก็นั่งไปโดยที่ไม่ต้องกังวล
อีกอย่าง ไม่จำเป็นต้องมีคนคุ้มกันด้วย
เพราะว่าเขาเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องจ้างคนคุ้มกันหรอก
“จะว่าไป เธอช่วยบอกฉันความลับของเธอหน่อยได้ไหมคุณลูกค้า”
“ความลับของผม?”
“ใช่ อาชีพที่แท้จริงของเธอไง หรือไม่ก็ทำไมเธอถึงใช้สกิลของราชินีแห่งดาบได้ล่ะทั้งๆที่เธอเป็นผู้ชาย”
“ผมบอกไปหลายรอบแล้วนะว่าผมไม่มีอาชีพน่ะ”
“อีกแล้ว....”
มันเป็นความจริงล่ะนะ
เขาไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว
“ผมเรียนสกิลของราชิณีแห่งดาบด้วยการดูแม่ของผมใช้มัน”
“ฮ่าๆๆๆๆ เธอนี่ต้องการจะให้มันเป็นความลับจริงๆเลยนะเนี่ย”
อันที่จริงแล้วเมื่อกี้นี้ผมพูดความจริง100%ล่ะ
“ไม่หรอกไม่ใช่ว่าฉันอยากจะสร้างปัญหาหรอกนะ แต่ว่ายังมีอีกหลายกิลด์ที่เธอเข้าไม่ได้ถ้าหากว่าไม่แสดงอาชีพของตัวเองนะ ฉันไปล่ะ”
เขาพูดทิ้งท้ายและเดินจากไป
สรุปยังไงเขาก็ไม่เชื่อผมอยู่ดีสินะ
“แต่ว่ามันไม่ง่ายกว่าเหรอถ้าเราเอาใบรับรองอาชีพให้เขาดู”
ผมจำได้แล้ว
มันมีใบรับรองอาชีพที่จะเขียนเกี่ยวกับอาชีพและสกิล
มันถูกสร้างขึ้นโดยอาชีพนักประเมินเท่านั้น และจะได้รับในช่วงพิธีรับพร
ผมมั่นใจว่าผมเป็นไร้อาชีพ เพราะว่าผมได้เช็คมันก่อนออกจากบ้านล่ะนะ
ถ้าหากว่าแสดงนี้ไป ก็จะไม่ถูกสงสัยแน่นอน
“โอเค งั้นก็ต้องแสดงไอ้นี่ล่ะนะ”
แต่ยังไงเมืองนี้ก็สมกับเป็น “เมืองแห่งดาบ”
คนแทบทุกคนต่างมายังที่แห่งนี้เพื่อที่จะมุ่งไปยังจุดสูงสุดแห่งดาบ
อีกทั้งยังมีนักดาบจำนวนมากที่เหมือนจะมาเมืองนี้เป็นครั้งแรกเหมือนผม และก็คนที่หน้าตาเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“กิลด์ของพวกเราเป็นศูนย์รวมของเหล่าอัศวิน!! ถ้าหากว่าใครมีอาชีพอัศวินล่ะก็ เข้ามากิลด์เราได้เลย”
“เฮ้ โย่ว! พวกเรามาจากกิลด์”เส้นทางแห่งดาบ“ใครๆก็เข้าได้ ไม่เกี่ยวกับอาชีพ! ถ้าถือดาบได้ล่ะก็ถึงจะเป็นนักล่าหรือนายพรานก็ไม่เกี่ยงกัน”
“กิลด์”พยุหะ“ของพวกเรารับสมาชิกใหม่ที่มีความสนใจเกี่ยวกับกองทหาร พวกเราจะฝึกการต่อสู้กันเป็นกองทัพ”
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังหาสมาชิกใหม่เข้ากองกำลังกัน
เมืองแห่งดาบมีองค์กรจำนวนมากที่เรียกๆกันว่า “กิลด์นักดาบ”
และเมืองนี้จะมีทัวร์นาเมนต์จำนวนมากถูกจัดขึ้น เงินรางวัลนั้นเป็นรายได้ของเหล่านักดาบเลยก็ว่าได้ แต่ว่าถ้าไม่มีกิลด์ ก็จะไม่สามารถเข้าไปในทัวร์นาเมนต์ได้ คิดว่านะ
เพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์
และอีกอย่าง กิลด์ที่มีนักดาบเก่งๆจำนวนมากจะมีอำนาจในการจัดการเมืองได้เลยทีเดียว
“อุฮุ งั้นกิลด์ที่แม่เคยอยู่นี่ชื่ออะไรนะ”
ในอดีต กิลด์ที่แม่เคยอยู่นั้นเป็นกิลด์ระดับสูงทั้งในด้านชื่อเสียงและฝีมือ
แม่ของผมได้เขียนจดหมายแนะนำตัวให้มาเพราะว่าสมาชิกกิลด์น่าจะจำได้
ผมจะไปอยู่กิลด์นั้นซักพัก... แต่จำชื่อไม่ได้
“ถามใครดีมั้ยนะ”
และผมก็มองหาคนที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับจุตุรัสแห่งนี้
ผมคิดและพยายามเรียกใครซักคน
“นายตรงนั้นน่ะ!! มาใหม่ใช่มั้ย”
แต่ว่าผมกลับถูกเรียกซะเอง
ผมหันกลับไปมองและได้พบกับผู้หญิงที่อายุราวๆยี่สิบปี
เธอมีผมสีบลอนด์และดูหน้าตาดี
และนั่นทำให้คนรอบๆหันมามองด้วย
“...ลิเลียอีกแล้วเหรอนั่น ล่อให้เด็กใหม่เข้ากิลด์อีกล่ะสิ”
“เหอะ ไม่มีใครอยากเข้ากิลด์ที่ไม่มีอนาคตหรอก”
ไม่ ไม่ใช่เพราะว่าความสวยหรอก
สิ่งที่เธอได้รับนั้นคือการเหลือบมองและเหยียดหยาม
“ได้โปรดเข้ากิลด์เราด้วยเถอะ! ฉันขอร้องล่ะ! ไม่มีค่าลงทะเบียนนะ!”
เธอขอร้องด้วยทุกอย่าง ทำไมดูสิ้นหวังจังล่ะ
ต้องเป็นกิลด์ที่อ่อนแอแน่ๆเลย
“ไปหาคนอื่นเถอะ”
ผมปฏิเสธ
แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นก็คุกเข่าลงและเอาหน้าผากแนบพื้น
โดเกซะ(การหมอบกราบแบบญี่ปุ่น) นั่นเป็นวัฒนธรรมของเหล่านักดาบตะวันออกนี่นา
“แล้วอย่างนี้ล่ะ!!”
ดูเหมือนว่ากิลด์นี้จะประสบปัญหาขาดแคลนลูกกิลด์อย่างหนัก
“แต่ผมขอปฏิเสธ”